"พฤฒิชัย" เผยครม.เปิดไฟเขียวมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณโครงการไทยเข้มแข็ง หวังเดินหน้ากู้เงินให้ได้ก่อนปลายปีนี้
"พฤฒิชัย" เผยครม.เปิดไฟเขียวมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณโครงการไทยเข้มแข็ง หวังเดินหน้ากู้เงินให้ได้ก่อนปลายปีนี้ |
. |
นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง |
. |
นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้เปิดเผยให้ทราบหลังจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบตามความเห็นที่ประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ที่มีรองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) เป็นประธานคณะกรรมการ |
. |
โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายกรณ์ จาติกวณิช) และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์) เป็นกรรมการ เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2553 ได้มีมติให้กำหนดมาตรการเร่งรัดหน่วยงานที่ได้รับอนุมัติเงินโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 (วงเงิน 199,960 ล้านบาท) |
. |
เพื่อให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 เร่งรัดการดำเนินงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจเกิดประสิทธิภาพอย่างแท้จริง และสอดคล้องกับระยะเวลาตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 ที่กำหนดให้กระทรวงการคลังกู้เงินได้ไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม 2553 ดังนี้ |
. |
1. กรณีหน่วยงานยังไม่ได้เสนอขอจัดสรร ให้เร่งดำเนินการจัดส่งข้อมูลให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรเงินโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2553 |
. |
2. กรณีหน่วยงานได้รับการจัดสรรเงินแล้ว แต่ยังไม่ได้ลงนามในสัญญา ให้เร่งดำเนินการ ลงนามในสัญญาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มีนาคม 2553 |
. |
หากไม่สามารถดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนดตามข้อ 1 และ 2 ให้ยุติโครงการเพื่อสามารถนำเงินจากโครงการดังกล่าว ไปให้โครงการที่มีความพร้อมในการดำเนินการมากกว่า แต่ไม่ได้รับอนุมัติ (ยกเว้น กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2553 ให้ขยายเวลาการยื่นคำขอจัดสรรต่อสำนักงบประมาณต่อไปก่อน) |
. |
3. เพื่อให้สามารถติดตามและรายงานผลโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการบันทึกข้อมูลแผนงาน งวดงาน และงวดเงินตามระบบ Projects Financial Monitoring System (PFMS) ที่กระทรวงการคลังกำหนดทุกโครงการ ภายหลังจากได้รับจัดสรรเงินแล้ว และ/หรือลงนามในสัญญาแล้ว |
. |
ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังใช้ข้อมูลการรายงานจากระบบ PFMS เป็นข้อมูลการพิจารณาความก้าวหน้าของโครงการ หากไม่มีการบันทึกข้อมูลถือว่าโครงการดังกล่าวยังไม่มีการดำเนินงาน และให้ยุติโครงการ เพื่อสามารถนำเงินจากโครงการดังกล่าว ไปให้โครงการที่มีความพร้อมในการดำเนินการมากกว่าแต่ไม่ได้รับอนุมัติต่อไป |
. |
สำหรับการเบิกจ่ายเงินโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ณ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2553 สรุปได้ดังนี้ |
รอบที่ 1 (วงเงิน 199,960 ล้านบาท) |
1. หน่วยงานได้รับจัดสรรแล้ว จำนวน 15,852 โครงการ จำนวนเงิน 158,784 ล้านบาท ลงนามในสัญญาแล้ว จำนวน 6,238โครงการ จำนวนเงิน 110,044 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว จำนวน 34,767.15 ล้านบาท หรือร้อยละ 21.90 ของจำนวนเงินจัดสรร โดยยังมีหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรแล้วแต่ยังไม่ลงนามในสัญญา จำนวน 9,614 โครงการ จำนวนเงิน 48,604 ล้านบาท แบ่งเป็น |
. |
1.1 ได้รับจัดสรรแล้วไม่เกิน 15 วันทำการ จำนวน 2,226 โครงการ จำนวนเงิน 12,787 ล้านบาท |
. |
2. หน่วยงานที่ยังไม่ขอจัดสรร ประกอบด้วย หน่วยงานในสังกัดของกระทรวงกลาโหม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุข |
. |
รอบที่ 2 (วงเงิน 149,999.84 ล้านบาท) หน่วยงานได้รับจัดสรรแล้ว จำนวน 20,351 ล้านบาท เบิกจ่ายแล้วจำนวน 11,524 ล้านบาท |