เนื้อหาวันที่ : 2009-12-22 09:09:41 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 596 views

กรณ์ฝันปีหน้าศก.โตต่อเนื่อง สร้างความเท่าเทียมในสังคม

ขุนคลัง เชื่อเศรษฐกิจไทยปี 53 ไปได้สวยคาดโตต่อเนื่อง เพ้อเป็นปีแห่งการสร้างความเท่าเทียมในสังคม ลั่นคลังพร้อมผลักดันกม.ภาษีที่ดินฯ        

.

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในงานสัมนา The New Term Outlook "Thai Economic" ว่า ทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 53 เชื่อว่าจะเป็นปีของการสร้างโอกาสที่เท่าเทียมกันในประชาชนทุกระดับ

.

โดยกระทรวงการคลังพร้อมที่จะผลักดันการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จากปัจจุบันที่ไม่มีการจัดเก็บภาษีที่ดิน ทำให้โครงสร้างของระบบภาษีไม่เป็นธรรม เนื่องจากเป็นการจัดเก็บภาษีจากรายได้ ไม่ใช่การจัดเก็บจากทรัพย์สิน

.

นอกจากนี้ รัฐบาลจะสนับสนุนการสร้างความโปร่งใสด้านการพาณิชย์ เพิ่มการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน โดยพยายามดึงเม็ดเงินลงทุนจากประเทศในอาเซียน ซึ่งมีประชากรกว่า 600 ล้านคน ซึ่งเมื่อเทียบกับไทยที่มีประชากร  60 ล้านคน เพื่อเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น

.

ส่วนกรณีโครงการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดที่ศาลปกครองสั่งระงับ 65 โครงการลงทุน อเป็นกรณีที่ไทยจะต้องสร้างความสมดุลระหว่างการพัฒนาอุตสาหกรรมและสิ่งแวดล้อม  และกรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องที่ดีที่รัฐบาลจะได้เร่งแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็ว และให้ตรงจุด เพราะยิ่งแก้ปัญหาได้เร็ว ยิ่งเป็นผลดีต่อประเทศ

.

รมว.คลัง กล่าวว่า ในปี 53 เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยขณะนี้มีสัญญาณที่ดีขึ้นทั้งจากภาคการท่องเที่ยว โดยล่าสุด เดือนพ.ย.52 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ ขยายตัวถึง 24% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ดัชนีการลงทุนภาคอุตสาหกรรม เดือน พ.ย. อยู่ในระดับเกิน 100 เป็นครั้งแรกในรอบ 42 เดือน ซึ่งถือเป็นทิศทางที่ดีของประเทศ

.

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นปี 52 รัฐบาลได้มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ในช่วงเดือน ม.ค.-ต.ค.52 และหลังจากนั้น ได้ออกเป็นมาตรการดูแลเศรษฐกิจในระยะปานกลางและระยะยาว  และในปี 53 การดำเนินนโยบายต่างๆ เพื่อดูแลเศรษฐกิจยังคงมีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการที่มีความชัดเจนแล้ว

.

เช่น โครงการประกันราคาพืชผลการเกษตร ยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง และยังคงมีโครงการจัดตั้ง ธนาคารเพื่อรายย่อย (Micro finance)  เพื่อต่อยอดโครงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ

.

"และในปี 53 คาดว่าจะมีการเบิกจ่ายงบลงทุนในโครงการไทยเข้มแข็ง ถึง 3 แสนล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 3.5% ของจีดีพี ส่วนใหญ่จะลงในโครงการโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ" รมว.คลัง กล่าว