สคฝ. เป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจจัดตั้งขึ้นตาม พรบ.สถาบันคุ้มครองเงินฝาก พ.ศ. 2551 เพื่อคุ้มครองเงินฝากในสถาบันการเงิน เสริมสร้างความมั่นคงและเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงิน และดำเนินการกับสถาบันการเงินที่ถูกควบคุมตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงินและชำระบัญชีสถาบันการเงินที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต จำเป็นต้องมีข้อกำหนดเกี่ยวกับธรรมาภิบาล จรรยาบรรณและข้อกำหนด เพื่อป้องกันการขัดแย้งระหว่างประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ของส่วนรวม
ธรรมาภิบาลขององค์กรที่เกี่ยวข้องกับการเงินและการลงทุน : ข้อเสนอแนะต่อระบบธรรมาภิบาลของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก |
. |
นางสาวรุ่งทิพย์ จินดาพล ส่วนนโยบายคุ้มครองเงินฝาก สำนักนโยบายระบบการคุ้มครองผลประโยชน์ทางการเงิน |
. |
. |
สถาบันกคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) เป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณและกฎหมายอื่น ที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติสถาบันคุ้มครองเงินฝาก พ.ศ. 2551 โดยมีฐานะเป็นนิติบุคคล มีวัตถุประสงค์ในการ |
. |
1) คุ้มครองเงินฝากในสถาบันการเงิน 2) เสริมสร้างความมั่นคงและเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงิน และ3) ดำเนินการกับสถาบันการเงินที่ถูกควบคุมตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงินและชำระบัญชีสถาบันการเงินที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต |
. |
ในการดำเนินการเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว สคฝ. จำเป็นต้องมีข้อกำหนดเกี่ยวกับธรรมาภิบาล จรรยาบรรณและข้อกำหนดเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ของพนักงานผู้อำนวยการ และคณะกรรมการของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก เพื่อป้องกันการขัดแย้งระหว่างประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ของส่วนรวม เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานและผู้บริหารเป็นไปด้วยความโปร่งใส และสอดคล้องกับหลักการกำกับดูแลที่ดี (Good Governance) |
. |
รวมทั้ง สอดคล้องกับ Core Principles for Effective Deposit Insurance Systems ใน 5 ข้อเกี่ยวกับเรื่องธรรมาภิบาล (Governance) ที่ระบุว่าสถาบันคุ้มครองเงินฝากในประเทศต่าง ๆ ควรดำเนินงานด้วยความเป็นอิสระ โปร่งใส ตรวจสอบได้ และปราศจากการแทรกแซงทางการเมืองหรืออิทธิพลของธุรกิจสถาบันการเงินและข้อ 13 ได้ระบุว่า พนักงานต้องปฏิบัติตามกฎ Conflict of interest และ Code of conduct |
. |
ดังนั้น ในบทความนี้ จะทำการศึกษาถึงจรรยาบรรณและระเบียบว่าการซื้อขายหลีกทรัพย์ของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก และจรรยาบรรณและการซื้อขายหลักทรัพย์ของหน่วยงานกำกับด้านการเงินและหลักทรัพย์เฉพาะธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) รวมถึงการศึกษาจรรยาบรรณของหน่วยงานที่ทำหน้าที่ลงทุนในลักษณะเดียวกับ สคฝ. เช่น กองทุนบำเหน็จ บำนาญข้าราชการ (กบข.) กองทุนประกันสังคม |
. |
ทั้งนี้ เนื่องจากสถาบันคุ้มครองเงินฝาก นอกจากจะมีวัตถุประสงค์ 3 ประการตามที่กล่าวมาแล้ว ยังทำหน้าที่บริหารจัดการกองทุนคุ้มครองเงินฝากโดยนำเงินในกองทุนคุ้มครองเงินฝากไปลงทุนในหลักทรัพย์ต่าง ๆ ด้วยเพื่อใช้ประกอบการเสนอแนะแนวทางในการกำหนดระบบธรรมาภิบาลของสถาบันคุ้มครองเงินฝากต่อไป |
. |
จรรยาบรรณและระเบียบว่าด้วยการซื้อขายหลักทรัพย์ของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก |
สคฝ. ได้กำหนดจรรยาบรรณสำหรับผู้อำนวยการและพนักงาน สคฝ. วันที่ 12 ตุลาคม 2552 และระเบียบสถาบันคุ้มครองเงินฝากว่าด้วยการซื้อขายหลักทรัพย์ของพนักงาน พ.ศ. 2552 ให้ไว้ ณ วันที่ 30 มีนาคม 2552 |
. |
จรรยาบรรณสำหรับผู้อำนวยการและพนักงาน สคฝ. ได้กำหนดขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการประพฤติตนและปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมอันจะนำมาซื่งประสิทธิภาพ ประสิทธิผลในการปฏิบัติงานและภาพลักษณ์อันดีของ สคฝ. |
. |
สคฝ. ได้กำหนดเกี่ยวกับการขัดแย้งทางผลประโยชน์ไว้ โดยกำหนดให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตาและเที่ยงธรรม ระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการกระทำที่อาจจะเป็นข้อครหาในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต และเที่ยงธรรม หลีกเลี่ยงทั้งโดยตนเองหรือครอบครัวในการให้หรือรับสิ่งของ เงิน หรือประโยชน์อย่างอื่นจากบุคคลอื่นที่มีหน้าที่หรือธุรกิจเกี่ยวกับ สคฝ.รวมทั้งไม่ดำเนินการใด ๆ ในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์กับ สคฝ. |
. |
นอกจากนี้ สคฝ. ยังได้กำหนดเกี่ยวกับรักษาความลับองค์กรโดยระมัดระวังมิให้เอกสารหรือข่าวสารอันเป็นความลับของสถาบันรั่วไหล หรือตกไปถึงผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องซึ่งรวมทั้งบุคคลภายนอก อันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ สคฝ. |
. |
สำหรับระเบียบว่าด้วยการซื้อหลักทรัพย์ของพนักงานำได้กำหนดให้พนักงานที่ประสงค์จะทำการซื้อขายหลักทรัพย์ของพนักงานถือปฏิบัติ โดยห้ามซื้อขายหลักทรัพย์ของพนักงานในขณะที่ครอบครองข้อมูลที่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงราคาของหลักทรัพย์ที่ยังมิได้เปิดเผยต่อประชาชนและตนได้ล่วงรู้มาในตำแหน่งหรือโดยการปฏิบัติหน้าที่ |
. |
ซึ่งเป็นการกำหนดข้อห้ามเกี่ยวกับการทำ Insider Trading ที่เป็นการใช้ข้อมูลภายในเอาเปรียบผู้อื่นและข้อมูลดังกล่าวจะเป็นข้อมูลของสถาบันการเงินที่พนักงานได้มีจากการปฏิบัติงานในหน้าที่ เช่น ในงานที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์และติดตามฐานะของสถาบันการเงิน |
. |
ทั้งนี้หลักทรัพย์ที่กำหนดห้ามซื้อขายนั้น เช่น ตราสารทุน รวมถึงตราสารอนุพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์นั้น ตราสารหนี้แต่ไม่รวมถึงหลักทรัพย์รัฐบาล รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐโดยให้พนักงานรายงานการซื้อขายหลักทรัพย์ภายใน 5 วันทำการ นับจากวันที่ซื้อขายหลักทรัพย์ และรายงานสถานะการถือครองหลักทรัพย์ของพนักงาน คู่สมรส บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะภายใน 30 วัน นับจากวันสิ้นไตรมาส โดยให้รายงานให้ฝ่ายตรวจสอบภายใน |
. |
บัญชีการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามระเบียบ ได้แก่ 1) การลงทุนในกองทุนรวม 2) การลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ 3) บัญชีของคู่สมรสของพนักงาน ซึ่งมีรายได้หรือทรัพย์สินเป็นของตนเองและเป็นอิสระจากพนักงาน |
. |
4) การลงทุนในหลักทรัพย์ซึ่งพนักงานไม่มีอำนาจสั่งซื้อขายหลักทรัพย์เป็นรายหลักทรัพย์ เช่น Equity ETF เป็นต้น ซึ่งการยกเว้นให้ลงทุนตาม 1) - 4) ได้นั้น เนื่องจากการซื้อขายหลักทรัพย์เหล่านี้พนักงานไม่มีส่วนในการตัดสินใจในการลงทุน จึงไม่ก่อให้เกิดการขัดแย้งทางผลประโยชน์และการใช้ข้อมูลภายในเพื่อนำไปใช้เพื่อผลประโยชน์ส่วนตน |
. |
จรรยาบรรณและการซื้อขายหลักทรัพย์ของหน่วยงานกำกับด้านการเงินและหลักทรัพย์ |
สำนักงาน ก.ล.ต. มีข้อกำหนดเกี่ยวกับจรรยาบรรณพนักงานสำนักงาน ก.ล.ต. และแนวทางธรรมาภิบาลของ ก.ล.ต. (Code of Governance) |
. |
จรรยาบรรณพนักงานสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. เป็นข้อกำหนดและแนวปฏิบัติที่กำหนดขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการนำไปประพฤติปฏิบัติของพนักงาน และผู้ที่เคยเป็นพนักงาน ซึ่งมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์เช่นเดียวกันกับ สคฝ. แต่ได้จำแนกการป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ไว้อย่างละเอียด |
. |
ซึ่งมีข้อกำหนดที่เพิ่มเติมจาก สคฝ. เช่น การละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ การรับเลี้ยงจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของสำนักงาน การดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการหรือผู้จัดการในองค์กรอื่น และการทำงานในองค์กรอื่น เป็นต้น |
. |
สำนักงาน ก.ล.ต. มีข้อกำหนดเกี่ยวกับการซื้อหลักทรัพย์ โดยห้ามพนักงานซื้อหลักทรัพย์บางประเภท ทั้งนี้ หลักทรัพย์ที่ห้ามพนักงานซื้อได้กำหนดไว้ในข้อบังคับสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ว่าด้วยการพนักงาน รวมทั้งมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการรักษาข้อมูลและความลับของสำนักงาน ก.ล.ต. |
. |
โดยให้พนักงานระมัดระวัง รักษาข้อมูลในความรับผิดชอบ และรวมไปถึงข้อมูลสำคัญที่ได้รับทราบในการประชุมด้วย เนื่องจากเป็นข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์หรือส่งผลกระทบต่อตลาดทุนทั้งต่อการดำเนินธุรกิจหรือต่อประชาชนในวงกว้าง |
. |
นอกจากนี้ สำนักงาน ก.ล.ต. ได้มีข้อปฏิบัติของอดีตพนักงาน โดยกำหนดว่า “อดีตพนักงานต้องไม่นำข้อมูลที่ไม่พึงเปิดเผยหรือนำเอกสาร ซึ่งได้รับหรือล่วงรู้ในขณะปฏิบัติหน้าที่ไปเปิดเผยแก่บุคคลภายนอกหรือบุคคลใกล้ชิด และอดีตพนักงานซื้งพ้นจากงานขณะดำรงตำแหน่งระดับอำนวยการขึ้นไป |
. |
ซึ่งได้รับทราบหรือเคยได้รับทราบข้อมูลความลับหรือข้อมูลการประกอบธุรกิจที่เป็นสาระสำคัญ หรือเป็นผู้ที่เคยได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานกำกับดูแลองค์กรต่าง ๆ ในตลาดทุนก่อนพ้นจากงานของสำนักงานพึงหลีกเลี่ยงหรือไม่เข้ารับตำแหน่งในองค์กรภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานภายหลังพ้นจากสำนักงานยังไม่ครบ 6 เดือน” |
. |
ส่วนกรณีของเลขาธิการสำนักงาน ก.ล.ต. ได้มีข้อบัญญัติห้ามเกี่ยวกับการประกอบอาชีพหลังจากการพ้นจากตำแหน่งไว้เช่นเดียวกับอดีตพนักงาน โดยตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ได้บัญญัติว่า “ภายในสองปีนับแต่วันพ้นตากตำแหน่ง เลขาธิการจะประกอบธุรกิจหรือทำงานให้แก่ผู้ประกอบการองค์กร หรือบริษัท หรือดำรงตำแหน่งในธุรกิจหลักทรัพย์ |
. |
ธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์ องค์กรที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ศูนย์ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า สำนักหักบัญชีสัญญาซื้อขายล่วงหน้า สมาคมกำกับผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือบริษัทอื่นใดซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการ ก.ล.ต. คณะกรรมการกำกับตลาดทุนหรือสำนักงาน มิได้” |
. |
แนวทางธรรมาภิบาลของ ก.ล.ต. (Code of Governance) |
สำนักงาน ก.ล.ต. ได้กำหนดกรอบของธรรมาภิบาลสำหรับคณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน ดังนี้คือ 1) ความรับผิดชอบต่อการปฏิบัติหน้าที่ (Accountability) 2) ความสำนึกในหน้าที่อย่างเต็มความสามารถและประสิทธิภาพ (Responsibility) 3) การเคารพในสิทธิและการปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้เสียอย่างเท่าเทียมกัน (Equitable Treatment) |
. |
4) การเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส (Disclosure and Transparency) 5) การควบคุมภายในและการตรวจสอลภายใน (Internal Control and Internal Audit) และ 6) การวางกรอบจริยธรรมและจรรยาบรรณ (Code of Conduct and Code of Ethics) โดยได้กำหนดขอบเขตของแนวทางธรรมาภิบาลไว้ 2 ระดับ คือ ส่วนที่ 1 องค์ประกอบของธรรมาภิบาลในระดับกรรมการ และส่วนที่ 2 ธรรมาภิบาลในระดับสำนักงาน |
. |
ส่วนที่ 1 องค์ประกอบของธรรมาภิบาลในระดับกรรมการ เช่น มีข้อกำหนดให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายในด้านธรรมาภิบาล ด้านจรรยาบรรณ และด้านความขัดแย้งทางผลประโยชน์สำหรับคณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานให้เป็นลายลักษณ์อักษร รวมทั้งให้จัดทำคู่มือและแนวทางปฏิบัจิในเรื่องดังกล่าวด้วย เป็นต้น |
. |
ทั้งนี้เพื่อให้นโยบายเป้าหมายและกลยุทธ์ของสำนักงาน การกำกับและติตามการดำเนินงานของสำนักงานการควบคุมและการตรวจสอบภายใน และการประเมินผลคณะกรรมการด้วย |
. |
สำหรับในส่วนที่ 2 ธรรมาภิบาลในระดับสำนักงาน เช่น ผู้บริหารระดับของสำนักงานต้องให้ความสำคัญและมีการบริหารความเสี่ยงในระดับองค์กร โดยร่วมกันพิจารณาจัดลำดับชั้นของความเสี่ยงแต่ละประเภทที่อาจมีผลกระทบต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ของสำนักงานส่วนการกำกับดูแลและควบคุมการบริหารความเสี่ยง |
. |
ผู้บริหารระดับสูงมีหน้าที่กำกับดูแลควบคุมการบริหารความเสี่ยงของสำนักงาน โดยเฉพาะในการปฏิบัติงานที่เป็นกิจกรรมหลักที่มีความสำคัญและมีความเสี่ยงสูง โดยให้ฝ่ายตรวจสอบภายในเข้าไปตรวจสอบกระบวนการในการบริหารความเสี่ยงตามแผนงาน รวมถึงเข้าตรวจสอบการบริหารความเสี่ยงจากเหตุการณ์ไม่ปกติหรือเหตุฉุกเฉิน เป็นต้น |
. |
ธปท. |
จรรยาบรรณพนักงาน ธปท. พ.ศ. 2539 แบ่งออกเป็น 4 หมวดเช่นเดียวกับที่ สคฝ. กำหนด โดยมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการขัดแย้งทางผลประโยชน์ เช่นหลีกเลี่ยงในการให้หรือรับสิ่งของ เงิน หรือประโยชน์อย่างอื่นจากบุคคลอื่นที่มีหน้าที่หรือธุรกิจเกี่ยวข้องกับ ธปท. เว้นแต่ในโอกาสหรือเทศกาลอันเป็นประเพณีนิยม |
. |
โดยจะต้องไม่มีราคามากจนเกินสมควรหรือเกินแกเหตุ และมีข้อพึงปฏิบ้ติของอดีตพนักงานเช่นเดียวกับสำนักงาน ก.ล.ต. กล่าวคือ อดีตพนักงาน ธปท. ในระดับบริหารในส่วนงานที่สามารถล่วงรู้ข้อมูลของกิจการสถาบันการเงินตามอำนาจหน้าที่พึงหลีกเลี่ยง ไปรับตำแหน่งในสถาบันการเงินต่าง ๆ หากได้พ้นจากงานของธนาคารยังไม่ครบ 6 เดือน |
. |
นอกจากนี้ ยังกำหนดห้ามมิให้ซื้อหรือรับหลักทรัพย์โดยได้สิทธิพิเศษไม่ว่าจะเป็นการได้มาจากตำแหน่งหน้าที่การงานหรือไม่ เพื่อป้องกันการขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นได้จากการกระทำดังกล่าว รวมทั้งยังห้ามมิให้เป็นนายทุนให้กู้ยืมเงิน หรือเป็นคนกลางในการดำเนินการให้พนักงานได้กู้ยืมเงิน ซึ่งเป็นความประพฤติในทางที่อาจทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและเกียรติศักดิ์ของตนและ ธปท. |
. |
ในส่วนของผู้ว่าการ ธปท. ตามพระราชบัญญัติ ธปท. พ.ศ. 2485 และที่แก้ไขเพิ่มเติมได้มีบทบัญญัติว่า “ผู้ว่าการซึ่งพ้นจากตำแหน่งจะต้องไม่ดำรงตำแหน่งใดในสถาบันการเงินภายในระยะเวลาสองปีนับแต่พ้นจากตำแหน่ง” ซึ่งเป็นบทบัญญัติเพื่อป้องกันการขัดแย้งทางผลประโยชน์ และป้องกันมิให้นำเสนอข้อมูลของสถาบันการเงินที่ได้จากอำนาจหน้าที่ไปใช้เพื่อประโยชน์ในสถาบันการเงิน ดังเช่นสำนักงาน ก.ล.ต. ที่มีข้อกำหนดห้ามเลขาธิการไว้เช่นกัน |
. |
หน่วยงานที่ทำหน้าที่ลงทุนให้กับสมาชิก |
หน่วยงานที่ทำหน้าที่ลงทุนใหกับสมาชิกที่จะศึกษาในบทความนี้ ได้แก่ กบข. และกองทุนประกันสังคม ทั้งนี้เนื่องจาก สคฝ. ทำหน้าที่บริหารจัดการกองทุนคุ้มครองเงินฝากโดยนำเงินในกองทุนคุ้มครองเงินฝากไปลงทุนในหลักทรัพย์ต่าง ๆ ดังนั้น การศึกษาจรรยาบรรณและหลักปฏิบัติด้านการลงทุนของ สคฝ. ด้วยเช่นกัน |
. |
กบข. |
กบข. ได้ออกจรรยาบรรณและหลักปฏิบัติพนักงาน กบข. และระเบียบว่าด้วยการซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อบัญชีของพนักงาน พ.ศ.2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม |
. |
จรรยาบรรณและหลักปฏิบัติพนักงาน กบข. ได้กำหนดหลักการไว้ว่า “พนักงาน กบข. พึงปฏิบัติตนในลักษณะที่ดีงาม (Integrity and Dignity) ต่อสาธารณชน สมาชิก กบข. ผู้บังคับบัญชา ผู้ใต้บังคับบัญชา และเพื่อนร่วมงาน โดยรักษาจรรยาบรรณของการดำเนินธุรกิจรวมทั้งส่งเสริมให้มีการประพฤติปฏิบัติตามจรรยาบรรณและหลักปฏิบัติพนักงาน” |
. |
เช่น รักษาข้อมูลที่ถือเป็นความลับทางธุรกิจ (Confidentiality) ไม่ใช้อำนาจหน้าที่ในการหาผลประโยชน์ส่วนตัว หรือก่อให้เกิดการได้เปรียบกว่าสาธารณชน เช่น ไม่นำข้อมูลในการลงทุนไปใช้ประโยชน์ในการลงทุนส่วนตัวในลักษณะซื้อขายหุ้นก่อนกองทุน (Front-running) หรือเป็นการให้ใช้ข้อมูลภายในเอาเปรียบผู้อื่น (Insider Trading) เป็นต้น |
. |
นอกจากนี้ ได้มีการกำหนดจรรยาบรรณของเลขาธิการ เช่น ต้องไม่แสวงหาประโยชน์อันมิชอบจากหน้าที่ความรับผิดชอบไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม กับทั้งไม่ก่อให้เกิดความมีส่วนได้เสียในกิจการที่กระทำกับ กบข. หรือในกิจการที่มีลักษณะเป็นการแข่งขันกับ กบข. และไม่นำความลับของ กบข. ไปใช้ในทางที่ผิด |
. |
ส่วนจรรยาบรรณของพนักงานมีข้อกำหนดให้หลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งกันทางผลประโยชน์และการกระทำอันไม่เป็นธรรม และไม่เปิดเผยข้อมูลใด ๆ อันเกี่ยวกับกิจการกองทุนที่ไม่สมควรเปิดเผยแก่บุคคลอื่น เป็นต้น |
. |
ในส่วนของมาตรฐานการปฏิบัติงานได้กำหนดหลักปฏิบัติไว้เช่น หลักปฏิบัติเกี่ยวกับการลงทุนของ กบข. หลักปฏิบัติในการป้องกันความขัดแย้งกันทางผลประโยชน์ (Conflict of interest) หลักปฏิบัติในการซื้อขายหลักทรัพย์ของพนักงาน หลักปฏิบัติในการรักษาข้อมูลภายในทางธุรกิจของกองทุน และของหน่วยงานภายใน (Confidentiality) ไว้อย่างละเอียดเพื่อให้พนักงาน กบข. สามารถนำไปปฏิบัติได้เหมาะสมกับการจัดการกองทุนตามมาตรฐานสากล |
. |
ระเบียบกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการว่าด้วยการซื้อขายหลักทรัพย์บัญชีของพนักงาน พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กบข. ได้มีข้อกำหนดให้พนักงานซึ่งประสงค์จะทำการซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อบัญชีของพนักงานถือปฏิบัติ เช่น ห้ามซื้อขายหลักทรัพย์ในขณะที่ครอบครองข้อมูลที่ไม่เปิดเผยและเป็นสาระสำคัญ (Material Nonpublic Information) เกี่ยวกับบริษัทที่ออกหลักทรัพย์นั้น หรือข้อมูลที่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อราคาของหลักทรัพย์หรือต่อตลาดที่หลักทรัพย์นั้นมีการซื้อขายอยู่ |
. |
ห้ามซื้อขายหลักทรัพย์ระหว่างบัญชีของพนักงานกับกองทุน ไม่เข้าทำการซื้อขายหลักทรัพย์จากการตกลงรับคำเชิญชวนโดยบุคคลหรือนิติบุคคลที่น่าจะมีผลประโยชน์ขัดแย้งจากการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานใน กบข. เป็นต้น |
. |
นอกจากนี้ กบข. ยังได้กำหนดข้อจำกัดในการซื้อขายหลักทรัพย์ เช่น พนักงานที่ต้องขออนุญาตซึ่งต้องการจะสั่งจองซื้อหลักทรัพย์ต้องขออนุญาตจากฝ่ายกำกับกิจกรรมองค์กรก่อน รวมทั้งยังกำหนดให้พนักงานที่ต้องขออนุญาตที่ปฏิบัติหน้าที่ในส่วนงานที่ซื้อขายหลักทรัพย์ (Trading) ไม่อาจซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อบัญชีของพนักงานผู้นั้น หากหลักทรัพย์นั้นกำลังซื้อขายเพื่อบัญชีของ กบข. เป็นต้น อย่างไรก็ตาม กบข. ได้กำหนดบัญชีการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ได้รับยกเว้นที่ไม่ต้องปฏิบัติตามระเบียบไว้เช่นเดียวกับที่ สคฝ. กำหนดไว้ |
. |
กองทุนประกันสังคม |
กองทุนประกันสังคมได้ออกจรรยาบรรณและคู่มือการปฏิบัติงานด้านการลงทุนเพื่อเป็นมาตรฐานการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้านการลงทุน เพื่อให้กองทุนมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ |
. |
กองทุนประกันสังคมได้นำจรรยาบรรณและมาตรฐานวิชาชีพด้านการลงทุนของสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมากำหนดไว้ในจรรยาบรรณและคู่มือการปฏิบัติงานด้านการลงทุนด้วย เช่น ไม่ซื้อขายหลักทรัพย์ก่อนกองทุน (Front Running) หรือซื้อขายหลักทรัพย์ใดในทิศทางตรงข้ามกับการลงทุนของกองทุน (Against Portfolio) |
. |
ไม่รับหลักทรัพย์ที่เสนอขายต่อประชาชน (Public Offering) ซึ่งได้มาจากผลประโยชน์ทางหน้าที่การงานในการจัดการกองทุน เป็นต้น เพื่อให้มีข้อกำหนดที่ป้องกันมิให้เกิดการขัดแย้งทางผลประโยชน์จากการปฏิบัติงาน การลงทุนของกองทุนเป็นที่ยอมรับของสมาชิกและไม่ก่อนให้เกิดผลเสียหายต่อกองทุน |
. |
กองทุนประกันสังคมได้กำหนดหลักการปฏิบัติงานด้านการลงทุนที่ดี ทั้งในระดับนโยบาย เช่น ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน คณะกรรมการประกันสังคม ผู้บริหารสำนักงานประกันสังคม ในระดับกลั่นกรองนโยบายและสนับสนุนการปฏิบัติงาน คณะอนุกรรมการบริหารการลงทุน และในระดับปฏิบัติงาน |
. |
ซึ่งใน 2 ระดับแรก คือระดับนโยบายและระดับกลั่นกรองนโยบายและสนับสนุนการปฏิบัติงานได้มีข้อกำหนดให้ปฏิบัติตามหลักปฏิบัติด้านความขัดแย้งทางผลประโยชน์ (Conflict of interest) และข้อห้ามเรื่องการซื้อขายหลักทรัพย์โดยใช้ข้อมูลภมยใน (Insider trading) ทั้งนี้ เนื่องจากอาจได้รับข้อมูลภายในจากการเป็นผู้บริหารกระทรวงหรือคณะกรรมการมาใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตนหรือเกิดผลประโยชน์ทับซ้อนเกิดขึ้นได้ |
. |
ตารางเปรียบเทียบข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับธรรมาภิบาลและจรรยาบรรณของหน่วยงานต่าง ๆ |
. |
หมายเหตุ |
1 การซื้อขายหลักทรัพย์ได้รวมอยู่ในจรรยาบรรณพนักงาน ฯ ไม่ได้แยกออกระเบียบต่างหาก |
. |
3 พรบ. ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดให้คณะกรรมการ ธปท. กำหนดข้อบังคับว่าด้วยจรรยาบรรณในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของผู้ว่าการด้วย |
. |
5 ระเบียบเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ของพนักงานให้นำมาบังคับกับผู้อำนวยการ สคฝ. ด้วยโดยอนุโลม |
. |
ข้อเสนอแนะแนวทางธรรมาภิบาลต่อสถาบันคุ้มครองเงินฝาก |
เมื่อพิจารณาจรรยาบรรณของ สคฝ. และหน่วยงานอื่นประกอบแล้ว เห็นว่า สคฝ. ควรเพิ่มเติมแนวทางธรรมาภิบาลบางประเด็น เพื่อให้แนวทางธรรมาภิบาลของ สคฝ. มีความสมบูรณ์มากขึ้น อันจะทำให้การดำเนินงานของ สคฝ. สามารบรรลุเป้าหมายและภารกิจในการคุ้มครองเงินฝากของประชาชนที่ฝากเงินกับสถาบันการเงินและช่วยเสริมสร้างความมั่นคงและเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงิน และช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อความโปร่งใส ความเป็นธรรม รวมทั้งสร้างความน่าเชื่อถือให้กับ สคฝ. ในการบริหารจัดการและป้องกันการแสวงประโยชน์จากการเป็นกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน ดังนี้ |
. |
(1) คณะกรรมการ สคฝ. ควรจัดให้มีนโยบายในด้านธรรมาภิบาล ด้านจรรยาบรรณและด้านความขัดแย้งทางผลประโยชน์สำหรับคณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานให้เป็นลายลักษณ์อักษรเพิ่มเติม รวมทั้งควรมีกฎบัตร (Charter) สำหรับคณะอนุกรรมการทุกชุดด้วยจากเดิมที่มีจรรยาบรรณของผู้บริหารและพนักงานและระเบียบว่าด้วยการซื้อขายหลักทรัพย์ของพนักงานเท่านั้น |
. |
ดังเช่นสำนักงาน ก.ล.ต. ได้กำหนดไว้ในแนวทางธรรมาภิบาลของ ก.ล.ต. กระทรวงการคลังได้ออกข้อบังคับกระทรวงการคลังว่าด้วยจรรยาของผู้บริหารกระทรวงการคลังเพื่อป้องกันการขัดหรือแย้งระหว่างประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวม พ.ศ. 2553 |
. |
นอกจากนี้ ในสถาบันประกันเงินฝากปฏิบัติเช่นเดียวกัน เช่น ฮ่องกงได้กำหนด Code of Conduct for Member of Hong Kong Deposit Protection Board and its Committees และแคนนาดาได้ออกบัตร Canada Deposit Insurance Corporation Board Charter เป็นต้น รวมทั้งควรมีกฎบัตร (Charter) สำหรับคณะอนุกรรมการทุกชุดด้วย |
. |
(2) ควรจัดทำเป็นคู่มือและกำหนดแนวทางปฏิบัติด้วยธรรมาภิบาล ด้านจรรยาบรรณและด้านความขัดแย้งทางผลประโยชน์สำหรับคณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจ สื่อสารอย่างทั่วถึง และสนับสนุนให้มีการปฏิบัติภายในอย่างจริงจัง รวมทั้งเผยแพร่แนวปฏิบัติดังกล่าวต่อสาธารณะอย่างทั่วถึง ดังเช่นสำนักงาน ก.ล.ต. ดำเนินการ และกบข. ได้จัดทำหลักปฏิบัติไว้ให้พนักงานปฏิบัติอย่างละเอียด เป็นต้น |
. |
(3) ควรมีการประเมินผลคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการอย่างน้อยปีละครั้งเพื่อเป็นการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยวัดประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการปฏิบัติงานได้ |
. |
(4) ควรกำหนดให้ผู้อำนวยการและพนักงาน สคฝ. ที่ปฏิบัติงานในส่วนที่สามารถล่วงรู้ข้อมูลของกิจการสถาบันการเงินตามอำนาจหน้าที่ หากพ้นจากตำแหน่งแล้วพึงหลีกเลี่ยงการไปรับตำแหน่งใดในสถาบันการเงินที่นำส่งเงินเข้ากองทุนคุ้มครองเงินฝากให้ สคฝ. ภายในระยะเวลา 6 เดือนนับแต่พ้นจากตำแหน่ง |
. |
เพื่อป้องกันการขัดแย้งทางผลประโยชน์ และป้องกันมิให้นำข้อมูลของสถาบันการเงินที่ได้จากอำนาจหน้าที่ไปใช้ประโยชน์ ในลักษณะเดียวกับพนักงาน ธปท. และสำนักงาน ก.ล.ต. กำหนดห้ามไว้ |
. |
การเสนอให้กำหนดข้อพึงหลีกเลี่ยงของผู้อำนวยการ สคฝ. ในลักษณะเดียวกับพนักงาน เนื่องจากเห็นว่ากฎหมายแม่บทมิได้บัญญัติห้ามไว้เหมือนผู้ว่าการ ธปท. และเลขาธิการสำนักงาน ก.ล.ต. แต่เห็นว่าการปฏิบัติงานของผู้อำนวยการ สคฝ. มีสิทธิ์ล่วงรู้ข้อมูลของสถาบันการเงินเช่นเดียวกับพนักงาน ธปท. และสคฝ. |
. |
(5) ควรจัดให้มีขั้นตอนการปฏิบัติงานที่สามารถป้องกันการแทรกแซงจากการเมืองหรือกลุ่มธุรกิจของธุรกิจสถาบันการเงินที่มีผลต่อความเป็นอิสระในการตัดสินใจของ สคฝ. มิให้ตกอยู่ภายใต้การครอบงำของอิทธิพลใด ๆ และเป็นไปเพื่อประโยชน์โดยรวมของสาธารณชน โดยกำหนดให้การพิจารณาดำเนินการในเรื่องดังกล่าวต้องมีการกลั่นกรองเป็นลำดังชั้น |
. |
มีการบันทึกผลการพิจารณาเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งต้องมีการบันทึกความเห็นที่แตกต่างกันไว้อย่างครบถ้วน ซึ่งสอดคล้องกับ Core Principles for Effective Deposit Insurance Systems ในข้อ 5 ที่กำหนดเกี่ยวกับเรื่องธรรมาภิบาล (Governance) ในเรื่องนี้ดังเช่นสำนักงาน ก.ล.ต. ก็ได้ดำเนินการเช่นเดียวกัน |
. |
(6) ควรมีการจัดทำและเปิดเผยในรายงานประจำปีถึงแถลงการณ์กำกับดูแลกิจการที่ดีที่ครอบคลุมถึงการปฏิบัติตามนโยบายการกำกับดูแลที่ดี การควบคุมภายในและการบริหารความเสี่ยงของ สคฝ. ดังเช่น Philippine Deposit Insurance Corporation (PDIC) ได้มีการรายงานความคืบหน้าของการปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาล (Governance) |
. |
ซึ่งได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดต่าง ๆ เพื่อช่วยให้การดำเนินการตามหลักธรรมาภิบาลที่ดีประสบความสำเร็จ เช่น Audit Committee Board Risk Management Committee policy Review Committee Ethics Committee และยังมีการรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับ Internal Audit อีกด้วย |
. |
(7) สคฝ. ควรแจ้งให้กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทราบและถือปฏิบัติในข้อกำหนดเกี่ยวกับการรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากบุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่ญาติ มีราคาหรือมูลค่าในการรับจากแต่ละบุคคล แต่ละโอกาสได้ไม่เกินสามพันบาทตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่องหลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาของเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. 2543 |
. |
ซึ่งประกาศนี้ครอบคลุมถึงกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานกับ สคฝ. ปัจจุบัน และรวมไปถึงผู้ที่พ้นจากงานไปแล้วไม่ถึง 2 ปีด้วย เนื่องจาก สคฝ. เป็นหน่วยงานของรัฐ จึงต้องถือปฏิบัติตามประกาศดังกล่าวด้วย |
. |
(8) ในอนาคตกองทุนคุ้มครองเงินฝากจะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาก ควรพิจารณาจัดให้มีส่วนงานกำกับและควบคุมความเสี่ยง เช่น ในงานด้านบริหารความเสี่ยงด้านการลงทุน เพื่อจะได้มีการพยากรณ์ สร้างระบบเตือนภัย และให้คำแนะนำในการป้องกันความเสียหายในสภาวะวิกฤตได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที ซึ่งจะช่วยป้องกันความเสียหายให้กองทุนคุ้มครองเงินฝากได้ ดังเช่นกองทุนประกันสังคมได้จัดตั้งส่วนงานดังกล่าวขึ้น |
. |
(9) ในอนาคตเมื่อมี Portfolio การลงทุนด้านหลักทรัพย์ ควรมีข้อกำหนดให้ผู้อำนวยการ พนักงาน สคฝ. และคณะอนุกรรมการลงทุนพึงไม่ซื้อหรือรับหลักทรัพย์โดยได้สิทธิพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการได้มาจากตำแหน่งหน้าที่การงานหรือไม่ เพื่อป้องกันการขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นได้จากการกระทำดังกล่าว |
. |
บรรณานุกรม |
1. ข้อบังคับกระทรวงการคลังว่าด้วยจรรยาของผู้บริหารกระทรวงการคลังเพื่อป้องกันการขัดหรือแย้งระหว่างประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวม พ.ศ.2553, กระทรวงการคลัง, 9 กุมภาพันธ์ 2553 |
. |
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง |