โดยเน้นเรื่องการทำตลาดให้เกิดขึ้นจริง มั่นใจปี 2554 คนไทยจะมีเอ็นจีวี ไบโอดีเซลและเอทานอล ทดแทนน้ำมันถึงร้อยละ 19 ระบุสูตรจำหน่ายเอทานอลและไบโอดีเซล จะมีการปรับให้อ้างอิงตลาดโลก
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานทบทวนเป้าหมายการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนน้ำมัน โดยเน้นเรื่องการทำตลาดให้เกิดขึ้นจริง มั่นใจปี 2554 คนไทยจะมีเอ็นจีวี ไบโอดีเซลและเอทานอล ทดแทนน้ำมันถึงร้อยละ 19 ระบุสูตรจำหน่ายเอทานอลและไบโอดีเซล จะมีการปรับให้อ้างอิงตลาดโลก |
. |
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้ปลูกปาล์มน้ำมันและผลิตไบโอดีเซลเข้าพบนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เพื่อขอทราบความชัดเจนเรื่องการส่งเสริมไบโอดีเซลในอนาคต ซึ่งนายปิยสวัสดิ์ ได้ยืนยันว่ารัฐบาลยังเดินหน้าส่งเสริมพลังงานทดแทนทั้งไบโอดีเซล เอทานอลและเอ็นจีวี ต่อไป โดยตั้งเป้าหมายทดแทนน้ำมันถึงร้อยละ 19 ในปี 2554 ซึ่งจะปรับรูปแบบให้ตลาดเป็นตัวนำ เพื่อทำให้โครงการประสบความสำเร็จบนพื้นฐานที่เหมาะสมกับศักยภาพการผลิตของประเทศและให้สอดคล้องกับต้นทุนทางเศรษฐศาสตร์ |
. |
ทั้งนี้ ในส่วนของไบโอดีเซล ตั้งเป้าหมายให้มีการผลิตในปี 2554 จำนวน 4 ล้านลิตร/วัน เพื่อผลิต สูตร B 5 ให้ทดแทนร้อยละ 5 ของการใช้น้ำมันดีเซล โดยจะมีทั้งการผลิตระดับมาตรฐานและการผลิตไบโอดีเซลระดับชุมชนรวมทั้งจะมีการใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาสนับสนุนเพื่อให้เกิดแรงจูงใจด้านการผลิต/การใช้คาดว่าจะทำให้ราคาไบโอดีเซลต่างจากน้ำมันดีเซลประมาณ 1.50 บาท/ลิตร |
. |
ส่วนเอทานอล กลางปีนี้จะเริ่มส่งเสริมการจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ 91 หลังประสบความสำเร็จจากแก๊สโซฮอล์ 95 มาแล้ว คาดว่าจะมีการใช้เอทานอล 3 ล้านลิตร/วัน ในปี 2554 สำหรับเอ็นจีวีตั้งเป้าหมายในปี 2554 จะมีรถยนต์ติดตั้งเอ็นจีวี 251,600 คัน และมีสถานีบริการเอ็นจีวี 520 สถานี ปริมาณจำนวนเอ็นจีวี 325 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน |
. |
ทั้งสูตรจำหน่ายเอทานอลและไบโอดีเซล จะมีการปรับให้อ้างอิงตลาดโลก ซึ่งราคาเอทานอลจะลดลง แต่ไบโอดีเซลมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น นายปิยสวัสดิ์ กล่าว. |