เนื้อหาวันที่ : 2010-01-12 08:39:04 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 506 views

คลังเตรียมออกมาตรการภาษีอุ้มอุตฯท่องเที่ยว-โรงแรม

นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายวินัย วิทวัสการเวช อธิบดีกรมสรรพากร ได้ประชุมหารือร่วมกับตัวแทนจากสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย(FETTA)

.

ซึ่งประกอบด้วย สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว สมาคมโรงแรมไทย สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย-ญี่ปุ่น และสมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน เกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคที่เกิดจากการประกอบกิจการ ผลที่เกิดขึ้นจากมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวและโรงแรมที่ได้ดำเนินการไปแล้วก่อนหน้านี้

.

รวมทั้งแนวทางการดำเนินการในอนาคต ในการส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวและโรงแรม โดยที่ประชุมวันนี้ได้ข้อสรุปว่า จะมีการกำหนดมาตรการภาษีเพิ่มเติม ในการส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและโรงแรม เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้

.

นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า “การประชุม ในวันนี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อกระทรวงการคลัง ในการกำหนดนโยบายเพื่อส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวและโรงแรม ทำให้ภาครัฐได้รับทราบข้อมูลในเชิงลึก ซึ่งเป็นประโยชน์ในการนำไปแก้ไขปัญหาอุปสรรคได้อย่างถูกต้องมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ และการประสานงานที่ดีระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนอีกด้วย”

.

ภายหลังการประชุม นายวินัย วิทวัสการเวช อธิบดีกรมสรรพากร ได้เปิดเผยถึงผลการจัดเก็บภาษีอากรสำหรับเดือนธันวาคม 2552 ที่ผ่านมาว่า “กรมสรรพากรสามารถจัดเก็บภาษีได้จำนวน 72,652 ล้านบาท โดยจัดเก็บได้สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนจำนวน 6,813 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.35 และสูงกว่าประมาณการจำนวน 12,381 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.54

.

โดยภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจัดเก็บได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากภาษี หัก ณ ที่จ่าย จากเงินเดือนและดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ภาษีเงินได้นิติบุคคลจัดเก็บได้เพิ่มขึ้นจากค่าบริการและการจำหน่ายเงินกำไร รวมทั้ง ภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้เพิ่มขึ้นเนื่องจากการนำเข้าและการบริโภคภายในประเทศที่มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

.

สำหรับผลการจัดเก็บภาษีสรรพากรเดือนตุลาคม – ธันวาคม 2552 จัดเก็บได้จำนวน 230,136 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนจำนวน 3,059 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.35 และสูงกว่าประมาณการ จำนวน 26,474 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.0”