บีโอไอชวนนักลงทุนไทยบุกพม่าเตรียมจัด 3 ทริปใหญ่ศึกษาลู่ทางการค้าการลงทุน หวังปูทางผู้ประกอบการไทยขยายธุรกิจในสหภาพพม่า
บีโอไอ กำหนดกิจกรรมใหญ่ระหว่างเดือน มิ.ย.-ส.ค.53 นำนักธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ไปศึกษาลู่ทางการค้าการลงทุนในประเทศพม่า ครอบคลุมทั้งอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป ชิ้นส่วนยานยนต์ เฟอร์นิเจอร์ สิ่งทอ และเครื่องนุ่งห่ม หวังปูทางผู้ประกอบการไทยขยายธุรกิจในสหภาพพม่า |
. |
นางวาสนา มุทุตานนท์ |
. |
นางวาสนา มุทุตานนท์ ที่ปรึกษาด้านการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงการดำเนินการตามนโยบายส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศ ว่า ระหว่างเดือน มิถุนายน-สิงหาคม 2553 บีโอไอจะนำคณะนักธุรกิจไทยไปศึกษาโอกาสและลู่ทางการลงทุน |
. |
ตลอดจน สร้างเครือข่ายการลงทุนร่วมในประเทศพม่า จำนวน 3 ครั้ง เพื่อเสริมสร้างโอกาสทางการลงทุนและการค้าแก่นักธุรกิจไทย ในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป ชิ้นส่วนยานยนต์ เฟอร์นิเจอร์ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น |
. |
กิจกรรมแรกจะเริ่มตั้งแต่ วันที่ 7-11 มิถุนายน 2553 โดยบีโอไอจะนำนักธุรกิจไทยไปศึกษาลู่ทางการค้าการลงทุนในเมืองย่างกุ้ง-เนปิดอ-เมาะลำไย-หงสาวดี ทั้งนี้จะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทย เข้ารับฟังนโยบายจากหน่วยงานที่สำคัญของพม่า อาทิ สำนักงานส่งเสริมการลงทุนพม่า หน่วยงานที่ดูแลด้านนิคมอุตสาหกรรม และการพัฒนาพื้นที่ชายแดน และพบปะหารือธุรกิจกับสมาชิกหอการค้าของพม่า |
. |
กิจกรรมครั้งที่ 2 จัดระหว่างวันที่ 5-9 กรกฎาคม 2553 นำนักธุรกิจไทยไปเจรจาธุรกิจที่ย่างกุ้ง-มัณฑะเลย์-มิตทิลา-ตองยี และศึกษาอุตสาหกรรมเกษตรและการแปรรูป รวมถึงพื้นที่เกษตรกรรมตอนกลางของประเทศ และอุตสาหกรรมอื่นๆรอบเมืองย่างกุ้ง |
. |
และกิจกรรมครั้งที่ 3 จัดระหว่างวันที่ 16-20 สิงหาคม 2553 นำนักธุรกิจไทยไปย่างกุ้ง-มัณฑะเลย์-ลาเฉียว -มูเซ เพื่อศึกษาโอกาสการค้า การลงทุนตามชายแดนจีนที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว รวมถึงพบปะหารือกับนักธุรกิจจากสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมท้องถิ่นด้านอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ รวมทั้งดูลู่ทางการลงทุน ทั้งด้านเกษตรและอุตสาหกรรม ในเขตรัฐฉานตอนเหนือ |
. |
นางวาสนา กล่าวเพิ่มเติมว่า พม่าเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศเป้าหมายที่นักธุรกิจไทยให้ความสนใจจะไปลงทุน เนื่องจากมีความพร้อมที่จะเป็นฐานการผลิตแหล่งใหม่ที่มีศักยภาพ ทั้งจากความโดดเด่นด้านภูมิศาสตร์ เพราะตั้งอยู่ตรงกลางของเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกขนาบข้างด้วยมหาอำนาจในเอเชียทั้งสองประเทศ ได้แก่ จีนและอินเดีย ซึ่งมีประชากรรวมกันมากถึง 1,400 ล้านคน ในขณะเดียวกันพม่ายังมีประชากรมากกว่า 50 ล้านคน ที่จะเป็นแหล่งตลาดขนาดใหญ่ให้กับผู้ประกอบการ |
. |
นอกจากนี้ยังมีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ที่จะเป็นวัตถุดิบป้อนโรงงานให้ นักธุรกิจไทย รวมถึงมีประชากรที่อยู่ในวัยแรงงานก็มีอยู่เป็นจำนวนมาก ที่จะช่วยลดต้นทุนในการผลิตสินค้าได้เป็นจำนวนมาก |
. |
“การส่งเสริมการลงทุนไทยไปต่างประเทศ เป็นยุทธศาสตร์สำคัญของบีโอไอ ซึ่งในปี 2553 บีโอไอกำหนดที่จะนำคณะนักธุรกิจไทยไปประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ พม่า ลาว เวียดนาม อย่างน้อย 9 ครั้ง เพื่อที่ผู้ประกอบการไทยจะได้เข้าไปศึกษาและหาลู่ทางในการค้าการลงทุน เพื่อเป็นการขยายตลาดและฐานการผลิตในอนาคต โดยมั่นใจว่าการจัดกิจกรรมไปประเทศพม่าครั้งนี้ จะเป็นส่วนสำคัญผลักดันให้ปริมาณการค้าและการลงทุนของไทยในพม่าเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ” นางวาสนากล่าว |
. |
ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.boi.go.th หรือโทรศัพท์สอบถามที่ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน โทรศัพท์ 0-2537-8111 ต่อ 1111, 1115, 1117 เพื่อสมัครเข้าร่วมกิจกรรมกับบีโอไอต่อไป |