เนื้อหาวันที่ : 2010-01-19 16:58:58 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1542 views

"พรทิวา" คุยโวทั้งปี 52 ส่งออกหดแค่ 14.2% เกินดุลกว่า 7 พันล้านเหรียญ

พาณิชย์ ฟุ้งเดือน ธ.ค. 52 ไทยส่งออกเพิ่มขึ้นเฉียด 20% มูลค่าเกือบ 5 แสนล้านบาท ส่งผลให้ทั้งปีไทยได้ดุลการค้าถึง 1.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ

พาณิชย์ ฟุ้งเดือน ธ.ค. 52 ไทยส่งออกเพิ่มขึ้นเฉียด 20% มูลค่าเกือบ 5 แสนล้านบาท ส่งผลให้ทั้งปีไทยได้ดุลการค้าถึง 1.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ

.

นางพรทิวา  นาคาศัย  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

.

นางพรทิวา  นาคาศัย  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานแถลงข่าว ภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย เดือนธันวาคม และปี 2552

.

ส่งออกเดือนธันวาคม 2552 ขยายตัวสูงสุดในรอบ 12 เดือน (ร้อยละ 26.1) ด้วยมูลค่า 14,629 ล้านเหรียญ สรอ. หรือในรูปเงินบาท มีมูลค่า 482,163 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 19.3 ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกทั้งปี 2552 มีมูลค่า 152,502 ล้านเหรียญ สรอ. (หดตัวเพียงร้อยละ 14.2) ไทยเกินดุลการค้าเดือนธันวาคม 2552 มูลค่า 7,791 ล้านเหรียญ สรอ.

.

ส่งผลให้ทั้งปี 2552 ไทยได้ดุลการค้าเป็นมูลค่าสูงถึง 18,706 ล้านเหรียญ สรอ. ส่งออกสินค้าเกษตร/อุตสาหกรรมการเกษตรเดือนธันวาคม 2552 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 42.1 ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมสำคัญเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.6 -          สินค้าเกษตร/อุตสาหกรรมเกษตรส่งออกเพิ่มขึ้นทุกรายการ เป็นการเพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและมูลค่า

.

โดยเฉพาะ ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง น้ำตาล และสินค้าอาหาร-          สินค้าอุตสาหกรรมสำคัญ ส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเกือบทุกรายการ เช่น เครื่องอิเล็กทรอนิกส์  เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ เป็นต้น และมีสินค้าที่กลับมาส่งออกเพิ่มขึ้นเป็นเดือนแรก ได้แก่  เฟอร์นิเจอร์ เครื่องเดินทางและเครื่องหนัง  อาหารสัตว์เลี้ยง  และ ของเล่น

.

ส่วนตลาดหลักส่งออกเดือนธันวาคม 2552 เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สอง คือ เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20.4 โดยเฉพาะตลาดญี่ปุ่นที่กลับมาส่งออกเพิ่มขึ้นเป็นเดือนแรก ส่วนตลาดใหม่ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องร้อยละ 31.5  โดยเฉพาะตลาดเกาหลีใต้ ลาตินอเมริกาที่ส่งออกขยายตัวเป็นเดือนแรก

.

1. เดือนธันวาคม 2552    1.1  การส่งออก มีมูลค่า 14,629  ล้านเหรียญ สรอ. เพิ่มขึ้นร้อยละ 26.1 และเมื่อคิดในรูปเงินบาทมีมูลค่า 482,163 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.31)   การส่งออกสินค้าสำคัญ ส่งออกเพิ่มขึ้นในทุกหมวดติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 โดยเฉพาะสินค้าเกษตร/อุตสาหกรรมการเกษตรที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 42.1

.

ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมสำคัญเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.6 2)   สินค้าเกษตร/อุตสาหกรรมเกษตรส่งออกเพิ่มขึ้นทุกรายการ ได้แก่  ข้าว ยางพารา ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง น้ำตาล และอาหาร ยกเว้นไก่สดแช่เย็นแช่แข็งและแปรรูป

.

3)   สินค้าอุตสาหกรรมสำคัญ ส่งออกเพิ่มขึ้นเกือบทุกรายการ  สินค้าที่ยังคงส่งออกเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เช่น เครื่องอิเล็กทรอนิกส์เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ อัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ) สิ่งทอ เครื่องสำอางฯ  สิ่งพิมพ์ฯ ผลิตภัณฑ์เภสัช/เครื่องมือแพทย์  ผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น  สินค้าสำคัญที่กลับมาส่งออกเพิ่มขึ้นเป็นเดือนแรก ได้แก่ เครื่องเดินทาง เครื่องหนัง เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน อาหารสัตว์เลี้ยง และของเล่น

.

4)   สินค้าอุตสาหกรรมที่ยังคงส่งออกลดลง ได้แก่ เครื่องใช้เครื่องประดับตกแต่งบ้าน นาฬิกาและส่วนประกอบ และเครื่องกีฬา แต่การส่งออกก็มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นเป็นลำดับ5)   ตลาดส่งออกสำคัญ การส่งออกเพิ่มขึ้นทั้งในตลาดหลักและตลาดใหม่ o  ตลาดหลักส่งออกเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 คือเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20.4 โดยเฉพาะญี่ปุ่นกลับมาส่งออกเพิ่มขึ้นเป็นเดือนแรก

.

การส่งออกไปตลาดใหม่ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยขยายตัวสูงถึง    ร้อยละ 31.5 ตลาดที่ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ได้แก่ จีน ทวีปออสเตรเลีย ฮ่องกง อินโดจีนและพม่า อินเดีย ไต้หวัน แคนาดา แอฟริกา ตะวันออกกลาง และยุโรปตะวันออก ส่วนตลาดที่ส่งออกเพิ่มขึ้นเป็นเดือนแรก ได้แก่ เกาหลีใต้ ลาตินอเมริกา 6)   ปัจจัยที่ส่งผลทำให้การส่งออกปรับตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ได้แก่

.

ความต้องการในตลาดโลกที่ฟื้นตัวมากขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการค้าของตลาดส่งออกสำคัญ ประกอบกับสต็อกของผู้นำเข้าในต่างประเทศที่ลดลง ทำให้ผู้ซื้อในต่างประเทศเริ่มกลับมาซื้อมากขึ้น ทั้งสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม เพื่อรองรับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่

.

ความสำเร็จจากการดำเนินมาตรการเร่งรัดผลักดันการส่งออกร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนที่ดำเนินการมาโดยตลอดและต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี1.2  การนำเข้า มีมูลค่า 14,424 ล้านเหรียญ สรอ. ลดลงร้อยละ 28.2 และเมื่อคิดในรูปเงินบาทมีมูลค่า 480,908 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 21.4 1)      เชื้อเพลิง  เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.6 เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้นจากราคาบาร์เรลละ 43.61 เหรียญ สรอ. เป็น 78.88 เหรียญ สรอ. เพิ่มขึ้นร้อยละ 80.9

.

2)      ทุน  เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.5 เนื่องจากนักลงทุนมีความมั่นใจในภาวะเศรษฐกิจที่มีสัญญาณฟื้นตัว ส่งผลให้มีการขยายการลงทุนและลงทุนในโครงการใหม่เพิ่มขึ้น ประกอบกับโครงการขนาดใหญ่ของรัฐ เช่น รถไฟฟ้าสายสีม่วง เริ่มดำเนินการก่อสร้าง3)      วัตถุดิบ/กึ่งสำเร็จรูป   เพิ่มขึ้นร้อยละ 51.9 สอดคล้องกับมูลค่าการส่งออกของประเทศที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น4)      อุปโภคบริโภค  เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.0 เนื่องจากผู้บริโภคมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นในช่วงเทศกาล

.

5)      ยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 45.6 สาเหตุจากยอดจำหน่ายรถภายในประเทศ (การนำเข้ารถยนต์นั่ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.7 และส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 61.4) รวมทั้งตลาดส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้น1.3 ดุลการค้า  ไทยได้ดุลการค้า 204.4 ล้านเหรียญ สรอ. และเมื่อคิดในรูปเงินบาทมีมูลค่า 1,255 ล้านบาท 2. ทั้งปี 2552    2.1    

.

การส่งออก   มูลค่า 152,502 ล้านเหรียญ สรอ. ลดลงร้อยละ 14.2 และเมื่อคิดในรูปเงินบาทมีมูลค่า 5,197,121 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 11.22.2     การนำเข้า  มูลค่า 133,796.0 ล้านเหรียญ สรอ. ลดลงร้อยละ 25.3 และเมื่อคิดในรูปเงินบาทมีมูลค่า 4,605,171 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 22.8 2.3     ดุลการค้า  เกินดุลการค้า 18,706 ล้านเหรียญ สรอ. และเมื่อคิดในรูปเงินบาทมีมูลค่า 591,950 ล้านบาท

.
ที่มา : เว็บไซต์รัฐบาลไทย