เนื้อหาวันที่ : 2010-02-23 14:44:45 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2206 views

ญี่ปุ่นยันยังมั่นใจให้ไทยเป็นฐานการผลิต

เจบิค เผยนักลงทุนญี่ปุ่นยังมั่นใจให้ไทยเป็นฐานการผลิต ชี้ไทยมีศักยภาพในการเป็นฐานการผลิตที่สำคัญในลำดับที่ 4 รองจาก จีน อินเดีย และเวียดนาม

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ ธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งประเทศญี่ปุ่น หรือเจบิค จัดสัมมนา “The 2009 JBIC Survey Report on Overseas Business Operations by Japanese Manufacturing Companies” เพื่อนำเสนอผลการสำรวจและแนวโน้มการลงทุนในประเทศไทย 

.

.

นายซูสุมุ อุชิดะ เศรษฐกรอาวุโสและหัวหน้าสำนักงานเจบิค ประจำประเทศสิงคโปร์ เปิดเผยผลการสำรวจแนวโน้มการลงทุนในประเทศไทย ประจำปี 2552 จากทั้งหมด 1,004 บริษัท ตอบกลับมา 625 บริษัท โดยพบว่าส่วนใหญ่ ประเทศไทยยังคงมีศักยภาพที่จะเป็นฐานการผลิตที่สำคัญสำหรับนักลงทุนญี่ปุ่นในลำดับต้นๆ อยู่ในลำดับที่ 4 รองจาก จีน อินเดีย และเวียดนาม

.

โดยเป็นการเลื่อนขึ้นจากลำดับที่ 5 ในปี 2551 เพราะมีศักยภาพของตลาดในประเทศ อัตราค่าจ้างต่ำ และการเป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออกที่สำคัญ โดยควรเร่งแก้อุปสรรคบางประการ เช่น สภาวะการแข่งขันที่รุนแรง ปัญหาการขาดแคลนบุคคลากรในระดับบริหาร และเสถียรภาพการเมือง เป็นต้น

.

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การร่วมเผยแพร่ผลงานวิจัยคุณภาพและผลการสำรวจที่สำคัญจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมธุรกรรมการค้าและการลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศ โดยเฉพาะนักลงทุนญี่ปุ่นในประเทศไทย

.

ซึ่งจะมีส่วนเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจและผู้ประกอบการไทย ในการเป็นคู่ค้าและฐานการลงทุนที่สำคัญสำหรับนักลงทุนต่างประเทศ ทั้งนี้จากข้อมูลสถิติของธนาคารแห่งประเทศไทย ญี่ปุ่นเป็นประเทศคู่ค้าและผู้ลงทุนที่สำคัญในประเทศไทย โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มูลค่าการส่งออกของไทยไปญี่ปุ่นสูงเป็นลำดับที่สองรองจากสหรัฐอเมริกา

.

โดยมูลค่าการส่งออกไทยไปญี่ปุ่นในปี 2552 มีมูลค่ารวมสูงถึง 15,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่มีฐานะการลงทุนโดยตรงในไทยสูงที่สุดอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2552 มีมูลค่าการลงทุนโดยตรงสุทธิในประเทศไทยสูงกว่า 2,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 

.
ที่มา : สำนักข่าวไทย, เว็บไซต์รัฐบาลไทย