สสปน. เดินหน้า “ไมซ์ไทยเข้มแข็ง” ดัน “โครงการ Creative MICE พลิกฟื้นเศรษฐกิจด้วยความคิดสร้างสรรค์” มั่นใจจุดประกายประชุมในประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจไทย |
. |
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) หรือ สสปน. เดินหน้าโครงการ “ไมซ์ไทยเข้มแข็ง : Creative MICE พลิกฟื้นเศรษฐกิจ ด้วยความคิดสร้างสรรค์” เพิ่มมูลค่าและจุดขายงานไมซ์ไทย ด้วยการใช้ความคิดสร้างสรรค์และแตกต่าง ผ่านการจัดงานอีเว้นท์ ทุกภูมิภาค ภายใต้แนวคิด “พลิก สร้าง แปลง เปลี่ยน” |
. |
มั่นใจจุดประกายผู้ประกอบการและประชาชนเข้าใจอุตสาหกรรมไมซ์ ร่วมใจจัดประชุมในประเทศ สร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจไทย พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ณ พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ กรุงเทพฯ |
. |
นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. เปิดเผยว่า “โครงการ ไมซ์ไทยเข้มแข็ง : Creative MICE Event เป็นโครงการที่จัดตั้งขึ้นภายใต้งบประมาณไทยเข้มแข็งปี 2553 ที่ สสปน. ได้รับจากรัฐบาล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้ และความสำคัญของอุตสาหกรรมไมซ์ แก่ผู้ประกอบการไมซ์ ผู้ประกอบการด้านบริการที่เกี่ยวข้อง หน่วนงานราชการในพื้นที่ |
. |
สถาบันการศึกษา สื่อมวลชน และประชาชนในแต่ละภูมิภาค ให้เข้าใจอุตสาหกรรมไมซ์และเห็นถึงรูปแบบการจัดงานไมซ์อย่างสร้างสรรค์ได้ในทุกที่ ขยายศักยภาพให้กับชุมชน จุดประกายให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นสร้างเครือข่าย แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และประสบการณ์ นำไปสู่การสร้างงาน สร้างรายได้ และความเข้มแข็งของอุตสาหกรรมตามนโยบายเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ หรือ Creative Economy ตอบสนองการฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาล” |
. |
โครงการ “ไมซ์ไทยเข้มแข็ง : Creative MICE พลิกฟื้นเศรษฐกิจ ด้วยความคิดสร้างสรรค์” นับเป็นแนวคิดหลักในการสร้างสรรค์งานไมซ์ของ สสปน. ให้มีความพิเศษและแตกต่าง สร้างมูลค่า และ เป็นจุดขายสำคัญในการดึงงานมาจัดในประเทศ จากการสร้างความแข็งแกร่งภายในประเทศ เพื่อรองรับการแข่งขันกับนานาประเทศ ขยายสู่การดึงงานระดับภูมิภาค และนานาชาติระดับโลก ที่จะเป็นแนวทางที่ทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของอุตสาหกรรมไมซ์ทั่วทุกภูมิภาคในที่สุด |
. |
โครงการ “ไมซ์ไทยเข้มแข็ง Creative MICE พลิกฟื้นเศรษฐกิจ ด้วยความคิดสร้างสรรค์” ยังเป็นการต่อยอดความสำเร็จของโครงการ “ร่วมใจประชุมเมืองไทย พลิกฟื้นเศรษฐกิจชาติ” เพื่อกระตุ้นตลาดประชุมภายในประเทศ (Domestic MICE) ผ่านรูปแบบการจัดงานอีเวนท์ในจังหวัดที่มีศักยภาพ ด้านการจัดประชุม และงานแสดงสินค้าในภูมิภาค ได้แก่ เชียงใหม่ ชลบุรี และสงขลา |
. |
เพื่อให้ผู้ประกอบการในประเทศ รวมถึงภาครัฐและเอกชนเห็นความสำคัญของตลาดไมซ์ อันจะเป็นแรงกระตุ้นให้หน่วยงานต่างๆ จัดประชุมในประเทศมากขึ้น ด้วยการชูจุดเด่นในภูมิภาคจากความคิดสร้างสรรค์ ที่แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยสามารถจัดงานไมซ์ที่แตกต่าง มีเอกลักษณ์ความเป็นไทยที่โดดเด่น และพร้อมเปิดตัวโครงการอย่างเต็มรูปแบบ ในวันจันทร์ที่ 14 มิถุนายนนี้ ณ พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ กรุงเทพฯ |
. |
“สสปน. ต้องการที่จะนำความคิดสร้างสรรค์มาพัฒนา รูปแบบการจัดงานในมุมมองใหม่ๆ ภายใต้แนวคิดโครงการ “พลิก สร้าง แปลง เปลี่ยน” ด้วยการเปลี่ยนแนวความคิดแบบเดิมๆ มาเป็นการจัดงานที่พิเศษ และแตกต่างอย่างสร้างสรรค์ เพื่อธุรกิจไมซ์โดยเฉพาะ ซึ่งจะเน้นการสร้างความรู้ |
. |
ความเข้าใจแก่กลุ่มเป้าหมายถึงศักยภาพของสถานที่ และผลผลิตของแต่ละท้องถิ่นที่สามารถพัฒนาสู่พื้นที่สำหรับธุรกิจไมซ์ต่อไป ทั้งเพื่อเป็นตัวอย่างของแนวทางปฏิบัติให้องค์กรทั้งภาครัฐ และเอกชนทั่วประเทศมีความเข้าใจและสามารถนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อการสร้างงานและสร้างรายได้อย่างเป็นรูปธรรม” นายอรรคพล เสริม |
. |
สสปน. เชื่อมั่นว่าหากตลาดไมซ์ในประเทศมีพื้นฐานที่ดีแล้วผู้ประกอบการไมซ์ต่างๆ จะพัฒนาตนเองให้รองรับตลาดต่างประเทศในวงกว้างมากขึ้น จะส่งผลให้ทุกพื้นที่ ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในธุรกิจไมซ์ เกิดการพัฒนาของระบบเศรษฐกิจในระดับมหภาค โดยโครงการนี้จะใช้ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 5 เดือน |
. |
ด้วยงบประมาณ 50 ล้านบาท ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับประโยชน์จากโครงการไม่ต่ำกว่า 5,000,000 คนทั่วประเทศ ทั้งกลุ่มผู้ประกอบการ กลุ่มผู้ประกอบการด้านบริการที่เกี่ยวข้อง เช่น ร้านอาหาร คมนาคม ท่องเที่ยว หน่วยงานราชการในพื้นที่ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานการศึกษา |
. |
สื่อมวลชนส่วนกลางและภูมิภาค หน่วยงานภาคเอกชน สมาคมวิชาชีพต่างๆ นิคมอุตสาหกรรม โดยการดำเนินโครงการได้วางแนวทางด้านการสื่อสารและประชาสัมพันธ์งานเต็มรูปแบบ เพื่อให้หน่วยงานทุกภาคส่วนได้รับทราบ ตลอดจนให้ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมไมซ์ผ่านสื่อทั่วประเทศ ได้แก่ สื่อวิทยุ โทรทัศน์ |
. |
สื่อสิ่งพิมพ์ โปสเตอร์ แผ่นพับ ป้ายโฆษณากลางแจ้ง รถแห่ กิจกรรมในพื้นที่ และสื่อออนไลน์ ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ จะครอบคลุมการจัดงานระดับภูมิภาคใน 3 จังหวัด คือ ที่จังหวัดชลบุรี ในวันที่ 1 กรกฎาคม จังหวัดสงขลาในวันที่ 20 กรกฏาคม และจังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 18 สิงหาคม โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานภายใต้โครงการทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่า 1,000 คนทั่วประเทศ |