เนื้อหาวันที่ : 2009-12-12 20:31:39 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1309 views

มาร์คหยอดคำหวานอุตฯยานยนต์ไทยยังแกร่ง แต่เอกชนยังต้องปรับตัว

อภิสิทธิ์ ชี้จุดแข็งอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยคือการสร้างฐานการผลิตที่ใหญ่ และเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง แต่เอกชนยังต้องปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลง ระบุรัฐเน้นพัฒนาพลังงานทดแทนพร้อมหนุนพัฒนาต้นแบบเทคโนโลยีพลังงานทดแทนใหม่

อภิสิทธิ์ ชี้จุดแข็งอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยคือการสร้างฐานการผลิตที่ใหญ่ และเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง แต่เอกชนยังต้องปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลง ระบุรัฐเน้นพัฒนาพลังงานทดแทนพร้อมหนุนพัฒนาต้นแบบเทคโนโลยีพลังงานทดแทนใหม่

.

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

.

นายกรัฐมนตรี ได้แสดงปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อเรื่อง ทิศทางอนาคตอุตสาหกรรมยานยนต์และพลังงานไทย เนื่องในโอกาสการจัดงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26 จัดโดยบริษัทสื่อสากล จำกัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

.

เมื่อวันที่ 11 ธันวามคม เวลา 14.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้แสดงปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อเรื่อง "ทิศทางอนาคตอุตสาหกรรมยานยนต์และพลังงานไทย" เนื่องในโอกาสการจัดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" จัดโดยบริษัทสื่อสากล จำกัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

.

โดยมีผู้บริหารระดับสูงของบริษัทตัวแทน จำหน่ายรถยนต์ในประเทศไทยและผู้ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ ตลอดจนสื่อมวลชนและประชาชนเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี 

.

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดความยินดีที่ได้มีโอกาสมาพบกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัทตัวแทน จำหน่ายรถยนต์ในประเทศไทยและผู้ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ ในวันนี้ ซึ่งทุกคนถือว่าเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ให้ก้าวหน้า และ เป็นผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศโดยรวม

.

พร้อมกล่าวแสดงความเห็นใจต่อผู้ประกอบการทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจทางการเงินในสหรัฐอเมริกาในช่วงที่ผ่านมา เพราะเมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้นโดยเฉพาะในประเทศคู่ค่าที่สำคัญของไทยย่อมส่งผลกระทบต่อเรื่องของความต้องการสินค้าและการส่งออกจากประเทศไทย

.

นั่นหมายถึงความยากลำบากที่เกิดขึ้นในการประกอบกิจการและธุรกิจที่ส่งผลไปถึงผู้ประกอบกิจการรวมไปถึงผู้ที่ทำงานในอุตสาหกรรมยานยนต์ตลอดจนกิจการอื่นที่เกี่ยวเนื่อง โดยเห็นได้ยอดจำหน่ายสินค้าต่างๆ รวมถึงยอดจำหน่ายรถยนต์ ในช่วง 7-8 เดือนแรกของปีนี้ ได้ลดลงจากช่วงเดียวกันซึ่งถ้าเทียบปีต่อปีก็อาจลดลงร้อยละ 20-30

.

อย่างไรก็ตามภาพรวมของตัวเลขทางเศรษฐกิจในไตรแรกจากที่ติดลบ ร้อยละ 7.1 ก็ได้ลดลงโดยตัวเลขล่าสุดในไตรมาสที่ 3 ปี2552 ก็ติดลบเพียงร้อยละ 2.8 และคาดว่าในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ก็จะกลับมาขยายตัวเป็นบวก ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2553 นั้นคาดว่าจะขยายตัวอยู่ประมาณร้อยละ 3-4 ซึ่งแม้อาจจะยังไม่สูงเท่ากับภาวะปกติแต่ก็ถือเป็นการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งพอสมควร

.

โดยในขณะนี้ได้รับทราบว่าการสนับสนุนของบริษัทรถยนต์แม่เริ่มกลับมา ในขณะที่คำสั่งซื้อรถและอะไหล่ ตลอดจนชิ้นส่วนต่าง ๆ ก็เริ่มขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทที่เคยเลิกจ้างแรงงานไปชั่วคราว ก็ได้เรียกพนักงานกลับเข้าประจำการ พร้อมเดินเครื่องสายพานการผลิตที่หยุดไปตั้งแต่ช่วงกลางปีอีกครั้งหนึ่ง

.

ปรากฏการณ์เหล่านี้เป็นนิมิตที่ดีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ และจากการสอบถามผู้จัดงานถึงยอดผู้เข้าชมงานในครั้งนี้ได้รับทราบว่ามีผู้เข้าชมงานและยอดขายก็ได้เพิ่มขึ้นในอัตราที่ค่อนข้างสูงซึ่งคาดว่าจะเป็นสัญญาณที่ดีว่าขณะนี้ในแง่ของกระบวนการการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์นั้นค่อนข้างเป็นรูปธรรมและน่าจะนำไปสู่ความเชื่อมั่นต่อเนื่องในแง่ของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในภาพรวมต่อไป

.

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงอุตสาหกรรมไทยที่จะสามารถแข่งขันกับประเทศซึ่งมีต้นทุนการผลิตต่ำกว่าว่า จะต้องใช้ประโยชน์จากจุดแข็งที่มีอยู่พร้อม ๆ กับการรู้จักปรับตัวเข้าหาแนวโน้มหรือความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต สำหรับจุดแข็งอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยนั้น สิ่งที่ชัดเจนคือการที่ประเทศไทยได้สร้างฐานการผลิตที่ใหญ่ และเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง

.

ซึ่งอุตสาหกรรมดังกล่าวได้ถือกำเนิดมาตั้งแต่ พ.ศ.2500 หรือเมื่อราว 50 ปี ปัจจุบันมีปริมาณการผลิตถึงกว่า 1 ล้านคันต่อปี โดยกว่าร้อยละ 50 เป็นการผลิตเพื่อส่งออก โดยได้มีการคาดการณ์กันไว้ว่าภายใน 2-3 ปี ข้างหน้า จะมีกำลังผลิตถึง 2 ล้านคันต่อปี และในอีกประมาณ 5-6 ปี อาจจะผลิตได้มากถึง 2.5 ล้านคันต่อปี

.

ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์มากเป็นอันดับ 10 ของโลก และหากดูจากแนวโน้มเช่นนี้ก็จะถือเป็นจุดแข็งจุดหนึ่งที่จะสามารถสร้างความได้เปรียบในแง่ของกระบวนการเรียนรู้ ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยี ที่จะมีการถ่ายทอด การมีทักษะของบุคลากรโดยจะต้องพัฒนาในเรื่องดังกล่างอย่างต่อเนื่อง

.

นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงปัจจัยสำคัญต่อการดำเนินงานของอุตสาหกรรมยานยนต์ว่า นอกจากปัจจัยด้านการฟื้นตัวของเศรษฐกิจแล้ว ยังมีปัจจัยด้านอื่นที่มีความสำคัญ เช่น ปัจจัยด้านผู้บริโภค ที่มีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น

.

โดยปัจจัยด้านราคาน้ำมันซึ่งเมื่อมีแนวโน้มว่าจะมีราคาสูงขึ้นมากในอนาคตก็ทำให้ประชาชนตัดสินใจที่จะซื้อรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานมากกว่ารถที่ใช้เชื้อเพลิงสิ้นเปลือง เป็นต้น

.

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยในเรื่องของการแข่งขัน โดยเฉพาะจากประเทศจีนหรืออินเดีย ดังนั้นตรงนี้รัฐบาลและเอกชนจะต้องมีการทำความเข้าใจร่วมกันโดยตลอด เพื่อวางแนวทางแผนงานยุทธศาสตร์ในการที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง เพื่อที่จะสามารถรักษาและขยายฐานของการผลิตในส่วนนี้ไว้ได้

.

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนโยบายส่งเสริมประหยัดพลังงานว่า แผนหนึ่งที่มีความสำคัญคือการจัดทำแผนการพัฒนาพลังงานทดแทน 15 ปี ระหว่างปี 2551 -2565 โดยมีการวางเป้าหมายว่าสัดส่วนของการใช้พลังงานทดแทนจะต้องเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 6 ในปัจจุบันเป็นร้อยละ 20 ภายในปี 2565 โดยรัฐบาลจะมีแรงจูงใจต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการลงทุนในเรื่องของพลังงานทดแทนมากยิ่งขึ้น

.

ทั้งนี้แผนฯ ดังกล่าวได้กำหนดแนวทางการพัฒนาพลังงานทดแทนคือ ระยะแรกประมาณ 3-4 ปี จะมุ่งในเรื่องของการส่งเสริมเทคโนโลยีพลังงานทดแทนที่ได้รับการยอมรับ เช่น เชื้อเพลิงชีวภาพ ได้แก่ เอทานอล ไบโอดีเซลและไฮโดรเจน การผลิตไฟฟ้าและความร้อนจากชีวมวลและก๊าซชีวภาพ เป็นต้น

.

หลังจากนั้นก็จะมุ่งส่งเสริมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีพลังงานทดแทน และสนับสนุนพัฒนาต้นแบบเทคโนโลยีพลังงานทดแทนใหม่ ๆ ให้มีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาต้นแบบ Green City และสร้างความเข้มแข็งให้แก่การผลิตพลังงานทดแทนระดับชุมชน

.

ส่วนในระยะยาวระหว่างพ.ศ. 2560 - 2565 จะส่งเสริมเทคโนโลยีพลังงานทดแทนใหม่ ๆ ที่มีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ อาทิ พลังงานไฮโดรเจน รวมถึงการขยายผล Green City และพลังงานชุมชน

.

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความชื่นชมในความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของผู้ประกอบการและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ที่ได้มาประชุมโดยพร้อมเพรียงกันในวันนี้ พร้อมกล่าวขอบคุณคณะผู้จัดงาน"มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26" ที่ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้มีความเข้มแข็ง และเจริญรุดหน้ามาอย่างต่อเนื่อง

.

และยืนยันว่ารัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมดังกล่าวและพร้อมที่จะดำเนินการช่วยผลักดัน ให้ความสำเร็จเกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีกับประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยรัฐบาลมีความตั้งใจที่จะทำงานกับทุกคนอย่างใกล้ชิดและเป็นรูปธรรมต่อไป 

.
ที่มา : เว็บไซต์รัฐบาลไทย