เนื้อหาวันที่ : 2010-01-13 09:22:35 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 601 views

กฟผ.เตือนประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด หวั่นวิกฤตแล้งนาน

        

.

นายกิตติ ตันเจริญ ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เปิดเผยถึงปริมาณน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ของ กฟผ.ทั่วประเทศในปี53ว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำของ กฟผ.อยู่ที่ 46,115 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 73.96% ของความจุอ่างทั้งหมด    

.

ซึ่งน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.29% และน้อยกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ผ่านมา 9.64% โดยภาพรวมปริมาณน้ำในปี53 น้อยกว่าปีที่ผ่านมาเล็กน้อย แต่ยังพอใช้เพื่อการชลประทานตลอดฤดู   วอนประชาชนช่วยกันประหยัดน้ำ เพราะหากปีนี้ฝนตกน้อยหรือแล้งนานปี54 อาจเกิดวิกฤติได้

.

ทั้งนี้ เมื่อสำรวจเป็นรายภาคพบว่า ภาคเหนือ ประกอบด้วย เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำรวมกัน 13,679 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 58.87%ของความจุอ่าง น้อยกว่าปีก่อน 20% โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ต่ำมากเพียง 55.14%ในขณะที่ภูมิภาคอื่นๆมีระดับน้ำอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา

.

อย่างไรก็ตาม กฟผ.ได้ประชุมร่วมกับคณะอนุกรรมการวางแผนและส่งเสริมการปลูกพืชฤดูแล้งปีเพาะปลูก52/53 และมีแผนการระบายน้ำจากเขื่อนต่างๆของ กฟผ.เพื่อการชลประทานในฤดูแล้ง จำนวน 2โครงการใหญ่ คือ 1.โครงการเจ้าพระยาใหญ่ มีแผนระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ (ตั้งแต่ พ.ย. 2552 –เม.ย. 2553) รวม 6,240 ล้านลูกบาศก์เมตร และ 2.โครงการแม่กลองใหญ่มีแผนระบายน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ (ตั้งแต่ ม.ค. 2553 – มิ.ย. 2553) รวม 5,400 ล้านลูกบาศก์เมตร

.

“ปริมาณน้ำในเขื่อนภาคเหนือยังคงน่าเป็นห่วงและหากปีนี้ราคาผลิตผลทางการเกษตรมีการปรับตัวสูงขึ้นมากเหมือนปี51 ก็อาจส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำเพื่อการเกษตรเพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย ส่วนความหวังที่ว่าบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะช่วยให้ฝนตกและเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อนนั้น

.

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่าแม้จะมีฝนตกทั่วประเทศ แต่ก็ไม่ได้ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อนมากนักและอีกไม่นานคงเข้าสู่ฤดูร้อน ดังนั้นจึงอยากขอความร่วมมือจากประชาชนทุกคนให้ใช้น้ำอย่างประหยัด เพราะหากฤดูฝนปีนี้มีปริมาณน้ำฝนน้อยหรือมีฤดูแล้งที่ยาวนานกว่าปกติปี54 อาจเกิดวิกฤติได้”นายกิตติ กล่าว

.
ที่มา : สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน