กระทรวงพาณิชย์ เตรียมเสนอแนวทางปรับกรมการประกันภัย เป็นสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมธุรกิจประกันภัยเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 16 มกราคมนี้ กระทรวงพาณิชย์ มั่นใจจะสร้างความเข้มแข็งให้ธุรกิจประกันของไทย สามารถแข่งขันได้ ขณะที่กลไกการกำกับจะเป็นมืออาชีพมากขึ้น
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เตรียมเสนอแนวทางปรับกรมการประกันภัย เป็นสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมธุรกิจประกันภัยเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 16 มกราคมนี้ กระทรวงพาณิชย์ มั่นใจจะสร้างความเข้มแข็งให้ธุรกิจประกันของไทย สามารถแข่งขันได้ ขณะที่กลไกการกำกับจะเป็นมืออาชีพมากขึ้น |
... |
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 16 มกราคมนี้ นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเสนอแนวทางการจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมธุรกิจประกันภัยเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หลังจากกรมการประกันภัยได้ประชุมเชิงปฏิบัติการรับฟังความคิดเห็นและมีการแก้ไขปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.ประกันชีวิต และ พ.ร.บ.ประกันภัยเสร็จแล้ว และเชื่อว่าในอนาคต หากสถาบันประกันภัยมีความเข้มแข็ง จะทำให้ภาคธุรกิจประกันของไทยดีขึ้น ไม่ต้องพึ่งต่างชาติ และกลไกการกำกับจะเป็นมืออาชีพมากขึ้น ดังนั้น การปรับปรุงกรมการประกันภัยเป็นองค์กรอิสระถือเป็นสิ่งจำเป็น |
. |
ทั้งนี้ เหตุผลหลักที่ต้องมีการปรับกรมการประกันภัยให้เป็นองค์กรอิสระพร้อมปรับปรุงกฎหมายประกันภัยและประกันชีวิต เพื่อต้องการให้สถาบันประกันภัยและประกันชีวิตมีความเข้มแข็ง ขณะเดียวกัน ต้องมีองค์กรอิสระเพื่อกำกับดูแลประกันภัยทั้งระบบ จึงต้องพยายามผลักดันให้กรมการประกันภัยเป็นสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมธุรกิจประกันภัยเพื่อเป็นองค์กรอิสระ โดยร่าง พ.ร.บ.ที่ปรับปรุงมีทั้งหมด 55 มาตรา |
. |
ซึ่งหลัง พ.ร.บ.ประกาศใช้จะจัดตั้งคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมธุรกิจประกันภัย (คปภ.) มีคณะกรรมการรวม 5 คน ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และเลขาธิการ คปภ. โดยเลขาธิการ คปภ. จะอยู่ในวาระคราวละ 5 ปี เมื่อพ้นจากวาระแล้วจะแต่งตั้งได้อีกไม่เกิน 1 วาระ ซึ่งวันที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ไม่ว่าในวาระที่ 1 และ 2 ต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปี ที่สำคัญในการตั้งสำนักงานดังกล่าว ตามมาตรา 23 เงินสมทบให้บริษัทประกันภัยนำส่งสำนักงานทุกปีภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันสิ้นสุดงวดปีในอัตราไม่เกินร้อยละ 0.5 ของเบี้ยประกันภัยที่ได้รับจากผู้เอาประกันแต่ละปี หากบริษัทประกันใดไม่นำส่งเงินสมทบให้แก่สำนักงานต้องเสียเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 2 ต่อเดือน ของเงินสมทบที่ไม่ได้นำส่ง |
. |
รายงานข่าวระบุว่า เพื่อเป็นประโยชน์ในการบริหารงานของสำนักงานให้โอนเงินจำนวน 1,000 ล้านบาท จากกองทุนทดแทนผู้ประสบภัยเป็นทุนประเดิมให้แก่สำนักงานภายใน 30 วัน นับตั้งแต่ พ.ร.บ.ดังกล่าวมีผลบังคับใช้ ซึ่งการปรับเปลี่ยนกรมการประกันภัยให้เป็นองค์กรอิสระ จะทำให้การตรวจสอบบริษัทประกันภัยมีความคล่องตัว และสร้างความเข้มแข็งให้บริษัทประกันภัยและประกันชีวิตในการดำรงเงินกองทุนเสริมสภาพคล่องได้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้เอาประกันภัยและประกันชีวิต. |