เนื้อหาวันที่ : 2007-01-23 13:08:38 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 4147 views

Pro-face ผู้นำตลาดสินค้าอุตสาหกรรมทางด้าน HMI

พร้อมรองรับความต้องการของตลาดอุตสาหกรรม ด้วยสินค้าและบริการคุณภาพ

                

.

คุณทวิวัฒน์ เรืองปัญญาโรจน์
Sales Manager

Pro-face South-East Asia Pacific Co., Ltd.

 .

บริษัท โปรเฟส เซาท์ อีสท์ เอเชีย แปซิฟิค จำกัด ผู้นำตลาดสินค้าอุตสาหกรรมทางด้าน HMI (Human Machine Interface) เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเจ้าแรกที่ครองตลาดมาอย่างยาวนาน พร้อมรองรับความต้องการของตลาดอุตสาหกรรมได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยสินค้าคุณภาพและการบริการที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจตลอดมา

.

สำหรับคอลัมน์ Interview ฉบับนี้วารสารของเราได้รับเกียรติจาก คุณทวิวัฒน์ เรืองปัญญาโรจน์ (Sales Manager) บริษัท โปรเฟส เซาท์ อีสท์ เอเชีย แปซิฟิค จำกัด มาพูดคุยกันถึงความเป็นมาของบริษัทฯ วิสัยทัศน์ทางด้านการดำเนินงาน ผลิตภัณฑ์ และการเติบ โต ของสินค้าอุตสาหกรรม แนวโน้มความต้องการทางด้านการตลาด รวมถึงทิศทางธุรกิจในอนาคตของบริษัท โปรเฟส เซาท์ อีสท์ เอเชีย แปซิฟิค จำกัด

.
Q: จุดเริ่มต้นของ Pro-face S.E.A.Pacific Co. , Ltd. มีความเป็นมาอย่างไร ?

A: Pro-face South-East Asia Pacific Co., Ltd. เป็นบริษัทฯ ลูกของ Digital Electronics Corporation ในประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1972 โดยทำการผลิตสินค้าในระบบควบคุมอัตโนมัติในอุตสาหกรรม ซึ่งรู้จักกันในชื่อ HMI หรือ Human Machine Interface ภายใต้ชื่อ Pro-face ซึ่ง Pro-face เป็นผู้คิดค้น และผลิต Graphical HMI ขึ้นเป็นเจ้าแรกของโลก ในช่วงประมาณปี ค.ศ. 1988 ส่วนประวัติของ Pro-face ในประเทศไทยนั้นเราเริ่มก่อตั้ง Representative Office ขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2002 จุดประสงค์เพื่อมาโปรโมทสินค้า และดูแลตัวแทนจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงออสเตรเลียและอินเดียด้วย

.

หลังจากดำเนินการจนถึงปี 2004 Pro-face ได้รับการตอบรับในตลาดเป็นอย่างสูงจนขึ้นมาเป็นผู้นำทางด้านสินค้า HMI ในภูมิภาค South East Asia Pacific บริษัท ฯ จึงเปลี่ยนจาก Representative Office มาเป็น Pro-face South-East Asia Pacific Co., Ltd. ในปี ค.ศ. 2004 เพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการแก่ลูกค้าให้ครอบคลุมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการด้านเทคนิคทางโทรศัพท์ และอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงการจัดฝึกอบรมการใช้ การจัดโปรโมชั่น และให้ความรู้ในการใช้ HMI จนมาถึงปัจจุบันบริษัทฯ ได้ดูแลลูกค้ามากกว่า 6,000 บริษัท ครอบคลุมทั้งหมด 6 ประเทศ คือ ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย อินเดีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ เพื่อขยายประเภทของการให้บริการ และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการเพิ่มขึ้น ทั้งบริการหลังการขายและบริการจัดส่งสินค้าให้ได้ตามเวลา เป็นต้น

.

.
Q: ผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีอะไรบ้าง ?

A: ในตลาดอุตสาหกรรมทั่วโลกรู้จัก Pro-face ในนามของผู้นำในตลาดสินค้าจอระบบสัมผัสที่ใช้ในอุตสาหกรรม หรือ Touch screen หรือ HMI จากประสบการณ์ในการผลิตมากว่า 30 ปี Pro-face ได้พัฒนาปรับปรุงและเพิ่มศักยภาพของผลิตภัณฑ์ HMI มาโดยตลอด จนกระทั่งในปัจจุบัน HMI เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในทุกภาคอุตสาหกรรม เพื่อช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตสินค้าให้สามารถนำไปใช้แข่งขันในตลาดโลกได้ ผลิตภัณฑ์ของ Pro-face แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ ได้ดังนี้

.

Programmable Operator Interface เป็นผลิตภัณฑ์ที่นิยมใช้กันเป็นอย่างสูงในอุตสาหกรรมเพื่อใช้ในการแสดงผลการทำงาน และสถานะของเครื่องจักร เก็บข้อมูลย้อนหลังและใช้ในการควบคุม และเซ็ตค่าของเครื่องจักร นอกจากนี้ในรุ่น GP3,000 ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดของ Pro-face ได้เพิ่มความสามารถของ HMI ให้มีความหลากหลาย และครอบคลุมการใช้งานในอุตสาหกรรมได้มากขึ้น เช่น ติดต่อกับกล้องวีดีโอได้ เพื่อแสดงภาพการทำงานบนหน้าจอ ใช้ร่วมกับ USB Flash Memory ได้ เพื่อสะดวกในการใช้งานมากขึ้น และต่อกับ RFID และ Barcode Reader ได้เพื่อใช้ในการติดตามชิ้นงานได้ เป็นต้น โดยมีให้เลือกทั้งแบบจอสีและขาวดำ ขนาดตั้งแต่ 5.7” ถึง 15”

.

Industrial PC เป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถทนอุณหภูมิ การสั่นสะเทือน และฝุ่นต่าง ๆ ได้มากกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไป พร้อมทั้งมีระบบตรวจสอบสถานะการทำงานของตัวเครื่อง เพื่อรายงานประสิทธิภาพการทำงาน และการวางแผนการซ่อมบำรุงได้อย่างทันท่วงที

.
Q: ผลิตภัณฑ์ที่กล่าวมามีจุดแข็งอย่างไรบ้าง ?

A: จุดแข็งของผลิตภัณฑ์ Pro-face ที่ทำให้เราเป็นผู้นำตลาด และมียอดขายอันดับ หนึ่ง มาโดยตลอด สิ่งแรกที่มีความสำคัญสูงสุดในสินค้าอุตสาหกรรมก็คือ คุณภาพของสินค้า เราคำนึงถึงคุณภาพของสินค้าเป็นอย่างสูงเพราะ HMI   ที่ใช้ในโรงงาน ถ้าเกิดการหยุดทำงาน อาจทำให้การผลิตหยุดทั้งระบบ และเกิดการสูญเสียเป็นอย่างสูง Pro-face จึงได้รับความไว้วางใจจากผู้ผลิตสินค้าชั้นนำของโลก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมหนัก เช่น การผลิตรถยนต์ ซึ่งต้องมีการใช้ตลอด 24 ชั่วโมง/วัน, 7 วัน/สัปดาห์ ถ้าหยุดการผลิตไปแม้แต่นาทีเดียวอาจทำให้สูญเสียโอกาสในการผลิตไปเป็นมูลค่าหลายแสนบาท ส่วนจุดแข็งของตัวสินค้านั้นก็จะเด่นในเรื่องของความหลากหลาย ซึ่งผลิตภัณฑ์ของเราจะมีรุ่นให้เลือกปัจจุบันนี้เกือบ 100 รุ่น มีทั้งขนาด และฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายมีให้เลือกมากมาย  ไม่ว่าจะต้องการขนาดเล็กหรือใหญ่ ต้องการเป็นแบบจอสี หรือขาวดำ หรือต้องการเน็ตเวิร์กแบบไหน จะให้ลิงก์ผ่านอินเตอร์เน็ตหรือเปล่า หรือจะมี I/O ในตัวโดยไม่ต้องใช้ PLC สามารถนำไปควบคุมเครื่องจักรได้เลยก็มี ซึ่งตรงนี้เป็นความหลากหลายที่เรามีให้ หรือก็อีกส่วนที่เป็นจุดแข็งก็คือในเรื่องของประสิทธิภาพคือเราไม่ได้ขายแค่ฮาร์ดแวร์อย่างเดียว แต่เราขายเป็นโซลูชั่น สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ว่า ตัวจอแสดงผลสามารถนำไปต่อกับอุปกรณ์อะไรได้บ้างในการนำไปใช้งาน เพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า ทำให้ง่ายในการเลือกใช้งาน เหล่านี้เป็นต้น

.

.
Q: อุตสาหกรรมหรือตลาดที่ครอบคลุมผลิตภัณฑ์และแนวโน้มความต้องการ ?

A: ในปัจจุบันตลาดของ Pro-face ครอบคลุมอยู่ทุกอุตสาหกรรม ถ้าแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ก็จะแบ่งได้เป็นกลุ่มผู้ผลิตเครื่องจักรกับกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ในส่วนของกลุ่มผู้ผลิตเครื่องจักรในประเทศไทยมีการเจริญเติบ โต เป็นอย่างสูง เนื่องจากผู้ผลิตเครื่องจักรในไทยเริ่มพัฒนาประสิทธิภาพของเครื่องจักรเพื่อการส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศ ซึ่งเดิมจากที่เคยใช้ปุ่มกด และไฟแสดงผลเพียงอย่างเดียว จึงเปลี่ยนมาเป็นใช้ระบบจอสัมผัสเพื่อง่ายต่อการควบคุม และเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องจักร ในตลาดนี้มีการเติบ โต สูงขึ้น 30-40% ต่อปี พร้อมกับที่สินค้าของ Pro-face ยังได้รับมาตรฐาน RoHS ซึ่งเหมาะสมสำหรับผู้ผลิตเครื่องจักรที่ต้องการส่งออกไปตลาด EU โดยเฉพาะ อีกส่วน หนึ่ง คือ กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และคุณภาพการผลิตให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ ข้อมูลในการผลิตต่าง ๆ จึงต้องมีการส่ง และประมวลผลถึงแผนกที่เกี่ยวข้องให้สามารถนำไปใช้ หรือปรับปรุงได้อย่างทันท่วงที

.

ผลิตภัณฑ์ของ Pro-face นอกจากการนำไปใช้เพื่อแสดงผล และควบคุมเครื่องจักรแล้วยังสามารถสื่อสารผ่านระบบเน็ตเวิร์ก เพื่อให้ผู้ใช้งานเก็บข้อมูลจากระบบการผลิตหรือเครื่องจักรโดยตรง และส่งเข้าสู่ระบบ IT ในสำนักงานได้ พร้อมกันนี้ผลิตภัณฑ์ของ Pro-face ยังสามารถเชื่อมต่อกับระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Ms.Access, Oracle, SQL และอื่น ๆ เพื่อนำข้อมูลไปประมวลผล และนำไปใช้ประโยชน์ต่อเนื่องได้อีกมากมาย

.
.

Q: อุตสาหกรรมใดบ้างที่ Pro-face วางแผนว่าจะสามารถเติบ โต ได้อีกในอนาคตอันใกล้ ?

A: เราจะขยายตลาดอุตสาหกรรมรถยนต์ และผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เพราะโรงงานเหล่านี้มีชิ้นส่วนในการประกอบมาก ทำให้ข้อมูลที่ต้องแสดงผล และควบคุมมีมากขึ้น อย่างเช่น Work in Process เป็นเท่าไหร่ ? หรือว่า Operator ทำงานตอนนี้ Actual เป็นเท่าไหร่ ? หรือมี Target เป็นเท่าไหร่ ? ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เราสามารถเก็บขึ้นมาที่จอ และก็ส่งไปยัง Database Server ได้เลย สำหรับประเทศไทยตอนนี้เพิ่งจะมีการเริ่มต้น แต่อีกไม่นานก็จะมีการใช้งานมากขึ้น ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ก็จะมีมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งนอกจากเราจะเข้าไปยังส่วนของอุตสาหกรรมแล้ว เราจะเข้าไปยังส่วนของ Commercial Sector อย่างเช่น POS (Point of Sales) ด้วยเช่นกัน

.
Q: บริษัท มีแผนในการดำเนินงานด้านการตลาดอย่างไรบ้าง ?

A: ในปีนี้ Pro-face มีสินค้าที่ออกตัวใหม่หลายรุ่นด้วยกัน เพื่อให้เหมาะต่อการใช้งานของแต่ละอุตสาหกรรม เราจะมีการจัดทำใบปลิวแจกตรงถึงลูกค้าทุกท่านตลอดปี เพื่อให้ทราบถึงข่าวสารของสินค้า Pro-face พร้อมกันนี้เราจะเข้าร่วมงาน Assembly Tech 2007 Hall 106 Booth No.6G01 เพื่อนำสินค้ารุ่นใหม่ ๆ และโปรโมชั่นต่าง ๆ ไปให้ลูกค้าได้ทดลองที่งาน นอกจากนี้บริษัทได้จัดการอบรมสัมมนา เพื่อเพิ่มความรู้ในการนำ HMI ไปใช้ทุกสัปดาห์ตลอดปี เป็นต้น

.

.
Q: แนวโน้มทิศทางธุรกิจของบริษัทและความสามารถทางด้านการแข่งขันในตลาดโดยรวม ?

A: ในปัจจุบันการแข่งขันในตลาด HMI มีสูงมากแต่ Pro-face ยังคงรักษาความเป็นผู้นำมาโดยตลอด ทั้งนี้เพราะเราขายสินค้าที่คุณภาพ และการบริการ เช่น ในเรื่องของการฝึกอบรม เรามีการฝึกอบรมให้กับลูกค้าฟรี ในแต่ละสัปดาห์เราจะมีการฝึกอบรมให้กับลูกค้าประมาณ 20-25 คน นอกจากจะมีการฝึกอบรมแล้ว เราก็มีจัดทำในลักษณะ Solution Provider คือเราไม่ได้ขายหน้าจอเพียงอย่างเดียว ยกตัวอย่างเช่นคู่แข่งของเราจะนำเสนอเพียงแค่ว่า จอตัวนี้ราคาเท่านี้ แต่ทางเราจะเน้นว่าหน้าจอตัวนี้จะนำไปใช้ประโยชน์อย่างไร ทำเป็น Solution ขนาดใหญ่ได้อย่างไร โดยทำเป็น Solution หลาย ๆ แบบและสามารถนำมาเลือกใช้ได้เลย และมีการแสดงข้อมูลไว้ในเว็บไซต์ของเราด้วย แล้วก็มีการทำเป็นเอกสารแจกจ่ายให้กับลูกค้า ส่วนการแข่งขันนั้น คู่แข่งส่วนใหญ่จะเน้นไปที่เรื่องของราคา แต่ทางเราจะเน้นไปที่เรื่องของการบริการ  และในปัจจุบันทางเราได้มีการจัดตั้ง  Repair Center ขึ้นมาในประเทศไทย ซึ่งในส่วนของ Repair Center นี้ เรารับประกันว่าภายใน 3 วันเราสามารถซ่อมให้เสร็จ คือไม่ว่าสินค้าของลูกค้าจะอยู่ในประกันหรือไม่ เมื่อมีของที่ชำรุดส่งมาถึงเรา เราจะใช้เวลาเพียง 3 วัน ก็สามารถส่งคืนให้แก่ลูกค้าได้ สิ่งนี้จะเป็นหลักประกันสำหรับลูกค้า เพราะโดยรวมจริง ๆ แล้วในภาคอุตสาหกรรม เรื่องของราคาสินค้าไม่ใช่ประเด็นสำคัญแต่สิ่งที่สำคัญจริง ๆ แล้ว คือเครื่องจักรสามารถทำงานได้ปกติ และทำให้กระบวนการผลิตสามารถดำเนินต่อไปได้ ซึ่งเราจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ส่วนในเรื่องของการบริการหน้างานหรือ On site Service เราก็จะมีการจัดบริการให้ และถ้ามีชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์เสีย ลูกค้าสามารถส่งกลับมาทางเรา และทำการจัดซ่อมให้โดยตรง

.

Q: จุดแข็งของ Pro-face S.E.A. Pacific Co. , Ltd. ที่จะสนองตอบต่อความต้องการของลูกค้า ?

A: จุดแข็งของ Pro-face South-East Asia Pacific Co., Ltd. คือความพร้อมของทีมงาน ในขณะนี้เรามีทีมงานที่พร้อมจะให้บริการตั้งแต่บริการก่อนการขายจนถึงบริการหลังการขาย เริ่มจากทีมขาย และการตลาดเราจะเข้าไปติดต่อลูกค้าโดยตรง และนำตัวสินค้าไปสาธิตการใช้ลักษณะต่าง ๆ และคุณลักษณะพิเศษต่าง ๆ ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า พร้อมทั้งมีการจัดทำการส่งเสริมการขาย และการตลาดต่าง ๆ ตลอดปี ส่วนในการบริการหลังการขายเรามีทีมงาน Technical Support และทีมซ่อมเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาระหว่างการติดตั้ง และเมื่อสินค้าเกิดมีปัญหา ได้อย่างทันท่วงที และยังมีการฝึกอบรมการใช้งานทั้งในขั้นพื้นฐาน และขั้นสูงให้ฟรีทุกสัปดาห์ พร้อมกันนี้ทีมงานทางด้านเทคนิคยังคอยเก็บข้อมูลการใช้ของลูกค้าในประเทศ และส่งต่อไปให้ทีม R&D เพื่อนำไปปรับปรุง และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองต่อลูกค้าได้อย่างสูงสุดต่อไป

.

ณ ปัจจุบัน เทคโนโลยีทางด้านอุตสาหกรรมได้มีการพัฒนาก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องทำให้โรงงานหรือกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ต้องเร่งปรับตัวให้สอดคล้องกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดังกล่าว ทั้งในเรื่องของฮาร์ดแวร์ที่เป็นผลิตภัณฑ์ และเครื่องจักรอุตสาหกรรม หรือแม้แต่ซอฟต์แวร์ที่จะมาช่วยให้ระบบบริหารจัดการกับอุตสาหกรรมดังกล่าวมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันนั้นผลิตภัณฑ์ทางด้านอุตสาหกรรมต่าง ๆ ก็ต้องมีการพัฒนาควบคู่กันไปเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันท่วงที และจากความสำเร็จและศักยภาพของบริษัท โปรเฟส เซาท์ อีสท์เอเชีย แปซิฟิค จำกัด ที่ผ่านมา ทั้งในเรื่องของผลิตภัณฑ์ และการดำเนินงานที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี และคงจะเป็นบทพิสูจน์ได้ว่าจะได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในอนาคตต่อไป