เนื้อหาวันที่ : 2010-06-14 08:50:27 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1331 views

ปตท.-กฟภ. จับมือพัฒนาผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม

นำร่องภาคใต้ - อีสาน คาดเริ่มผลิตไฟฟ้าได้ในปี 2557 เพิ่มความมั่งคงด้านการผลิตไฟฟ้าและการจัดหาพลังงานเพื่อผลิตไฟฟ้าของประเทศ

นำร่องในพื้นที่ภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คาดเริ่มผลิตไฟฟ้าได้ในปี 2557 เพิ่มความมั่งคงด้านการผลิตไฟฟ้าและการจัดหาพลังงานเพื่อผลิตไฟฟ้าของประเทศ   ลดการนำเข้าและการใช้น้ำมันดิบเพื่อเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 

.

.

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)   เปิดเผยว่า    ปตท. ได้ร่วมลงนามกับ  การการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)  เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมแบบทุ่งกังหันลม   (Wind Farm) กำลังการผลิต 5-10 เมกะวัตต์ในพื้นที่ภาคใต้และภาคตะวันออก โดยใช้เงินลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 300-700 ล้านบาท   คาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2557  ทดแทนการใช้น้ำมันได้  2.26-4.53 ล้านลิตร/ปี                  

.

ซึ่งความร่วมมือกันระหว่าง ปตท. และ กฟภ. ในครั้งนี้  นอกจากจะช่วยเพิ่มความมั่งคงด้านการผลิตกระแสไฟฟ้าและการจัดหาพลังงานเพื่อการผลิตไฟฟ้าของประเทศ ที่ปัจจุบันมีแนวโน้มความต้องการเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจและจำนวนประชากรในประเทศที่เพิ่มขึ้นแล้ว   ยังเป็นการเสริมสร้างศักยภาพการพึ่งพาตนเองด้านพลังงาน  ลดการนำเข้าพลังงานทั้งน้ำมันเชื้อเพลิงและกระแสไฟฟ้าจากต่างประเทศ

.

รวมทั้งช่วยส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดซึ่งเป็นทรัพยากรมีอยู่ตามธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด  ช่วยลดภาวะโลกร้อนด้วยการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงจากฟอสซิลในกระบวนการผลิต และช่วยสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการพัฒนาและส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนในรูปแบบต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพและประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย  

.

นายอดิศร  เกียรติโชควิวัฒน์  ผู้ว่าการ  การการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค  กล่าวว่า จากการศึกษาศักยภาพพลังงานลมภายในประเทศโดยกระทรวงพลังงาน พบว่าประเทศไทยสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลมได้ประมาณ 1,600 เมกะวัตต์  ซึ่งกระทรวงพลังงานได้กำหนดแผนพัฒนาพลังงานทดแทน 15 ปี โดยตั้งเป้าหมายให้มีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมได้ไม่น้อยกว่า 115 เมกะวัตต์ ในปี 2554 และเพิ่มขึ้นเป็น 800 เมกะวัตต์ ภายในปี 2565

.

กฟภ. ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ มีหน้าที่หลักในการผลิต จัดหา จัดให้ได้มา จัดส่ง และ จัดจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าให้แก่ประชาชน  รวมทั้งการประกอบธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนในรูปแบบต่างๆ จึงได้ขานรับแผนพัฒนาพลังงานทดแทน และส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมให้เป็นไปตามเป้าหมายดังกล่าวด้วย และ เนื่องจากการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมมีต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่ค่อนข้างสูง รัฐบาลจึงมีนโยบายในการให้เงินสนับสนุนด้วยการให้ค่าไฟฟ้าส่วนเพิ่ม (Adder) จากการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก 

.

อย่างไรก็ตามในอนาคตคาดว่าเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมจะมีการพัฒนาให้ก้าวหน้ามากขึ้น และจะสามารถลดต้นทุนการผลิตให้ต่ำลง ซึ่งจะส่งผลให้มีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมมากขึ้นและเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนได้