เนื้อหาวันที่ : 2010-03-04 15:06:29 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 3825 views

ก.อุตฯผนึกอาเซียน หนุนอุตฯ เหมืองแร่ หวังเปิดช่องการเหมืองแร่ไทย

กระทรวงอุตสาหกรรม ผนึกกำลัง 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน ผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมเหมืองแร่ หวังเปิดช่องทำการค้าและการลงทุนทำเหมืองแร่ของไทยออกสู่ต่างประเทศ

กระทรวงอุตสาหกรรม ผนึกกำลัง 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน ผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมเหมืองแร่ หวังเปิดช่องทำการค้าและการลงทุนทำเหมืองแร่ของไทยออกสู่ต่างประเทศ

.

.

นายสรยุทธ  เพ็ชรตระกูล  ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานเปิดการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านแร่ธาตุอาเซียน ครั้งที่ 10 (The Tenth ASEAN Senior Officials Meeting on Minerals: 10th ASOMM)        

.

รวมทั้งการประชุมคณะทำงาน ASOMM ครั้งที่ 7 และการประชุม ASOMM+3  ครั้งที่ 3  โดยมีผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน  ญี่ปุ่น  และสาธารณรัฐเกาหลีใต้  เข้าร่วมประชุมกว่า 120 คน  ณ โรงแรมดุสิตธานี  กรุงเทพฯ  

.

นายชาญชัย  ชัยรุ่งเรือง  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม  กล่าวว่า  ประเทศไทยโดยกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับกรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รับเกียรติจากประเทศสมาชิกอาเซียนให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านแร่ธาตุอาเซียน ครั้งที่ 10 รวมทั้งการประชุมคณะทำงาน ASOMM ครั้งที่ 7 และการประชุม ASOMM+3  ครั้งที่ 3  

.

โดยการประชุมดังกล่าวนอกจากจะเป็นการประสานความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศในด้านการสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมเหมืองแร่ทางด้านวิชาการ  การสำรวจ  การผลิต  และการตลาด  เพื่อให้ได้ผลผลิตแร่ธาตุที่มีคุณภาพไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังก่อให้เกิดความร่วมมือทางด้านการค้าและการลงทุนด้านแร่ระหว่างกัน

.

ซึ่งปัจจุบันความร่วมมือทางด้านแร่ธาตุของอาเซียนได้ขยายขอบเขตไปสู่ประเทศนอกกลุ่มอาเซียนอีก 3 ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน  ญี่ปุ่น  และสาธารณรัฐเกาหลีใต้ จึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการรับการถ่ายทอดการพัฒนาเพื่อเสริมสร้างศักยภาพและขีดความสามารถของอุตสาหกรรมเหมืองแร่ของประเทศสมาชิกอาเซียน รวมทั้งเป็นการขยายโอกาสการค้าและการลงทุน

.

นายสมเกียรติ  ภู่ธงชัยฤทธิ์  อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กล่าวเพิ่มเติมว่า  ภูมิภาคอาเซียนยังคงอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรแร่ประกอบด้วย แร่โลหะ เช่น ดีบุก  สังกะสี  ทองแดง  อลูมิเนียม  นิกเกิล  เหล็ก ฯลฯ แร่ที่มีค่าสูง เช่น ทองคำ รัตนชาติ  แร่อุตสาหกรรมชนิดต่างๆ

.

รวมทั้งแร่พลังงาน เช่น ถ่านหิน ฯลฯ   ปัจจุบันอุตสาหกรรมเหมืองแร่ของภูมิภาคอาเซียนกำลังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าการซื้อขายแร่ระหว่างกันในประเทศกลุ่มอาเซียนไม่ต่ำกว่า 500,000 ล้านบาทต่อปี  โดยประเทศไทยมีมูลค่าซื้อขายสินค้าแร่กับประเทศต่างๆ ในอาเซียนประมาณปีละ 36,000 ล้านบาท  

.

จากภาวะปัจจุบันประเทศไทยกำลังมีการขยายตัวทางด้านอุตสาหกรรม จึงมีความต้องการใช้วัตถุดิบแร่ในปริมาณมาก  แต่การผลิตในประเทศไม่สามารถรองรับความต้องการได้ การจัดหาแร่จากต่างประเทศจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก และการนำเข้าแร่จากประเทศในกลุ่มอาเซียนด้วยกันก็มีความเหมาะสมและสามารถควบคุมต้นทุนเกี่ยวกับค่าขนส่งได้          

.

อีกทั้งประเทศในกลุ่มอาเซียนยังมีนโยบายที่ชัดเจนในการส่งเสริมการลงทุนด้านเหมืองแร่จากต่างประเทศ  การประชุมในครั้งนี้จึงเป็นช่องทางที่ดีในการประสานประโยชน์จากการสร้างความร่วมมือทางด้านการค้าและการลงทุนด้านแร่ โดยการผลักดันให้ภาคเอกชนของไทยเดินทางไปลงทุนในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ของประเทศอาเซียนได้อย่างคล่องตัว

.

ปัจจุบันมีภาคเอกชนของไทยเข้าไปลงทุนทำเหมืองแร่ในหลายประเทศ  เช่น การทำเหมืองแร่ถ่านหินในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย  สหภาพเมียนมาร์  และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว  เหมืองแร่สังกะสี ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม 

.

การทำเหมืองแร่ดีบุกในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย สหภาพเมียนมาร์   รวมทั้งอีกหลายโครงการยังอยู่ระหว่างการสำรวจและเตรียมการทำเหมืองแร่ในประเทศต่างๆ รอบประเทศไทย เพื่อนำผลผลิตแร่กลับมาใช้ในประเทศ  หรือสร้างธุรกิจต่างๆ จากฐานทรัพยากรแร่ในประเทศนั้นๆ  เพื่อเป็นการขยายการลงทุนของไทยออกสู่ต่างประเทศ