ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เผยเดือนเม.ย. ปี 53 หนี้สาธารณะเพิ่มเกือบ 5 หมื่นล้านบาทจากเดือนก่อน เหตุรัฐบาลกู้เพิ่มหนี้
ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เผยเดือนเม.ย. ปี 53 หนี้สาธารณะเพิ่มเกือบ 5 หมื่นล้านบาทจากเดือนก่อน เหตุรัฐบาลกู้เพิ่มหนี้ |
. |
นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ |
. |
นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ขอสรุปผลการดำเนินการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐประจำเดือนเมษายน 2553 พร้อมทั้งรายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2553 ดังนี้ |
. |
ผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ |
1. การกู้เงินภาครัฐ |
• เดือนเมษายน 2553 |
. |
นอกจากนี้ รัฐวิสาหกิจได้กู้เงินในประเทศ วงเงินรวม4,664 ล้านบาท โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย และการไฟฟ้านครหลวงกู้เพื่อดำเนินกิจการทั่วไป 4,210 ล้านบาท และ 454 ล้านบาท ตามลำดับ |
. |
• ช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2553 |
ภาครัฐได้กู้เงินในประเทศรวม 321,680 ล้านบาท โดยเป็นการกู้เงินของกระทรวงการคลัง 281,572 ล้านบาทและของรัฐวิสาหกิจ 40,108 ล้านบาท |
. |
2. การปรับโครงสร้างหนี้ภาครัฐ |
2.1 เดือนเมษายน 2553 |
• หนี้ในประเทศ |
. |
รัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ โดยทำการ Roll Over วงเงินรวม 2,440 ล้านบาท โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพได้ทำการ Roll Over หนี้เดิม จำนวน 2,000 ล้านบาท และ 440 ล้านบาท ตามลำดับ |
. |
2.2 ช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2553 |
• หนี้ในประเทศ |
. |
3) การออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ออกภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือ กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พ.ศ. 2541 (FIDF1) ที่ครบกำหนด 69,440 ล้านบาท และ |
. |
4) การปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ออกภายใต้ พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินระยะที่สอง พ.ศ. 2545 (FIDF 3) ที่ครบกำหนด 10,000 ล้านบาท โดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน สำหรับรัฐวิสาหกิจนั้นได้ทำการ Roll Over หนี้เดิมรวม 105,915 ล้านบาท |
. |
3. การชำระหนี้ภาครัฐ |
• เดือนเมษายน 2553 |
. |
• ช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2553 กระทรวงการคลังได้ชำระคืนต้นเงินกู้ ดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมโดยเงินงบประมาณรวม 89,551 ล้านบาท |
. |
รายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2553 |
ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 มีนาคม 2553 มีจำนวน 4,124,712 ล้านบาท หรือร้อยละ 42.39 ของ GDP เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 2,762,303 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1,103,725 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน 188,569 ล้านบาท และหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 70,115 ล้านบาท |
. |
เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อน หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นสุทธิ 49,568 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน และหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ เพิ่มขึ้น 49,000 ล้านบาท 2,546 ล้านบาท และ 482 ล้านบาท ตามลำดับ สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกันลดลง 2,460 ล้านบาท ส่วนหน่วยงานอื่นของรัฐนั้นไม่มีหนี้คงค้าง |
. |
การเพิ่มขึ้นสุทธิของหนี้สาธารณะคงค้างเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมานั้น ที่สำคัญเกิดจากการเพิ่มขึ้นของหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง โดยเพิ่มขึ้นสุทธิ 49,000 ล้านบาท รายการที่สำคัญเกิดจากรัฐบาลได้ดำเนินการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 36,000 ล้านบาท และได้เบิกเงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 เพื่อดำเนินการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 จำนวน 20,000 ล้านบาท |
. |
สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินเพิ่มขึ้นสุทธิ 2,546 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการเพิ่มขึ้นของ หนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกันในส่วนของหนี้ต่างประเทศ เนื่องจากรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินเบิกจ่ายเงินกู้จากแหล่งเงินกู้ต่างๆ สูงกว่าการชำระคืนต้นเงินกู้ |
. |
สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกันลดลงสุทธิ 2,460 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการลดลงของหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน เนื่องจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรเบิกจ่ายเงินกู้จากแหล่งเงินกู้ต่างๆ ต่ำกว่าการชำระคืนต้นเงินกู้หนี้สาธารณะ จำนวน 4,124,712 ล้านบาท |
. |
แบ่งออกเป็นหนี้ต่างประเทศ 372,303 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.03 และหนี้ในประเทศ 3,752,409 ล้านบาท หรือร้อยละ 90.97 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง และเป็นหนี้ระยะยาว 3,871,832 ล้านบาท หรือร้อยละ 93.87 และหนี้ระยะสั้น 252,880 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.13 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง |
. |
ที่มา : กระทรวงการคลัง ผู้นำเสนอ : กลุ่มสารนิเทศการคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง |