เนื้อหาวันที่ : 2010-06-17 09:27:52 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2305 views

สนพ.เดินหน้าหนุนไบโอแก๊สโรงงานต่อเนื่อง

สนพ. เตรียมเปิดรับข้อเสนอไบโอแก๊สโรงงานอุตสาหกรรม ปี ‘53 ตั้งเป้าดึงผู้ประกอบการทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการเพิ่ม 74 ราย เผยปี ‘51-52 ผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการฯ แล้ว 90 ราย

สนพ. เตรียมเปิดรับข้อเสนอไบโอแก๊สโรงงานอุตสาหกรรม ปี ‘53 ตั้งเป้าดึงผู้ประกอบการทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการเพิ่ม 74 ราย เผยปี ‘51-52 ผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการฯ แล้ว 90 ราย ผลิตก๊าซชีวภาพได้รวม 434 ล้าน ลบ.ม./ปี ทดแทนพลังงานเชิงพาณิชย์ได้ 2,703 ล้านบาท/ปี 

.

.

นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ตามที่ สนพ. ได้ดำเนิน “โครงการส่งเสริมเทคโนโลยีก๊าซชีวภาพสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม” เพื่อส่งเสริมให้มีการนำน้ำเสีย ของเสีย หรือขยะอินทรีย์ ที่เหลือทิ้งในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ มาแปรรูปเป็นก๊าซชีวภาพเพื่อใช้เป็นพลังงานทดแทน                          

.

ในช่วงปี 2551 - 2555 ตั้งเป้าครอบคลุมโรงงานอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ 338 แห่ง โดยคาดว่าจะสามารถผลิตก๊าซชีวภาพได้ประมาณ 637 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี คิดเป็นมูลค่าประมาณ 4,950 ล้านบาท/ปี

.

ทั้งนี้ จากการดำเนินงานในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา (ปี 2551-2552) พบว่ามีผู้ประกอบการโรงงาน ให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการฯ แล้วทั้งสิ้น 90 ราย ประกอบด้วย อุตสาหกรรมแป้ง 23 ราย ปาล์มน้ำมัน 32 ราย เอทานอล 13 ราย อุตสาหกรรมอาหาร 12 ราย น้ำยางข้น 3 ราย และอื่นๆ 7 ราย คิดเป็นเงินสนับสนุนรวมกว่า 905 ล้านบาท      

.

ทำให้ประเทศมีกำลังการผลิตพลังงานทดแทนในรูปของก๊าซชีวภาพได้ประมาณ 434 ล้านลบ.ม./ปี ก๊าซชีวภาพที่ผลิตได้ ถูกนำไปใช้ทดแทนพลังงานเชิงพาณิชย์รวมเป็นมูลค่า 2,703 ล้านบาท/ปี และสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 3.9 ล้านตัน/ปี นอกจากนี้ ยังส่งผลให้เกิดการลงทุนต่อเนื่องจากภาคเอกชนเป็นเม็ดเงินไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท

.

สำหรับปี 2553 นี้ สนพ. เตรียมเปิดรับข้อเสนอขอรับทุนสนับสนุนการจัดทำระบบผลิตก๊าซชีวภาพจากน้ำเสียหรือของเสียโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มอีก 74 ราย ในวงเงินสนับสนุนรวม 660 ล้านบาท โดยจะเปิดรับข้อเสนอขอรับทุน ระหว่างวันที่ 15 มิถุนายน – 30 กรกฎาคม 2553 โดยผู้สนใจจะต้องเป็นผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม อาทิ โรงงานผลิตภัณฑ์จากแป้ง โรงงานสกัดน้ำมันพืช โรงงานเอทานอล โรงงานน้ำยางข้น โรงงานแปรรูปอาหาร เป็นต้น

.

ซึ่งทาง สนพ. ตั้งเป้าหมายในการผลิตก๊าซชีวภาพในรอบปี 2553 ไว้ที่ 140.8 ล้าน ลบ.ม./ปี โดยจะสามารถทดแทนพลังงานไฟฟ้า 18.26 ล้านหน่วย/ปี และนำไปผลิตพลังงานความร้อนทดแทนน้ำมันเตาได้ 70.21 ล้านลิตร/ปี คิดเป็นมูลค่าผลประหยัดประมาณ 1,108 ล้านบาท/ปี

.

“สนพ. ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการใช้พลังงานจากก๊าซชีวภาพ เนื่องจากเป็นแหล่งพลังงานที่มีศักยภาพสูง สามารถแก้ไขปัญหาด้านพลังงานของประเทศ อีกทั้งสามารถแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมจากน้ำเสียหรือของเสีย และยังช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซมีเทน ซึ่งเป็นต้นเหตุของภาวะโลกร้อนอีกด้วย โดยผู้ประกอบการโรงงานที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.eppo.go.th หรือ www.thaibiogas.com.” ผอ.สนพ.กล่าว