หนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือน ก.พ. 53 มีจำนวนทั้งสิ้น 4,075.14 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 66.72 พันล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 41.90 ของ GDP ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นสุทธิของหนี้สาธารณะที่สำคัญเกิดจากหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน และหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน โดยเพิ่มขึ้นสุทธิ 68.3 พันล้านบาท 2.6 พันล้านบาท และ 0.87 พันล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ หนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลงสุทธิ 5.0 พันล้านบาท |
. |
การจ้างงานรวมเดือน มี.ค. 53 มีจำนวนทั้งสิ้น 37.6 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.0 ล้านคน จากช่วงเดียวกันปีก่อน หรือคิดเป็นการขยายตัวร้อยละ 2.8 ต่อปี โดยการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่อยู่ในสาขาเกษตรกรรม โรงแรมภัตตาคาร และค้าส่งค้าปลีก ที่เพิ่มขึ้น 5.5 2.6 และ 2.2 แสนคน ตามลำดับ อันเป็นผลจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้นมากจากช่วงเดียวกันปีก่อน ทั้งนี้ หากปรับค่าการเปลี่ยนแปลงทางฤดูกาลแล้วพบว่า การจ้างงานเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 2.3 แสนคน หรือร้อยละ 0.6 จากเดือนก่อน |
. |
อัตราการว่างงานเดือน มี.ค. 53 อยู่ที่ร้อยละ 1.0 ของกำลังแรงงานรวม หรือคิดเป็นจำนวนผู้ว่างงานทั้งสิ้น 3.7 แสนคน อันเป็นผลจากจำนวนผู้ว่างงานในภาคการผลิต ค้าส่งค้าปลีก และเกษตรกรรมที่ลดลงมาก ส่งผลให้อัตราการว่างงานในไตรมาส 1 ปี 53 อยู่ที่ร้อยละ 1.1 ของกำลังแรงงานรวม |
. |
ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลประจำเดือนเมษายน 2553 จัดเก็บได้สุทธิ 158,984 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการจำนวน 67,368 ล้านบาทหรือร้อยละ 73.5 และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 68.0 ต่อปี โดยกรมสรรพากรที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 13,614 ล้านบาท ผลมาจากการจัดเก็บที่สูงกว่าประมาณการของภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และกรมสรรพสามิต ที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 9,653 ล้านบาท มาจากการจัดเก็บรายได้ที่สูงกว่าประมาณการของภาษีน้ำมันและรถยนต์ เป็นสำคัญ |
. |
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังได้รับโอนเงินจากการยึดทรัพย์ของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร จำนวน 49,016 ล้านบาท ส่งผลให้ 7 เดือนแรกของปี งปม. 53 (ต.ค.52-เม.ย.53) รายได้รัฐบาลจัดเก็บได้สุทธิ 839,630 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 27.7 ต่อปี และสูงกว่าประมาณการ 201,422 ล้านบาท |
. |
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง |