กระทรวงพลังงาน เปิดเผยการใช้พลังงานทดแทนในปี 2549 ได้ผล โดยสัดส่วนการใช้เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 0.5 เป็นร้อยละ 3 ตั้งเป้าปี 2550 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 4.7 โดยมีแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้เอกชนลงทุนด้านพลังงานทดแทน

นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า ตามยุทธศาสตร์พลังงานของประเทศ ได้กำหนดเป้าหมายการลดปริมาณการใช้พลังงานต่ออัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจจาก 1.4 : 1 เป็น 1 : 1 ภายในปี 2551 และเพิ่มอัตราส่วนการใช้พลังงานทดแทนจากร้อยละ 0.5 เป็นร้อยละ 8 ภายในปี 2554 ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินงานดังกล่าวเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้  ในปี 2550 กระทรวงพลังงาน จึงได้จัดทำแผนพัฒนาพลังงานทดแทน ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทน ให้ได้ประมาณ ร้อยละ 4.7

สำหรับแนวทางดำเนินงานดังกล่าว มีการเร่งส่งเสริมให้เกิดการลงทุนพัฒนาพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น ซึ่งใช้มาตรการกำหนดอัตราราคารับซื้อไฟฟ้าส่วนเพิ่ม (Adder) เพื่อให้เอกชนที่จะลงทุนด้านพลังงานทดแทนได้มีแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อช่วยทำให้เพิ่มอัตราส่วนการใช้พลังงานทดแทนจากร้อยละ 3 เป็นร้อยละ 4.7 คาดว่าเป็นการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เพิ่มจาก 2,055 เมกะวัตต์เป็น 2,234 เมกะวัตต์ อาทิ พลังงานแสงอาทิตย์ 31 เมกะวัตต์ พลังงานลม 4 เมกะวัตต์ พลังงานน้ำ 104 เมกะวัตต์ พลังงานชีวมวล 2,077 เมกะวัตต์ ขยะ 10 เมกะวัตต์ และก๊าซชีวภาพ 8 เมกะวัตต์ เพิ่มการใช้กระบวนการความร้อนจาก 1,789 ktoe เป็น 2,217 ktoe เพิ่มการใช้เอทานอล 0.4 ล้านลิตร/วัน เป็น 0.9 ล้านลิตร/วัน และเพิ่มการใช้ไบโอดีเซล 0.3 ล้านลิตร/วัน เป็น 0.5 ล้านลิตร/วัน

สำหรับการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน ในปี 2549 นั้น มีการเพิ่มอัตราส่วนการใช้พลังงานทดแทนจากร้อยละ 0.5 เป็นร้อยละ 3 จากที่ตั้งเป้าหมายเพิ่มอัตราส่วนการใช้พลังงานทดแทน ให้ได้ร้อยละ 8 ในปี 2554 ซึ่งจะเห็นได้ว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งส่งเสริมและสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้ยุทธศาสตร์การใช้พลังงานทดแทนที่กำหนดไว้จะเป็นไปตามเป้าหมายอย่างแน่นอน นายวีระพล กล่าว.