เนื้อหาวันที่ : 2010-04-30 08:58:29 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 553 views

น้ำมันดิบปิดบวก 78 เซนต์ หลัง FED ระบุศก.สหรัฐขยายตัว

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ย พร้อมระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวแข็งแกร่งและตลาดแรงงานเริ่มฟื้นตัวขึ้น โดยสัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นแม้กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้นเกินคาดก็ตาม

.

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ดีดขึ้น 78 เซนต์ ปิดที่ระดับ 83.22 ดอลลาร์/บาร์เรล

.

ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนพ.ค.รูดลง 0.13 เซนต์ ปิดที่ 2.2290 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 0.59 เซนต์ ปิดที่ 2.3327 ดอลลาร์/แกลลอน  ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมิ.ย.ดีดขึ้น 38 เซนต์ ปิดที่ 86.16 ดอลลาร์/บาร์เรล

.

นักลงทุนขานรับเฟดที่ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rate) ที่ระดับ 0-0.25% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ แถลงการณ์ของเฟดระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงขยายตัวแข็งแกร่ง และตลาดแรงงานเริ่มฟื้นตัวขึ้น

.

นอกจากนี้ เฟดกล่าวว่าตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนของสหรัฐกำลังขยายตัวปานกลาง ขณะที่อัตราการใช้ทรัพยากรยังคงอยู่ในระดับต่ำ และดัชนีต่างๆที่บ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อก็ยังอยู่ในระดับที่ต่ำด้วย จึงทำให้เฟดเชื่อมั่นว่าการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่งนั้น จะช่วยหนุนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวอย่างยั่งยืนโดยไม่ก่อให้เกิดขึ้นเฟ้อ

.

นักวิเคราะห์กล่าวว่า นักลงทุนให้น้ำหนักกับการประเมินเศรษฐกิจในด้านบวกของเฟด มากกว่ารายงานของกระทรวงพลังงานสหรัฐที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 23 เม.ย. พุ่งขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 357.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1 ล้านบาร์เรล

.

ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นทะยานขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 151.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.4 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 223.7 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 8 แสนบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันพุ่งขึ้น 3.1% แตะระดับ 89.0%

.

นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้แรงหนุนจากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ รวมถึงรอยัล ดัทช์ เชลล์ พีแอลซี ที่รายงานว่าบริษัทมีกำไรสุทธิพุ่งขึ้นถึง 57% ในไตรมาสแรก อันเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ผลผลิตน้ำมันที่มากขึ้น และการลดค่าใช้จ่ายของบริษัท โดยกำไรสุทธิของเชลล์อยู่ที่ 5.48 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก เพิ่มขึ้นจาก 3.49 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

.
ที่มา : สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน