เนื้อหาวันที่ : 2010-03-26 09:52:48 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 666 views

รายงานภาวะเศรษฐกิจประจำวันที่ 26 มี.ค. 2553

1. มหาลัยหอการค้าคาดบาทแข็งค่าสุดที่ 32.00 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐ

นายวชิร คูณทวีเทพ อาจารย์ประจำศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงการแข็งค่าของเงินบาทในขณะนี้ว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่ามาจากการเข้าลงทุนทางอ้อมในตลาดหลักทรัพย์ฯของนักลงทุน ต่างประเทศ ที่เข้ามาช้อนซื้อหุ้นไทย ทั้งนี้ ผู้ประกอบการในภาคการส่งออกยังไม่ได้รับผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยอดขาย หรือออเดอร์ที่สั่งมา ยังอยู่ในระดับที่เอกชนรับได้ เพราะการแข็งค่าเงินบาทในครั้งนี้ ไม่ได้แข็งค่ามากกว่าภูมิภาคเท่าใดนัก

.

-  สศค.วิเคราะห์ว่า ในเดือน มี.ค. 53 มีเงินทุนไหลเข้าผ่านตลาดหลักทรัพย์กว่า 3.8 หมื่นล้านบาท และผ่านเข้าตลาดพันธบัตรอีกกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาแล้วกว่าร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับปลายเดือน ก.พ. 53 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ การที่ค่าเงินเงินสกุลอื่นๆในภูมิภาคแข็งค่าขึ้นในอัตราที่น้อยกว่า

.

อาทิ ดอลลาร์ไต้หวัน วอนเกาหลีใต้ ที่แข็งค่าขึ้นที่ร้อยละ 1.2 และ 1.7 เมื่อเทียบกับปลายเดือน ก.พ. 53 ตามลำดับ ส่งผลให้ ดัชนีค่าเงินบาทของประเทศไทยคำนวณโดย สศค. ปรับตัวแข็งขึ้นจากช่วงปลายเดือน ก.พ. 53 ร้อยละ 2.8 บ่งชี้ว่าความสามารถในการแข่งขันของไทยปรับตัวลดลง

.
2. กระทรวงพาณิชย์เร่งเดินหน้าผลักดันโครงการไทยเข้มแข็ง

-  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า หลังจากที่กระทรวงได้รับงบประมาณตามโครงการไทยเข้มแข็ง จึงได้มีการจัดประชุมผู้บริหาร เพื่อเดินหน้าตามกรอบยุทธศาสตร์ด้านต่างๆ เช่น การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการผลิต

.

โดยเน้นให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยในทุกอุตสาหกรรมปรับแผนการผลิตให้สอดคล้องกับการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งปูพื้นฐานให้เอกชนมีความรู้ความเข้าใจจากการที่ไทยจะเดินตามกรอบการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอีก 5 ปีข้างหน้า

.

-  สศค. วิเคราะห์ว่า แนวโน้มการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยจะมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยการมุ่งเน้นให้อุตสาหกรรมไทยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (green industry)จะเป็นการสนับสนุนจุดแข็งของประเทศไทย (core competency) ทางด้านอุตสาหกรรมการเกษตร รวมถึงจะเป็นการยกระดับของคุณภาพชีวิตประชากรไทยโดยเฉพาะในระดับรากหญ้าด้วยเช่นกัน 

.

ทั้งนี้ ภาคอุตสาหกรรมมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 39.0 ของภาคการผลิต โดยตัวเลขเครื่องชี้เศรษฐกิจล่าสุดภาคผลผลิตอุตสาหกรรมล่าสุดในเดือน ก.พ. 53 ขยายตัวในระดับที่สูงถึงร้อยละ 31.1 บ่งชี้ว่าภาคอุตสาหกรรมของไทยยังสามารถขยายตัวได้ดี

.
3. ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯ เดือน ก.พ. 53 ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง

-  ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯ เดือน ก.พ. 53 ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่ร้อยละ 0.5 (%mom sa) เมื่อเทียบกับร้อยละ 3.9 (%mom_SA) ในเดือน ม.ค. 53   อย่างไรก็ตามหากไม่รวมสินค้าคงทนที่เกี่ยวกับการขนส่ง (exclude transportation equipments) ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนจะขยายตัวในอัตราที่เร่งขึ้นจากเดือนก่อนที่ร้อยละ 0.9 (%mom_SA) เมื่อเทียบกับร้อยละ -0.6 (%mom_SA) ในเดือนม.ค. 53  

.

-  สศค. วิเคราะห์ว่า การที่คำสั่งซื้อสินค้าคงทนได้ขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในรายการเครื่องจักรเพื่อการผลิต (Machinery) ที่ขยายตัวถึงร้อยละ 4.7 (% mom_SA) นั้น สะท้อนถึงอุปสงค์ในประเทศที่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจสหรัฐโดยรวมยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจน จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.พ. 53 (Consumer Confidence Index) ที่อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนที่ 46.0

.

ในขณะที่ยอดขายบ้านสร้างใหม่ในเดือน ก.พ. 53 ที่หดตัวร้อยละ -2.2 (% mom) ลดลงต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 และอัตราการว่างงานที่ยังอยู่ในระดับที่สูงที่ร้อยละ 9.7 ของกำลังแรงงานรวม 

.
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง