กลุ่มพันธมิตรธุรกิจซอฟต์แวร์ ร่วมกับไอดีซี เปิดเผยผลการศึกษาการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ทั่วโลก พบอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์บนเครื่องพีซีในประเทศไทยลดลง
กลุ่มพันธมิตรธุรกิจซอฟต์แวร์ ร่วมกับไอดีซี เปิดเผยผลการศึกษาการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ทั่วโลก พบอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์บนเครื่องพีซีในประเทศไทยลดลง |
. |
. |
วันนี้กลุ่มพันธมิตรธุรกิจซอฟต์แวร์ หรือ บีเอสเอ องค์กรตัวแทนของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์โลกร่วมกับไอดีซี บริษัทวิจัยตลาดชั้นนำ ประกาศผลการศึกษาการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ทั่วโลกประจำปีครั้งที่ 7 ที่ติดตามความเคลื่อนไหวของอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก |
. |
ผลการศึกษาระบุว่า จากปีพ.ศ. 2551 ถึง 2552 อัตราการติดตั้งซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือเครื่องพีซีในประเทศไทยลดลง 1 จุด มาอยู่ที่ร้อยละ 75 การลดลงดังกล่าวดูเหมือนจะส่งสัญญาณยืนยันแนวโน้มที่ดีว่าอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์กำลังลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีพ.ศ. 2549 |
. |
ถึงแม้จะมีการถดถอยตัวลงของเศษฐกิจโลก แต่อัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์บนเครื่องพีซีกลับเดินสวนทางกับเศรษฐกิจโลก กล่าวคือมีอัตราที่ลดลงในหลายประเทศ ผลการศึกษาดังกล่าวของบีเอสเอ/ไอดีซี พบว่าอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ลดลงใน 54 ประเทศ และเพิ่มขึ้นใน 19 ประเทศเท่านั้น |
. |
อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษายังพบด้วยว่า เนื่องจากการเติบโตอย่างรวดเร็วและการเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดซอฟต์แวร์โดยรวมของจีน อินเดีย และบราซิล ซึ่งเป็นประเทศที่พบว่ามีอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์สูง ทำให้อัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นจากร้อยละ 41 ไปอยู่ที่ร้อยละ 43 |
. |
“ผลการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ความพยายามลดการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในประเทศไทยนั้นประสบความสำเร็จ แต่ยังคงสูงกว่าอัตราในระดับภูมิภาคและระดับโลก อัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ที่ร้อยละ 75 นั้นยังสูงกว่าอัตราที่จำเป็นสำหรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย” นางสาววารุณี รัชตพัฒนากุล ที่ปรึกษาและตัวแทนของบีเอสเอประจำประเทศไทยกล่าว |
. |
“ในช่วงเวลานี้ที่เรากำลังฟื้นตัวจากภาวะการถดถอยของเศรษฐกิจโลกที่รุนแรงที่สุดในรอบยี่สิบปี พร้อมๆ ไปกับการที่เศรษฐกิจของประเทศกำลังได้รับความเสียหายโดยปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง เราจำเป็นต้องเดินหน้าต่อไปเพื่อทำงานร่วมกับภาครัฐ องค์กรธุรกิจ ตลอดจนผู้บริโภค เพื่อลดความเสี่ยงในการทำผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ที่เกี่ยวกับซอฟต์แวร์ และสื่อสารให้เข้าใจถึงผลกระทบที่แท้จริงจากการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ที่มีต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย” |
. |
ไอดีซีพบว่า สำหรับทุกๆ 100 ดอลลาร์ ที่ได้จาการขายซอฟต์แวร์ที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้องในปีพ.ศ. 2552 ที่ผ่านมานั้น อีก 75 ดอลลาร์จะหายไปกับการการซื้อซอฟต์แวร์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ แต่ปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบมากกว่าเรื่องของรายได้ อัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์บนเครื่องพีซีที่ลดลงสามารถสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญหลายประการ |
. |
การศึกษาของบีเอสเอ/ไอดีซีในปีพ.ศ. 2551 ที่มุ่งไปที่ผลกระทบจากการละเมิดลิขสิทธิ์ที่มีต่อเศรษฐกิจพบว่า หากประเทศไทยลดอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ลงได้ 10 จุด ภายใน 4 ปี จะทำให้เกิดการจ้างงานใหม่มากกว่า 2,000 ตำแหน่ง และสร้างรายได้มากกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้กับอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ของประเทศ |
. |
ไอดีซียังประมาณการณ์ว่าทุกๆ 1 ดอลลาร์ที่ได้จากการขายซอฟต์แวร์ที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้อง ทำให้เกิดรายได้อีก 3-4 ดอลลาร์ แก่บริษัทผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์และผู้ให้บริการต่างๆ ภายในประเทศด้วย |
. |
นอกจากนี้ การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ยังทำให้ผู้บริโภคมีความเสี่ยงในเรื่องของความปลอดภัยของข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์และเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้อยู่ เนื่องจากบ่อยครั้งที่พบว่าซอฟต์แวร์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์มีภัยคุกคามที่เรียกว่ามัลแวร์ฝังตัวอยู่ด้วย |
. |
การต่อสู้กับการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ยังคงเป็นความจำเป็นเร่งด่วน กรมทรัพย์สินทางปัญญาและ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งมีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายลิขสิทธิ์ ได้ดำเนินการเพื่อลดการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่อง กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ให้ความรู้แก่ภาคธุรกิจถึงความจำเป็นที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายลิขสิทธิ์ |
. |
ในขณะที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจยังคงดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่องกับบริษัทต่างๆ ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในทุกภาคส่วนของประเทศ |
. |
ในไตรมาศแรกของปีพ.ศ. 2553 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจได้เข้าปราบปรามการใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ในองค์กรธุรกิจ คิดเป็นมูลค่าซอฟต์แวร์ที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์กว่า 56 ล้านบาทนับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2549 เป็นต้นมา อัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในประเทศไทยได้ลดลงมาแล้วห้าจุด มาอยู่ที่ร้อยละ 75 ในปัจจุบัน |
. |
“ปัจจุบันเศรษฐกิจของโลกพึ่งพิงอยู่กับภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศที่เข้มแข็งมากกว่าในยุคใดที่ผ่านมา นโยบายที่ส่งเสริมนวัตกรรมใหม่ๆ ในวันนี้ รวมถึงการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเช่นลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์อย่างจริงจังจะกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและนำความรุ่งเรืองมาสู่ประเทศในอนาคต” มร.เจฟฟรีย์ ฮาร์ดีย์ รองประธานและผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียของบีเอสเอกล่าว |
. |
“แม้ว่าเราจะยินดีที่ความพยายามในการต่อสู้กับการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ของบีเอสเอนั้นประสบผลสำเร็จและคืบหน้าไปอย่างต่อเนื่องด้วยดี แต่ ผลการศึกษาทำให้เราจำเป็นต้องดำเนินกิจกรรมต่อไปอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นมากขึ้นในอนาคต” |
. |
“นอกจากนี้ บทเรียนสำคัญอีกบทหนึ่งที่เราได้รับจากวิกฤตการเงินโลกในครั้งนี้คือ ความสำคัญของการสร้างภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) ของประเทศให้เกิดขึ้น และต้องสร้างความเข้มแข็งให้แก่ระบบต้านทานของอุตสาหกรรมและลดการพึ่งพิงต่างประเทศ |
. |
ในขณะที่รัฐบาลของประเทศส่วนใหญ่ในภูมิภาคนี้ได้ใช้นโยบายด้านการเงินเพื่อช่วยเหลือสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมที่สำคัญอย่างเช่นภาคการผลิต ให้กลับมายืนอยู่ได้อีกครั้ง แต่ปัญหาใหญ่ที่กำลังค่อยๆ ทำลายภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยนีสารสนเทศ (ไอที) ของประเทศยังคงไม่ได้รับการแก้ไข” มร. ฮาร์ดีย์ เสริม |
. |
“ผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ ตัวแทนจำหน่าย และร้านค้าในท้องถิ่นเหล่านี้ ต่างช่วยให้เกิดการจ้างงานใหม่ กระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ สร้างรายได้ในรูปของภาษีจ่ายให้แก่รัฐ ทั้งยังสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ แต่บริษัทซอฟต์แวร์ท้องถิ่นเหล่านี้กำลังประสบปัญหาหนัก เพราะถูกซอฟต์แวร์เถื่อนราคาถูกแย่งตลาดไปหมด ยังไม่นับรวมที่ผลิตภัณฑ์ของตนเองถูกละเมิดลิขสิทธิ์อีกด้วย” |
. |
ผลการศึกษายังพบว่า |
• อัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์บนเครื่องพีซีลดลงในประเทศต่างๆ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 49 ของประเทศที่ทำการศึกษาทั้งหมด อย่างไรก็ดี อัตราการละเมิดลิขสิทธิ์เฉลี่ยทั่วโลกกลับเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 41 ในปีพ.ศ. 2551 เป็นร้อยละ 43 ในปีพ.ศ. 2552 ทั้งนี้เนื่องมาจากจำนวนซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งบนเครื่องพีซีในตลาดเกิดใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว |
. |
• มูลค่าของซอฟต์แวร์ที่ถูกละเมิดคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 51,400 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 3 จากปีพ.ศ. 2551 |
. |
• ประเทศที่มีอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์สูงที่สุด คือ จอร์เจีย ซิมบับเว และโมลโดวา (ทั้งหมดมีอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์สูงกว่าร้อยละ 90 ) |
. |
• ปัจจัยที่ส่งผลให้อัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ลดลง คือ การที่ร้านค้าจำหน่ายเฉพาะซอฟต์แวร์ที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้อง โครงการรณรงค์ให้ความรู้ของภาครัฐและภาคเอกชน การปราบปรามและการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการเข้ามามีส่วนของเทคโนโลยี เช่น การใช้เทคโนโลยีเพื่อบริหารจัดการสิทธิดิจิดอล (Digital Rights Management - DRM) และการบริหารจัดการสินทรัพย์ประเภทซอฟต์แวร์ (Software Asset Management – SAM) มากขึ้น |
. |
• ปัจจัยที่ส่งผลให้อัตราการละเมิดลิขสิทธิ์เพิ่มขึ้นคือ การเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดเครื่องพีซีสำหรับผู้บริโภค การขยายขอบเขตการใช้งานคอมพิวเตอร์เก่าซึ่งมักพบซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ติดตั้งอยู่มากกว่า ตลอดจนความซับซ้อนที่เพิ่มมากขึ้นในรูปแบบของการละเมิดลิขสิทธิ์และอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ |
. |
การศึกษาของบีเอสเอ/ไอดีซีประจำปีพ.ศ. 2552 ครั้งนี้ ครอบคลุมการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปทั้งหมดที่ใช้งานบนเครื่องพีซี รวมถึงเครื่องคอมพิวเตอร์แบบเดสท็อป (Desktops) เครื่องคอมพิวเตอร์แบบแล็บท็อป (Laptops) เครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา ตลอดจนเน็ตบุ๊ค การศึกษายังครอบคลุมการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ที่เป็นระบบปฏิบัติการ |
. |
ซอฟต์แวร์ที่เป็นระบบการทำงาน เช่น ที่ใช้เป็นฐานข้อมูล ที่ใช้เพื่อความปลอดภัยของข้อมูล และซอฟต์แวร์แอพพลิเคชั่นต่างๆ ทั้งที่เป็นซอฟต์แวร์ฟรีที่ถูกต้องตามกฎหมาย และซอฟต์แวร์แบบโอเพ่นซอร์ส |
. |
อย่างไรก็ตาม การศึกษาครั้งนี้ไม่ครอบคลุมซอฟต์แวร์ที่ใช้งานบนเซิร์ฟเวอร์ หรือเมนเฟรม ไอดีซีใช้สถิติจากการคำนวณการหมุนเวียนของจำนวนซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ และให้นักวิเคราะห์ของไอดีซีในกว่า 60 ประเทศตรวจสอบสภาวะตลาดในแต่ละประเทศ และคิดคำนวณอัตราการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก |
. |
สามารถอ่านผลการศึกษาฉบับเต็มได้ที่ http://www.bsa.org/globalstudy |
. |
เกี่ยวกับบีเอสเอ |
กลุ่มพันธมิตรธุรกิจซอฟต์แวร์ (www.bsa.org) มีสมาชิกที่ประกอบด้วยผู้ผลิตซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และเทคโนโลยีอื่นๆ ที่ใช้ในกิจการอีคอมเมิร์ส สมาชิกบีเอสเอรวมถึง อโดบี, อจิเล้นท์ เทคโนโลยีส์, อัลเตียม, แอปเปิ้ล, อควาโฟล, เออาร์เอ็ม, อาร์ฟิค เทคโนโลยี, ออโต้เดสค์, ออโต้ฟอร์ม, อวีวา, เบนลี่ ซิสเต็มส์, ซีเอ็นซี ซอฟต์แวร์/มาสเตอร์แคม, คอเรล, |
. |
แดสเซิลท์ ซิสเต็มส์ โซลิดเวิร์คส์ คอร์ปอเรชั่น, เอ็มบาร์คาเดโร, ฟรอนท์ไลน์ พีซีบี โซลูชั่นส์ (ในเครือออร์โบเท็ค วาเลอร์ คัมปานี), ไมโครซอฟท์, มินิแท็บ, เน็ดกราฟฟิกส์, พาราเมตตริกซ์ เทคโนโลยี คอร์ปอเรชั่น, โปรเกรส, เควสท์ ซอฟต์แวร์, สเกลเอเบิล ซอฟต์แวร์, ซีเมนส์, ไซเบส, ไซแมนเทค, เทคล่า, ไทยซอฟท์แวร์เอ็นเตอร์ไพร์ส และ เดอะ แมธเวิร์กส์ |
. |
เกี่ยวกับไอดีซี |
อินเตอร์เนชั่นแนล ดาต้า คอร์ปอเรชั่น (ไอดีซี) เป็นผู้ให้บริการข้อมูลตลาดระดับคุณภาพชั้นนำของโลก รวมทั้งบริการที่ปรึกษา และการจัดงานต่างๆสำหรับภาคธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ โทรคมนาคม และตลาดเทคโนโลยีผู้บริโภค ไอดีซีช่วยให้มืออาชีพด้านไอที ผู้บริหารธุรกิจ และแวดวงการลงทุนมีข้อเท็จจริงประกอบการตัดสินใจซื้อเทคโนโลยี และกลยุทธ์ทางธุรกิจ |
. |
นักวิเคราะห์ของไอดีซีกว่า 1,000 คน ใน 110 ประเทศ ให้บริการความเชี่ยวชาญในระดับโลก ระดับภูมิภาค และระดับท้องถิ่น ทางด้านเทคโนโลยี โอกาส และแนวโน้มทางธุรกิจ ไอดีซีมีประสบการณ์กว่า 46 ปีในการให้ข้อมูลเชิงกลยุทธ์แบบเจาะลึก เพื่อช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายหลักทางธุรกิจ ไอดีซีเป็นบริษัทในเครือไอดีจี ผู้นำระดับโลกในทางด้านสื่อเทคโนโลยี การวิจัย และการจัดงานต่างๆ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.idc.com |