เนื้อหาวันที่ : 2010-01-19 15:07:02 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 569 views

กรมบัญชีกลางเผยไตรมาสแรกปีงบฯ 53 เบิกจ่ายทะลุเป้า 3.30%

กรมบัญชีกลางรายงานผลเบิกจ่ายงบประมาณ 2553 สิ้นไตรมาส 1 เบิกจ่ายภาพรวมได้สูงกว่าเป้าหมายร้อยละ 3.30  ส่วนงบลงทุนเบิกจ่ายได้สูงกว่าเป้าหมายถึง 7.83 เช่นเดียวกัน 

.

นายพงษ์ภาณุ  เศวตรุนทร์ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้า จะนำเสนอรายงานผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ปี พ.ศ. 2553 ต่อคณะรัฐมนตรี  โดยที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2552   ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ  เบิกจ่ายไปแล้ว 396,155.16  ล้านบาท หรือร้อยละ 23.30 ของวงเงินงบประมาณ (1,700,000 ล้านบาท) 

.

ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายการเบิกจ่ายร้อยละ 3.30  และสูงกว่าการเบิกจ่ายในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณ พ.ศ. 2552  ร้อยละ 3.55   โดยเป็นการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำ  จำนวน  352,545.75  ล้านบาท  หรือร้อยละ 23.82  สูงกว่าเป้าหมายการเบิกจ่ายร้อยละ 2.68 และสูงกว่าการเบิกจ่ายในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ร้อยละ 1.26             

.

สำหรับรายจ่ายลงทุนเบิกจ่ายได้ 43,609.41 ล้านบาท หรือร้อยละ 19.83 สูงกว่าเป้าหมายการเบิกจ่ายถึงร้อยละ 7.83  และสูงกว่าการเบิกจ่ายในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 มากถึงร้อยละ 11.89 

.

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า  หน่วยงานที่ได้รับงบลงทุนเกิน 1,000 ล้านบาท ซึ่งมีการเบิกจ่ายสูงสุด 3 ลำดับแรก ได้แก่  กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น  สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข  และกองบัญชาการกองทัพไทย 

.

โดยมีการเบิกจ่ายแล้วร้อยละ 33.41   16.51  และ 15.86  ของวงเงินงบประมาณหลังโอนเปลี่ยนแปลงสำหรับหน่วยงานที่มีผลการเบิกจ่ายต่ำสุด เช่น จังหวัด กระทรวงคมนาคม  กระทรวงพลังงาน  และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม              

.

ซึ่งได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ติดตามอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง  สำหรับงบประมาณของจังหวัดนั้น  ยังมีบางจังหวัดยังไม่มีการเบิกจ่ายเลย   ซึ่งในสัปดาห์หน้ากรมฯ ได้มีการจัดสัมมนาคลังเขต/คลังจังหวัด  ทั่วประเทศ   จึงจะใช้เวทีนี้มอบนโยบายให้คลังจังหวัดลงไปช่วยติดตามและให้คำแนะนำเพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรคด้วย      อีกทางหนึ่ง  

.

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ กล่าวต่อท้ายว่า  ในส่วนของงบประมาณโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ณ วันที่ 14 มกราคม 2553  จากวงเงินกู้รอบแรก 200,000 ล้านบาท  มีการเบิกจ่ายจำนวน  28,523.77 ล้านบาท หรือ   ร้อยละ 18.88  ของวงเงินที่ได้จัดสรร (151,074.35 ล้านบาท)

.

สำหรับวงเงินกู้รอบที่ 2  จำนวน 20,000 ล้านบาท มีการเบิกจ่ายจำนวน   8,695.80 ล้านบาท หรือร้อยละ 44.14  ของวงเงินที่จัดสรรแล้ว จำนวน 19,699.20 ล้านบาท  

.

“โดยเห็นว่าในช่วงปลายไตรมาสที่ 2 น่าจะมีการเบิกจ่ายได้มากยิ่งขึ้นเนื่องจากมีผลการดำเนินงานและต้องจ่ายเงินตามสัญญาจัดซื้อจัดจ้างแล้ว” นายพงษ์ภาณุ กล่าว