"พฤฒิชัย" เผยคลังจี้ EXIM BANK เร่งให้บริการประกันการส่งออกให้ได้แสนล้านภายในปีนี้ หวังช่วยผู้ส่งออกไทยลดความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศ
"พฤฒิชัย" เผยคลังจี้ EXIM BANK เร่งให้บริการประกันการส่งออกให้ได้แสนล้านภายในปีนี้ หวังช่วยผู้ส่งออกไทยลดความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศ |
. |
นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง |
. |
นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าได้กำชับให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เร่งให้บริการประกันการส่งออกแก่ผู้ส่งออกไทย ให้ได้ตามเป้าหมาย 100,000 ล้านบาทในปี 2553 เพิ่มขึ้นร้อยละ 68.9 (หรือมูลค่า 40,800 ลบ.) จากปี 2552 |
. |
หวังช่วยผู้ส่งออกไทยลดความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศ ขณะที่ตลาดการค้าทั่วโลกเกิดปัญหาการชำระเงินค่าสินค้า และเพื่อผลักดันการเติบโตของภาคการส่งออกไทยทั้งในตลาดเดิมและตลาดใหม่ |
. |
จากตัวเลขคาดการณ์ของสถาบันประกันการส่งออกชั้นนำของโลกระบุว่า ในปี 2553 จำนวนของธุรกิจที่ล้มละลายในประเทศต่างๆ จะเพิ่มสูงขึ้น อาทิ ในสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นเป็น 60,700 แห่ง (จาก 43,546 แห่งในปี 2551) สหราชอาณาจักร 37,500 แห่ง (จาก 29,994 แห่งในปี 2551) และฝรั่งเศส 68,600 แห่ง (จาก 57,665 แห่งในปี 2551) |
. |
ทำให้ผู้ส่งออกไทยควรพิจารณาการทำ “ประกันการส่งออก” ทุกครั้ง โดยปัจจุบัน EXIM BANK เป็นสถาบันการเงินของรัฐที่มีบริการประกันการส่งออก (EXIMSurance) ซึ่งช่วยตรวจสอบข้อมูลผู้ซื้อในต่างประเทศ จ่ายค่าสินไหมทดแทนในกรณีที่ส่งออกแล้วไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้า |
. |
รวมทั้งช่วยติดตามหนี้เมื่อมีปัญหา ทำให้ผู้ส่งออกไทยสามารถบุกตลาดใหม่หรือขยายการค้าในตลาดเดิมได้อย่างมั่นใจ ซึ่งเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2552 กระทรวงการคลังได้เพิ่มเงินทุนให้ EXIM BANK จำนวน 5,000 ล้านบาท ภายใต้งบไทยเข้มแข็ง เพื่อสนับสนุนให้EXIM สามารถเพิ่มความสามารถให้บริการนี้โดยเฉพาะโดยตั้งเป้าหมายการให้บริการ 100,000 ล้านบาทในปี 2553 |
. |
“นอกจากประกันการส่งออกจะช่วยให้ผู้ส่งออกไทยสามารถให้เทอมการชำระเงินที่แข่งขันได้ให้แก่ผู้ซื้อในต่างประเทศได้อย่างมั่นใจแล้ว ยังจะสามารถใช้ประกันการส่งออกเป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินได้อีกด้วย” นายพฤฒิชัยกล่าว |
. |
รมช.คลัง กล่าวถึงผลการให้บริการประกันการส่งออก ในปี 2552 ว่า EXIM BANK ให้บริการประกันการส่งออกมีมูลค่ารับประกันการส่งออกทั้งสิ้น 59,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 48 เมื่อเทียบกับปี 2551 โดยมีอุตสาหกรรมที่มาใช้บริการประกันการส่งออก มากที่สุด 3 อันดับแรก คือ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ร้อยละ 47 พลาสติกและผลิตภัณฑ์ ร้อยละ 13 และอาหารทะเลแช่เย็นและแช่แข็ง ร้อยละ 10 |
. |
นอกจากนี้ EXIM BANK ได้มีการอนุมัติจ่ายค่าสินไหมทดแทนภายใต้บริการประกันการส่งออกให้แก่ผู้ส่งออกเป็นจำนวนทั้งสิ้น 124 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 766 เมื่อเทียบกับปี 2551 โดยประเภทสินค้าที่มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ ร้อยละ 48 อุปกรณ์และชิ้นส่วนยานยนต์ ร้อยละ 28 และสิ่งทอและผ้าผืน ร้อยละ 8 |
. |
นายอภิชัย บุญธีรวร กรรมการผู้จัดการ EXIM ชี้แจงว่าบริการประกันการส่งออกของ EXIM BANK แบ่งเป็น 1) EXIM SURE เป็นบริการประกันการส่งออกที่เหมาะสำหรับผู้ส่งออกที่ต้องการให้ EXIM BANK ช่วยติดตามดูแลการส่งออกทุก Shipment ที่ส่งไปยังคู่ค้าอย่างใกล้ชิด |
. |
2) EXIM FLEXI เปิดตัวในปี 2551 เป็นบริการประกันการส่งออกแบบใหม่ซึ่งปรับลดค่าเบี้ยประกัน ลดขั้นตอนการทำงานของธนาคารและผู้ส่งออก และเพิ่มผลประโยชน์ในส่วนของการจ่ายค่าสินไหมทดแทนสูงสุดถึง 90% ของความเสียหายที่เกิดขึ้นให้แก่ผู้ส่งออกที่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงไว้กับผู้ซื้อแต่ไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้า |
. |
3) EXIM 4 SMEs เปิดตัวในปี 2552 เป็นบริการประกันการส่งออกเพื่อผู้ส่งออก SMEs ที่มีมูลค่าการส่งออกไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อปี มีอัตราค่าเบี้ยประกันถูกกว่ากรมธรรม์แบบปกติถึง 35% และอนุมัติกรมธรรม์ภายใน 1 สัปดาห์ ซึ่งได้เปิดให้บริการแล้ว ผู้สนใจสามารถติดต่อขอรับบริการได้ที่ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจ 1, 2 EXIM BANK สำนักงานใหญ่ และสาขาทุกแห่ง |
. |
ที่มา : กระทรวงการคลัง |