เนื้อหาวันที่ : 2010-03-11 08:40:14 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 590 views

สนพ. ดึงผู้เชี่ยวชญต่างชาติหนุนใช้พลังงานทดแทนลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก

สนพ.จัดสัมมนา “Fuel Options for Electricity Generation” ดึงวิทยากรต่างประเทศและผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานของไทย หนุนใช้พลังงานทดแทนลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก

.

นายแพทย์วรรณรัตน์  ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ปาฐกถาพิเศษเรื่องภาพรวมพลังงานไทยในอนาคตในงานสัมมนาเรื่อง “Fuel Options  for Electricity Generation” เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2553 ณ โรงแรมมิราเคล แกรนด์ กรุงเทพฯ ว่าพลังงานมีบทบาทสำคัญต่อภาคอุตสาหกรรม การขนส่ง เศรษฐกิจและสังคม

.

ซึ่งบทบาทดังกล่าว ส่งผลให้เกิดการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นโดยทั่วโลกมีความต้องการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นถึง 40% ในระหว่างปี 2550-2573 ขณะที่ BP Statistical Review of World Energy 2009 ได้รายงานว่าทั่วโลกมีปริมาณสำรองน้ำมันที่สามารถนำออกมาใช้ได้ 40 ปี ก๊าซธรรมชาติมีสำรองใช้ 60 ปี ถ่านหินมีสำรองใช้ 120 ปี

.

ส่วนประเทศไทยเองมีการขยายตัวของความการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากประมาณ 3 แสนบาร์เรลต่อวันเทียบเท่าน้ำมันดิบในปี 2529 เป็น 1.656 พันล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบในปี 2552 ขณะที่สามารถผลิตน้ำมันดิบได้เพียง 9 แสนบาร์เรล ที่เหลือจึงต้องนำเข้าจากต่างประเทศซึ่งการใช้พลังงานที่ขยายตัวขึ้นมีผลทำให้ปะเทศไทยประสบปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

.

โดยในปี 2552 พบว่ามีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ระดับ 4.30 ตันคาร์บอนต่อคนต่อปี ซึ่งใกล้เคียงกับที่ประเทศจีนที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกระดับ 4.62 ตันต่อคนต่อปี ดังนั้นการเตือนความพร้อมในการจัดหาพลังงานใหเพียงพอจึงต้องทำควบคู่ไปกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

.

โดยกระทรวงพลังงานได้วางพื้นฐานการพัฒนาพลังงานของประเทศให้มีความมั่นคง ลดการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศด้วยการประหยัดพลังงานและส่งเสริมพัฒนาพลังงานทดแทนและให้ความสำคัญกับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทางเลือกที่หลากหลายโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม การพัฒนาศักยภาพพลังงานหมุนเวียนในประเทศให้ได้ตามเป้าหมายผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มอีก 5600 เมกะวัตต์ หรือเพิ่มขึ้นเป็น 6% ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดภายในปี 2565 

.

และพิจารณาการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินโดยใช้เทคโนโยลีถ่านหินสะอาดและการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์โดยได้ตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนให้ได้ 42 ตันต่อปี ในปี 2565 สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้ตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 30 ตันต่อปี

.

ตลอดจนดำเนินการรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้ประชาชนตระหนักถึงคุณค่าของพลังงานและการใช้พลังงานอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพด้วยการออกมาตราการหลายรูปแบบ เช่น ส่งเสริมการเปลี่ยนหลอดประหยัดไฟ ส่งเสริมการผลิตและใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 เป็นต้น

.

นายวีระพล  จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า การวางแผนจัดหาพลังงานรองรับความต้องการของประชาชนและการขยายตัวของภาคเศรษฐกิจเป็นภารกิจที่สำคัญของกระทรวงพลังงาน เช่นการวางแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศหรือ PDP 2010

.

ซึ่งได้วางเป้าหมายให้มีสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นจาก 2% ในปัจจุบันแป็น 7 % ในปี 2573 ตลอดจนการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและส่งเสริมประหยัดพลังงานเพื่อนำไปสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจาก 0.546 กิโลกรัมต่อกิโลวัตต์ต่อชั่วโมงเหลือ 0.38 กิโลกรัมต่อกิโลวัตต์ต่อชั่วโมงในปี 2573

.

ซึ่งการสัมมนา “Fuel Options  for Electricity Generation” มีการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านพลังงานจากข้างในและต่างประเทศโดยวิทยากรที่มีชื่อเสียงจากหลายประเทศ และวิทยากร นักวิชาการที่มีความเชี่ยวชาญด้านพลังงานสาขาต่างๆของไทย ร่วมให้ความรู้แก่ประชาชนเพื่อร่วมกันเดินหน้าสร้างความมั่นคงด้านพลังงานควบคู่กับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

.
ที่มา : สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน