เนื้อหาวันที่ : 2010-02-22 09:06:10 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 626 views

รายงานภาวะเศรษฐกิจรายสัปดาห์ 15-19 ก.พ. 2553

รายได้รัฐบาลสุทธิประจำเดือน ม.ค.53 จัดเก็บได้สุทธิ 110.1 พันล้านบาท สูงกว่าประมาณการรายได้ 17.8 พันล้านบาทหรือร้อยละ 19.3 และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 17.1 ส่งผลให้รายได้จัดเก็บสุทธิของรัฐบาลในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2553 เท่ากับ 458.9 พันล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 85.3 พันล้านบาท

.

ซึ่งผลการจัดเก็บรายได้ที่สูงกว่าเป้าหมายในเดือน ม.ค. 53 มีสาเหตุสำคัญจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีสรรพสามิตน้ำมัน และรถยนต์ ที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมายจำนวน 7.8 3.4 และ 3.0 พันล้านบาท ตามลำดับ

.

ทั้งนี้ รายได้สุทธิของ 3 กรมจัดเก็บรายได้ในเดือน ม.ค. 53 เท่ากับ 122.1 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 24.6 ต่อปี โดยภาษีฐานรายได้หดตัวร้อยละ -0.3 ต่อปี และภาษีฐานบริโภคขยายตัวที่ร้อยละ 17.8 ต่อปี ตามลำดับ

.

ผลการเบิกจ่ายงบประมาณในเดือน ม.ค. 53 เบิกจ่ายได้จำนวน 150.0 พันล้านบาท หดตัวร้อยละ -22.0 ต่อปี โดยเป็นผลมาจากการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำปีงบประมาณจำนวน 134.0 พันล้านบาท หดตัวร้อยละ -24.7 ต่อปี ซึ่งสืบเนื่องมาจากรายจ่ายลงทุนจำนวน 5.6 พันล้านบาท หดตัวสูงถึงร้อยละ   -89.1 ต่อปี เนื่องจากฐานที่สูงในเดือน ม.ค. 52 ที่มีการเบิกจ่ายจำนวน 52.0 พันล้านบาท ทั้งนี้ การเบิกจ่ายในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 53 เบิกจ่ายได้จำนวน 601.2 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 0.7 ต่อปี

.

ทั้งนี้ คาดว่าผลการเบิกจ่ายในปีงบประมาณ 53 จะเป็นไปตามเป้าที่ร้อยละ 94.0 นอกจากนี้ ผลการเบิกจ่ายแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง2555 ณ วันที่ 29 ม.ค. 53 สามารถเบิกจ่ายได้ทั้งสิ้น 43.8 พันล้านบาท คิดเป็นอัตราการเบิกจ่ายที่ร้อยละ 12.5 ของกรอบวงเงินที่ได้รับอนุมัติจำนวน 350.0 พันล้านบาท

.

ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในเดือน ม.ค. 53  ดุลเงินงบประมาณขาดดุลจำนวน -39.0 พันล้านบาท และเมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุลจำนวน -5.6 พันล้านบาท ส่งผลให้รัฐบาลขาดดุลเงินสด (ก่อนกู้) จำนวน -44.6 พันล้านบาท ทั้งนี้ ฐานะการคลังในช่วง4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 53 ขาดดุลเงินงบประมาณจำนวน -137.2 พันล้านบาท และเมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุลจำนวน -82.5 พันล้านบาท

.

ทำให้รัฐบาลขาดดุลเงินสด (ก่อนกู้) จำนวน -219.7 พันล้านบาท ส่งผลให้ปริมาณเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือน ม.ค. 53 มีจำนวน 164.7 พันล้านบาท ซึ่งการขาดดุลดังกล่าวสะท้อนถึงการทำนโยบายการขาดดุลของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ

.

ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ (หักอัตราเงินเฟ้อ) ในเดือนม.ค. 53 อยู่ที่ระดับ 41,301 ล้านบาท จากเดือนก่อนที่อยู่ที่ระดับ 40,276  ล้านบาท หรือขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ที่ร้อยละ 13.6 ต่อปี จากเดือนก่อนที่ขยายตัวที่ร้อยละ 8.4 ต่อปี ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ ที่จัดเก็บบนการบริโภคในประเทศ และ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ ที่จัดเก็บจากมูลค่าการนำเข้าสินค้า ที่ขยายตัวร้อยละ7.5  และ 25.4 ต่อปี ตามลำดับ

.

โดยได้รับปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจในประเทศมีสัญญาณการฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้นทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน สะท้อนได้จากรายได้เกษตรกรที่ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือน 3 และอัตราการว่างงานลดลง ส่งผลให้ประชาชนมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น

.

ภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์รวมในเดือน ม.ค. 53 ขยายตัวร้อยละ 24.5 ต่อปี ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 16.7 ต่อปี ซึ่งขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคเอกชนมที่มีการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น

.

ในขณะที่ ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างในเดือน ม.ค. 53 ขยายตัวร้อยละ 0.4 ต่อปี ซึ่งขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -1.2 ต่อปี ซึ่งนับเป็นการขยายตัวเป็นบวกเป็นเดือนแรกหลังจากหดตัวต่อเนื่อง 13 เดือนติดต่อกัน

.
Economic Indicators: Next Week

นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศในเดือน ม.ค. 53 คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องแต่เป็นไปในอัตราที่ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า โดยคาดว่าจะมีจำนวน 1.6 ล้านคน คิดเป็นการขยายตัวที่ร้อยละ 30.0 ต่อปี

.

โดยคาดว่าจะเป็นการขยายตัวในทุกกลุ่มประเทศ โดยเฉพาะจากการขยายตัวสูงในกลุ่มประเทศเอเชีย ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 56.7 ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและปัจจัยฐานต่ำในช่วงเดียวกันปีก่อน

.
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง