นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2552 ได้มีมติให้ขยายเวลาการดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ที่ครบวาระการดำรงตำแหน่ง 2 ปี |
. |
ตามมติ กพช. เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2552 ให้ยังคงสามารถบริหารกองทุนต่อไปได้อีกระยะหนึ่งจนกว่าจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ ตามระเบียบการนำส่งเงินและการใช้จ่ายเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้า ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกูเรเตอร์) อยู่ระหว่างการดำเนินงานตามขั้นตอนและกระบวนการร่างระเบียบกองทุนพัฒนาไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2553 |
. |
ดังนั้น กพช. จึงมอบหมายให้กระทรวงพลังงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ดำเนินการขยายระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการบริหารกองทุนรอบโรงไฟฟ้าต่อไปอีกระยะหนึ่ง จนกว่าจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ คาดว่าจะสามารถสรรหาคณะกรรมการชุดใหม่แล้วเสร็จประมาณเดือนเมษยน 2553 |
. |
นายวีระพล กล่าวต่อไปว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าที่จะครบวาระการดำรงตำแหน่งก่อนวันที่ระเบียบการนำส่งเงินและการใช้จ่ายเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้ามีผลบังคับใช้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2553 มีจำนวนรวม 54 กองทุน จาก 73 กองทุน ใน 37 จังหวัด หรือคิดเป็นร้อยละ 74 ของกองทุนทั้งหมด โดยจะทยอยครบวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนธันวาคม 2552 จำนวน 15 กองทุน เดือนมกราคม 2553 จำนวน 32 กองทุน และเดือนกุมภาพันธ์ 2553 จำนวน 7 กองทุน |
. |
ทั้งนี้ เมื่อระเบียบการนำส่งเงินและการใช้จ่ายเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้ามีผลบังคับใช้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยจะยุติการเก็บเงินเข้ากองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า และผู้ประกอบกิจการผลิตไฟฟ้าจะเป็นผู้นำส่งเงินเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้าที่จะจัดตั้งขึ้นภายใต้สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สกพ.) |
. |
ซึ่งกองทุนพัฒนาไฟฟ้า จะเข้ามารับผิดชอบดำเนินการในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการดำเนินการ มีการบริหารการใช้จ่ายเงินกองทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและชุมชน และเป็นการพัฒนาพลังงานอย่างยั่งยืนในระยะต่อไป |
. |
ที่มา : สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน |