การขยายธุรกิจจะประสบความสำเร็๗ได้ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ข้อมูลเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อแผนการขยายธุรกิจ หากมองข้ามไปอาจทำให้แผนล้มไม่เป็นท่า และการขยายธุรกิจก็ไม่อาจประสบความสำเร็จได้
|
การขยายธุรกิจจะประสบความสำเร็๗ได้ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ข้อมูลเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อแผนการขยายธุรกิจ หากมองข้ามไปอาจทำให้แผนล้มไม่เป็นท่า และการขยายธุรกิจก็ไม่อาจประสบความสำเร็จได้ |
| . |
|
|
|
นายวัชรสิทธิ์ สันติสุขนิรันดร์ |
| . |
|
ในปี 2553 นี้ บรรดาธุรกิจขนาดเล็กส่วนใหญ่ได้เริ่มวางกลยุทธ์ทางธุรกิจสำหรับปีต่อไปกันแล้ว และแน่นอนว่ากลยุทธ์ดังกล่าวได้รวมแผนการขยายธุรกิจเอาไว้ด้วย จะเห็นได้ว่าการขยายธุรกิจล้วนมีเป้าหมายหลักคือความสามารถในการทำกำไร ความมีเสถียรภาพ และการมีรายได้ที่สม่ำเสมอ และเพื่อให้การขยายธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ |
| . |
|
คุณจะต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายอย่าง เช่น จำนวนพนักงานที่จะว่าจ้างและทักษะที่พวกเขาจะต้องมี กลยุทธ์ทางการตลาด สินค้าคงคลัง เงินสดหมุนเวียนในการทำธุรกิจ และค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าเช่าสำนักงาน ค่าไฟฟ้า และค่าดำเนินการอื่นๆ |
| . |
|
อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยอีกอย่างที่จะต้องคำนึงถึงด้วย ซึ่งหากคุณมองข้ามปัจจัยนี้ไปก็อาจทำให้แผนการขยายตัวของคุณไม่ประสบผลสำเร็จได้ กล่าวคือองค์กรทั้งหมด ไม่ว่าจะมีขนาดใดก็ตาม มักจะพึ่งพาข้อมูลไม่ว่าจะในทางใดทางหนึ่ง อาทิ ข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้า คำสั่งซื้อของลูกค้า สินค้าคงคลัง หรืองบดุล |
| . |
|
โดยข้อมูลถือเป็นเส้นเลือดที่ใช้ในการหล่อเลี้ยงธุรกิจ และข้อมูลดังกล่าวนี้ส่วนใหญ่จะได้รับการจัดเก็บไว้ในระบบจัดเก็บข้อมูลแบบคอมพิวเตอร์ แต่ดูเหมือนว่าการวางแผนงานในด้านนี้สำหรับการดำเนินธุรกิจจะได้รับความสนใจน้อยมาก ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ถ้าฮาร์ดแวร์ระบบจัดเก็บข้อมูลของคุณไม่สามารถใช้งานได้ ธุรกิจของคุณก็อาจพบกับความเสียหายได้เหมือนกัน |
| . |
|
ความท้าทายอีกประการก็คือปริมาณข้อมูลที่ธุรกิจขนาดเล็กทั่วไปต้องพึ่งพาในปัจจุบันนั้น ไม่สามารถคาดการณ์ได้เมื่อเทียบกับในช่วงห้าปีที่ผ่านมา และปริมาณข้อูลดังกล่าวก็มีแต่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นักวิเคราะห์จากบริษัท การ์ทเนอร์ คาดการณ์ว่าประมาณปี 2555 บริษัทต่างๆ จะต้องจัดการกับข้อมูลที่มีปริมาณมากถึงเจ็ดเท่าจากที่จัดเก็บอยู่ในปัจจุบัน และจากงานวิจัยอิสระยังแสดงให้เห็นด้วยว่าในสภาวะการณ์ของปริมาณข้อมูลที่มีอยู่ปัจจุบัน องค์กรหลายแห่งก็ยังไม่สามารถกู้คืนไฟล์จากเทปสำรองข้อมูลในกรณีที่ข้อมูลเกิดความเสียหายได้[i] |
| . |
|
ดังนั้น วิธีที่คุณจะสามารถแน่ใจได้ว่าระบบจัดเก็บข้อมูลของคุณเตรียมพร้อมสำหรับการขยายธุรกิจในปีนี้แล้วหรือยังนั้น ให้พิจารณากฎห้าประการด้านล่างนี้สำหรับการตรวจสอบฮาร์ดแวร์ระบบจัดเก็บข้อมูลของคุณ |
| . |
| ระบบจัดเก็บข้อมูลมักจะขยายตัวเร็วกว่าที่คุณคิด |
|
ถ้าคุณกำลังมีแผนจะซื้อหรืออัปเกรดฮาร์ดแวร์ระบบจัดเก็บข้อมูลของคุณ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าฮาร์ดแวร์ดังกล่าวนั้นมีความสามารถในการปรับขนาดได้หรือไม่ ซึ่งหมายถึงความสามารถในการเพิ่มความจุของเนื้อที่จัดเก็บไฟล์และสามารถประมวลผลข้อมูลตามที่คุณต้องการได้ทุกเมื่อ |
| . |
|
หรือมิฉะนั้นใช่ระบบจัดเก็บข้อมูล "แบบโมดูลาร์" หรือไม่ ซึ่งในระบบนี้จะสามารถเพิ่มความจุให้กับระบบขณะที่กำลังทำงานอยู่ได้ โดยทั่วไปแล้ว ในหนึ่งระบบ คุณสามารถรวมระบบจัดเก็บข้อมูลที่ทำงานได้อย่างรวดเร็วกับระบบจัดเก็บข้อมูลที่มีความจุมากกว่าแต่ทำงานได้ช้ากว่าเอาไว้ด้วยกันได้ |
| . |
|
ความยืดหยุ่นในลักษณะนี้เหมาะอย่างยิ่งต่อการขยายธุรกิจเนื่องจากคุณสามารถซื้อเฉพาะสิ่งที่คุณต้องการเมื่อคุณจำเป็นต้องใช้เท่านั้น นอกจากนี้ คุณยังจะได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีล่าสุดซึ่งจะให้ความจุที่สมดุลและมีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับการลงทุนของคุณด้วย |
| . |
|
ทั้งนี้ ระบบจัดเก็บข้อมูลบางระบบต้องการให้คุณแทนที่ระบบเก่าของคุณทั้งหมดด้วยระบบใหม่ อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องจำเป็น เนื่องจากการอัปเกรดและจัดเตรียมความจุใหม่ให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณนั้นเป็นเรื่องง่ายมาก จะเห็นได้ว่าระบบจัดเก็บข้อมูลในปัจจุบันสามารถเริ่มต้นได้ด้วยดิสก์ไดรฟ์เพียงสี่ไดรฟ์และสามารถปรับขยายได้มากถึง 480 ไดรฟ์ โดยไม่จำเป็นต้องซื้อผลิตภัณฑ์ใหม่แต่อย่างใด และด้วยขนาดเท่านี้ก็มากพอแล้วสำหรับการขยายธุรกิจของคุณ |
| . |
| สิ่งที่เคยคิดว่าถูกกลับกลายเป็นแพงเมื่อเกิดข้อผิดพลาด |
|
บ่อยครั้งที่การให้ความสำคัญต่อระบบจัดเก็บข้อมูลจะอยู่ที่ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นและข้อตกลงที่เสนอในราคาที่ถูกที่สุด แต่สิ่งนี้ก็อาจทำให้องค์กรธุรกิจหลายแห่งได้ตัดทอนคุณภาพของผลิตภัณฑ์ออกไปด้วย ซึ่งหมายความว่าคุณอาจลงเอยด้วยผลิตภัณฑ์ที่ต่ำกว่ามาตรฐานหรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับความต้องการทางธุรกิจของคุณ |
| . |
|
เมื่อจำเป็นต้องพิจารณาการจัดซื้อระบบจัดเก็บข้อมูล ความจุของระบบเป็นเพียงหนึ่งข้อพิจารณาเท่านั้น สิ่งจำเป็นก็คือจะต้องเข้าใจว่ามีแอพพลิเคชันใดบ้างที่จำเป็นต้องใช้ และคุณคาดหวังต่อประสิทธิภาพของระบบมากน้อยเพียงใด ข้อมูลดังกล่าวจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าระบบจัดเก็บข้อมูลรูปแบบใดที่คุณควรซื้อ |
| . |
|
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายโดยรวมของระบบจัดเก็บข้อมูล ระบบในปัจจุบันมักจะอยู่ในรูปแบบ "ระบบจัดเก็บข้อมูลแบบระดับชั้น" ซึ่งจะแยกประเภทข้อมูลตามสื่อจัดเก็บข้อมูลที่มีอยู่ |
| . |
|
โดยข้อมูลในแต่ละระดับชั้นจะยึดตามความสำคัญของไฟล์และความถี่ในการเข้าใช้ อย่างไรก็ตาม การกำหนดข้อมูลให้กับสื่อบันทึกในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งนั้นอาจเป็นเรื่องที่ซับซ้อน ดังนั้นจึงต้องมีการกำหนดว่าชนิดข้อมูลในแต่ละชั้น ซึ่งโดยปกติจะยึดตามนโยบายที่กำหนดโดยบริษัทหรือการตั้งค่าอัตโนมัติของคุณ |
| . |
|
ข้อควรพิจารณาอีกประการคือการเชื่อมต่อระหว่างเซิร์ฟเวอร์กับระบบจัดเก็บข้อมูลของคุณ จะต้องเลือกจำนวนของการเชื่อมต่ออย่างถูกต้องเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาด้านประสิทธิภาพที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้รวมถึงปัญหาคอขวดที่ยากจะแก้ไข ผู้จำหน่ายอุปกรณ์ไอทีหรือผู้ติดตั้งระบบของคุณสามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับลักษณะปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจเหล่านี้ได้ |
| . |
|
|
| . |
| การสำรองข้อมูลจะไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไปเมื่อคุณไม่สามารถดึงข้อมูลกลับคืนได้ |
|
เช่นเดียวกับซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยสำหรับอินเทอร์เน็ต คุณต้องแน่ใจว่าซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการป้องกันข้อมูลของคุณนั้นได้รับการอัปเดตอยู่เสมอ แต่ดูเหมือนจะโชคไม่ดีที่หลายองค์กรมักจะมีซอฟต์แวร์ป้องกันข้อมูลที่ล้าสมัย ซึ่งสิ่งนี้มีผลต่อประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจมากกว่าจะเป็นตัวช่วยในการปกป้ององค์กรได้ |
| . |
|
ซอฟต์แวร์ป้องกันข้อมูลสมัยใหม่ควรติดตั้งและจัดการได้อย่างง่ายดาย ตลอดจนให้มุมมองที่ครอบคลุมเกี่ยวกับความสำเร็จในการสำรองข้อมูลของคุณ ตัวอย่างเช่น Hitachi Data Protection Suite สามารถนำเสนอ "รายงานความพร้อมของการสำรองข้อมูล" ที่จะทำงานโดยอัตโนมัติก่อนที่ซอฟต์แวร์ป้องกันข้อมูลจะทำการสำรองข้อมูลในช่วงเวลากลางคืน |
| . |
|
โดยระบบจะทำการทดสอบการสำรองข้อมูลทั้งหมดที่จะต้องดำเนินการและระบุจุดที่อาจไม่สามารถทำการสำรองข้อมูลได้ ด้วยเหตุนี้ คุณจึงสามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ก่อนที่กระบวนการสำรองข้อมูลจะประสบกับภาวะล้มเหลวที่คุณมักจะพบเมื่อเข้ามาทำงานในวันถัดไป |
| . |
|
เพื่อให้แน่ใจว่าคุณสามารถกู้คืนข้อมูลของคุณได้โดยง่าย ให้ทำการทดสอบอย่างสม่ำเสมอเพื่อว่าคุณจะสามารถนอนหลับสบายได้ตลอดทั้งคืน สิ่งนี้คุ้มค่าอย่างมากเมื่อเทียบกับเวลาที่เสียไปเพียง 10 นาทีต่อสัปดาห์หรือแม้แต่ต่อเดือนสำหรับการทดลองทำการสำรองข้อมูลแบบสุ่มเพื่อดูว่าคุณสามารถกู้คืนข้อมูลได้หรือไม่ |
| . |
| ยิ่งง่ายยิ่งดี |
|
เหตุใดจึงทำให้งานของคุณยากเกินกว่าที่ควรจะเป็น ลองพิจารณาผลิตภัณฑ์ระบบจัดเก็บข้อมูลที่ง่ายต่อการจัดการและลงทุนในบริการพิเศษเพิ่มอีกนิดสำหรับการติดตั้งฮาร์ดแวร์และรับการฝึกอบรมและเสริมทักษะที่จำเป็นในการบำรุงรักษาระบบ วิธีดังกล่าวนี้ จะช่วยให้คุณสามารถใช้งานระบบจัดเก็บข้อมูลของคุณได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้เวลาในการศึกษาหาข้อมูลผ่านคู่มือใช้งานที่ต้องเสียเวลานานในการทำความเข้าใจ |
| . |
|
การติดตั้งระบบจัดเก็บข้อมูลอาจเป็นเรื่องยากแม้แต่ผู้ที่มีความชำนาญด้านไอทีอยู่ก็ตาม แม้ว่าผลิตภัณฑ์ระบบจัดเก็บข้อมูลสมัยใหม่จะครอบคลุมงานด้านการจัดสรรระบบจัดเก็บข้อมูลทั้งหมดรวมถึงไม่มีความซับซ้อนในการติดตั้ง แต่การดำเนินชีวิตของคุณก็อาจจะง่ายยิ่งขึ้นถ้าตัดสิ่งนี้ไปให้ผู้เชี่ยวชาญดำเนินการแทน |
| . |
| เพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูลของคุณ |
|
ขณะที่การสำรองข้อมูลเป็นเรื่องเกี่ยวกับการกู้คืนข้อมูลที่ควรจะสูญเสียไปแล้ว แต่การเก็บถาวรข้อมูลจะเป็นการเก็บข้อมูลบางอย่างไว้อย่างปลอดภัยในระยะเวลาที่ยาวนาน |
| . |
|
คุณจะต้องตั้งค่านโยบายการเก็บถาวรข้อมูลเพื่อที่จะตัดสินใจได้ว่าข้อมูลใดบ้างที่จำเป็นต้องได้รับการจัดเก็บและจะต้องจัดเก็บไว้เป็นระยะเวลายาวนานเท่าใด จากนั้นคุณหรือผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีจะต้องปรับใช้ระบบเก็บถาวรแบบอัตโนมัติ ที่เชื่อถือได้ และสามารถดำเนินการได้อย่างง่าย โดยที่สามารถรวมซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่เหมาะสมตามความต้องการระบบจัดเก็บข้อมูลระยะยาวของคุณได้ |
| . |
|
สิ่งนี้จะทำให้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลหลักของคุณมีความจุเพิ่มขึ้น และทำให้คุณแน่ใจได้ว่าข้อมูลบริษัทของคุณได้รับการจัดเก็บไว้อย่างถาวรและเป็นไปตามกฎระเบียบของภาครัฐ เช่น การเก็บระเบียนทางการเงินและจัดเก็บข้อมูลเหล่านี้ด้วย ASIC ทั้งนี้ การเก็บถาวรยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อระบบจัดเก็บข้อมูลเพิ่มเติมและลดจำนวนข้อมูลที่ต้องดำเนินการสำรองข้อมูลในแต่ละคืนได้ด้วย |
| . |
|
แม้ว่าอาจดูยุ่งยากในการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายเฉพาะของการเก็บถาวรข้อมูล แต่สิ่งนี้จะยิ่งยุ่งยากมากขึ้นเมื่อต้องจัดการกับข้อมูลที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ทางออกก็คือการปรับใช้นโยบายแบบ "ทั่วไป" สำหรับการโยกย้ายข้อมูลไปยังระดับชั้นที่ต่ำกว่าสำหรับการจัดเก็บไว้ในระยะยาว แต่ทั้งนี้สามารถปรับแก้การกำหนดค่าดังกล่าวได้ในภายหลัง |
| . |
| ขยายตัวตามกระแส |
|
เมื่อพิจารณาแผนการขยายตัวองค์กรของคุณในปีต่อไป ให้พิจารณาข้อมูลที่คุณมีและสิ่งสำคัญต่างๆ ที่มีผลต่อการทำงาน และความสำเร็จของธุรกิจของคุณ จะเห็นได้ว่าข้อมูลบริษัทของคุณกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ระบบจัดเก็บข้อมูลของคุณจะต้องขยายตัวไปพร้อมๆ กับคุณ (และยังจะป้องกันคุณได้) ด้วย |
| . |
Thailandindustrycom_official
.gif)
