เนื้อหาวันที่ : 2010-02-25 09:23:47 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 3069 views

SCG รุกธุรกิจคอนกรีตมวลเบา ชูกลยุทธ์เครือข่ายจัดจำหน่ายทั่วประเทศ

เอสซีจี จับมือควอลิตี้คอนสตรัคชั่นโปรดัคส์ ลุยธุรกิจคอนกรีตมวลเบามั่นใจธุรกิจมีศักยภาพเติบโตสูง พร้อมเดินหน้ารุกตลาดด้วยเครือข่ายจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่ง

เอสซีจี ลงทุนธุรกิจคอนกรีตมวลเบา ร่วมถือหุ้นบริษัท ควอลิตี้คอนสตรัคชั่นโปรดัคส์ จำกัด (มหาชน) (Q-CON) กับบริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ มั่นใจธุรกิจมีศักยภาพเติบโตสูง พร้อมเดินหน้ารุกตลาดด้วยเครือข่ายจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งของเอสซีจี และเสริมความแข็งแกร่งให้สินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักของเอสซีจี

.

นายขจรเดช แสงสุพรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี ดิสทริบิวชั่น

.

นายขจรเดช แสงสุพรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี ดิสทริบิวชั่น กล่าวว่า “คอนกรีตมวลเบาเป็น ธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตในอนาคต ทั้งยังเป็นวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เนื่องจากช่วยประหยัดพลังงาน และมีน้ำหนักเบา สอดคล้องกับนโยบายของเอสซีจีที่มุ่งพัฒนาสินค้าภายใต้แนวคิดการเติบโตอย่างยั่งยืน (Sustainable Development)

.

ประกอบกับ Q-CON เป็นผู้ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ และเป็นผู้นำในตลาดมานาน มีการบริหารธุรกิจที่ดี เราจึงเลือกลงทุนในธุรกิจนี้ โดยวางกลยุทธ์รุกตลาดด้วยการจำหน่ายสินค้าผ่านเครือข่าย ที่แข็งแกร่งของเอสซีจี                  

.

โดยเฉพาะในต่างจังหวัด และมุ่งส่งเสริมการให้ความรู้กับผู้บริโภคในการเลือกใช้สินค้าที่ประหยัดพลังงาน เป็นทางเลือกทดแทนการใช้วัสดุสำหรับผนังแบบเดิม โดยมุ่งหวังว่าสินค้าคอนกรีตมวลเบา จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มสินค้าผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักของเอสซีจี รวมทั้งสร้างยอดขายให้เติบโตขึ้นอย่างยั่งยืนในอนาคต”

.

“ในปีที่ผ่านมา คอนกรีตมวลเบามีขนาดตลาดประมาณ 15 ล้านตารางเมตร ขณะที่ตลาดวัสดุก่อสร้าง ผนังมีขนาดตลาดกว่า 300 ล้านตารางเมตร คอนกรีตมวลเบาจึงมีโอกาสเติบโตเพื่อทดแทนวัสดุประเภทอื่นอีก มาก โดยคาดว่าจะเติบโตประมาณ 10% ต่อปี” นายขจรเดช กล่าวเพิ่มเติม 

.

เอสซีจีได้ซื้อหุ้น Q-CON ด้วยเงินลงทุน 816 ล้านบาท โดยหลังจากการส่งมอบและโอนกรรมสิทธิ์หุ้นแล้ว เอสซีจีจะถือหุ้นคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 51 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด