1. เอกชนหวั่นชุมนุมยืดเยื้อส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออก |
- ประธานสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย กล่าวถึงผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองว่า ขณะนี้นักลงทุนต่างชาติจากประเทศญี่ปุ่น จีน และอีกหลายประเทศมีความกังวลว่าจะเกิดความรุนแรง ซึ่งทุกฝ่ายจะต้องเร่งเจรจาและเคลียร์ปัญหาทางการเมืองให้จบโดยเร็วเพราะหากยืดเยื้อจะกระทบต่อภาพรวมการส่งออกของไทย |
. |
- สศค. วิเคราะห์ว่าที่ผ่านมาการส่งออกของไทยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากช่วงก่อนหน้าสะท้อนได้จากมูลค่าการส่งออกในเดือน มค. 53 ที่ขยายตัวกว่าร้อยละ 30.8 ต่อปี โดยปรับตัวดีขึ้นมากในหมวดสินค้าหลัก ได้แก่ สินค้าอิเลคทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าหลัก ได้แก่ จีน อืนเดีย และภูมิภาคเอเชีย อันเป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยคงมีความเสี่ยงจากปัญหาการเมือง การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังเปราะบาง และปัญหาการขาดแคลนแรงงาน |
. |
2. ม.หอการค้าไทยชี้ต่างชาติยังมั่นใจเศรษฐกิจไทย เม็ดเงินทะลักเข้าดันบาทแข็ง-หุ้นพุ่ง |
- ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย กล่าวถึง สถานการณ์ชุมนุมขณะนี้ว่า หากสถานการณ์การเมืองยังคงรักษาระดับไม่รุนแรง จะไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศยังคงมั่นใจเศรษฐกิจไทย โดยเห็นได้จากเม็ดเงินลงทุนที่ยังคงไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอย่างต่อเนื่องผลักดันให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯปรับตัวขึ้น |
. |
ส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขณะที่การประเมินผลกระทบว่าจะมีผลกระทบต่อ GDP เล็กน้อยที่ร้อยละ 0.05-0.10 โดยในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมาเม็ดเงินจากการจับจ่ายใช้สอยหายไปประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท แต่หากสถานการณ์ยืดเยื้อเกิน 1 สัปดาห์ จะสูญเม็ดเงินประมาณ 5,000 - 10,000 ล้านบาท |
. |
- สศค. วิเคราะห์ว่า หากพิจารณามูลค่าการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์พบว่า นับจากต้นเดือนมี.ค.53 ถึงปัจจุบัน นักลงทุนต่างชาติมีการซื้อสุทธิที่ 20,309 ล้านบาท แสดงถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อประเทศ ส่วนหนึ่งเนื่องจากพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่มั่นคงและเริ่มฟื้นตัว |
. |
ทั้งนี้ ผลกระทบที่จะเกิดกับเศรษฐกิจขึ้นกับระยะเวลาและความรุนแรงของสถานการณ์ โดย สศค.ได้ทำการประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจซึ่งจะมีการแถลงผลการประมาณการเศรษฐกิจไทยในวันที่ 29 มี.ค. 53 ต่อไป |
. |
3. เยอรมนีปรับขึ้นตัวเลขมูลค่าการส่งออกปี 2552 |
- สำนักสถิติแห่งชาติเยอรมัน ประกาศปรับยอดมูลค่าการส่งออกสินค้าและบริการสำหรับปี 2552 อยู่ที่ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ สรอ. (808.2 พันล้านยูโร) จากที่ประมาณไว้เดิม 803.2 พันล้านยูโร ซึ่งส่งผลให้การส่งออกลดลงในอัตราร้อยละ 17.9 จากปี 2551 อย่างไรก็ตาม แม้มีการปรับขึ้นตัวเลขการส่งออกของเยอรมัน จีนยังคงเป็นผู้ส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของโลกของปี 2552 อยู่ ซึ่งมีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ สรอ. |
. |
- สศค. วิเคราะห์ว่า การปรับเพิ่มขึ้นของตัวเลขการส่งออกเยอรมันเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าเยอรมัน โดยประเทศคู่ค้าหลักได้แก่ ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ การส่งออกที่ปรับตัวดีขึ้นมาจากอัตราเจริญเติบโตของเศรษฐกิจของฝรั่งเศสที่ขยายตัวเป็นบวกในไตรมาสที่ 4 ที่ร้อยละ 0.6 (q-o-q SA) จากไตรมาสก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -0.2 ต่อไตรมาส |
. |
ทั้งนี้ สศค. คาดว่า ในปี 2553 เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยูโรโซนจะขยายตัวที่ร้อยละ 0.7 จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศยูโรโซน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการของรัฐบาลเยอรมนีและฝรั่งเศส ซึ่งเป็นสองประเทศหลักในกลุ่มประเทศยูโรโซน ในการกระตุ้นอุตสาหกรรมรถยนต์ การลงทุนของภาครัฐ และการบริโภคภาคเอกชน ประกอบกับสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก |
. |
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง |