ราคาน้ำมันดิบงวดส่งมอบล่วงหน้าเดือนกุมภาพันธ์ที่ตลาดนิวยอร์ก ปรับตัวสูงขึ้นทะลุ 83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแล้ว เป็นครั้งแรกในรอบ 14 เดือน เพราะผลจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันพุธที่ราคา 83.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงกว่าราคาปิดเมื่อวันอังคาร 1.41 ดอลลาร์ |
. |
และในระหว่างชั่วโมงซื้อขาย ราคาได้พุ่งขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 83.52 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นราคาสูงที่สุดตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม 2551 ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์แหล่งทะเลเหนือที่ตลาดลอนดอนปรับตัวสูงขึ้น 1.30 ดอลลาร์ ขึ้นมาปิดที่ 81.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล |
. |
การปรับตัวสูงขึ้นของราคาน้ำมันดิบ ได้รับอิทธิพลมาจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินยูโร ขณะที่ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐ ที่เพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรลในรอบ 1 สัปดาห์สิ้นสุดเมื่อวันที่ 1 มกราคม ไม่ได้มีผลทำให้ราคาน้ำมันอ่อนตัวลง แม้มีการคาดการณ์ว่าปริมาณน้ำมันคงคลังจะลดลงราว 3 แสนบาร์เรล |
. |
นักลงทุนในตลาดกำลังรอคอยตัวเลขปริมาณน้ำมันที่ใช้ในเครื่องทำความร้อนเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อ-ขาย หลังจากที่เกิดสภาพอากาศหนาวเย็นมากในพื้นที่ภาคเหนือของสหรัฐ ซึ่งเป็นแหล่งบริโภคพลังงานมากที่สุดของโลก |
. |
นักวิเคราะห์คาดว่าความต้องการน้ำมันในเครื่องทำความร้อนจะเพิ่มขึ้นในไม่กี่วันข้างหน้าเพราะอากาศหนาวเย็นได้แผ่ปกคลุมซีกโลกเหนือ สำนักบริการข้อมูลสภาพอากาศแห่งชาติของสหรัฐ คาดว่า ความต้องการน้ำมันในเครื่องทำความร้อนสัปดาห์นี้จะเพิ่มขึ้นจากปกติ 11% ซึ่งในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ความต้องการน้ำมันก็เพิ่มขึ้นแล้วเกือบ 20 % |
. |
ที่มา : สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน |