เนื้อหาวันที่ : 2009-12-29 11:47:27 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2184 views

ผลกระทบจาก Dubai World ต่อเศรษฐกิจไทย

การประกาศหยุดพักชำระหนี้ของบริษัท Dubai World ซึ่งอยู่เหนือการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์และนักลงทุน ส่งผลให้เกิดความผันผวนในตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลก ไทยแม้จะดูว่ามีส่วนที่ไปลงทุนในดูไบน้อยมาก หากแต่ก็ยังได้รับผลกระทบอยู่บ้าง

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยจากการประกาศหยุดพักชำระหนี้ของบรษัท Dubai World1

.

.

บทสรุปผู้บริหาร

- เมื่อวันพุธที่ 25 พฤศจิกายน 2552 บริษัท Dubai World ซึ่งเป็นบริษัท Holding Company ของรัฐดูไบประกาศหยุดพักชำระหนี้ในเดือนธันวาคม 2552 จำนวนประมาณ 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้เกิดความผันผวนในตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลก

.

- สศค. วิเคราะห์ว่า ผลกระทบของการหยุดพักชำระหนี้ของ Dubai World ผ่านภาคการเงิน (Financial Impacts) อยู่ในวงจำกัด เนื่องจาก สถาบันการเงินไทยส่วนใหญ่ไม่มี Exposure กับกลุ่มบริษัท Dubai World และมีการลงทุนในตะวันออกกลางน้อยมาก  

.

อีกทั้งสถาบันการเงินไทยมีฐานะที่เข้มแข็งสามารถรองรับความเสี่ยวที่เกี่ยวข้องกับการผิดนัดชำระหนี้ของ Dubai World ได้ ส่วนผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจจริง (Real Sector impact) ทั้งในด้านการค้าการลงทุน และการท่องเที่ยวก็อยู่ในวงจำกัดเช่นกัน เพราะการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างไทยและรัฐดูไบคิดเป็นสัดส่วนที่น้อย

.

- สศค. วิเคราะห์ว่า การหยุดพักชำระหนี้ของ Dubai World ในครั้งนี้ แม้จะไม่ได้มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากนัก อย่างไรก็ตาม ควรมีมาตรการรองรับความผันผวนจากเหตุการณ์การเงินในดูไบ ดังนี้ ในระยะสั้น (1) ควรติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจการเงินโลกอย่างใกล้ชิดผ่น Emergency Economic Resolution Committee ที่มีกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

.

เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่วเสิรมการประกอบธุรกิจประกันภัย ร่วมเป็นคณะทำงานอยู่ด้วย (2) ควรมีมาตรการรองรับผลกระทบต่อแรงงานไทยในดูไบที่อาจได้รับผลกระทบจากสถานการณื Dubai World ในระยะปานกลางถึงยาว

.

(1) ควรประสานความร่วมมือกับประเทศสมาชิก ASEAN+3 ผ่านกลไกความร่วมมือการเงินเชียงใหม่ (Chiang Mai Initiative) ที่ประเทศสมาชิกให้ความช่วยเหลือทางการเงินระหว่างกันหากประเทศสมาชิกมีปัญหาเงินทุนไหลออกหรือปัญหาดุลการชำระเงิน และ(2) ควรเร่งดำเนินนโยบายเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจจากภายในประเทศ เพื่อทดแทนการพึ่งพาการส่งออก อันเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันจากความผันผวนของเศรษฐกิจต่างประเทศ

.
1. สรุปสถานการณ์

เมื่อวันพุธที่ 25 พฤศจิกายน 2552 บริษัท Dubai World ประกาศหยุดพักชำระหนี้ที่มีกำหนดชำระเดือนธันวาคม 2552 จำนวนประมาณ 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐออกไปอีก 6 เดือน (จนถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2553) และจะปรับโครงสร้างหนี้มูลค่า 26 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากจำนวนหนี้ทั้งหมดประมาณ 59 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ Dubai World เป็นบริษัท Holding Company ของรัฐดูไบ ซึ่งมีการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (Luxury Real Estate) อาทิ โครงการ Palm Island

.

แม้ว่าที่ผ่านมา รัฐบาลดูไบจะได้เข้าช่วยเหลือ Dubai World ด้วยการเพิ่มทุนกว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและล่าสุดธนาคารกลางของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ประกาศว่าจะให้วงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำแก่สถาบันการเงินที่ได้รับผลกระทบจาก Dubai World การประกาศหยุดพักชำระหนี้ของ Dubai World ในครั้งนี้อยู่เหนือความคาดหมายของนักลงทุนและนักวิเคราะห์ทั่วโลก     

.

โดยหลังการประกาศหยุดพักชำระหนี้ ดัชนีความเสี่ยงของรัฐดูไบ (Credit Default Swap : CDS) ได้ปรับเพิ่มขึ้นจาก 310 เป็น 645 Basis Points และล่าสุดสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Moody’s และ S&P ได้ปรับลด rating หุ้นกู้ของบริษัทในเครือ Dubai World เป็นสถานะไม่น่าลงทุน หรือ Junk Bond Status

.
2. ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) วิเคราะห์ผลกระทบของการประกาศหยุดพักชำระหนี้ต่อเศรษฐกิจไทยต่อภาคการเงิน (Financial Impact) และภาคเศรษฐกิจจริง (Real Sector impact) ดังนี้

.

2.1 ผลกระทบต่อภาคการเงินของไทย การหยุดพักชำระหนี้ของ Dubai World มีผลกระทบต่อภาคการเงินของไทยผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ (1) ผลกระทบทางตรงต่อสถาบันการเงินของไทยที่ได้ปล่อยกู้ให้บริษัท Dubai World (Direct Financial Exposure) (2) ผลกระทบทางอ้อม (Indirect Financial Exposure) อันได้แก่   

.

ผลกระทบต่อสถาบันการเงินไทยจากการลงทุนในตะวันออกกลาง ซึ่งอาจมีความเสี่ยงจากการหยุดพักชำระหนี้ในลักษณะคล้ายคลึงกับ Dubai World และผลต่อตลาดเงินตลาดทุนไทยหากนักลงทุนต่างประเทศที่ตื่นตระหนกจากสถานการณ์ Dubai World ได้ถอนการลงทุนออกจากภูมิภาค ดังแสดงในภาพที่ 1

.

(1) ผลกระทบทางตรงต่อสถาบันการเงินของไทย จากข้อมูลที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ผลกระทบทางตรงต่อสถาบันการเงินของไทยมีไม่มากนักเนื่องจากการลงทุนใน Dubai World มีน้อยมาก กล่าวคือ

.

- ธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่มิได้ปล่อยกู้ให้บริษัท Dubai World  โดยมีเพียง 3 ธนาคารพาณิชย์ได้ปล่อยกู้ให้บริษัท Dubai World  โดยตรงหรือปล่อยกู้ให้บริษัทร่วมทุน (Joint-Venture) กับ Dubai World ทั้งนี้ ยอดรวมการปล่อยกู้มีทั้งสิ้นประมาณ 75 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 2.5 พันล้านบาท

.

- บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนของไทยที่ไปลงทุนในต่างประเทศ (กองทุน FIF) ไม่มีการลงทุนในหุ้นหรือหุ้นกู้ของบริษัทในเครือ Dubai World 

.

- บริษัทประกันภัยของไทยในต่างประเทศ ส่วนใหญ่มิได้มีการลงทุนในบริษัท Dubai World มีเพียงแห่งเดียวที่ได้ลงทุนในหุ้นกู้ระยะยาวของบริษัท Dubai World ในจำนวนที่ไม่มากนักเพียง 75 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 2.5 พันล้านบาท

.

ผลกระทบ : สศค. วิเคราะห์ว่าความเสี่ยวต่อสถาบันการเงินไทยจากการปล่อยกู้และการลงทุนโดยตรงใน Dubai World มีไม่มากนัก เนื่องจากมูลค่าความเสี่ยง (Exposure) คิดเป็นสัดส่วนน้อยเพียงร้อยละ 0.1 ของมูลค่าทรัพย์สินของสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้อง

.

ภาพที่ 1 ผลกระทบจากการหยุดพักชำระหนี้ของ Dubai World ต่อภาคการเงินไทย    

.

(2) ผลกระทบทางอ้อมต่อสถาบันการเงินของไทย ได้แก่ความเสี่ยงจากการลงทุนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับบริษัท Dubai World แต่อาจได้รับผลกระทบจากการประกาศหยุดพักชำระหนี้ของบริษัท Dubai World ได้ โดยแบ่งเป็น

.

- การลงทุนของสถาบันการเงินไทยในตะวันออกกลางซึ่งอาจมีความเสี่ยงจากการหยุดพักชำระหนี้ในลักษณะคล้ายคลึงกับ Dubai World จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่า กองทุนรวมของไทยที่ไปลงทุนในต่างประเทศบางกองได้มีการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลอาบูดาบีและประเทศกาตาร์ และในหุ้นในตะวันออกกลาง ซึ่งไม่มีปัญหาในการชำระหนี้ดังเช่น Dubai World ทั้งนี้ การลงทุนดังกล่าวมีเม็ดเงินรวมทั้งสิ้นจำนวน 1.577 พันล้านบาท

.

ผลกระทบ : สศค.วิเคราะห์ว่า ความเสียหายต่อสถาบันการเงินไทยมีไม่มากนัก เนื่องจากการลงทุนดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับมูลค่าทรัพย์สินของสถาบันการเงิน อีกทั้งสถานะทางการเงินของรัฐอาบูดาบีและรัฐกาตาร์ยังมีความเข้มแข็ง

.

นอกจากนี้สถานการณ์ของ Dubai World ยังไม่มีแนวโน้มที่ว่าจะลุกลามไปสู่ตะวันออกกลาง ดังเห็นได้จากดัชนีความเสี่ยง CDS ของกาตาร์และรัฐอาบูดาบีที่ไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากเท่าดัชนี CDS ของรัฐดูไบนัก

.
ตารางที่ 1 การเปลี่ยนแปลงของ CDS

ที่มา : Reuters, รวบรวมโดย สศค.

.

- ความเสี่ยงจากความตื่นตระหนกของนักลงทุนต่างชาติที่อาจนำไปสู่การไหลออกของเงินทุนจากภูมิภาค  โดยภายหลังการประกาศหยุดพักชำระหนี้ของ Dubai World ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกได้ปรับลดลงต่อเนื่องโดยดัชนีตลาดหุ้นไทย SET ได้ปรับลดลงร้อยละ 1.43 มาอยู่ที่ 685.7 จุด ดัชนี Nikkei ของญี่ปุ่นปรับตัวลดลงร้อยละ 3.2 ดัชนี Hang Seng index ได้ปรับตัวลดลงร้อยละ 4.8   

.

และดัชนี Kospi ของเกาหลีได้ปรับตัวลดลงร้อยละ 4.7 (ภาพที่ 2) ซึ่งสอดคล้องกับการไหลออกของเงินทุนไปสู่ทรัพย์สินที่ปลอดภัยกว่า (Safe Haven) อาทิ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ นอกจากนี้ CDS ของดูไบได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากจาก 310 Basis points มาอยู่ที่ 645 ในขณะที่ CDS ของประเทศในภูมิภาคได้ปรับขึ้นบ้าง (ตารางที่ 1)

.

ภาพที่ 2 Daily Chang ของตลาดหุ้นทั่วโลก

.

ผลกระทบ : สศค.วิเคราะห์ว่า การที่เงินทุนไหลออกจากภูมิภาคไปสู่ Safe Haven นั้นไม่มีผลกระทบต่อไทยมากนัก โดยเห็นได้จากดัชนีความเสี่ยงของประเทศไทย ที่วัดาก CDS ในประเทศไทยทรงตัวในระดับประมาณ 100 Basis Point ไม่ได้เพิ่มขึ้นตาม CDS ของดูไบมากนัก (ตารางที่ 1) สะท้อนถึงมุมมองของนักลงทุนที่มองความเสี่ยงจาก Dubai World ไม่น่ากระทบถึงเศรษฐกิจไทย

.

ประกอบกับในระยะต่อมาที่ CDS ทั่วโลกรวมทั้งดูไบได้ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่าความเสี่ยงดังกล่าวได้ลดลงแล้ว นอกจากนี้ จากสถานะทางการเงินของสถาบันการเงินไทยที่เข้มแข็งดังเห็นได้จากเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (Capital Adequacy Ratio) ที่สูงถึงร้อยละ 16.5 ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานสากลที่ร้อยละ 8.5 ค่อนข้างมาก  

.

อีกทั้งเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของไทย 135.3 พันล้านเหรียญสหรัฐคิดเป็น 5.5 เท่าของมูลค่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้น ทำให้ประเทศไทยมีภูมิคุ้มกันเพียงพอหานักลงทุนต่างชาติเคลื่อนย้ายเงินทุนออกจากประเทศไทยอย่างรวดเร็วอันเป็นผลของความไม่แน่นอนจากสถานการณ์การเงินโลก

.

- ความเสี่ยงของคู่สัญญา (Counterparty Risk) ที่ได้รับความเสียหายจากการปล่อยกู้และลงทุนกับ Dubai World โดยความเสี่ยว Counterparty Risk นี้เกิดขึ้นเมื่อการผิดนัดชำระหนี้ของ Dubai World ทำให้สถานะทางการเงินของคู่สัญญาสั่นคลอนจนอาจถึงขั้นล้มละลายหรือไม่สามารถชำระหนี้ต่อคู่สัญญาฝ่ายไทยได้  

.

จากข้อมูลที่ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า สถาบันการเงินหลักที่ปล่อยกู้ให้กับบริษัทในเครือ Dubai World ได้แก่ Bank of America, Barclays Capital, Calyon, Citi, Deutsche, ING, JPM, HSBC, Lloyds, Morgan Stanley, Nomura, RBS, UBS, และ Dubai Islamic Bank

.

ผลกระทบ : สศค.วิเคราะห์ว่า สถาบันการเงินมี Exposure กับบริษัทในเครือ Dubai World ส่วนใหญ่เป็นสถาบันการเงินในสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปซึ่งยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่จากผลกระทบของวิกฤตการเงินสหรัฐฯ ที่ผ่านมาจึงยังคงมีความเปราะบางในด้านสถานะทางการเงิน อันเป็ฯความเสี่ยงต่อสถาบันการเงินไทยที่ทำธุรกรรมกับสถาบันการเงินเหล่านี้ได้

.

ดังนั้น สศค. เห็นว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรติดตามสถานะทางการเงินของสถาบันการเงินต่างประเทศที่ได้ปล่อยกู้ให้บริษัทในเครือ Dubai World อย่างใกล้ชิด รวมทั้งสถาบันการเงินต่าง ๆ ควรใช้ความระมัดระวังมากขึ้นในการทำธุรกรรมกับสถาบันการเงินเหล่านี้เพื่อป้องกันความเสียหายจาก Counterparty Risk

.

2.2 ผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจจริง (Real Sector impact) การหยุดพักชำระหนี้ของ Dubai World มีผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจจริงของไทยผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ การค้าสินค้าและบริการ การจ้างงาน และการลงทุน

.
(1) ผลกระทบด้านการค้าสินค้าและบริการ มีไม่มากนัก เนื่องจาก

-  การส่งออกสินค้าของไทยไปสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีสัดส่วนที่น้อยเพียงร้อยละ 1.6 ของการส่งออกรวม (ตารางที่ 2) โดยในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2552 ไทยส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มูลค่า 2004.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้หากเศรษฐกิจของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หดตัวลง ก็จะไม่มีผลต่อการส่งออกไทยมากนัก

.

อย่างไรก็ตาม ในหมวดสินค้าส่งออกที่ไทยส่งไปสหรัฐอาหรับเอมิเรตน์ในสัดส่วนที่สูง อันได้แก่ รถยนต์ ข้าว เครื่องปรับอากาศ และวัสดุก่อสร้าง อาจได้รับผลกระทบบ้าง

.
ตารางที่ 2 มูลค่าการส่งออกของไทยไปสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

.

- การนำเข้าสินค้าจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีสัดส่วนประมาณร้อยละ 6.2 ของการนำเข้าโดยรวม  (ตารางที่ 3) โดยสินค้านำเข้าหลักได้แก่ น้ำมันดิบ ซึ่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันขนาดใหญ่อันดับที่ 6 ของโลก

.

โดยสศค. เห็นว่า ผลกระทบจาก Dubai World ต่อการนำเข้าน้ำมันของไทยจะไม่มาก เนื่องจากน้ำมันดิบที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ส่งออกนั้น ส่วนใหญ่เป็นการผลิตจากรัฐอาบูดาบีซึ่งมิได้ประสบปัญหาเช่นเดียวกับรัฐดูไบ

.

ตารางที่ 3 มูลค่าการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 

.

- ภาคการท่องเที่ยวของไทยไม่น่าจะได้รับผลกระทบมากนักเนื่องจากสัดส่วนนักท่องเที่ยวจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีสัดส่วนน้อย โดยจำนวนนักท่องเที่ยวจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ระหว่างเดือนมกราคม – ตุลาคมในปี 2552 มีจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 70,182 คน คิดเป็นสัดส่วน 0.63 ของจำนวนนักท่องเที่ยวมาไทยทั้งหมด (ตารางที่ 4)

.

ดังนั้น หากเศรษฐกิจของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ชะลอตัวลง ก็ไม่น่ากระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวโดยรวมมากนัก อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นกลุ่มที่มีการจับจ่ายใช้สอยในประเทศไทยสูง จึงอาจมีผลกระทบต่อรายได้ของภาคการท่องเที่ยวได้

.
ตารางที่ 4 สถิตินักท่องเที่ยวจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ที่มา : CEIC
.

ผลกระทบ : สศค.วิเคราะห์ว่า จากมูลค่าการส่งออกและนำเข้าสินค้าและจำนวนนักท่องเที่ยวจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีสัดส่วนน้อย ทำให้การประกาศหยุดพักชำระหนี้ของ Dubai World ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศและการท่องเที่ยวของไทยมากนัก

.
(2) ผลกระทบด้านการจ้างงาน

จากข้อมูลที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า แรงงานไทยที่จดทะเบียนไปทำงานในดูไบกับกรมการจัดหางานระหว่างเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2552 มีจำนวนทั้งสิ้น 5,084 คน (ตารางที่ 5) นอกจากนี้ ทราบว่า Dubai World ได้ปลดคนงานถึงร้อยละ 15 ของจำนวนคนงานทั้งหมดในเงินตุลาคม 2552 ที่ผ่านมา

.

ตารางที่ 5 จำนวนแรงงานไทยในรัฐดูไบที่จดทะเบียนกับกรมการจัดหางาน 

ที่มา : กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน
.

ผลกระทบ : สศค.วิเคราะห์ว่า แรงงานไทยในดูไบอาจได้รับผลกระทบจากการปลดคนงานใน Dubai World และการชะลอตัวของเศรษฐกิจในรัฐดูไบ ดังนั้น ควรมีมาตรการรองรับผลกระทบต่อแรงงานไทยเหล่านี้ อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์แรงงานในประเทศที่ดีขึ้นในปัจจุบัน  

.

ดังเห็นได้จากตัวเลขการว่างงานในเดือนกันยายน 2552 ที่มีอยู่เพียงประมาณ 4.5 แสนคน (ร้อยละ 1.2 ของแรงงานทั้งหมด) ดังนั้น คาดว่าตลาดแรงงานไทยจะสามารถรองรับหากคนงานไทยในดูไบกลับมาทำงานในประเทศได้

.

(3) ผลกระทบด้านการลงทุน การลงทุนของไทยในดูไบมีไม่มากนัก ขณะเดียวกัน การลงทุนโดยตรงจากดูไบมาประเทศไทยส่วนใหญ่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ Dubai World โดยจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่า

.

- การลงทุนโดยตรงของไทยในดูไบส่วนใหญ่อยู่ในสาขารับเหมาก่อสร้าง โดยมีบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ของไทยแห่งหนึ่งที่เคยได้รับงานก่อสร้างจากบริษัท Dubai World อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันบริษัทนี้มิได้รับงานเพิ่มเติมจาก Dubai World แล้ว อีกทั้งยังได้ปิดความเสี่ยงจกการค้างชำระหนี้ของ Dubai World โดยได้ตั้งหนี้สูญ

.

- การลงทุนของดูไบในไทยส่วนใหญ่อยู่ธุรกิจโรงแรมหรูหรา  จากข้อมูลสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (Board of Investment : BOI) สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นับเป็นนักลงทุนที่สำคัญระดับหนึ่งของไทย โดยระหว่างปี 2004 ถึงปัจจุบัน BOI ได้มีมูลค่าการลงทุนจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่ได้รับการอนุมัติจาก BOI แล้วประมาณ 12 พันล้านบาท

.

ทั้งนี้ การลงทุนส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 91 อยู่ในสาขาโรงแรม (ตารางที่ 6) และจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า บริษัทในเครือของ Dubai World ได้ร่วมลงทุนใน Luxury Hotel 2 แห่งในใจกลางเมืองกรุงเทพมูลค่าการลงทุน 11,019 ล้านบาท

.
ตารางที่ 6 การลงทุนของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่ได้รับการอนุมัติจาก BOI ระหว่างปี 2004 – ปัจจุบัน

ที่มา : BOI และประมวลโดย สศค.
.

ผลกระทบ : สศค. วิเคราะห์ว่าสำหรับการลงทุนที่ Dubai World ได้ลงทุนไปแล้ว ส่วนใหญ่อยู่ในทรัพย์สินที่มีคุณภาพสูง จึงน่าจะมีผู้สนใจมากซื้อหากผู้ลงทุนเดิมต้องการขาย อย่างไรก็ตาม ปัญหาการพักชำระหนี้ของ Dubai World อาจส่งผลต่อการลงทุนใหม่ได้

.
3. แนวนโยบายของรัฐบาลในการดูแลความผันผวนจากเหตุการณ์การเงินในดูไบ

สศค. วิเคราะห์ว่า แม้ว่าความผันผวนจากเหตุการณ์การหยุดพักชำระหนี้ของ Dubai World ในครั้งนี้ จะไม่ได้มีผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อประเทศไทยมากนัก

.

อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวยังมีความเสี่ยงที่อาจลุกลามไปสู่สถาบันการเงินอื่น ๆ ของโลกและอาจเป็นต้นกำเนิดของวิกฤติเศรษฐกิจก็ได้ ดังนั้น เพื่อให้สามารถวิเคราะห์และติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจการเงินของโลกได้อย่างใกล้ชิด ประเทศไทยควรมีมาตรการรองรับดังนี้

.
ในระยะสั้น

1. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจการเงินโลกอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด โดยใช้กลไกการประชุม Emergency Economic Resolution Committee ที่มีกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เป็นคณะทำงานร่วมอยู่ด้วย

.
2. ควรมีมาตรการรองรับผลกระทบต่อแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากการปลดคนงานไทยในรัฐดูไบ
.
ในระยะปานกลางถึงยาว

1. ประสานความร่วมมือกับประเทศสมาชิก ASEAN+3 ผ่านกลไกความร่วมมือการเงินเชียงใหม่ (Chiang Mai Initiative) ที่ประเทศสมาชิกอาเซียน+3 (เกาหลี ญี่ปุ่น จีน) ในเรื่องความช่วยเหลือทางการเงินระหว่างกันหากประเทศสมาชิกประสบปัญหาดุลชำระเงินหรือปัญหาเงินทุนไหลออกฉับพลัน

.

2. ควรมีการดำเนินนโยบายเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจภายในประเทศ เพื่อทดแทนการพึ่งพาการส่งออก

.

โดยสรุป ผลกระทบของการหยุดพักชำระหนี้ของ Dubai World ผ่านภาคการเงิน (Financial Impact) อยู่ในวงจำกัด เนื่องจาก สถาบันการเงินไทยส่วนใหญ่ไม่มี Exposure กับกลุ่มบริษัท Dubai World และมีการลงทุนในตะวันออกกลางน้อยมาก กอปรกับ ฐานะการเงินของสถาบันการเงินไทยที่เข้มแข็ง

.

อย่างไรก็ตามตลาดทุนตลาดเงินไทยอาจได้รับผลกระทบทางอ้อมจากความผันผวนของตลาดเงินตลาดทุนบ้าง ผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจจริง (Real Sector impact) ทั้งในด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวก็อยู่ในวงจำกัด เช่นกัน เพราะการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างไทยและรัฐดูไบคิดเป็นสัดส่วนที่น้อย

.

1ผู้เขียน ดร.ศรพล ตุลยะเสถียร, CFA, FRM และ ดร.สิริกมล  อุดมผล ส่วนการวิเคราะห์เสถียรภาพเศรษฐกิจ สำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ขอขอบคุณ ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค และคุณพงศ์นคร  โภชากรณ์ ผู้อำนวยการส่วนแบบจำลองและประมาณการเศรษฐกิจ สำหรับข้อมูลและคำแนะนำในการเขียนบทความนี้

.
ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง