เนื้อหาวันที่ : 2010-01-18 13:51:30 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1288 views

คลังเดินหน้า 9 มาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปี 53

"กรณ์" เผยคลังพร้อมเดินหน้า 9 มาตรการเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปี 53 ให้เติบโตต่อเนื่อง มั่นใจสามารถผลักดัน พ.ร.บ.ภาษีที่ดินฯ ให้เกิดขึ้นได้

 

"กรณ์" เผยคลังพร้อมเดินหน้า 9 มาตรการเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปี 53 ให้เติบโตต่อเนื่อง มั่นใจสามารถผลักดัน พ.ร.บ.ภาษีที่ดินฯ ให้เกิดขึ้นได้

.

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

.

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยรัฐมนตรีช่วยและผู้บริหารกระทรวงการคลัง ร่วมกันแถลงผลดำเนินงานปี 2553

.

นายกรณ์ กล่าวว่า มาตรการของกระทรวงการคลังเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย  1.นโยบายแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ  หลังจากเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนแก้ปัญหาหนี้นอกระบบจำนวน  965,377  คน  มูลหนี้  102,000  ล้านบาท  ซึ่งในวันที่  22  มกราคมนี้ จะเดินทางไปดูมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้ให้กับประชาชนครั้งแรก และรัฐบาลจะสานต่อดูแลภาระหนี้ให้กับรายย่อย  ด้วยการใช้ระบบไมโครไฟแนนซ์ดูแลประชาชน 

.

2. การเดินหน้าตามแผนพัฒนาตลาดเงินระยะ 2  ด้วยการเพิ่มระดับการแข่งขันของสถาบันการเงินให้มีรายใหม่เข้ามาในระบบ  การเพิ่มนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ทางการเงิน  รวมถึงการผลักดันให้มีต้นทุนบริการประชาชนต่ำลง

.

3.แผนพัฒนาตลาดทุน  โดยกระทรวงการคลังพร้อมผลักดันและแก้ไขกฎหมายต่าง ๆ  เกี่ยวกับตลาดทุน การเชื่อมโยงกับตลาดโลก และรองรับความผันผวนต่าง ๆ  เพื่อให้บรรยากาศการลงทุนดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

.

4.การตั้งกองทุนการออมแห่งชาติ  เพื่อให้รัฐบาลส่งเงินสมทบร่วมกับสมาชิก  100  บาทต่อเดือน  ซึ่งมีแรงงานนอกระบบ  พ่อค้าแม่ค้า  หาบเร่แผงลอย  คนขับแท็กซี่ เกษตรกร กว่า  20  ล้านคน  ต้องการหลักประกันเหมือนกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.) หรือกองทุนประกันสังคมของบริษัท  เพื่อให้มีหลักประกันชีวิตหลังเกษียณอายุทำงาน  โดยขณะนี้คณะกรรมการกฤษฎีกากำลังตรวจร่างกฎหมาย

.

5.การเพิ่มบทบาทให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนโครงการของรัฐ (PPP)  เนื่องจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี  2553  มีงบลงทุนเพียงร้อยละ 12.5  ของวงเงินรายจ่าย  นับว่าเป็นกำลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้น้อย 

.

จึงต้องใช้เงินลงทุนจาก พ.ร.ก.การให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเสรษฐกิจ ซึ่งเป็นเงินนอกงบประมาณมาร่วมกับภาคเอกชนลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของรัฐให้มีเงินลงทุนในระบบประมาณร้อยละ 25 เพื่อมีกำลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตมากขึ้น 6.มาตรการสินเชื่อรายย่อย ด้วยการให้ธนาคารออมสินและ 

.

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ดูแลสินเชื่อรายย่อยให้มากขึ้น  ในส่วนของ ธ.ก.ส.จะมีการตั้งธนาคารชุมชนเป็นหน่วยงานอิสระแยกจาก ธ.ก.ส.ในอนาคต เพื่อให้สามารถปล่อยสินเชื่อและดูแลรายย่อยได้มากขึ้น  7.การดูแลบัตรเครดิต  ด้วยการผลักดัน พ.ร.บ.บัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล

.

8.การทวงถามหนี้อย่างเป็นธรรม  ซึ่งเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาเร็ว ๆ นี้  เพราะเป็นสิ่งเดียวที่ต้องเร่งแก้ไขให้กับประชาชนลืมตาอ้าปากได้  และ  9.การเดินหน้าผลักดัน พ.ร.บ.ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง  โดยเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีภายใน 1 เดือน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำสร้างความยุติธรรมในการจัดเก็บภาษี

.

“ยืนยันว่าจะสามารถผลักดันกฎหมายต่าง  ๆ โดยเฉพาะ พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังต่อไปได้  แม้ที่ผ่านมารัฐมนตรีที่เสนอกฎหมายดังกล่าวอาจหลุดจากตำแหน่ง   

.

เนื่องจากมีการคัดค้านจากหลายฝ่าย ซึ่งปัจจุบันการจัดเก็บภาษีในสัดส่วนร้อยละ 90  มาจากรายได้ของประชาชนและภาคเอกชน ส่วนภาษีเพียงร้อยละ 10  มาจากทรัพย์สิน  งควรเพิ่มสัดส่วนภาษีจากทรัพย์สินมากขึ้น”  นายกรณ์  กล่าว

.
ที่มา : สำนักข่าวไทย, เว็บไซต์รัฐบาลไทย