เนื้อหาวันที่ : 2010-02-08 09:54:06 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 723 views

ภาวะเศรษฐกิจรายสัปดาห์ 1-5 ก.พ. 2553

หนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือน พ.ย. 52 มีจำนวนทั้งสิ้น 3,969.8 พันล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 23.3 พันล้านบาท  หรือคิดเป็นร้อยละ 45.6 ของ GDP

.

สาเหตุของการลดลงสุทธิของหนี้สาธารณะที่สำคัญเกิดจากการลดลงของหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ 13.5 พันล้านบาท จากการไถ่ถอนพันธบัตรของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐค้ำประกัน 8.2 พันล้านบาท และหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 4.4 พันล้านบาท  ขณะที่หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น 2.8 พันล้านบาท ส่วนหน่วยงานอื่นของรัฐไม่มีหนี้คงค้าง

.

สินเชื่อภาคเอกชนของสถาบันรับฝากเงินในเดือน ธ.ค. 52 ขยายตัวที่ร้อยละ 3.0 ต่อปี เร่งขึ้นตามการขยายตัวเพิ่มขึ้นของสินเชื่อภาคครัวเรือนและสินเชื่อภาคธุรกิจ ในขณะที่เงินฝากของสถาบันรับฝากเงินในเดือน ธ.ค. 52 ขยายตัวชะลอลง

.

โดยเงินฝากของสถาบันรับฝากเงินขยายตัวร้อยละ 5.5 ต่อปี ชะลอลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 6.4 ต่อปี เนื่องจากผู้ฝากเริ่มหันไปลงทุนในหลักทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก

.

ปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์และเหล็กภายในประเทศ ในเดือนธ.ค.52 ขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 6.4 และ 23.0 ต่อปี ตามลำดับ ทำให้ในไตรมาส 4 ของปี 52 ปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์และเหล็กขยายตัวร้อยละ 9.6 และ 22.9 ต่อปี ขยายตัวเร่งขึ้นจากไตรมาส 3 ที่ขยายตัวร้อยละ 2.9 และ 1.0 ต่อปี ตามลำดับ

.

โดยสาเหตุสำคัญมาจากฐานที่ต่ำในปีก่อนหน้า บวกกับสถานการณ์เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะการก่อสร้าง ทั้งนี้ การขยายตัวดังกล่าวสอดคล้องกับดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในหมวดก่อสร้างและหมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กที่ขยายตัวร้อยละ 12.7 และ 65.6 ต่อปี ตามลำดับ โดยทั้งปี 52 ปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์และเหล็กหดตัวร้อยละ -2.4 และ -19.3 ต่อปี ตามลำดับ

.

ดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือน ธ.ค. 52 เกินดุลที่ 758 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากการเกินดุลบริการ นำส่งรายได้และเงินโอนเป็นหลัก ในขณะที่ดุลการค้าซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดและดุลการชำระเงินของไทยในช่วง 11 เดือนแรกของปี 52 เกินดุลในระดับสูง กลับปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบปีจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของมูลค่าการนำเข้า

.

โดยเฉพาะการนำเข้าทองคำซึ่งมีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมูลค่าการนำเข้าสินค้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับที่สูงกว่ามูลค่าการส่งออกเป็นครั้งแรกส่งผลให้ดุลการค้าขาดดุลเป็นครั้งแรกในรอบปี อย่างไรก็ตาม ดุลบริการได้ปรับตัวดีขึ้นมามากในเดือน ธ.ค.52 จากการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้น ทั้งนี้ ดุลบัญชีเดินสะพัดทั้งปี 52 เกินดุลที่ 20,291 ล้านดอลลาร์สหรัฐ   

.

เงินเฟ้อทั่วไปในเดือน ม.ค. 53 ขยายตัวร้อยละ 4.1 ต่อปี ซึ่งนับเป็นการขยายตัวเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน  สาเหตุสำคัญจาก 1)ดัชนีหมวดยานพาหนะและน้ำมันเชื้อเพลิงปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.3 เนื่องจากราคาน้ำมันดิบโลกซึ่งถูกนำเข้ามากลั่นเป็นน้ำมันสำเร็จรูปในประเทศได้ปรับตัวสูงขึ้นมาก

.

2) ดัชนีค่าไฟฟ้า น้ำประปาฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.1 เนื่องจากการปรับลดมาตรการช่วยค่าครองชีพ 5 มาตรการ 6 เดือนประเภทน้ำประปา ทำให้ประชาชนรับภาระเพิ่มขึ้น 

.

3) ราคาผักและผลไม้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.4 เนื่องจากผลผลิตเช่น ผักกาด แตงกวา คะน้าออกสู่ตลาดน้อยลง แต่หากพิจารณาเทียบกับเดือนก่อนหน้า พบว่าดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปในเดือนนี้ขยายตัวที่ร้อยละ 0.6 (%mom) ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานเดือน ม.ค. 53 ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ที่ร้อยละ 0.6 ต่อปี

.
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง