|
ประเทศไทยโดยกระทรวงพลังงานจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีพลังงานและเจ้าหน้าที่อาวุโสในกลุ่มประเทศ BIMSTEC ( Bay of Bengal Initiative for Multi-Sectoral Technical and Economic Cooperation) ครั้งที่ 2 ณ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 4 - 5 มีนาคม 2553 |
| . |
|
โดยการจัดประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์สำคัญคือ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางด้านพลังงานระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิก BIMSTEC อันได้แก่ ไทย พม่า บังกลาเทศ อินเดีย เนปาล ภูฏาน และศรีลังกา |
| . |
|
BIMSTEC หรือความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอล สำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ ได้มีการจัดประชุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2548 ณ กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เพื่อผลักดันการดำเนินงานในสาขาพลังงานของกลุ่มประเทศสมาชิก ซึ่งมีความโดดเด่นในด้านพลังงานทดแทนและแหล่งสำรองก๊าซธรรมชาติ |
| . |
|
ส่วนของพลังงานทดแทน อินเดียเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานน้ำ มีศักยภาพในการผลิตประมาณร้อยละ 85 ของปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานน้ำของภูมิภาคทั้งหมด |
| . |
|
ในด้านของแหล่งสำรองก๊าซธรรมชาติ บริเวณอ่าวเบงกอลซึ่งเป็นพื้นที่ในบริเวณพม่า บังกลาเทศ และอินเดีย ยังคงพบปริมาณสำรองของก๊าซธรรมชาติซึ่งสามารถใช้ได้อีกประมาณ 40 ปีข้างหน้า ซึ่งแหล่งสำรองในบริเวณอ่าวเบงกอลนี้จะช่วยพัฒนาตลาดก๊าซธรรมชาติในภูมิภาคและช่วยสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงานแก่ประเทศสมาชิกด้วย |
| . |
|
สำหรับ BIMSTEC ครั้งที่ 2 นับเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดประชุม และการประชุมครั้งนี้ จะมีการติดตามผลการดำเนินงานจากแผนปฏิบัติการด้านพลังงานจากการประชุมรัฐมนตรีด้านพลังงาน BIMSTEC ครั้งที่ 1 เมื่อปี พ.ศ.2548 (2005) และจะมีการอภิปรายถึงสถานการณ์พลังงานในภูมิภาคตลอดจนการเสนอแนวทางเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงานทดแทน ซึ่งเป็นข้อตกลงเพื่อจัดตั้งศูนย์พลังงาน BIMSTEC (Memorandum of Association for the Establishment of BIMSTEC Energy Centre) อีกด้วย |
Thailandindustrycom_official
