1. ครม.ศก.ไฟเขียวกระตุ้นเที่ยวไทย โดยนำใบเสร็จหักภาษีได้ไม่เกิน 1.2 หมื่นบาท |
- คณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจเห็นชอบอนุมัติให้นำรายจ่ายท่องเที่ยวหักลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 1.2 หมื่นบาทจนถึงสิ้นปีนี้ รวมทั้งยังอนุมัติการลดหย่อนค่าธรรมเนียมธุรกิจโรงแรมไปจนถึงสิ้นปี 54 และอนุมัติเงิน 360 ล้านบาท เป็นมาตรการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวในประเทศ |
. |
นอกจากนั้น ยังผ่อนปรนเงื่อนไขในการให้ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวกู้เงิน 5 พันล้านบาท ด้วยการขยายหลักเกณฑ์การผ่อนชำระเป็นยาวถึง 8 ปี และปลอดเงินต้น 2 ปีแรก หากเป็นการให้กู้แบบมีหลักประกันซึ่งต้องมีการตรวจสอบข้อมูลเครดิต โดยจะให้กู้ไม่เกิน 5 ล้านบาท/ราย อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดีแบบมีระยะเวลา (MLR) ของ ธพว. ลบ 3% ต่อปี |
. |
- สศค. วิเคราะห์ว่า มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวไทยที่ ครม. เศรษฐกิจเห็นชอบอนุมัติจะช่วยให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ท่ามกลางผลกระทบทางลบจากปัญหาการเมือง ทั้งนี้ ปัญหาการเมืองที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงอย่างเห็นได้ชัด |
. |
โดยในเดือน เม.ย. จำนวนนักท่องเที่ยวหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 7เดือนที่ร้อยละ -0.2 ต่อปี และหดตัวลงในระดับสูงที่ร้อยละ -14.1 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน (mom_sa) นอกจากนี้ ในเดือน พ.ค. ยังพบว่าจำนวนชาวต่างประเทศที่เดินทางเข้ามายังสนามบินสุวรรณภูมิหดตัวต่อเนื่อง ที่ร้อยละ -19.1 ต่อปี จากปัญหาการเมืองที่รุนแรงขึ้น |
. |
2. ส่งออกเกาะบอลโลก |
- รองผู้อำนวยการสถาบันอาหารเปิดเผยว่า การแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ที่จะเริ่มในวันที่ 11 มิย. – 11 ก.ค. 53 ที่ประเทศแอฟริกาใต้ เป็นโอกาสดีสำหรับอุตสาหกรรมอาหารของไทย โดยจะทำให้มียอดการส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารและธุรกิจบริการอาหารไทยมากกว่า 5 พันล้านบาทในช่วงดังกล่าว |
. |
ทั้งนี้ ได้ประเมินว่าความต้องการบริโภคของชาวแอฟริกาใต้ที่เพิ่มขึ้น อาจจะทำให้มูลค่าการบริโภคอาหารในแอฟริกาใต้ปีนี้สูงถึง 1.04 ล้านล้านบาท และจะทำให้มูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 1.82 แสนล้านบาท นอกจากนี้ ยังคาดว่าคนไทยที่ดูการแข่งขันฟุตบอลโลกทั้งที่บ้านและนอกบ้านจะมีการบริโภคขนมขบเคี้ยว น้ำอัดลม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งมากขึ้น |
. |
- สศค. วิเคราะห์ว่า การแข่งขันฟุตบอลโลกจะทำให้พฤติกรรมการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มของครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อทั้งภาคการผลิตอุตสาหกรรมและภาคการส่งออกของไทยในเดือนพ.ค. 53 ที่จะมีการเร่งผลิตและส่งออกมากขึ้น ทั้งนี้ ผลผลิตอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของไทยในช่วง 4 เดือนแรกของปี 53 ขยายตัวร้อยละ 3.5 ต่อปี เพิ่มขึ้นจากช่วงปี 52 ที่หดตัวร้อยละ -4.2 ต่อปี |
. |
ขณะที่การส่งออกอาหารและเครื่องดื่มในช่วง 4 เดือนแรกของปี 53 ขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 31.1 ต่อปี ซึ่งผลผลิตและการส่งออกอาหารและเครื่องดื่มที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในไตรมาส 2 จากการแข่งขันฟุตบอลโลกจะช่วยให้ GDP ขยายตัวดีต่อเนื่องจากไตรมาส 1 ที่ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 12.0 ต่อปี |
. |
3. ยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าในจีนพุ่งร้อยละ 220 ต่อปี |
- กระทรวงพาณิชย์จีนรายงานวันนี้ว่า ยอดขายอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านของจีนในเดือน พ.ค. 53 พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ที่ร้อยละ 220 ต่อปี อันเป็นผลจากโครงการช่วยเหลือการซื้อสินค้าประเภทดังกล่าวในเขตชนบท โดยมียอดขายรวมที่ 12,600 ล้านหยวน หรือประมาณ 1,840 ล้านดอลลาร์สหรัฐ |
. |
ขณะที่จำนวนจำหน่ายอยู่ที่ 5.75 ล้านยูนิต หรือขยายตัวร้อยละ 160 ต่อปี โดยสถิติการขายที่ทำสถิติใหม่ของเดือนพ.ค. 53 ส่งผลให้ยอดขายสินค้าในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้มีมูลค่ารวม 54,350 ล้านหยวน หรือขยายตัวที่ร้อยละ 400 ต่อปี อนึ่ง จีนเริ่มโครงการการดังกล่าวในเดือน ก.พ. 52 เพื่อกระตุ้นการบริโภคในเขตชนบทและหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศในช่วงที่เศรษฐกิจโลกถดถอย |
. |
- สศค. วิเคราะห์ว่า ยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าในจีนที่เติบโตสูงเป็นประวัติการณ์ในเดือน พ.ค. 53 สะท้อนให้เห็นถึงทั้งอุปสงค์ในเขตชนบทของจีนที่แข็งแกร่งและยังมีแนวโน้มว่าจะสามารถขยายตัวได้อีก และผลของมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีน ทำให้การส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าของไทยไปยังจีนสามารถขยายตัวได้แม้ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจโลก โดยการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าของไทยไปยังจีนทั้งปี 52 ขยายตัวที่ร้อยละ 21.4 ต่อปี และในช่วง 4 เดือนแรกของปี 53 ขยายตัวที่ร้อยละ 32.4 ต่อปี |
. |
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่แผนช่วยเหลือนี้สิ้นสุดลง การบริโภคเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าคงทนอื่นๆในจีนอาจจะชะลอตัวลงได้บ้าง ตามนโยบายการเงินและการคลังของจีนที่เริ่มรัดกุมขึ้นเพื่อป้องกันภาวะฟองสบู่ ทั้งนี้ สศค. คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนในปี 53 จะขยายตัวที่ร้อยละ 9.5 ต่อปี (ประมาณการ ณ เดือน มี.ค. 53) |
. |
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง |