1. บริษัทเทรดเดอร์น้ำตาลรายใหญ่ส่งสัญญาณน้ำตาลโลกจะขาดแคลนถึง 15 ล้านตัน |
- รองประธานคณะกรรมการประสานงาน 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำตาลในตลาดโลกน่าเป็นห่วง เนื่องจากผลผลิตอ้อยและน้ำตาลทั่วโลกลดปริมาณลง โดยทาง CZARNIKOW บ.เทรดเดอร์น้ำตาลรายใหญ่ในตลาดโลกออกมาคาดการณ์ว่า น้ำตาลในตลาดโลกจะขาดแคลนมากถึง 15 ล้านตัน เนื่องจากกำลังการผลิตน้ำตาลโลกมีประมาณ 152 ล้านตัน และมีการบริโภคในตลาดโลก 167 ล้านตัน |
. |
- สศค. วิเคราะห์ว่า ปัจจุบันราคาน้ำตาลในตลาดโลก ณ ตลาดนิวยอร์ก เดือน ม.ค. 53 ขยายตัวดีขึ้นมากที่ร้อยละ 131.8 ต่อปี ต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าขยายตัวที่ร้อยละ 116.4 ต่อปี เนื่องจากอุปทานการผลิตอ้อยของโลกลดลงจากสาเหตุปัญหาภัยแล้งในประเทศ บราชิลเป็นสำคัญ ประกอบกับเกษตรกรจำนวนหนึ่งหันไปปลูกพืชอื่นๆ แทน เพราะราคาดีกว่า |
. |
ทั้งนี้ จากการที่ราคาน้ำตาลในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น จะส่งผลดีต่อรายได้เกษตรกรให้ปรับตัวดีขึ้นตาม โดยล่าสุดเดือน ม.ค. 53 รายได้เกษตรกรขยายตัวในระดับสูงที่ร้อยละ 21.0 ต่อปี ต่อเนื่องจากเดือนก่อหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 19.4 ต่อปี |
. |
2. ผู้เชี่ยวชาญด้านข้าวคาดราคาข้าวโลกในช่วงนี้จะคงตัวที่ประมาณตันละ 600 ดอลลาร์สหรัฐฯ |
- นักเศรษฐศาสตร์ประจำสถาบันวิจัยข้าวนานาชาติในประเทศฟิลิปปินส์ กล่าวในรายงานประจำไตรมาสของสถาบันว่า ปริมาณข้าวสำรองทั่วโลก ซึ่งมีเพิ่มขึ้น 22% ในช่วงปี 2551-2552 จะสามารถนำมาช่วยทดแทนปริมาณข้าวที่ผลิตได้ลดลงในปีนี้ โดยราคาข้าวมีความเป็นไปได้สูงที่จะคงที่อยู่ประมาณ 600 ดอลลาร์ และได้แนะนำว่าเพื่อรักษาความมั่นคงด้านอาหารของโลก |
. |
ประเทศผู้นำเข้าข้าวไม่ควรซื้อข้าวคราวละจำนวนมาก และเมื่อความต้องการในตลาดเพิ่มสูงขึ้นก็ควรนำเข้าข้าวในปริมาณที่น้อยกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ขณะที่จีนในขณะนี้รัฐบาลกำลังดำเนินมาตรการส่งเสริมการปลูกข้าวเพิ่ม โดยเพิ่มกำหนดราคารับซื้อข้าวขั้นต่ำขึ้นอีก 10.5% |
. |
- สศค.วิเคราะห์ว่าจากการที่ผู้เชี่ยวชาญได้ระบุถึงราคาข้าวในตลาดโลกจะมีราคาคงที่ที่ประมาณตันละ 600 ดอลลาร์สหรัฐฯ อาจส่งผลดีที่จะทำให้ราคาข้าวตลาดโลกไม่ผันผวนจนเกินไป จากการเก็งกำไรในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ และมีเสถียรภาพมากขึ้นจากที่ส่วนใหญ่มีการคาดว่าราคาข้าวในตลาดโลกจะพุ่งสูงขึ้นจากผลผลิตที่ลดลง |
. |
ทั้งนี้ ราคาข้าวในตลาดข้าวไทยที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยอยู่ที่ตันละ 9,400 บาท (โดยขึ้นอยู่กับความชื้นของข้าวด้วย) ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีราคาสูงถึงประมาณตันละ 10,000 บาท อย่างไรก็ตาม โครงการประกันรายได้เกษตรกรของรัฐบาลมีส่วนช่วยให้ราคาข้าวที่เกษตรกรจะได้รับเป็นราคาที่สูงกว่าราคาตลาด |
. |
3. การผลิตภาคอุตสาหกรรมจีนเดือนก.พ.53 แผ่ว ผลจากตรุษจีน |
- หน่วยงานของรัฐบาลจีนประกาศตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อภาคอุตสาหกรรม (Manufacturing Purchasing Manager Index: PMI) ของจีน ในเดือนก.พ.53 แผ่วลงเล็กน้อยที่ระดับ 52.0 จากระดับ 55.8 ในเดือนม.ค.53 ในขณะที่ดัชนีฯที่จัดทำโดย HSBC มีแนวโน้มที่แผ่วลงมาสู่ระดับ 55.8 จากระดับ 57.4 ในเดือนก่อนหน้า เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ดัชนีฯของประเทศอื่นๆในเอเชีย รวมถึงออสเตรเลีย ต่างมีแนวโน้มที่ปรับตัวดีขึ้น |
. |
- สศค. วิเคราะห์ว่า สาเหตุสำคัญที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อภาคอุตสาหกรรมของจีนมีแนวโน้มที่แผ่วลงอย่างมีนัยสำคัญนี้ เนื่องจากเทศกาลตรุษจีน ซึ่งมีการเฉลิมฉลองในช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ทำให้องค์ประกอบของดัชนีฯ ไม่ว่าจะเป็นยอดขาย ยอดคำสั่งซื้อ การ restock สินค้า ยอดส่งออก และยอดนำเข้าวัตถุดิบ ต่างชะลอตัวลงมาก |
. |
เปรียบเทียบได้กับดัชนีภาคอุตสาหกรรมของประเทศตะวันตก ซึ่งจะมีอาการที่แผ่วลงในช่วงเทศกาลคริสต์มาส อย่างไรก็ตาม ระดับของดัชนีฯที่ยังคงเกิน 50 บ่งชี้ว่าภาคอุตสาหกรรมจีนยังคงขยายตัวอยู่ |
. |
อีกทั้งดัชนีฯของประเทศอื่นๆในเอเชียซึ่งเป็นคู่ค้าของจีน ก็ยังคงมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เป็นสัญญาณว่าภาคอุตสาหกรรมในเอเชียยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นแรงส่งสำคัญในการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อนึ่ง สศค.คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนในปี 53 จะขยายตัวที่ร้อยละ 8.7 ต่อปี หรือที่ช่วงคาดการณ์ร้อยละ 7.7 - 9.7 ต่อปี (คาดการณ์ ณ เดือนธ.ค.52) |
. |
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง |