คาดกวาดรายได้กว่า 80 ล้านบาท หลังผนึกพลัง เบิร์นส์ แอนด์ โร ผู้นำด้านบริการวิศวกรรมจากอเมริกา เพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการด้านธุรกิจบริษัทจัดการพลังงานของไทย
อีอีไอ ประกาศปี 53 เดินหน้าให้บริการจัดการพลังงานแบบเต็มสูบ คาดกวาดรายได้กว่า 80 ล้านบาท หลังผนึกพลัง เบิร์นส์ แอนด์ โร ผู้นำด้านบริการวิศวกรรมจากอเมริกา เพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการด้านธุรกิจบริษัทจัดการพลังงานของไทย |
. |
. |
นายอาทิตย์ เวชกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กซ์เซลเล้นท์ เอ็นเนอร์ยี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 11 ปีในการดำเนินธุรกิจ อีอีไอ ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพความเป็นหนึ่งด้านธุรกิจจัดการพลังงานของเมืองไทยมาอย่างต่อเนื่อง |
. |
ดังความสำเร็จล่าสุดในปีที่ผ่านมา ที่บริษัทฯ ได้รับรางวัลบริษัทจัดการพลังงานดีเด่นปี 2552 (ESCO Excellence Award 2009) จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ด้วยการสนับสนุนจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน ยิ่งไปกว่านั้น โครงการของลูกค้าบริษัทฯ ก็ได้รับรางวัลเช่นกัน |
. |
อาทิ บจก.ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ โรงแรมแกรนด์ไชน่าปริ๊นเซส และอีก 2 โรงแรมในเครือดุสิตธานี (โรงแรมดุสิต ปริ๊นเซส โคราชและโรงแรมรอยัล ปริ๊นเซส เชียงใหม่) ยังได้รับคัดเลือกให้เป็นสถานประกอบการที่ประสบความสำเร็จจากการใช้ระบบ ESCO ประจำปี 2552 (ESCO Project Award 2009) ที่นับเป็นความสำเร็จเป็นปีที่ 2 ของ อีอีไอ ในการเสนอชื่อลูกค้าเข้ารับรางวัลดังกล่าว รวมทั้งการให้ความดูแลลูกค้าในการได้รับสิทธิประโยชน์และสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐบาล |
. |
นอกจากนี้ อีอีไอ ยังมีโครงการอีกมากที่เป็นที่ภาคภูมิใจ อาทิ โครงการที่ได้ให้บริการในกลุ่มไทยเบฟเวอเรจ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมอีก 4 โรงงานที่ได้พัฒนาเพิ่มเติมให้กับกลุ่มซีพีเอฟ โครงการระบบจัดการพลังงานที่ได้ให้บริการแก่บริษัท พัทยาฟู้ดอินดัสตรี จำกัด ผู้ผลิตปลาทูน่ากระป๋องนอติลุส |
. |
ซึ่งทั้งสองงานเป็นการได้รับความไว้วางใจในการทำโครงการเพิ่มจากลูกค้า (Repeat oder) ตลอดจนได้รับ การคัดเลือกให้เป็นบริษัทที่ปรึกษาของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ กสอ. |
. |
ทำให้บริษัทฯ เชื่อมั่นในศักยภาพและพร้อมเดินหน้าพัฒนาศักยภาพบริการให้ดียิ่งขึ้น โดยล่าสุด อีอีไอ ได้ประกาศความร่วมมือกับ เบิร์นส์ แอนด์ โร บริษัทผู้นำด้านวิศวกรรมโรงไฟฟ้าแบบครบวงจรจากอเมริกา ที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยและได้รับการยอมรับจากหลายองค์กรชั้นนำภายในประเทศ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งการพัฒนาศักยภาพของบริการด้านธุรกิจจัดการพลังงานของเมืองไทย |
. |
นายอาทิตย์ เวชกิจ กล่าวถึงความร่วมมือระหว่าง อีอีไอ กับ เบิร์นส์ แอนด์ โร ในครั้งนี้ว่า อีอีไอ มองหาโอกาสทางธุรกิจพลังงานใหม่ๆในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสได้รับการแนะนำให้ลองคุยกับเบิร์นส์ แอนด์ โร ทำให้ทั้ง 2 องค์กร เล็งเห็นถึงศักยภาพร่วมกัน จนก่อในเกิดความร่วมมือทางธุรกิจ ในครั้งนี้ |
. |
ซึ่งจะทำให้สามารถขยายขอบเขตการบริการสู่กลุ่มลูกค้าที่มีขนาดใหญ่ยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนอง ความต้องการของผู้ประกอบการได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะเพิ่มพูนความสามารถในการให้บริการของผู้ดำเนินธุรกิจพลังงานชั้นนำและความเชื่อมั่นสำหรับผู้ประกอบการชาวไทยที่จะดำเนินโครงการด้านพลังงานต่อไปในอนาคต |
. |
“อีอีไอ คาดว่าในปี 2553 บริษัทฯ จะสามารถสร้างรายได้ประมาณ 80 ล้านบาท ซึ่งเติบโตกว่าปีที่ผ่านๆ มาประมาณ 15% โดยคาดการณ์ว่าจะก่อเกิดผลประหยัดให้กับประเทศไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท |
. |
ซึ่งจะ เกิดจากโครงการใหม่ในเครือ CPF ที่มีมูลค่าโครงการประมาณ 450 ล้านบาท ที่ตกลงให้อีอีไอดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมอีก 4 โรงงาน ก็สามารถประหยัดได้ราว 117 ล้านบาทต่อปี รวมถึงโครงการที่เราตั้งเป้าหมายจะร่วมกับ เบิร์นส์ แอนด์ โร ลักษณะเช่นเดียวกับโครงการที่เคยให้บริการกลุ่มไทยออยล์ ก็คาดการณ์ผลประหยัดได้ถึง 80 ล้านบาทต่อปี ส่วนภาพรวมของธุรกิจนั้น |
. |
เราเชื่อว่าในปีนี้ ผู้ประกอบการน่าจะมีความมั่นใจในการลงทุนโครงการประหยัดพลังงานมากขึ้น เพราะราคาน้ำมันปัจจุบันนี้พุ่งไปมากกว่า 80 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลและมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการลงทุนในโครงการประหยัดพลังงาน จะทำให้สามารถช่วยให้บริษัทสามารถลดต้นทุนพลังงานซึ่งเป็นต้นทุนหลักของการผลิต และสร้าง ความได้เปรียบทางการแข่งขันระยะยาว |
. |
นอกจากนี้ภาครัฐ ยังให้การสนับสนุนแก่ผู้ประกอบการในทุกๆ ด้าน เพื่อสร้างความมั่นใจต่างๆ ในการใช้บริการบริษัทจัดการพลังงานให้แก่ผู้ประกอบการ ภาพรวมธุรกิจบริษัทจัดการพลังงานในปีนี้น่าจะขยายตัวได้อย่างแน่นอน” นายอาทิตย์ เวชกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กซ์เซลเล้นท์ เอ็นเนอร์ยี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวถึงเป้าหมายผลประกอบการในปี 2553 |
. |
นายรวมลาภ อนันตศานต์ รองกรรมการผู้จัดการสายงานการตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัท เอ็กซ์เซลเล้นท์ เอ็นเนอร์ยี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวเสริมเกี่ยวกับแนวทางในการดำเนินธุรกิจของ อีอีไอ ในปี 2553 ว่า บริษัทฯจะเน้นให้บริการในธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษ อาทิ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม (Cogeneration) และระบบจัดการพลังงาน (Energy Management System: EMS) รวมทั้งดูแลโครงการแบบครบวงจร |
. |
ตลอด 11 ปีที่ผ่านมา โครงการโรงไฟฟ้าพลังงาน ความร้อนร่วม ถือเป็นโครงการที่ อีอีไอ สามารถพิสูจน์ถึงผลสำเร็จได้อย่างแท้จริงจนเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นโครงการนำร่องบริษัทจัดการพลังงานที่อีอีไอร่วมมือกับบีเคพี และจากผลสำเร็จ ในโครงการดังกล่าวทำให้โรงงานในเครือซีพีเอฟ (CPF Group) ได้ตกลงทำโครงการเพิ่มกับบริษัทในเครืออีกถึง 4 โรงงาน |
. |
อีกมาตรการเด่นของอีอีไอในปีนี้ คือ ระบบจัดการพลังงานที่ติดตั้งเพื่อติดตามตรวจประสิทธิภาพการใช้พลังงานของบริเวณการผลิตและพื้นที่อื่นๆ ได้ตลอดเวลา (real time monitoring) ทำให้ทราบพฤติกรรมการใช้พลังงานและการประสานความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ในแต่ละส่วนได้ ส่งผลให้ผู้ประกอบการสามารถปรับพฤติกรรมการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนทางด้านพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ |
. |
“ในภาวะเศรษฐกิจดังเช่นปัจจุบัน การลงทุนจัดการพลังงานด้วยต้นทุนเพียง 5-20 ล้านบาท และมีระยะเวลาคืนทุน ( Payback period) ได้ใน 1-2 ปี พร้อมทั้งสร้างรายได้ให้แก่ลูกค้า ถือเป็นจุดขายหลักที่ทำให้ลูกค้าไว้วางใจใช้บริการของเรา โดย อีอีไอ ได้พัฒนาระบบซอฟท์แวร์ให้เหมาะกับการใช้งานในแต่ละแห่ง |
. |
ภายใต้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านพลังงานและรูปแบบการใช้พลังงานของอุตสาหกรรมในไทย ซึ่งจะสอดคล้องกับความต้องการและรูปแบบการใช้งานของผู้ประกอบการไทยอย่างสมบูรณ์แบบ และบริการดังกล่าวยังสอดคล้องและตอบรับเป็นอย่างดีกับ พรบ.อนุรักษ์พลังงานฉบับใหม่ พ.ศ. 2550 ของภาครัฐ อีกด้วย |
. |
นอกจากนี้ เรายังมีบริการแบบครบวงจร ที่ทางลูกค้าจะหาได้ยากจากผู้ให้บริการรายอื่นๆ เช่น การดำเนินการขออนุญาตต่างๆ ที่จำเป็นในการดำเนินโครงการตามกฎระเบียบ, กฎหมาย, พรบ., การสนับสนุนการกู้เงินมาลงทุนจากธนาคาร, แหล่งเงินกู้เพื่อลงทุนในการอนุรักษ์พลังงาน (ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ), รวมถึงสิทธิประโยชน์จากภาครัฐทั้งหลาย เช่น เงินสนับสนุน DSM Bidding, BOI ทำให้อีอีไอสามารถดูแลลูกค้าของเราได้ดีตลอดมา” นายรวมลาภ อนันตศานต์ กล่าวสรุป |
. |
นายมาร์ค ฮันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบิร์นส์ แอนด์ โร เอเชีย จำกัด กล่าวถึงความร่วมมือกับ อีอีไอ ในครั้งนี้ว่า บริษัทฯ เล็งเห็นถึงศักยภาพของธุรกิจพลังงานในประเทศไทย และ อีอีไอ ในฐานะผู้นำด้านบริษัทจัดการพลังงาน ทั้งยังได้รับความไว้วางใจจากผู้ประกอบการชั้นนำในไทยอีกมาก ซึ่งเหมาะสม ที่จะร่วมมือกันพัฒนาบริการให้แข็งแกร่ง ดังนั้นการร่วมมือกันครั้งนี้จะทำให้ทั้งสองฝ่ายได้มีบริการใหม่ๆ สำหรับ อีอีไอ และตลาดใหม่ๆ สำหรับ เบิร์นส์ แอนด์ โร |
. |
ซึ่งเป็นการผสมผสานการให้บริการในระดับมาตรฐานโลกและความเชี่ยวชาญในการพัฒนาและดำเนินโครงการพลังงานในประเทศไทย ภายใต้โครงสร้างราคาที่สมเหตุสมผล โดยได้ตั้งเป้าหมายดำเนินโครงการที่ทั้งสองฝ่ายมีความเชี่ยวชาญร่วมกัน ไว้อย่างน้อย 1-2 โครงการในปีนี้ ด้วยเงินลงทุนราว 200-500 ล้านบาท ซึ่งน่าจะสร้างผลประหยัดให้ประเทศไทยได้ปีละ 100-200 ล้านบาท |
. |
“เศรษฐกิจของประเทศไทยกำลังฟื้นตัวและกำลังอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงปริมาณการใช้พลังงานหลักภายในประเทศในรูปแบบต่างๆ ณ สิ้นปี 2552 ล้วนแต่มีปริมาณการใช้ที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2551 ปัจจัยเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยมีความต้องการพลังงานที่สูงขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้นโยบายของ ทางภาครัฐ ในเรื่องของการจัดการพลังงานภายในประเทศ ที่สนับสนุนให้มีการใช้พลังงานที่ผลิตได้เองภายในประเทศที่มาจากเชื้อเพลิงหลากหลายประเภท |
. |
ให้ความสำคัญกับการประหยัดพลังงานในรูปแบบต่างๆ รวมถึงมุ่งเน้นให้มีการใช้พลังงานทดแทนให้มากขึ้น ปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นผลดีกับธุรกิจการพลังงานในประเทศไทย ส่งผลให้เอกชนทั้งภายในและภายนอกประเทศให้ความสนใจมาลงทุนในภาคพลังงานมากขึ้น และทำให้ธุรกิจด้านพลังงานของประเทศไทยมีการขยายตัวขึ้นอีกมาก |
. |
การร่วมมือกันในครั้งนี้ จะช่วยตอบสนองความต้องการของตลาดพลังงานที่สูงขึ้น และช่วยส่งเสริมนโยบายของภาครัฐในเรื่องของการจัดการพลังงานของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการประหยัดพลังงาน การสร้างแหล่งพลังงานที่มั่นคงและหลากหลาย รวมถึงส่งเสริมการลดภาวะโลกร้อน เพื่อให้ประชาชนภายในประเทศไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น" |
. |
ทั้งนี้ บริษัท เบิร์นส์ แอนด์ โร เอเชีย จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1932 ณ ปัจจุบันมีจำนวนพนักงานกว่า 1,700 คนทั่วโลก มีความเชี่ยวชาญในงานบริการด้าน งานการศึกษาออกแบบ, ที่ปรึกษาทางวิศวกรรม, ที่ปรึกษาด้านการเงินและเทคนิคด้านโรงไฟฟ้าถ่านหินและโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม |
. |
ตลอดจนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในทุกขนาด ณ ปัจจุบันมีลูกค้าในเมืองไทยประกอบด้วย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย, กัลฟ์ เจพี, แอดวานซ์ อะโกร และโกลว์ กรุ๊ป |