นายสาธิต รังคสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เผยในเดือนเมษายน 2553 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1.59 แสนล้านบาท สูงกว่าเป้ากว่า 6.7 หมื่นล้านบาท |
. |
โดยมีสาเหตุหลักจากการที่กระทรวงการคลังได้รับโอนเงินจากการยึดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และการบริโภคและการนำเข้าที่ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2553 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิสูงกว่าเป้าหมายแล้วกว่าสองแสนล้านบาท หรือร้อยละ 31.6 |
. |
ในเดือนเมษายน 2553 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 158,984 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 67,368 ล้านบาท หรือร้อยละ 73.5 โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 3 อันดับแรก ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีน้ำมัน และอากรขาเข้า ซึ่งมีสาเหตุสำคัญจากการบริโภคและการนำเข้าที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง |
. |
นอกจากนี้ ในเดือนนี้กระทรวงการคลังได้รับโอนเงินจากการยึดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จำนวน 49,016 ล้านบาท ส่งผลให้รายได้ส่วนราชการอื่นสูงกว่าประมาณการถึงร้อยละ 1,837.1 |
. |
สำหรับในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2553 (ตุลาคม 2552 – เมษายน 2553) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 839,630 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 201,422 ล้านบาท หรือร้อยละ 31.6 โดยทั้ง 3 กรมจัดเก็บหลัก ได้แก่ กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร จัดเก็บภาษีได้สูงกว่าเป้าหมาย 72,329 70,911 และ 14,320 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.0 41.4 และ 33.3 ตามลำดับ |
. |
นายสาธิตฯ สรุปว่า “แม้ว่าการจัดเก็บรายได้รัฐบาลในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณจะได้ ผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง แต่กระทรวงการคลังยังมั่นใจว่าการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลปี 2553 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้จำนวน 1.522 ล้านล้านบาทอย่างแน่นอน” |