กระทรวงการคลัง เตรียมเข้ามอบนโยบายจัดเก็บรายได้หลักทั้ง 3 กรม ทั้งกรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร ขณะที่ยอมรับผลจากเหตุการณ์ระเบิดก่อนหน้านี้ที่จะมีผลกระทบต่อการบริโภค
สำนักข่าวไทยรายงานข่าวนายสมหมาย ภาษี เตรียมเข้ามอบนโยบายแก่ข้าราชการกรมจัดเก็บรายได้หลักทั้ง 3 กรม ในสัปดาห์หน้า ทั้งกรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร ในสัปดาห์นี้ ขณะที่ยอมรับผลจากเหตุการณ์ระเบิดก่อนหน้านี้ที่จะมีผลกระทบต่อการบริโภคและการท่องเที่ยวอาจกระทบรายได้รัฐบาล แต่กระทรวงการคลัง ยังไม่ปรับเปลี่ยนประมาณการรายได้ปีงบประมาณ 2550 ใหม่ |
. |
นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ม.ค.) จะเข้ามอบนโยบายการทำงานให้แก่เจ้าหน้าที่กรมสรรพากร และในช่วงกลางสัปดาห์ จะมอบนโยบายให้แก่กรมสรรพสามิต รวมทั้งกรมศุลกากร ต่อไป โดยในประเด็นเรื่องของการจัดเก็บรายได้ ยอมรับว่า เหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้ ทำให้การบริโภค การท่องเที่ยวชะงักลงไปบ้าง การจัดเก็บรายได้ของรัฐในปีงบประมาณ 2550 จึงต้องประเมินและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่คงไม่สามารถปรับเป้าหมายได้ง่ายเหมือนตัวเลขเศรษฐกิจ โดยจะขอรับฟังข้อมูลของแต่ละกรมก่อน ว่าจะมีแนวทางการดำเนินการอย่างไรบ้าง |
. |
สำหรับประมาณการรายได้ของรัฐบาลในปีงบประมาณ 2550 จำนวน 1.42 ล้านล้านบาท มาจากกรมสรรพากร 65,249 ล้านบาท กรมสรรพสามิต 23,853 ล้านบาท กรมศุลกากร 7,450 ล้านบาท ที่เหลือมาจากหน่วยงานอื่น |
. |
นายสาธิต รังคสิริ รองอธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า หลังจากรับทราบนโยบายที่ชัดเจนจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และอธิบดีกรมสรรพากร คนใหม่แล้ว จะกำหนดทิศทางการจัดเก็บภาษีได้ชัดเจน โดยเห็นว่า น่าจะมีการปรับเปลี่ยนแนวทางการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากร เพื่อสร้างกรอบคุ้มครองการจัดเก็บภาษีของเจ้าหน้าที่ เพราะเดิมรัฐบาลได้มีนโยบายให้เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ให้แก่ผู้ประกอบการ หรือผู้มีรายได้ที่ต้องเสียภาษีเมื่อดึงเข้ามาอยู่ในฐานภาษี โดยไม่ต้องมองอดีต แต่ให้มองไปข้างหน้า ซึ่งอาจทำให้มีผลต่อการจัดเก็บของเจ้าหน้าที่ได้ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นภายหลัง และที่ผ่านมา ได้มีการนิรโทษกรรมการเสียภาษีบางส่วนแต่สัดส่วนไม่มากนัก รวมทั้งอาจจะมีการหารือเกี่ยวกับการขยายฐานภาษีสำหรับผู้มีเงินได้ทุกคน แม้ยังมีรายได้ยังไม่ถึงขั้นต้องเสียภาษี เพื่อต้องการมีข้อมูลในฐานภาษี |
. |
นอกจากนี้ กรมสรรพากรยังเดินหน้าพัฒนาและปรับปรุงระบบภาษีอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และเป็นธรรมกับผู้เสียภาษีทุกฝ่าย โดยเรื่องที่ได้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการพัฒนาปรับปรุงกฎหมายแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกระทรวงการคลัง ซึ่งกรมสรรพากร จะไม่นำกลับมาทบทวนอีก โดยเฉพาะเรื่องการเพิ่มวงเงินการหักค่าใช้จ่ายที่หักค่าลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ขยายเพิ่มเป็นไม่เกิน 100,000 บาท จากเดิมที่กำหนดให้หักค่าใช้จ่ายได้ร้อยละ 40 แต่ไม่เกิน 60,000 บาท |
. |
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันศุกร์ที่ผ่านมา อธิบดีใหม่ของแต่ละกรมได้ทยอยเริ่มเข้าไปทำงานในกรมต่าง ๆ แล้ว ทั้งนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ อธิบดีกรมสรรพสามิต นายศานิต ร่างน้อย อธิบดีกรมสรรพกร นายชวลิต เศรษฐเมธีกุล อธิบดีกรมศุลกากร นางพันธ์ทิพย์ สุรทิณฑ์ อธิบกรมธนารักษ์ เพื่อเข้ารับฟังข้อมูลจากราชการและเริ่มทำงานอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 มกราคม 2550 |