กรีนพีซ เผยผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล โซนี อิริคสัน และโนเกีย ปราศจากสารพิษอันตรายแล้ว แต่ซัมซุง เดล เลอโนโว และ แอลจีอียังไม่กระเตื้อง ซ้ำยังเลื่อนเวลายกเลิกใช้สารพิษอันตรายไปอีกหนึ่งปี
กรีนพีซ เผยผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล โซนี อิริคสัน และโนเกีย ปราศจากสารพิษอันตรายแล้ว แต่ซัมซุง เดล เลอโนโว และ แอลจีอียังไม่กระเตื้อง ซ้ำยังเลื่อนเวลายกเลิกใช้สารพิษอันตรายไปอีกหนึ่งปี |
. |
. |
ในขณะที่บริษัทผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ได้เข้าร่วมงานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (CES) ซึ่งจัดขึ้นที่ลาสเวกัส กรีนพีซได้เปิดเผยการจัดอันดับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ฉบับที่ 14 |
. |
ซึ่งระบุว่าแอปเปิล โซนี อิริคสัน และโนเกียนำหน้าผลิตภัณฑ์ยี่ห้ออื่นๆ เนื่องจากการมีผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากสารพิษอันตรายในขณะที่เฮชพีตามมาป็นอันดับสี่ ซึ่งเมื่อวานนี้ เฮชพี เพิ่งประกาศว่าผลิตภัณฑ์ของตนก็ปราศจากพลาสติกพีวีซีและสารหน่วงไฟประเภทโบรมีน (BFRs) ในผลิตภัณฑ์หน้าจอคอมพิวเตอร์ และคอมพิวเตอร์แบบพกพา |
. |
ซัมซุง เดล เลอโนโว และแอลจีอีถูกตัดคะแนนจากการจัดอันดับ (1) เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำมั่นที่จะยกเลิกการใช้สารพิษในผลิตภัณฑ์ บริษัทผู้ผลิตส่วนใหญ่ให้คำมั่นที่จะยกเลิกการใช้พลาสติกพีวีซีและสารหน่วยไฟประเภทโบรมีนภายในปี 2552 (2) ซึ่งหากสามารถปฏิบัติตามได้ภายในเวลาที่กำหนดจะเป็นการแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่งานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (CES) |
. |
แต่ ณ ขณะนี้ยังไม่มีท่าทีเริ่มต้นลงมือปฏิบัติให้เกิดขึ้นจริงจากบริษัทดังกล่าว ซ้ำยังเลื่อนเวลายกเลิกการใช้สารพิษอันตรายไปเป็นปี 2554 เป็นต้นไป |
. |
บางบริษัทถูกตัดคะแนนเนื่องจากยังคงมีสารพิษอันตรายเป็นส่วนประกอบ ซึ่งแท้จริงแล้ว การเลิกใช้สารพิษอันตรายอย่างพลาสติกพีวีซี สารหน่วงไฟประเภทโบรมีน (BFRs) และ สารหน่วงไฟประเภทคลอรีน (CFRs) นั้นควรเป็นนโยบายขั้นพื้นฐานที่แต่ละผู้ผลิตควรบรรจุไว้และนำมาปฏิบัติอย่างจริงจัง ในระหว่างที่มีการแก้ไขกฎหมายควบคุมการใช้สารพิษอันตรายในผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ของสหภาพยุโรป (European Union‘s Restriction of Hazardous Substances in electronics Directive) (4) |
. |
“บริษัทผู้ผลิตควรจะร่วมสนับสนุนให้ทุกผลิตภัณฑ์ปลอดจากพลาสติกพีวีซีและสารหน่วงไฟประเภทโบรมีนทั้งหมด” อิซา ครูซซาซิสกา ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านสารพิษกล่าว “โซนี อิริคสัน และแอปเปิลได้เริ่มเรียกร้องให้องค์กรต่างๆในสหภาพยุโรปร่วมสนับสนุนกฎหมายการเลิกใช้สารพิษเหล่านั้น ผู้ผลิตรายใหญ่อย่างเฮชพี เดล และเอเซอร์ ก็ควรริเริ่มผลักดันให้กฎหมายนี้ผ่านคณะรัฐมนตรีสหภาพยุโรปด้วยเช่นกัน” |
. |
โนเกียนำมาเป็นอันดับหนึ่งเช่นเคย ด้วยคะแนน 7.3 จาก 10 คะแนน ตามมาด้วยโซนี อิริคสัน ซึ่งเป็นบริษัทเดียวที่ได้รับคะแนนเต็มในเกณฑ์ด้านสารพิษที่ตั้งไว้ อันดับสามคือโตชิบา แต่ถ้าหากโตชิบาไม่สามารถปฏิบัติตามคำมั่นที่จะยกการเลิกใช้พลาสติกพีวีซีและสารหน่วงไฟประเภทโบรมีนเป็นส่วนประกอบในสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดภายในวันที่ 1 เมษายน 2553 นี้ โตชิบาจะถูกตัดคะแนนในการประเมินจัดอันดับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ฉบับถัดไป อันดับที่สี่คือฟิลลิปส์ ส่วนแอปเปิลขยับขึ้นเป็นอันดับที่ห้าจากอันดับเก้าในการจัดอันดับครั้งก่อน |
. |
ซัมซุงตกลงจากอันดับสองมาเป็นอันดับเจ็ด เนื่องจากไม่สามารถลดการใช้สารทนไฟประเภทโบรมีนในทุกผลิตภัณฑ์ภายในเดือนมกราคม 2553 มีเพียงโทรศัพท์มือถือรุ่นล่าสุดเท่านั้นที่ปราศจากสารพิษอันตราย ซัมซุงได้ตั้งเป้าหมายใหม่เป็นเดือนมกราคม 2554 ในการที่จะกำจัดสารพิษอันตรายออกจากคอมพิวเตอร์พกพาแต่ยังไม่กำหนดเวลาชัดเจนที่จะยกเลิกใช้สารพิษในผลิตภัณฑ์โทรทัศน์และเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน ส่วนนินเทนโดยังคงรักษาตำแหน่งรั้งท้ายไว้ได้เหมือนเดิม |
. |
โซนี เป็นแบบอย่างที่ดีในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ร้อยละ 17 ในช่วงปี 2543 ถึง 2551 ด้วยการใช้พลังงานหมุนวียนถึงร้อยละ 8 จากพลังงานที่ใช้ทั้งหมดในแต่ละปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่มีเพียงร้อยละ 2.5 นอกจากนี้โซนียังใช้พลาสติกรีไซเคิล ถึง 17,000 ตันต่อปีในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 10 ของพลาสติกที่ถูกใช้ในปี 2551 และเกือบร้อยละ 90 ของพลาสติกรีไซเคิลนี้มาจากการรับกลับมาจากผู้บริโภค |
. |
“ในปี 2554 นี้ เราควรได้เห็นถึงการพัฒนาที่ก้าวกระโดดของแต่ละบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเลิกใช้พลาสติกพีวีซีและสารทนไฟประเภทโบรมีนในคอมพิวเตอร์และโทรทัศน์” ครูซซาซิสกากล่าว “บริษัทใดที่ไม่ปฏิบัติตามถือว่ายังไม่มีความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อมที่ดีพอ ในขณะที่มีบริษัทที่ไม่ได้อยู่ในการจัดอันดับอย่าง Cisco ได้เริ่มกำจัดสารพิษอันตรายดังกล่าวออกจากผลิตภัณฑ์แล้ว (5)” |
. |
ที่มา : กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ |