โตโยต้า เผยตลาดรถยนต์เดือนเมษายน ขาย 57,128 คัน เพิ่มขึ้น 43.9% 4 เดือนขาย 223,930 คัน เพิ่มขึ้น 51.8%
โตโยต้า เผยตลาดรถยนต์เดือนเมษายน ขาย 57,128 คัน เพิ่มขึ้น 43.9% 4 เดือนขาย 223,930 คัน เพิ่มขึ้น 51.8% |
. |
. |
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์เดือนเมษายน 2553 มีปริมาณการขายทั้งสิ้น 57,128 คัน เพิ่มขึ้น 43.9% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 26,274 คัน เพิ่มขึ้น 64.4% รถเพื่อการพาณิชย์ 30,854 คัน เพิ่มขึ้น 30.0% รวมทั้ง รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ จำนวน 25,885 คัน เพิ่มขึ้น 23.0% |
. |
ประเด็นสำคัญ |
1.) ตลาดรถยนต์เดือนเมษายน มีปริมาณการขาย 57,128 คัน เพิ่มขึ้น 43.9% เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่แปด เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 26,274 คัน เติบโต 64.4% สูงสุดในรอบ 16 เดือน รถเพื่อการพาณิชย์ 30,854 คัน เติบโต 30.0% เป็นอัตราการเติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่เจ็ด รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซ็กเมนท์นี้ 25,885 คัน เติบโต 23.0% |
. |
ทั้งนี้เป็นผลมาจากยอดจองในงานมอเตอร์โชว์ ความนิยมต่อเนื่องของรถยนต์นั่งรุ่นใหม่หลายรุ่น ทั้งรถยนต์ประหยัดพลังงาน รถยนต์ขนาดเล็กและขนาดกลาง ภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ดีขึ้น ตลอดจนอัตราดอกเบี้ยที่ยังทรงตัว ส่งผลดีต่อตลาดรถยนต์โดยรวม |
. |
2.) ตลาดรถยนต์สะสม 4 เดือน มีปริมาณการขาย 223,930 คัน เพิ่มขึ้น 51.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา เป็นอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา และมียอดขายใกล้เคียงกับยอดขายสะสม 4 เดือนของปี2549 ที่มียอดขายรวมที่กว่า 680,000 คัน |
. |
โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 54.3% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 50.1% แสดงถึงการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจในประเทศ การขยายตัวของมูลค่าการส่งออกและการลงทุนในประเทศ การจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีขึ้น ในขณะที่ราคาน้ำมันไม่ผันผวนมากนัก ประกอบกับอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่เหมาะสม ตลอดจนการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่นเข้าสู่ตลาดตั้งแต่ต้นปี |
. |
3.) ตลาดรถยนต์ในเดือน พฤษภาคม คาดว่ายังคงเติบโต จากเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ความนิยมต่อเนื่องในรถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่นที่แนะนำมาตั้งแต่ต้นปี แม้ว่าราคาสินค้าทางการเกษตรโดยเฉพาะราคาข้าวที่มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นของตลาดโลก แต่สินค้าทางการเกษตรหลักอื่นๆ อาทิ ยางพารา อ้อย ยังอยู่ในระดับราคาที่สูง |
. |
อย่างไรก็ตามตลาดรถยนต์ในเดือนพฤษภาคมอาจได้รับผลกระทบบ้าง เนื่องจากมีคำสั่งซื้อรถจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น ในขณะที่ปริมาณการผลิตโดยรวมยังไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้มากตามความต้องการของตลาดรถยนต์ในประเทศ ทำให้รถยนต์บางรุ่น บางแบบนั้นมียอดสั่งจองมากกว่า 2 เดือน โดยเฉพาะรถกระบะขนาด 1 ตัน |
. |
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เดือนเมษายน 2553 |
1.) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 57,128 คัน เพิ่มขึ้น 43.9% |
. |
2.) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 26,274 คัน เพิ่มขึ้น 64.4% |
. |
3.) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 25,885 คัน เพิ่มขึ้น 23.0% |
. |
4.) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 22,550 คัน เพิ่มขึ้น 19.3% |
. |
5.) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 30,854 คัน เพิ่มขึ้น 30.0% |
. |
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – เมษายน 2553 |
1) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 223,930 คัน เพิ่มขึ้น 51.8% |
. |
2) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 92,521 คัน เพิ่มขึ้น 54.3% |
. |
3) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 112,947 คัน เพิ่มขึ้น 48.4% |
. |
4) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 100,334 คัน เพิ่มขึ้น 46.5% |
. |
5) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 131,409 คัน เพิ่มขึ้น 50.1% |