บีโอไอ จัดสัมมนาใหญ่ สร้างความเข้าใจให้นักธุรกิจไทย-บังกลาเทศ เล็งพัฒนาความร่วมมือด้านการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศ ชี้โอกาสนักธุรกิจไทยขยายลู่ทางสู่ตลาดการค้าในภูมิภาค
บีโอไอ จัดสัมมนาใหญ่ สร้างความเข้าใจให้นักธุรกิจไทย-บังกลาเทศ เล็งพัฒนาความร่วมมือด้านการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศ ชี้โอกาสนักธุรกิจไทยขยายลู่ทางลงทุนด้านอุตฯ สิ่งทอ อิเล็กทรอนิกส์ ไอที เกษตรแปรรูป และเครื่องหนัง เพื่อเปิดตลาดการค้าในภูมิภาค |
. |
. |
นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ เปิดเผยภายหลังร่วมงาน สัมมนา “บังกลาเทศ:โอกาสทองการลงทุน” ซึ่งบีโอไอและ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงธากา และหอการค้าไทย-บังกลาเทศ |
. |
จัดขึ้นโดยมีนาย Faruk Khan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์บังกลาเทศ เป็นประธาน ในโอกาสนำคณะนักธุรกิจของบังกลาเทศกว่า 40 ราย เดินทางมาดูลู่ทางการลงทุนในประเทศไทย ว่า บังกลาเทศเป็นตลาดใหม่ที่น่าสนใจ และเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศ |
. |
ซึ่งบีโอไอจะเร่งส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศให้มีการเติบโตเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันไทยและบังกลาเทศมีมูลค่าทางการค้าระหว่างกันประมาณ 539.76 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีนักธุรกิจไทยไปลงทุนในบังกลาเทศถึง 53.66 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2547 |
. |
ทั้งนี้บีโอไอมีเป้าหมายที่จะมุ่งเน้นการส่งเสริมการลงทุนระหว่างกันทั้ง 2 รูปแบบ ทั้งการชักจูงให้นักธุรกิจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย และส่งเสริมให้นักลงทุนของไทยเข้าไปลงทุนในบังกลาเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมที่บังกลาเทศมีศักยภาพค่อนข้างสูง โดยเฉพาะสิ่งทอเป็นอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตมากที่สุดในบังกลาเทศ คิดเป็นร้อยละ 70 ของสินค้าส่งทั้งหมดของประเทศ |
. |
ส่วนอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ บังกลาเทศกำลังจะเป็นตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียใต้ เพราะได้รับความร่วมมือจากบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ของยุโรปและเอเชียหลายแห่งมาช่วยพัฒนาระบบการสื่อสารและโทรคมนาคม |
. |
นอกจากนี้ ธุรกิจไอที มีอัตราการเติบโตอย่างมาก เนื่องจากนักเรียนนักศึกษาสนใจทางด้านไอทีและวิศวกรรมมากขึ้น ส่วนการแปรรูปผลิตผลทางการเกษตร บังกลาเทศก็มีศักยภาพในการผลิตผลไม้และน้ำผลไม้กระป๋อง ผลิตภัณฑ์จากนมและเนื้อสัตว์ปีก เพราะมีวัตถุดิบในการผลิตมาก |
. |
สำหรับอุตสาหกรรมเครื่องหนัง บังกลาเทศก็มีศักยภาพในการผลิตเครื่องหนังและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากหนัง และเป็นแหล่งผลิตเครื่องหนังร้อยละ 2-3 ของตลาดโลก เนื่องจากมีแรงงานและวัตถุดิบ นอกจากนี้ บังกลาเทศยังมีตลาดในประเทศขนาดใหญ่จากจำนวนประชากรที่มีมากถึง 159 ล้านคนมากเป็นอันดับ 7 ของโลก |
. |
“เป็นโอกาสดีที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์บังกลาเทศ นำคณะนักธุรกิจของบังกลาเทศมาดูลู่ทางการลงทุนในประเทศไทยในครั้งนี้ซึ่งการสัมมนาจะทำให้นักธุรกิจได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการเสริมสร้างและกระตุ้นการค้า |
. |
และการลงทุนระหว่างกันในขณะเดียวกันยังเปิดโอกาสให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชนของทั้งสองฝ่าย ได้มีโอกาสพบปะหารือถึงปัจจัยการส่งเสริม ลู่ทางการทำธุรกิจ และปัญหาและอุปสรรคเพื่อส่งเสริมและเพิ่มโอกาสทางการค้าการลงทุนระหว่างกันมากขึ้นในอนาคตอีกด้วย” รองเลขาธิการบีโอไอกล่าว |
. |
นางสาวอัจฉรินทร์ กล่าวด้วยว่า ไทยและบังกลาเทศมีโอกาสขยายการค้าและการลงทุนร่วมกันอีกมาก โดยได้มีการเซ็นข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกันมาตั้งแต่ปี 2525 โดยบังคลาเทศเป็นประเทศที่มีความพร้อมและศักยภาพสูงในการรองรับการลงทุนจากต่างประเทศผ่านนโยบายต่างๆ |
. |
เช่น การเปิดให้สิทธิพิเศษส่งเสริมการลงทุนซึ่งนับว่าบังคลาเทศมีนโยบายทางเศรษฐกิจและการลงทุนที่นับว่าเปิดกว้างมากที่สุดในเอเชีย ซึ่งหลังจากการจัดสัมมนาครั้งนี้ บีโอไอ และบังกลาเทศจะได้พัฒนาความสัมพันธ์ร่วมกันในลักษณะความร่วมมือในด้านอื่น ๆต่อไป |
. |
สำหรับปี 2551 ที่ผ่านมา บีโอไอ ได้อนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนแก่โครงการด้านสิ่งทอจากบังกลาเทศไปแล้วจำนวนหนึ่ง ในขณะที่ การลงทุนของบังกลาเทศในไทย แม้จะไม่ใช่โครงการขนาดใหญ่แต่ก็เป็นโครงการที่มีความสำคัญและมีโอกาสที่จะพัฒนาศักยภาพได้อีกมาก |