News & Movement

ABB in DCD Focus on Thailand Conference & Expo

          บริษัท เอบีบี จำกัด ผู้นำด้านเทคโนโลยีไฟฟ้ากำลัง ร่วมออกบูธในงานสัมมนาเชิงวิชาการ Datacenter Dynamics Focus Event ที่โรงแรม Swissotel Le Concorde ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับอนาคตธุรกิจ Data Center ในประเทศไทย โดยงานนี้เอบีบีได้นำผลิตภัณฑ์ระบบตู้ MV, LV, MNS, ตู้ PDU, ตู้ UPS มาจัดแสดง พร้อมอธิบายระบบการจัดการข้อมูล Data Center Infrastructure Management (DCIM ) ให้กับลูกค้าและผู้ใช้งานที่สนใจในระบบนี้

พิธีลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU)

          มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้มีพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) กับ Nine Colleges of National Institute of Technology (NIT) in Kyushu Okinawa Region (KOSEN) ประเทศญี่ปุ่น ขึ้น โดยมี รศ. ดร.ศักรินทร์ ภูมิรัตน อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, Dr.Tetsuji Chohji, Dr.Hirofumi Kuwabara และ Mr.Johji Mikawa จาก the NITs of Kagoshima, Miyakonojo and Kurume ร่วมลงนาม โดยพิธีลงนามความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการลงนามในระดับมหาวิทยาลัยซึ่งให้ความสำคัญกับการแลกเปลี่ยนนักศึกษาระหว่างกัน โดยมี ผศ.ดร.กิติเดช สันติชัยอนันต์ คณบดี คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีเป็นผู้ประสานงานหลัก

มหาวิทยาลัยเอเชีย-แปซิฟิก นำคณะนักศึกษาหลักสูตรนานาชาติสาขาวิชา CIS เยี่ยมชมเมโทรซิสเต็มส์ฯ (MSC)

          คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนานาชาติเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่จัดการศึกษาด้านบริหารธุรกิจ ทั้งในระดับปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษา ตั้งอยู่ที่อำเภอมวกเหล็ก จ.สระบุรี นำคณะนักศึกษาระดับปริญญาตรี หลักสูตรนานาชาติสาขาวิชา CIS หรือ  Computer Information Systems พร้อมอาจารย์ จำนวน 30 คน เข้ารับฟังการบรรยายความรู้ด้านไอทีที่น่าสนใจจาก นายยงยุทธ ศรีวันทนียกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการกลุ่มผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์โซลูชั่น บริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยมี นายมีลาภ โสขุมา Product Manager ร่วมบรรยาย นอกจากนี้ ยังได้ไปเยี่ยมชมศูนย์สาธิตเทคโนโลยีสารสนเทศต่าง ๆ ภายในบริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่

ดาว ประเทศไทย ออกรอบกระชับมิตร ขอบคุณลูกค้า

          กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย นำโดย นายจิรศักดิ์ สิงห์มณีชัย (ที่ 3 จากขวา) กรรมการผู้จัดการ และ นายฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย (ที่ 4 จากซ้าย) ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด จัดงานกอล์ฟสังสรรค์สำหรับลูกค้าของบริษัทฯ ประจำปี 2559 (Customer Appreciation Day 2016) เป็นปีที่ 15 ติดต่อกัน ทั้งนี้เพื่อกระชับความสัมพันธ์และแสดงความขอบคุณที่ให้การสนับสนุนทางธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีลูกค้าเข้าร่วมงาน ณ สนามอมตะ สปริง คันทรี คลับ จ.ชลบุรี ทั้งสิ้น 117 ท่าน จาก 87 บริษัทในอุตสาหกรรมเคมี พลาสติก สารเคลือบผิว ก่อสร้าง ไฟฟ้า การสื่อสารโทรคมนาคม และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

เอบีบีร่วมออกบูธงาน 6th Myanmar Oil & Gas Exhibition 2016

          บริษัท เอบีบี จำกัด ผู้นำด้านเทคโนโลยีไฟฟ้ากำลังและเทคโนโลยีอัตโนมัติระดับโลก ร่วมออกบูธงาน Myanmar Oil & Gas Exhibition 2016 ครั้งที่ 6 งานนิทรรศการเกี่ยวกับอุตสาหกรรมแก๊สและน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดและยาวนานที่สุดในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรม Sedona ในนครย่างกุ้ง โดยงานนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับอนาคตและโอกาสในธุรกิจน้ำมันและแก๊สทั้งบนบกและนอกฝั่งของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา อนาคตธุรกิจอู่ต่อเรือ และผลกระทบทางด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมในการดำเนินงานเกี่ยวกับธุรกิจนี้ โดยเอบีบีได้มีโอกาสนำเสนอผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยีล่าสุดที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในอุตสาหกรรมน้ำมันและแก๊ส ที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้กับลูกค้าและผู้ที่สนใจภายในงาน

โตโยต้า เปิดตัว ฟอร์จูนเนอร์ รุ่นพิเศษ TRD Sportivo ความท้าทายแห่งศักดิ์ศรีที่เหนือกว่า

         นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และ นางสาวอัญญารัตน์ สุทธิเบญจกุล รองผู้อำนวยการโครงการสายงานวางแผนผลิตภัณฑ์ในภูมิภาค บริษัท โตโยต้า มอเตอร์เอเชีย แปซิฟิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอร์ริ่ง ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวรถเอนกประสงค์รุ่นใหม่ Fortuner TRD Sportivo ความท้าทายแห่งศักศรีที่เหนือกว่า โดยมี นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และ นายนิกร ประเสริฐสม ที่ปรึกษาบริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมเป็นเกียรติในงาน ณ K village สุขุมวิท 26

เปิดโลกธุรกิจอุตสาหกรรม

          ดร.วิฑูรย์ สิมะโชคดี อดีตปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษให้กับผู้เรียนในหลักสูตรวิชาชีพที่ปรึกษาในหัวข้อ เปิดโลกธุรกิจอุตสาหกรรม เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับอุตสาหกรรม 4.0 และสนับสนุนการสร้างที่ปรึกษาเพื่อเป็นพี่เลี้ยงให้ภาคอุตสาหกรรม ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยมี ศ.ดร.วัลลภ รัฐฉัตรานนท์ (ที่ 3 จากขวา) ผู้อำนวยการศูนย์สานสัมพันธ์จับคู่ธุรกิจระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พร้อมด้วย ดร.วิริยะ ลิขิตวงศ์ (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้อำนวยการหลักสูตรวิชาชีพที่ปรึกษาธุรกิจ ให้การต้อนรับ ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน

โฉมใหม่ Thailand Property Awards 2016

          การประกาศรางวัล Thailand Property Awards 2016 ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 11 มร.เทอรี่ แบล็คเบิร์น ผู้สร้างเวที Oscars of Thailand property and real estate industry ให้ความมั่นใจว่า ภายใต้การบริหารงานโดย บริษัท พร็อพเพอร์ตี้กูรู อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ดำเนินงานเว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์แถวหน้าของเอเชียแปซิฟิก เมื่อผนึกกับความชำนาญการบริหารการจัดงานประกาศรางวัลของ เอ็นไซน์ มีเดีย ซึ่งจัดงานต่อเนื่องมาถึงทศวรรษ เป็นการเสริมจุดแข็งของทั้งสองฝ่ายเข้าด้วยกัน และในครั้งนี้ยังเป็นครั้งแรกของคณะกรรมการชุดใหม่ซึ่งเข้ามาแทนชุดเก่าที่หมดวาระ การลุ้นว่าใครจะเป็น 1 ในผู้ได้รับรางวัลบนเวทีปีนี้จึงน่าตื่นเต้นเพิ่มขึ้นทวีคูณ

กรมโรงงานฯ นำ DIW TEAM ตรวจวัดค่าน้ำในคลองประเวศบุรีรมย์

          ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมและรองโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม นำเจ้าหน้าที่ DIW TEAM ชุดปฏิบัติการฉุกเฉินตรวจสอบมลพิษของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ตรวจวัดค่าคุณภาพน้ำในคลองประเวศบุรีรมย์ บริเวณหน้าวัดลานบุญ ซึ่งมีโรงงานตั้งอยู่ถึง 47 โรง แต่จากการตรวจวัดค่าน้ำไม่พบน้ำเสียแต่อย่างใดและคุณภาพน้ำในคลองมีคุณภาพดี โดยกิจกรรมลงพื้นที่ตรวจสอบคุณภาพน้ำ จัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ คลองประเวศบุรีรมย์ ชุมชนวัดสังฆราชา เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ

เลอโนโว เปิดตัวกองทัพผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อม อินเทล คอร์ โปรเซสเซอร์ เจเนอเรชั่น 6 รุ่นล่าสุดจาก Intel

          คุณถกล นิยมไทย ผู้จัดการประจำประเทศไทยฝ่ายผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์ เลอโนโวประเทศไทย (กลาง) คุณจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร กรรมการผู้จัดการ เลอโนโวประเทศไทย (ขวา), คุณสนธิญา หนูจีนเส้ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ล่าสุดจาก เลอโนโว ที่มาพร้อม อินเทล คอร์ โปรเซสเซอร์ เจเนอเรชั่น 6 รุ่นล่าสุดจาก Intel ประกอบไปด้วย YOGA Series ที่ตอบโจทย์การใช้งานทุกไลฟ์สไตล์, Lenovo Y-Series Gaming สเปคจัดเต็ม สุดยอดความแรงเหนือใคร เหมาะสำหรับเกมเมอร์ และดีไวซ์สุดคล่องตัวที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับไลฟ์สไตล์การทำงาน

อิออน จัดการแข่งขันกอล์ฟกระชับมิตรกับพันธมิตรทางธุรกิจ พร้อมนำรายได้สมทบทุนมูลนิธิเด็กโรคหัวใจ

          คุณยาซูฮิโกะ คอนโดะ (ที่ 2 จากขวา) กรรมการผู้จัดการ และ คุณนันทวัฒน์ โชติวิจิตร (ที่ 2 จากซ้าย) กรรมการบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ คุณสุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ (กลาง) กรรมการและประธานคณะที่ปรึกษา บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด เปิดการแข่งขันกอล์ฟกระชับมิตร AEON Golf Match 2016 เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ และขอบคุณพันธมิตรทางธุรกิจที่ให้การสนับสนุนอิออนด้วยดีตลอดมา โดยภายในงานมูลนิธิอิออนประเทศไทย ได้ดำเนินการจัดหาทุนจากผู้เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อมอบให้กับมูลนิธิเด็กโรคหัวใจ ในการช่วยเหลือด้านการผ่าตัดผู้ป่วยเด็กโรคหัวใจในพื้นที่ห่างไกล โดยนำรายได้จากการแข่งขันกอล์ฟเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 121,400 บาท มอบให้กับตัวแทนมูลนิธิฯ ทั้งนี้มีพันธมิตรทางธุรกิจเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 80 ท่าน ณ สนามกอล์ฟ ธนาซิตี้ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ

ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ ร่วมบรรยายในงาน Thailand Big Data User Group Workshop จัดโดย สถาบัน IMC ชูซอฟต์แวร์ Pentaho for Enterprise

          สถาบัน IMC จัดงาน Thailand Big Data User Group Workshop–Data Lake: Redefine Data Warehouse นำโดย นายไชยรัตน์ วงศ์สว่างรัศมี ผู้อำนวยการและที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยี ธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ พีทีอี ลิมิเต็ด (ซ้ายมือ) ดร.ธนชาติ นุ่มนนท์ ผู้อำนวยการ สถาบัน IMC (คนกลาง) นายทนุสิทธิ์ สกุณวัฒน์ Operation Director บริษัท วินท์คอม เทคโนโลยี จำกัด พร้อมทั้งสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (EGA) เป็นผู้สนับสนุนงานหลัก ภายในงานได้นำตัวอย่างการประยุกต์ใช้ซอฟต์แวร์ Pentaho เวอร์ชั่น Commercial for Enterprise สำหรับธุรกิจโทรคมนาคม และองค์กรขนาดใหญ่ ในการทำ Data Integration และการวิเคราะห์ เพื่อให้ความรู้ผู้อบรม สามารถนำแนวคิดไปใช้กับองค์กรได้อย่างเหมาะสม ณ ห้องประชุม ชั้น 4 อาคาร Q House ลุมพินี

คณะผู้แทนจากศูนย์บริการลงทุน บีโอไอ เยี่ยมชมนิคมอุตสาหกรรมของเหมราชฯ

          กองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) พร้อมคณะผู้แทนจากประเทศลาว กัมพูชา เมียนมาร์ และเวียดนาม เข้าเยี่ยมชม นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง) และ นิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด เพื่อศึกษาการดำเนินงานและการลงทุน การเยี่ยมชมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการฝึกอบรมหลักสูตร Workshop on Investment Promotion for Mekong Countries towards AEC and Beyond จัดโดยกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ ร่วมกับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) และ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)

ไอริส กรุ๊ป จัดหนักเปิดแคมเปญใหญ่ฉลองครบรอบ 10 ปี

          กิตติพงษ์ สุมานนท์ (ที่ 2 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ ศุภพงศ์ สุขสภา (ขวา) รองกรรมการผู้จัดการสายงานการตลาดและบริหารการเงิน จัดงานแถลงข่าวฉลองครบรอบ 10 ปี บริษัท ไอริส กรุ๊ป จำกัด ตอกย้ำความสำเร็จในฐานะผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำภายใต้คอนเซ็ปต์ คิด…เพื่อชีวิตเต็มประโยชน์ (Engineering Functional Lifestyle) พร้อมเปิดตัวแคมเปญ ไอริส ฉลอง 10 ปี ลุ้นโชค 3 ชั้น มูลค่ากว่า 2.5 ล้านบาท โดยมี จรินทร์ สุมานนท์ (กลาง) ที่ปรึกษาประธานกรรมการบริหาร สมเกียรติ อุ่นกุศลภัคดี (ซ้าย) รองกรรมการผู้จัดการ สายงานขายและบริการหลังการขาย และ วันสิริ มรรคมงคล (ที่ 2 จากขวา) รองกรรมการผู้จัดการ สายงานกลยุทธ์และพัฒนาองค์กร ร่วมงาน ณ โรงแรมเรอเนสซองส์ กรุงเทพ ราชประสงค์

สแกนเนีย สยาม ส่งมอบรถหัวลากประสิทธิภาพสูง แก่ โรเม็ท ทรานสปอร์ต เพื่อเสริมศักยภาพการขนส่งสินค้าและรองรับการขยายธุรกิจ

          นางสาวศุภพิชญ์ สถิโรภาส ผู้จัดการฝ่ายนำเข้าและจัดจำหน่าย บริษัท สแกนเนีย ไทยแลนด์ จำกัด และ นางสาวธัญญารัตน์ วรกุลพิศิษฐ์  ตัวแทนจากฝ่ายขายรถบรรทุก บริษัท สแกนเนีย  สยาม จำกัด ส่งมอบรถหัวลากสแกนเนีย รุ่น P360 LA6x2MSZ จำนวน 2 คัน แก่ นายปัญญา ตั้งจิตร์พร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรเม็ท ทรานสปอร์ต จำกัด เพื่อเสริมศักยภาพการบริการขนส่งสินค้าให้มีประสิทธิภาพ พร้อมรองรับการเติบโตและการขยายธุรกิจ รวมถึงช่วยลดต้นทุนในการดำเนินงานขนส่งให้แก่บริษัทฯ

"เสริมสุข" ย้ำผู้นำด้านการผลิตเครื่องดื่มคุณภาพมาตรฐานระดับโลก ได้รับการรับรอง 3 มาตรฐานด้านคุณภาพและความปลอดภัยอาหารครบทั้ง 5 โรงงาน

          บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) นำโดย นายวิเวก ชาห์บรา (ที่ 4 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ รับมอบเกียรติบัตรการรับรอง 3 มาตรฐานด้านคุณภาพอาหารระดับโลก มาตรฐาน ISO 22000:2005 Food Safety ระบบการจัดการความปลอดภัยอาหาร มาตรฐาน GMP และมาตรฐาน HACCP เพิ่มเติมอีก 3 โรงงานเสริมสุข ได้แก่ โรงงานนครราชสีมา โรงงานนครสวรรค์ และโรงงานสุราษฎร์ธานี จาก นายจิโรจ ณ นคร (ที่ 4 จากขวา) กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสจีเอส (ประเทศไทย) จำกัด ถือเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็นบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีคุณภาพและปลอดภัยภายใต้มาตรฐานสากลสู่ผู้บริโภคชาวไทย ซึ่งถือว่าโรงงานของเสริมสุขทั้ง 5 โรงงานได้รับเกียรติบัตรรับรอง 3 มาตรฐานดังกล่าวครบทุกโรงงาน โดยโรงงานปทุมธานีและโรงงานชลบุรี ได้รับเกียรติบัตรฯ เมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา โดยมีผู้จัดการโรงงานและพนักงานเสริมสุขร่วมแสดงความยินดี

คณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. เปิดตัว วิศวกรรมนวัตกรรมคอมพิวเตอร์ และโชว์ไอเดียสุดล้ำ มาการองไซเบอร์ที่กินได้...หนึ่งเดียวของโลก

           คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)โดย รศ.ดร.คมสัน มาลีสี คณบดี พร้อมด้วย รศ.ดร.ปิติเขต สู้รักษา ประธานหลักสูตรร่วมพิธีเปิด หลักสูตรปริญญาตรี วิศวกรรมนวัตกรรมคอมพิวเตอร์ (Computer Innovation Engineering: CIE) มาตรฐานโลกเป็นครั้งแรกในประเทศไทย มุ่งสร้างเสริมนวัตกรไทยและสตาร์ทอัพด้านไฮเทคคอมพิวเตอร์ รองรับวิถีชีวิตและเศรษฐกิจดิจิตอล พร้อมโชว์ มาการองไซเบอร์ที่กินได้...หนึ่งเดียวของโลก และจัดเสวนา เรื่อง CIE เจาะแนวโน้มสตาร์ทอัพด้านดิจิตอลในยุค Big Data ณ ทรูแอทสยาม สยามสแควร์

มิตซูบิชิ–วิศวลาดกระบัง ลงนามร่วมมือวิจัยด้านบริหารจัดการพลังงาน เพื่ออาคารประหยัดพลังงาน

รศ.ดร.คมสัน มาลีสี คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) พร้อมด้วย มร.ทาคายูกิ ฮายากาว่า ผู้จัดการทั่วไป บ.มิตซูบิชิ อีเล็คทริค คอร์ปอเรชั่น ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ ศูนย์วิจัยอินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี, ร่วมลงนามในสัญญาความร่วมมือโครงการวิจัย เรื่อง ระบบบริหารจัดการพลังงานในอาคารซึ่งจะนำไปสู่การสร้างอาคารประหยัดพลังงาน วัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการพัฒนาองค์ความรู้ทางวิศวกรรมและเทคโนโลยีเพื่อประโยชน์ต่อสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม

วีธารา 36 จัดงาน V.I.P Day ลูกค้าเก่า-ใหม่แห่จอง ปลื้มยอดขายแล้วกว่า 30%

          นายพรชัย เลิศอนันต์โชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด จัดงาน V.I.P DAY เปิดขายครั้งแรกกับโครงการ วีธารา 36 “The Oasis of Sukhumvit” คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ 8 ชั้น 5 อาคาร บนพื้นที่กว่า 4 ไร่ มูลค่ารวม 2,500 ล้านบาท ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ชีวิตคนเมือง ณ ที่ตั้งสำนักงานขาย โครงการวีธารา กลางซอยสุขุมวิท 36 โดยราคา 125,000 บาทต่อตารางเมตร โดยมี 2 type คือ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ภายในงานมีผู้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมากทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ ทำให้มียอดจองทำสัญญาแล้วกว่า 30 % โดยจะมีการพรีเซลล์ในเดือนมีนาคม และเปิดตัวอย่างเป็นทางการประมาณเดือนเมษายนศกนี้

SISSONS PAINTS ควงพันธมิตรธุรกิจฉลองความสำเร็จ ณ ประเทศอิตาลี

          นายศุภฤกษ์ ลายเลิศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีสซั่นส์เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านสีเคลือบพื้นและสีอุตสาหกรรม พร้อมทีมผู้บริหารและพนักงาน นำพันธมิตรทางธุรกิจกว่า 20 บริษัท เดินทางท่องเที่ยว ศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนแนวคิดการดำเนินธุรกิจทางการค้าระหว่างกัน พร้อมจัดเลี้ยงขอบคุณพันธมิตรที่ให้การสนับสนุนผลิตภัณฑ์ SISSONS PAINTS จนมีอัตราเติบโตสู่เป้าที่กำหนด กิจกรรมนี้จัดขึ้น ณ ประเทศอิตาลี

เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว ประกาศนโยบายการดำเนินธุรกิจปี 2559

          นายนักรบ เนียมนามธรรม กรรมการผูจัดการ บริษัท เอ็นฟอร์ซ  ซีเคียว จำกัด (ซ้าย) แถลงข่าวนโยบายการดำเนินธุรกิจปี 2559 มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับพาร์ทเนอร์อย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่มีศักยภาพในการทำตลาดเข้ามาเสริมให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชน  และขยายฐานเข้ากลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี  ทั้งนี้บริษัทฯ ได้มีคู่ค้าใหม่ 3 รายคือ  หัวเว่ย เอฟฟิเชียน ไอพี และเอ็กซ์ตราฮอพ พร้อมแต่งตั้ง นายภาสกร คชพันธ์สุนทร ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว จำกัด (ขวา)

กสอ. เปิดโครงการ DIP Stars สานฝัน SMEs ไทย ยกระดับสู่ดาวเด่นในภาคอุตสาหกรรม

          ดร.สมชาย หาญหิรัญ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (คนที่ 3 จากซ้าย) พร้อมด้วยผู้บริหารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และตัวแทนผู้ประกอบการ ร่วมเปิดโครงการยกระดับดาวเด่น SMEs ไทย (DIP Stars) ซึ่งเป็นมิติใหม่ของการยกระดับผู้ประกอบการใน 15 สาขาอุตสาหกรรม จาก 2 ประเภทกิจการ ได้แก่ ประเภทที่มีโอกาสเติบโตสูง (High Growth Sector) และประเภทที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจไทย (High Impact Sector) ให้สามารถบรรลุเป้าหมายในการประกอบกิจการที่ตั้งเป้าไว้ ภายใน 3 ปี โดยตั้งเป้านำร่องพัฒนาผู้ประกอบการไม่ต่ำกว่า 31 ราย เพื่อเป็นต้นแบบสถานประกอบการที่ประสบความสำเร็จให้แก่ SMEs ในประเภทอุตสาหกรรมอื่น ๆ ต่อไป โดยจัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ ห้องประชุมโซน A ชั้น 6 อาคารกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กรุงเทพฯ

กรมโรงงานฯ ลงพื้นที่ตรวจระบบการจัดการกากฯ

          ดร.จุลพงษ์ ทวีศรี รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (คนที่ 4 จากซ้าย) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) สำนักงานระยอง ซึ่งเป็นโรงงานประกอบกิจการผลิตผลิตภัณฑ์โลหะสังกะสีและกรดซัลฟูริค พร้อมรับฟังการจัดการสิ่งปฏิกูลและวัสดุที่ไม่ใช้แล้วเพื่อเตรียมแผนพัฒนาระบบจัดการกากอุตสาหกรรมของโรงงาน โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้น ณ บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) จังหวัดระยอง

อุตสาหกรรมทองคำผนึกกำลัง

          นายแพทย์กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ (กลาง) ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ กรรมการสมาพันธ์อัญมณีเครื่องประดับและโลหะมีค่าแห่งประเทศไทย และรองนายกสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ นายทรงเกียรติ  วัฒนวิทย์ (ขวา) กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสพีซี พรีเชียส เมททอล จำกัด ผู้นำด้านการสกัดทองคำ (Gold Refinery) ในประเทศไทย และ นายศิโรจน์ ประเสริฐผล (ซ้าย)ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด ผู้ประกอบกิจการสำรวจและทำเหมืองแร่ทองคำและเงิน ร่วมเสวนาในหัวข้อ ภาพรวมเครื่องประดับทองคำในประเทศไทย และการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทยในตลาดโลก ซึ่งจัดขึ้นภายในงาน 57th Bangkok Gems and Jewelry Fair ณ ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อกระตุ้นภาครัฐให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมทองคำในประเทศไทย ซึ่งมีศักยภาพในการแข่งขันในตลาดทองคำโลกอย่างเร่งด่วน

เชิญเยี่ยมชม โชว์รูมเครื่องฉีดพลาสติก ไห่เทียน แห่งแรกในประเทศไทย

          ขอเชิญเยี่ยมชม เครื่องฉีดพลาสติกยี่ห้อไห่เทียน ได้ที่โชว์รูมแห่งใหม่ เลขที่ 115/5 ถนนมอเตอร์เวย์ แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร 10250 หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-2736-2282-3 โทรสาร 0-2736-2284, http://www.spintermach.com และขอเชิญร่วมชมงานแสดงสินค้า Inter Plas Thailand 2016 ณ ไบเทค บางนา ระหว่างวันที่ 7-10 กรกฎาคม 2559 เวลา 10.00-18.00 น. พบกับเครื่องฉีดพลาสติกไห่เทียน และอุปกรณ์ต่าง ๆ พร้อมสาธิตการฉีดขึ้นรูปชิ้นส่วนพลาสติกและรับโปรโมชันพิเศษในวันงาน ณ ฮอลล์ 102 บูธ J01 (SP INTERMACH-HAITIAN)

 

 

          บริษัท เอสพี อินเตอร์แมค จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องฉีดพลาสติกมากกว่า 10 ปี ผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเครื่องฉีดพลาสติกคุณภาพสูงยี่ห้อไห่เทียน (HAITIAN) ซึ่งเป็นเครื่องฉีดพลาสติกที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 ทั่วโลกมากว่า 20 ปี นอกจากนี้ยังเป็นผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของอุปกรณ์เครื่องฉีดพลาสติกอื่น ๆ เช่น แขนกลเซอร์โว ยี่ห้อไฮเลคโตร (HILECTRO), ชุดแคลมป์ยึดแม่พิมพ์ ยี่ห้อแซนซัน (SANDSUN), เครื่องอบเม็ดพลาสติก, เครื่องดูดเม็ดพลาสติก, เครื่องบดเม็ดพลาสติก และอื่น ๆ ภายใต้ยี่ห้อยันบัง (YANN BANG) ตลอดจนให้บริการหลังการขาย ประกอบติดตั้งโดยช่างผู้ชำนาญ และบริการให้คำปรึกษาเรื่องงานฉีดพลาสติกครบวงจรอีกด้วย

 

          และล่าสุด เพื่อเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำทางด้านอุตสาหกรรมพลาสติกอย่างแท้จริง นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการ บริษัท เอสพี อินเตอร์แมค จำกัด ได้จับมือกับ ไห่เทียน ผู้ผลิตเครื่องฉีดพลาสติกที่ใหญ่ที่สุดในโลก นำโดย Mr.Zhang Jianming, CEO of Haitian International Holding Ltd. พร้อมด้วยคณะผู้บริหารฯ เปิดโชว์รูมเครื่องฉีดพลาสติกของไห่เทียนแห่งแรกในประเทศไทย เพื่อสนับสนุนงานด้านการขาย และงานบริการ ตอกย้ำความเป็นผู้นำการตลาด พร้อมทั้งมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพและการเติบโตของวงการพลาสติกไทย ณ โชว์รูปบริษัท ไห่เทียน ถนนมอเตอร์เวย์

 

125 ปี ของการเป็นผู้บุกเบิกทางด้านเทคโนโลยี จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เพื่อโลกที่ดีกว่า

          ในปี ค.ศ.1891 ชาร์ลส บราวน์ (Charles Brown) และวอลเตอร์ โบเวอรี่ (Walter Boveri) ได้ก่อตั้ง บีบีซี บราวน์ โบเวอรี่ (BBC Brown Boveri) ขึ้นในเมืองบาเดน ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยนักบุกเบิกทางด้านวิศวกรรมไฟฟ้าทั้งสองท่านมีความเชื่อว่า พลังงานไฟฟ้า เป็นสิ่งที่จะกำหนดทิศทางเพื่อให้โลกก้าวไปสู่ยุคใหม่ โดยทั้งชาร์ลส บราวน์ และวอลเตอร์ โบเวอรี่ ได้เริ่มเห็นถึงวิสัยทัศน์ดังกล่าวในเวลาอันรวดเร็วและยังได้เข้ามาร่วมบุกเบิกเทคโนโลยีด้านระบบรถไฟตั้งแต่ต้นอีกด้วย

 

          BBC มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายขึ้น ตัวอย่างเช่น ในปี ค.ศ.1895 บริษัทได้รับเลือกให้จัดหาอุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับระบบรถรางของเมืองลูกาโน (Lugano) ซึ่งเป็นเมืองที่ใช้ภาษาอิตาเลียนในการสื่อสาร ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และ 3 ปีต่อมาบริษัท BBC ได้รับเลือกให้จัดหาอุปกรณ์ Rack and Pinion สำหรับระบบรถไฟซึ่งให้บริการขึ้นสู่ยอดเขากอร์เนอร์กรัต (Gornergrat) และยอดเขายุงฟราว (Jungfraujoch) ในเทือกเขาแอลป์ แห่งสวิสเซอร์แลนด์ นอกจากนี้บราวน์และโบเวอรี่ ยังได้ร่วมกันพัฒนาหัวรถจักรที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า ซึ่งต่อมาในปี ค.ศ.1899 กิจการรถไฟ Burgdorf-Thun ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ก็ได้นำหัวรถจักรดังกล่าวมาใช้กับระบบทางขนาดมาตรฐานที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าเป็นครั้งแรกในยุโรป

 

          ประสบการณ์ทั้งหมดนี้ เปรียบเสมือนการวางพื้นฐานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการรถไฟ และกลายมาเป็นธุรกิจหนึ่งที่สำคัญของ BBC รวมถึงนวัตกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ระบบกังหันไอน้ำ, ระบบกังหันก๊าซ, หม้อแปลงไฟฟ้าแรงสูง และระบบควบคุมแบบอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับอุตสาหกรรมระบบออโตเมชั่น (Industrial Automation)

 

          ด้วยวิสัยทัศน์และความเชื่อมั่นของ BBC ในการนำพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในระบบขนส่งสาธารณะ บริษัทจึงได้ออกค่าใช้จ่ายในการติดตั้งระบบไฟฟ้าในอุโมงค์รถไฟ Simplon ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างประเทศสวิสเซอร์แลนด์และประเทศอิตาลีที่เพิ่งสร้างเสร็จสมบูรณ์ ในปี ค.ศ.1905  นับเป็นผู้บุกเบิกและประสบความสำเร็จในการนำพลังงานไฟฟ้ามาใช้แทนพลังงานไอน้ำในการขับเคลื่อนรถไฟทั่วทวีปยุโรป ในปี ค.ศ.1967 บริษัทเริ่มให้บริการแบบครบวงจรหลังจาก BBC ได้ควบรวมกิจการกับ Mashinenfabrik Oerlikon (MFO) ที่ซึ่ง บราวน์ และโบเวอรี่ ได้พบกันและได้รับหนังสือรับรองผลงานเป็นครั้งแรก MFO ให้บริการในการผลิตรถจักรไฟฟ้าคล้ายกับ BBC เช่น หัวรถจักรจระเข้ (the Crocodile) ซึ่งเป็นหัวรถจักรในตำนาน ใช้ในการขนส่งสินค้าบนทางขึ้นเขาในเส้นทางก็อตธาร์ด (Gotthard) โดยผู้ชื่นชอบรถไฟทั่วโลกยังคงจดจำรูปร่างอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวรถไฟได้จนถึงทุกวันนี้ ต่อมาในปี ค.ศ.1988 BBC ได้ควบรวมกิจการกับ ASEA บริษัทสัญชาติสวีเดน เพื่อก่อตั้งบริษัท ABB และด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในระบบวิศวกรรมไฟฟ้าสำหรับรถไฟ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟกลายเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นสำคัญของบริษัทฯในด้านวิศวกรรมพลังงานและระบบออโตเมชั่น ตัวอย่างเช่น Allegra รถไฟรุ่นล่าสุดของบริษัทรถไฟ Rhaetain Railway (RhB) ได้ติดตั้งชุดอุปกรณ์แปลงพลังงาน (Power Converter) และหม้อแปลงไฟฟ้าซึ่งผลิตที่เมือง Geneva และเมือง Turgi ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ที่ซึ่ง ABB ได้สร้างสรรค์ผลงานมาจนถึงปัจจุบัน รวมเวลากว่า 125 ปี ทั้งนี้ทางบริษัทและสาขาในกว่าหลายร้อยประเทศทั่วโลก มีวิสัยทัศน์ร่วมกัน คือ พัฒนาระบบพลังงานและประสิทธิภาพในการผลิตเพื่อโลกที่ดีกว่าเดิม “Power and Productivity for a Better World” โดยเริ่มก้าวไปสู่กลยุทธ์ “Next Level Strategy” ที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน และริเริ่มนวัตกรรมใหม่ ๆ

นิวแม็ก จัดสัมมนาหัวข้อ เทคโนโลยีการใช้งานระบบสุญญากาศระดับสูง

          บริษัท นิวแม็ก จำกัด แผนก Vacuum Pump ได้จัดสัมมนานอกสถานที่ในหัวข้อ เทคโนโลยีการใช้งานระบบสุญญากาศระดับสูง ในวันที่ 3 ธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา ณ โรงแรม เฮอริเทจ บางแสน โดยรับเชิญวิทยากรจาก Leybold Germany มาเป็นผู้บรรยาย ซึ่งมีหลายบริษัทชั้นนำให้ความสนใจเข้าร่วมสัมมนา ในการสัมมนาครั้งนี้ได้เน้นเรื่องเทคโนโลยีของปั๊มสุญญากาศในรุ่นต่าง ๆ ความรู้ที่จะนำปั๊มสุญญากาศไปใช้งานในแต่ละอุตสาหกรรม ทั้งอุตสาหกรรมที่ใช้ระบบ High Vacuum และอุตสาหกรรมที่ใช้ระบบ Rough Vacuum ในกระบวนการผลิต การบำรุงรักษาปั๊มสุญญากาศ เครื่องมือสำหรับการทดสอบการรั่วโดยใช้ฮีเลียม Helium Leak Detector รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในงานสุญญากาศ เช่น วาล์วสุญญากาศ เกจสุญญากาศ เป็นต้น

               

          ทางบริษัทฯ ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้ความสนใจ และทางบริษัทฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดีจากท่านอีกในโอกาสต่อ ๆ ไป สำหรับท่านใดที่พลาดโอกาสสัมมนาในเดือนนี้ สามารถติดตามข่าวสารการสัมมนาได้ในทุก ๆ เดือน ได้ที่ตาราง Customer Seminar

ยิปรอค ร่วมสร้างอาคารเรียนใหม่ของโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลจังหวัดลำปาง

เอกรัช กาวีย์ ผู้จัดการศูนย์ฝึกอบรมยิปรอค (กลาง) และช่างติดตั้งฝ้าเพดานยิปซัมของยิปรอค ร่วมกับ กลุ่มอาสาสมัครมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ สร้างอาคารเรียนหลังใหม่ให้แก่โรงเรียนบ้านนาไหม้ ซึ่งเป็นโรงเรียนบนเขตภูเขาในพื้นที่ห่างไกล จังหวัดลำปาง

 

          บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตนวัตกรรมยิปซัมคุณภาพสูงภายใต้แบรนด์ ยิปรอค และผู้ให้บริการโซลูชั่นส์ระบบผนังและฝ้าครบวงจรมากว่า 45 ปี บริจาควัสดุก่อสร้างแผ่นฝ้าเพดานยิปซัมให้แก่ กลุ่มอาสาสมัครมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เพื่อใช้ในการก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ของ โรงเรียนบ้านนาไหม้ อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง ทดแทนอาคารหลังเก่าที่ชำรุดเสียหาย ซึ่งช่วยให้เด็กนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการศึกษาและยกระดับมาตรฐานการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น กิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในแผนงานกิจกรรมเพื่อสังคมของยิปรอค โดยมีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของชุมชนและยกระดับการศึกษาของเยาวชนที่ด้อยโอกาส

 

          มร.ริชาร์ด จูเชรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เรารู้สึกภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการของกลุ่มอาสาสมัครของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ในการสนับสนุนการศึกษาของโรงเรียนบ้านนาไหม้ จังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่บนภูเขาในพื้นที่ห่างไกลของเมืองไทย เรายินดีที่ได้บริจาควัสดุก่อสร้างของยิปรอคในการก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่นี้ ซึ่งอาคารเรียนหลังใหม่จะสร้างโอกาสแห่งการเรียนรู้และพัฒนาการศึกษาของเด็กนักเรียนที่นี่ และส่งผลดีต่อมาตรฐานการศึกษาของชุมชน”

 

          รายการวัสดุก่อสร้างที่ยิปรอคบริจาคในครั้งนี้ได้แก่ แผ่นฝ้าเพดานยิปซัม รุ่น ProClean และ โครงคร่าวเหล็กทีบาร์ชุบสังกะสีเคลือบสีพิเศษ รุ่น Gyproc Grid 32T24 โดยยิปรอคได้นำช่างผู้เชี่ยวชาญ เข้าร่วมดำเนินการติดตั้งฝ้าเพดานพร้อมกับกลุ่มอาสาสมัครมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือในพื้นที่จริง

 

          การร่วมโครงการเพื่อสังคมครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของบริษัทที่เล็งเห็นความสำคัญของเยาวชนและสังคม ทำให้การดำเนินธุรกิจของยิปรอคมีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างสูง การให้ความสำคัญต่อสังคมนี้ยังสอดคล้องกับพันธกิจของบริษัทแซง-โกแบ็ง ซึ่งสนับสนุนให้บริษัทในเครือมอบประโยชน์คืนสู่ชุมชนและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน

เดลต้าเดินหน้าถ่ายทอดนวัตกรรมการจัดการพลังงานสู่เยาวชนในชุมชน

นายอนุสรณ์ มุทราอิศ,  ศ.กิตติคุณ สุภาพรรณ รัตนาภรณ์ และ ดร.วิฑูรย์  สิมะโชคดี  คณะกรรมการบริษัทฯ ร่วมถ่ายภาพหมู่กับเจ้าหน้าที่การนิคมอุตสาหกรรมบางปู คณาจารย์ และนักเรียนโรงเรียนวัดคลองเก้า และโรงเรียนเอี่ยมสุรีย์ เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2559

 

          บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำด้านการออกแบบ ผลิต และให้บริการครบวงจรสำหรับงานบริหารจัดการพลังงานจัดกิจกรรม เปิดบ้านเดลต้า ศึกษาการจัดการพลังงาน ร่วมกับการนิคมอุตสาหกรรมบางปูในวันที่ 18 - 24 ก.พ. ที่ผ่านมา

 

          “โครงการเปิดบ้านเดลต้า ศึกษาการจัดการพลังงาน (Delta Open House for Energy Education Sharing)” เป็นโครงการเพื่อมอบความรู้ด้านการจัดการพลังงานและปลูกฝังจิตสำนึกการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่าและมีประสิทธิภาพควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพการใช้พลังงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ของเยาวชนไทย ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาท้องถิ่น ชุมชน รวมถึงประเทศชาติอย่างยั่งยืน รวมทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนในท้องถิ่นพัฒนาความรู้สู่การเป็นบุคลากรด้านเทคโนโลยีในอนาคต มีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนระดับประถมศึกษาในโรงเรียนละแวกใกล้เคียงนิคมอุตสาหกรรมบางปูซึ่งส่วนหนึ่งเป็นบุตรหลานของพนักงาน โดยในวันที่ 18–24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมามีโรงเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น 6 โรงเรียน ประกอบด้วย ร.ร.วัดคลองเก้า โรงเรียนเอี่ยมสุรีย์ (อนุบาลเมืองสมุทรปราการ) โรงเรียนวัดตำหรุมิตรภาพที่ 65  โรงเรียนพิบูลย์ประชาบาล โรงเรียนวัดแพรกษา และโรงเรียนนาคดีอนุสรณ์ โดยในปีนี้บริษัทฯ มีโครงการที่จะขยายขอบเขตกิจกรรมดังกล่าวไปสู่กลุ่มโรงเรียนในบริเวณใกล้เคียงโรงงานสาขาในนิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์จังหวัดฉะเชิงเทราอีกด้วย

กระทรวงไอซีที-อีจีเอ เดินหน้ารวมพลนักพัฒนาแอปพลิเคชันกว่า 240 ทีม พร้อมต่อยอดผลงานกับหน่วยงานภาครัฐ สู่นักพัฒนามืออาชีพ

          ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นประธานเปิดงานปฐมนิเทศโครงการประกวดผลงานนวัตกรรมการพัฒนาโมบายแอปพลิเคชันภาครัฐ ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2558 (Mobile Enterprise d-Government Awards 2015) MEGA 2015 โดยมี ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ผู้อำนวยการสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมผู้แทนจากหน่วยงานพันธมิตรที่ร่วมสนับสนุนโครงการฯ มีนักพัฒนาซอร์ฟแวร์รุ่นใหม่ทั้งกลุ่มนักศึกษา นักพัฒนาทั่วไป SME และผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทย ให้ความสนใจเข้าร่วมแข่งขันกว่า 240 ทีม รวม 280 ผลงาน นับเป็นจุดเริ่มต้นพัฒนาต่อยอดเป็นนวัตกรรมต้นแบบ สู่การให้บริการแอปพลิเคชันภาครัฐให้เกิดขึ้นจริง และถือเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ตามมาตรการการส่งเสริม SME แบบบูรณาการเชิงรุกเพื่อส่งเสริมการเติบโต ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 1 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

สมาคมผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน ลงมติเลือกตั้ง นายกสมาคมคนใหม่

          สมาคมผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2559 ครั้งที่ 17  โดยหนึ่งในระเบียบวาระสำคัญ คือ การเลือกตั้งนายกสมาคม ซึ่งผลการเลือกตั้ง นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด ได้รับความไว้วางใจจากที่ประชุมและมีมติเป็นเอกฉันท์ ให้ดำรงตำแหน่ง นายกสมาคมผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน วาระปี พ.ศ.2559-2561

 

          สมาคมผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน จัดตั้งเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2543 โดยการรวมตัวกันของผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ (IPP) และผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) ปัจจุบัน มีสมาชิกจำนวน 33 บริษัท ประกอบด้วยผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ (IPP) จำนวน 4 บริษัท ผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) จำนวน 17 บริษัทและผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทน (Renewable) จำนวน 12 บริษัท มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นศูนย์กลางในการประสานความร่วมมือกับภาครัฐในการพัฒนาโครงสร้าง กฎ ระเบียบ นโยบายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจการไฟฟ้า เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและเป็นศูนย์รวบรวมข้อมูลด้านไฟฟ้า พลังงาน กฎ ระเบียบ นโยบาย และความรู้ที่เกี่ยวข้องให้กับสมาชิกและผู้สนใจเป็นเครือข่ายในการติดต่อ ประสานงาน และสานสัมพันธ์ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน รวมทั้งสร้างความเข้าใจ และความสัมพันธ์อันดี รวมถึงการให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่สังคม

 

 

“ยิบอินซอย” ร่วมบันทึกเทปรายการ เดินหน้าประเทศไทย โชว์ศักยภาพเอกชนรายแรกที่ผลักดันบุคลากรสู่มาตรฐาน คุณวุฒิวิชาชีพ ด้าน ICT

          พล...ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี พล..เลิศรัตน์ รัตนวานิช ประธานกรรมการบริหารสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) นายวีระชัย ศรีขจร ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) และ นายเทียนชัย ลายเลิศ ประธานกรรมการ บริษัท ยิบอินซอย จำกัด ร่วมบันทึกเทปรายการเดินหน้าประเทศไทย ตอน ความสำคัญคุณวุฒิวิชาชีพ สร้างมาตรฐานธุรกิจไทย เพื่อนำเสนอนโยบายพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคน ผู้ประกอบอาชีพและภาคธุรกิจ ในฐานะองค์การภาคเอกชนผู้นำในธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งแรก ที่ร่วมผลักดันบุคลากรเข้าสู่การรับรองสมรรถนะตามมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขา วิชาชีพเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และดิจิตอลคอนเทนต์ (ICT) การบันทึกเทปจัดขึ้น ณ  อาคารอเนกประสงค์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และจะนำไปเผยแพร่ในเดือนมีนาคมนี้  

 

          นายเทียนชัย ลายเลิศ ประธานกรรมการ บริษัท ยิบอินซอย จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ มีนโยบายชัดเจนในการพัฒนายกระดับบุคลากรร่วมกัน ระหว่างสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ด้วยการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการประเมินมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ ใน 4 สาขาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของ บริษัทฯ ได้แก่ สาขา Hardware สาขา Network & Security สาขา Software& Applications และสาขา Project Management แก่บุคลากร เพื่อให้เกิดการตื่นตัว และตอบรับนโยบายของรัฐบาล ในการยกระดับบุคลากรในองค์กร เกิดประโยชน์ทั้งต่อตัวบุคลากรเอง และบริษัทฯ อันจะส่งผลองค์รวมต่อประเทศไทยในอนาคต หากประเทศไทยมีบุคลากรด้านนี้เพียงพอ ก็ไม่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เราสามารถดูแลประเทศของเราได้เอง และสามารถหารายได้จากการพัฒนาระบบให้ต่างประเทศอีกด้วย

 

 

ดับบลิวเอชเอ เปิดตัวทีมผู้บริหารชุดใหม่ ต่อยอดการเติบโตของบริษัท

          กลุ่มบริษัทดับบลิวเอชเอ เปิดตัวโครงสร้างและทีมผู้บริหารชุดใหม่ในงานแถลงข่าว พร้อมให้รายละเอียดด้านวิสัยทัศน์และทิศทางธุรกิจ ในปี 2016 และในอนาคต เพื่อก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการให้บริการด้านอุตสาหกรรม และโลจิสติกส์ ที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

 

          นายแพทย์สมยศ อนันตประยูร (ที่ 4 จากขวา) ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร และ นางสาวจรีพร จารุกรสกุล (ที่ 5 จากซ้าย) รองประธานกรรมการ และรองประธานกรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) แนะนำทีมผู้บริหารที่จะทำหน้าที่ขับเคลื่อนธุรกิจทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจ อันได้แก่ กลุ่มโลจิสติกส์ กลุ่มดิจิทัล กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม และกลุ่มสาธารณูปโภคและพลังงาน

 

  • มร.เดวิด นาร์โดน (ที่ 3 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม และการลงทุนต่างประเทศ บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน)
  • นายวิวัฒน์ จิรัฐติกาลสกุล (ที่ 2 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม และการลงทุนต่างประเทศ บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน)
  • นายไกรลักขณ์ อัศวฉัตรโรจน์ (ขวาสุด) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
  • นายอรรถวิทย์ เฉลิมทรัพยากร (ที่ 3 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
  • นายจักรกฤษณ์ ไชยสนิท (ที่ 4 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
  • นายไกรทส องค์ชัยศักดิ์ (ที่ 2 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินโฟนิท จำกัด
  • นายวิเศษ จูงวัฒนา (ซ้ายสุด) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เหมราช คลีน วอเตอร์ จำกัด

สวทช. กระทรวงวิทย์ฯ จับมือ มทร.ธัญบุรี ดำเนินเครือข่าย ITAP แห่งใหม่ เน้นช่วยเหลือ SME พื้นที่ภาคกลาง เติบโตยั่งยืนด้วยนวัตกรรม

          สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล รองผู้อำนวยการ สวทช. (ที่ 2 จากขวา) ลงนามความร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) โดย รศ.ดร.ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ อธิการบดี มทร.ธัญบุรี (ที่ 2 จากซ้าย) ในการดำเนินงานเครือข่ายโปรแกรม ITAP ในพื้นที่ภาคกลาง โดยจะนำกลไก ITAP ไปใช้ในการสนับสนุน SME เพื่อให้เข้าถึงผู้เชี่ยวชาญในการสนับสนุนแก้ไขปัญหา ทำวิจัยพัฒนา ที่ครอบคลุมหลากหลายสาขา และเข้าถึงเทคโนโลยีของมหาวิทยาลัยได้มากขึ้น ตลอดจนจะมีจำนวน SME ที่ได้รับการสนับสนุนมากขึ้น เมื่อเร็ว ๆ นี้ (7 มีนาคม 2559) ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จ.ปทุมธานี

มทร.อีสาน และ เอ-โฮสต์ จับมือหนุนเกษตรกรไทยก้าวเข้าสู่ดิจิทัล

          มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) และ เอ-โฮสต์ ลงนามบันทึกข้อตกลง โครงการสร้างระบบนิเวศสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อสนับสนุนเกษตรใน ภาคอีสานจัดจำหน่ายสินค้าผ่านระบบ “อแดปต์” ยกระดับความสามารถการแข่งขันในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

 

          ผศ.ดร.วิโรจน์  ลิ้มไขแสง อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) เปิดเผยว่า  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) และบริษัท เอ-โฮสต์ จำกัด ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง ใน “โครงการสร้างระบบนิเวศสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัล” (The Development of a Sustainable Ecosystem for Digital Economy) เพื่อสนับสนุนกลุ่มเกษตรกรหรือกลุ่มผู้ผลิตในเครือข่ายของมหาวิทยาลัยฯ ให้ยกระดับความสามารถการแข่งขันในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลในการสร้างมูลค่าเพิ่มและเพิ่มรายได้จากการผลิตสินค้า

 

          “โครงการดังกล่าว จะช่วยปรับปรุงการผลิตและการพัฒนากระบวนการควบคุมคุณภาพให้ได้มาตรฐานสากล รวมถึงการจัดทำบรรจุภัณฑ์และนวัตกรรมอื่น ๆ ที่ช่วยรักษาคุณภาพของสินค้า และที่สำคัญคือ สร้างช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพเพื่อส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็ว นอกจากจะสามารถสร้างความแตกต่างในการแข่งขันแล้ว เกษตรกรหรือผู้ผลิตจะได้รับประโยชน์โดยตรง ในขณะที่ผู้บริโภคก็จะได้รับสินค้าที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัย และราคายุติธรรมอีกด้วย”

 

          ด้าน นายบุญประสิทธิ์ ตั้งชัยสุข ประธานบริหาร บริษัท เอ-โฮสต์ จำกัด กล่าวว่า บริษัท เอ-โฮสต์  เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำที่ให้บริการระบบแอพพลิเคชั่นซอฟต์แวร์ มาเป็นเวลายาวนาน มีธุรกิจครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้าน ได้สนับสนุน“โครงการสร้างระบบนิเวศสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัล” ในการพัฒนาและให้บริการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึงระบบการพาณิชย์ดิจิทัล (Digital Commerce) ที่นำสินค้ามาจัดจำหน่ายบนระบบ “อแดปต์” (ADAPT) ย่อมาจาก เอ-โอสต์ ดิจิทัล แอนด์ โปรเซส ทรานสฟอร์เมชั่น (A-HOST Digital And Process Transformation) ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยให้การจัดจำหน่ายอย่างมีประสิทธิภาพ และได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมกับลักษณะสินค้าและตลาดเป้าหมาย

 

         ระบบ“อแดปต์”ประกอบด้วย ระบบการตลาด ระบบขาย ระบบการชำระเงิน ระบบสมาชิก ระบบส่งเสริมการขาย และระบบเพื่อการตรวจสอบย้อนกลับ ระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูล เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้การจัดจำหน่ายสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวาง สร้างความสนใจในการซื้อขายสินค้าและบริการ ไปจนถึงการชำระเงินในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด และการให้บริการบนระบบคลาวด์ อินฟราสตักเจอร์ เซอร์วิส (Cloud Infrastructure Service) รวมถึง เอ-โฮสต์ จะให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนในด้านต่างๆ  ได้แก่ การออกแบบกระบวนการทำงานในหน้าที่ต่าง ๆ หรือการดำเนินงานของสำนักงานส่วนหลังหรือ แบค ออฟฟิศ การจัดหาช่องทางการกระจายสินค้าเพื่อจัดส่งถึงมือผู้บริโภค หรือโลจิสติกส์ การให้การสนับสนุนทางการตลาด เป็นต้น ซึ่งถือเป็นการเติมเต็มให้ระบบนิเวศนี้ มีความครบถ้วนและสมบูรณ์แบบ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้ทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค โดยผู้บริโภคจะได้รับประสบการณ์ที่ดีในการเลือกซื้อสินค้าและบริการ

 

          ด้าน นายบุญประสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “เอ-โฮสต์ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาและยกระดับกลุ่มเกษตรกรของไทยเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล  โดยทางเรามีทีมงานผู้เชี่ยวชาญเข้าดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างความมั่นใจได้ว่าระบบสามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่นและเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้”

 

ซีบรา เปิดตัว TC8000 คอมพิวเตอร์ขนาดพกพา อุปกรณ์เสริมศักยภาพระบบปฏิบัติการภายในคลังสินค้า

          ซีบรา เทคโนโลยีส์ ปฏิวัตินวัตกรรมทางด้านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ขนาดพกพาสำหรับองค์กร ด้วยการเปิดตัว TC8000 พร้อมกันทั่วโลก ชูจุดเด่นการทำงาน ด้วยโซลูชั่นในการอ่านบาร์โค้ดแบบอัจฉริยะ ที่ช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น เสริมศักยภาพการบริหารจัดการภายในคลังสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เน้นเจาะกลุ่มตลาดค้าปลีก ขนส่งและโลจิสติกส์ โรงงานอุตสาหกรรม และเฮลธ์แคร์ 

 

          นายศิวัจน์ โรจนเต็มศักดิ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทยและอินโดจีน บริษัท ซีบรา เทคโนโลยีส์ กล่าวว่า TC8000 เป็นนวัตกรรมใหม่ของคอมพิวเตอร์ขนาดพกพาสำหรับองค์กร ที่ถูกพัฒนาให้มีความอัจฉริยะมากขึ้น ด้วยความสามารถในการอ่านบาร์โค้ดที่หลากหลาย ทั้งรูปแบบ 1D และ 2D สแกนสินค้าได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการทำงานผ่านระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ตัวเครื่องถูกออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบาและพกพาได้สะดวก ใช้งานง่ายและลดขั้นตอนในกระบวนการทำงานของพนักงาน ดังนั้น TC8000 จึงเป็นอุปกรณ์สำคัญ ที่จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานภายในคลังสินค้า และเสริมศักยภาพให้กับธุรกิจต่าง ๆ ที่มีศูนย์กระจายสินค้า ไม่ว่าจะเป็นตลาดค้าปลีก ขนส่งและโลจิสติกส์ โรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงธุรกิจทางด้านเฮลธ์แคร์ 

               

          จากข้อมูลสำรวจตลาดความต้องการทางด้านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพาปัจจุบัน ประเทศไทยมีการลงทุนทางด้านอุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ในระบบบริหารจัดการคลังสินค้าประมาณ 30-40% ของงบการลงทุนทั้งหมด และตลาดดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะเลือกลงทุนกับอุปกรณ์ที่มีความทันสมัย รวมถึงการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในการเพิ่มโอกาสและช่วยเสริมศักยภาพให้ระบบการทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งนวัตกรรมของ TC8000 จะช่วยตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวของลูกค้าได้

             

          “TC8000 เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดพกพาสำหรับองค์กรรุ่นใหม่ล่าสุด ที่จะเข้ามาช่วยยกระดับเทคโนโลยีระบบปฏิบัติการภายในคลังสินค้าให้กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ทั้งตลาดค้าปลีก ขนส่งและโลจิสติกส์ โรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงธุรกิจทางด้านเฮลธ์แคร์ ซึ่ง TC8000 ยังเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เพิ่งส่งลงตลาดล่าสุด ดังนั้นสำหรับกลยุทธ์ด้านการตลาด เราจึงเน้นการนำเสนอและให้ความรู้ต่อกลุ่มลูกค้ามากขึ้น โดยเรายังขายผ่านดิสทริบิวเตอร์ 2 รายเดิม ซึ่งประกอบด้วย อินแกรมไมโคร และ Sektor รวมถึงพาร์ทเนอร์ของเราอีกกว่า 10 ราย โดยเบื้องต้น เรายังเน้นทำตลาดกับกลุ่มลูกค้ารายเดิม ก่อนที่จะขยายไปสู่ลูกค้ารายใหม่” นายศิวัจน์ กล่าว

 

 

 

 

ข้อมูลผลิตภัณฑ์ TC8000

 

  • TC8000 ช่วยให้การทำงานง่ายยิ่งขึ้น ด้วยนวัตกรรมรูปแบบใหม่ทำให้ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้อง “ปรับระดับและตรวจสอบ (Tilt and Verify)” ที่จำเป็นสำหรับเครื่องยิงบาร์โค้ดทั่วไป จึงทำให้การสแกนสินค้ารวดเร็วขึ้น
  • การรออกแบบที่ลงตัวทำให้ TC8000 น้ำหนักเบากว่าคอมพิวเตอร์ขนาดพกพาทั่วไปถึง 33 เปอร์เซ็นต์ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับพนักงานได้ถึง 14 เปอร์เซ็นต์
  • TC8000 เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดพกพาสำหรับองค์กรที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android ที่รองรับการใช้งานสำหรับธุรกิจหลากหลายรูปแบบ เช่น Terminal Emulation (TE), Voice-directed Picking (VDP), การจัดการคลังสินค้า, การตรวจสอบบัญชีราคา, การตรวจสอบรายรับ และการจัดการสินค้าคงคลัง
  • การป้อนข้อมูลรูปแบบ Graphics-based ด้วยหน้าจอแบบ All-touch Terminal Emulation จากซีบรา จะช่วยลดความยุ่งยากในการป้อนข้อมูลอย่างบนระบบ “Green Screen” และช่วยเพิ่มความแม่นยำ
  • TC8000 มาพร้อมระบบการสแกนที่ดีที่สุดจากซีบรา ซึ่งเป็นเป็นระบบสแกนแบบแฮนด์ฟรีบนดีไวซ์พกพารายแรกในตลาด โดยสามารถเปิดใช้งานได้จากสายคาดเอวต่าง ๆ รวมไปถึงแท่นวางบนรถยกด้วย เพียงขับรถยกผ่านด้านหน้าของสินค้าก็สามารถสแกนได้อย่างง่ายดาย

 

 

เอปสัน เปิดตัวเครื่องพิมพ์หน้ากว้าง 3 รุ่นใหม่ สำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอและป้ายโฆษณา พร้อมจัดโปรโมชั่น ลดราคาน้ำหมึกแท้ลงกว่าครึ่ง

          เอปสัน ผู้นำด้านเทคโนโลยีพรินเตอร์ สร้างปรากฏการณ์เขย่าวงการพรินเตอร์เพื่ออุตสาหกรรมสิ่งทอและป้ายโฆษณา ด้วยการเปิดตัวพรินเตอร์หน้ากว้างขนาด 64 นิ้ว รุ่นใหม่ 3 รุ่น พร้อมจัดโปรโมชั่นปรับลดราคาน้ำหมึกแท้ลงกว่าครึ่ง ชิงส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มจากกลุ่มเครื่องประกอบนำเข้า และขยายเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายเพื่อรุกอุตสาหกรรมสิ่งทอและป้ายโฆษณาทั่วประเทศ

 

          นายอนันต์พล นนทพันธุ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดดิจิตอลพรินเตอร์ทั่วโลกมีมูลค่าถึง 10.7 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2015 และคาดการณ์ว่าในปี 2020 จะมีมูลค่าการตลาดถึง 13.5 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเติบโตประมาณปีละ 5% โดยตลาดเครื่องพิมพ์สำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอและป้ายโฆษณาจะมีอัตราการเติบโตที่สูงที่สุด ส่วนในประเทศไทย ตลาดดิจิตอลพรินเตอร์สำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอและป้ายโฆษณา ยังมีสัดส่วนการตลาดที่น้อยกว่า 10% เมื่อเทียบกับเครื่องพิมพ์อุตสาหกรรมแบบเดิมที่เป็นระบบอะนาลอก และขณะเดียวกันก็เป็นกลุ่มตลาดที่ใช้เครื่องประกอบแบบนำเข้าจากต่างประเทศกว่า 80% ดังนั้นจึงทำให้เครื่องพิมพ์อุตสาหกรรมสำหรับสิ่งทอและป้ายโฆษณาในประเทศไทย ยังมีช่องว่างทางการตลาดอีกมาก สอดคล้องกับผู้ประกอบการหลายรายในปัจจุบัน เริ่มปรับตัวและหันมาลงทุนกับพรินเตอร์ระบบดิจิตอลประเภท Dye Sublimation เพื่อรองรับงานพิมพ์ตามออเดอร์จำนวนจำกัดที่เน้นคุณภาพมากขึ้น แทนที่จะเปิดรับแต่งานพิมพ์ปริมาณมากหรือ Mass Production ที่ยังใช้ระบบการพิมพ์แบบอะนาลอกแต่เพียงอย่างเดียว 

 

          ดังนั้นในไตรมาสแรกของปีนี้ เอปสันจึงได้เพิ่มช่องทางการตลาดสำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอและป้ายโฆษณาที่เป็นระบบดิจิตอล ด้วยการเปิดตัวพรินเตอร์หน้ากว้างขนาด 64 นิ้ว รุ่นใหม่ SureColor S-Series พร้อมกันถึง 3 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ S40670, S60670 และ S80670 ซึ่งเป็นพรินเตอร์สำหรับธุรกิจงานพิมพ์ป้ายโฆษณา พิมพ์ลายวัตถุและของพรีเมี่ยม รวมทั้งการพิมพ์ซ้ำงานศิลป์ พร้อมกันนี้ยังได้ออกโปรโมชั่นใหญ่ ด้วยการลดราคาน้ำหมึกแท้ของพรินเตอร์ประเภท Dye Sublimation รุ่น SureColor F-Series ซึ่งเป็นรุ่นสำหรับธุรกิจสิ่งทอลง 55% และรุ่น SureColor S-Series สำหรับธุรกิจป้ายโฆษณาถึง 70% เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ประกอบการ และในส่วนของประเทศไทย ทางบริษัทฯ ยังได้เร่งขยายเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายเพื่อรุกอุตสาหกรรมสิ่งทอและป้ายโฆษณาทั่วประเทศอีกด้วย

 

          “สำหรับการออกโปรโมชั่นดังกล่าวนี้ จะเป็นกลยุทธ์ในการชิงส่วนแบ่งตลาดจากกลุ่มเครื่องประกอบแบบนำเข้า ที่มีการใช้อย่างแพร่หลายในภูมิภาคนี้ เนื่องจากไม่ค่อยมีแบรนด์ผู้ผลิตพรินเตอร์เข้ามาทำตลาดมากนัก บวกกับ ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสิ่งทอและป้ายโฆษณาต้องการประหยัดต้นทุนในการผลิต จึงเลือกใช้พรินเตอร์ประกอบและหมึกทดแทน ทำให้ต้องเผชิญกับปัญหาเกี่ยวกับตัวเครื่องหลายอย่าง และได้ชิ้นงานที่ไม่มีคุณภาพ อีกทั้งยังไม่ได้การรับประกันจากเจ้าของแบรนด์ โปรโมชั่นดังกล่าวของเอปสัน จึงเป็นการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการกลุ่มดังกล่าว ให้ความสนใจและเปลี่ยนพฤติกรรมมาใช้พรินเตอร์และหมึกพิมพ์แท้กันมากขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถลดต้นทุน เพิ่มคุณภาพการผลิต และขยายไลน์ธุรกิจที่เน้นงาน คุณภาพ หรืองานแบบ Made to Order อีกทั้งยังได้รับการดูแลโดยตรงจากเอปสัน ซึ่งปัจจุบัน เป็นแบรนด์ผู้ผลิต เพียงรายเดียวในตลาด ที่ให้การรับประกันทั้งในส่วนหัวพิมพ์และตัวเครื่องนาน 2 ปี ทั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกที่คุ้มค่าให้กับลูกค้า” นายอนันต์พล กล่าว

 

          สำหรับพรินเตอร์ใหม่ทั้ง 3 รุ่นนี้ เป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 ที่ได้รับการพัฒนาต่อมาจากรุ่นเดิม โดยได้อัพเกรดจนมีประสิทธิภาพการพิมพ์ที่ดีเยี่ยม โดยใช้เทคโนโลยีการพิมพ์แบบ Precision Dot ด้วยการหยดน้ำหมึกที่มีความแม่นยำสูง ช่วยป้องกันปัญหาพิมพ์สีเพี้ยน แม้ในขณะพิมพ์งานด้วยความเร็วสูงสุด มีระบบจัดเรียงวัสดุการพิมพ์และตั้งค่าอัตโนมัติ ช่วยให้เปลี่ยนวัสดุการพิมพ์หลากหลายประเภทได้อย่างรวดเร็ว มีระบบทำความสะอาดหัวพิมพ์อัตโนมัติและระบบระบายอากาศในตัว ช่วยให้หัวพิมพ์สะอาดขึ้นและทำงานได้นานขึ้น ส่วนตัวเครื่อง ยังได้รับการอัพเกรดจนทนทานมากขึ้น ป้องกันหัวพิมพ์แตกเสียหาย โดยเฉพาะรุ่น S80670 ที่ใช้หัวพิมพ์ PrecisionCore แบบ Thin Film Piezo ทำให้พิมพ์งานได้เร็วขึ้นอีกเท่าตัว สามารถควบคุมอุณหภูมิ ตัวเครื่องขณะทำงานให้ต่ำกว่าพรินเตอร์อื่นทั่วไป

นอกจากนี้ พรินเตอร์ทั้ง 3 รุ่นยังมีคุณสมบัติเฉพาะในเรื่องของการประหยัดพลังงาน ลดการใช้น้ำหมึก และยังสามารถใช้งานร่วมกับหมึก Ultrachrome GS3 ทำให้ได้สีสันที่สมจริง หมึกแห้งเร็วขึ้น และทนทาน ต่อสภาพอากาศ เหมาะกับงานทั้งภายในและภายนอกอาคาร และเนื่องจากเป็นหมึกประเภท Eco-solvent จึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปราศจากกลิ่น ไร้สารเคมีที่เป็นพิษต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม โดยพรินเตอร์รุ่น S40670 และ S60670 จำหน่ายแล้วในราคา 645,000 และ 890,000 บาท ตามลำดับ ส่วนรุ่น S80670 จะเริ่มจำหน่ายในเดือนเมษายนของปีนี้

 

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ขานรับนโยบายภาครัฐฯ จับมือสำนักงานคณะกรรมการ การอาชีวศึกษา เดินหน้าโครงการ “คนไทยปลอดภัยจากไฟดูด”

          ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เดินหน้าตอกย้ำโครงการ คนไทยปลอดภัยจากไฟดูด จับมือ สำนักงานคณะกรรมการ การอาชีวศึกษา (สอศ.)มอบความห่วงใย และสานต่อความรู้ให้เด็กไทย มอบเบรกเกอร์กันไฟดูด (ลูกย่อย) 100 ตัว มูลค่าประมาณ 250,000 บาท เพื่อไปติดตั้งให้กับโรงเรียนประถมศึกษา เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการถูกไฟดูด และเป็นอุปกรณ์ในการประกอบการเรียนการสอนอาชีวศึกษา เพื่อตอกย้ำความสำคัญของความปลอดภัย ส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ “Life is On” ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค

 

 

          นายสุรเชษฏ์ บุญยศักดิ์เสรี ผู้อำนวยการธุรกิจค้าปลีก ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศไทย กล่าวว่า “การมอบความรู้ด้านความปลอดภัยให้กับคนไทย เป็นสิ่งที่ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศไทย มุ่งหวังและมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยโครงการ “คนไทยปลอดภัยจากไฟดูด” เป็นโครงการที่เราจัดตั้งขึ้น เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อเยาวชนไทย และคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการเพิ่มความปลอดภัยจากการใช้ไฟฟ้าของประชาชน อีกทั้งในมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าฉบับใหม่ปี 2556 ได้ระบุให้บ้านใหม่ทุกบ้าน จะต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์กันไฟดูด เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยในครั้งนี้เราได้จับมือกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาในการมอบเบรกเกอร์กันไฟดูด (ลูกย่อย) จำนวน 100 ตัวมูลค่า 250,000 บาท เพื่อใช้เป็นอุปกรณ์ประกอบการเรียนการสอน พัฒนาความเข้าใจให้แก่นักเรียนอาชีวศึกษา ในการเพิ่มความปลอดภัยและป้องกันอันตรายจากการใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอย่างถูกวิธี นอกจากนี้ เราจะนำเบรกเกอร์กันไฟดูดดังกล่าว ไปติดตั้งให้กับโรงเรียนประถมศึกษา ซึ่งเป็นสถานที่ ๆ มีเด็กเล็กและมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับอันตรายจากการถูกไฟดูด โดยเราจะติดตั้งในบริเวณที่เป็นจุดเสี่ยง เช่น ตู้กดน้ำเย็น สวิตช์ไฟ เต้ารับ ระบบไฟในห้องน้ำ ระบบไฟนอกอาคาร ฯลฯ ที่อยู่ในระดับที่เด็กเอื้อมถึง โดยทางสอศ.จะเป็นผู้ดำเนินการติดตั้งเบรกเกอร์ในโรงเรียนต่าง ๆ ทั่วประเทศให้กับทางเรา ซึ่งเบรกเกอร์กันไฟดูด ของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค มีจุดเด่นคือสามารถตัดไฟได้อย่างรวดเร็ว เพียง 0.04 วินาที และโดยเมื่อเกิดเหตุ ไฟจะถูกตัดเฉพาะจุดเกิดเหตุ ไม่ตัดทั้งโรงเรียน และทำให้รู้ได้เลยว่าไฟดูดไฟรั่วที่ใด เพื่อการแก้ไขได้ทันท่วงที และที่สำคัญยังมีแถบบอกสถานะเมื่อเกิดไฟรั่วไฟ ไฟช็อต และไฟเกินที่ตัวเบรกเกอร์ อีกด้วย”

 

          นายสินเธาว์ ชัยสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักความร่วมมือ รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านมาตรฐานอาชีวศึกษาธุรกิจและบริการ กล่าวว่า “ทาง สอศ. รู้สึกยินดีที่ได้ร่วมมือกับบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านพลังงาน และอุปกรณ์ไฟฟ้าระดับโลกอย่าง ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ในการช่วยภาคการศึกษาของประเทศ ถ่ายทอดความเชี่ยวชาญ และมอบอุปกรณ์เพื่อใช้ในการส่งเสริมหลักสูตรของเราให้นักเรียนอาชีวศึกษาเข้าใจถึงเรื่องไฟฟ้า และนวัตกรรมของเบรกเกอร์ที่ทันสมัย นอกจากนี้ ทาง สอศ. มีความยินดีที่โรงเรียนประถมศึกษาหลายแห่ง จะได้มีอุปกรณ์เบรกเกอร์แบบตัดเฉพาะจุดเอาไว้ใช้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็กนักเรียน ให้รอดพ้นจากอุบัติเหตุเกี่ยวกับไฟฟ้า โดย สอศ.จะเป็นผู้ประสานไปยังวิทยาลัยเทคนิคทั่วประเทศ ในการคัดเลือกโรงเรียน และให้ผู้เชี่ยวชาญนำไปติดตั้งให้ในลำดับต่อไป”

 

 

          โครงการ “คนไทยปลอดภัยจากไฟดูด” ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค เป็นโครงการที่มุ่งให้ความรู้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่องถึงภัย และความสำคัญของการติดตั้งอุปกรณ์กันไฟดูด ทั้งยังมุ่งหวังในการช่วยภาครัฐลดช่วยอุบัติเหตุของคนไทยจากการเสียชีวิตจากไฟฟ้าดูดอีกด้วย

 

วัตคินสัน เปิดโฉมโชว์รูมใหม่ ขยายตลาดเครื่องจักรหนักสำหรับงานก่อสร้างและเหมืองแร่ นำเข้าเครื่องจักรรุ่นใหม่ดันตลาดไทย

          วัตคินสัน คอนสตรัคชั่นอิควิปเม้นท์ นำธุรกิจด้านจัดจำหน่ายและให้บริการเครื่องจักรหนัก เพื่อการก่อสร้างและเหมืองแร่ แบรนด์ดังระดับโลก เคส คอนสตรัคชั่น (CASE Construction) จากสหรัฐอเมริกา ได้ฤกษ์เปิดโฉมโชว์รูมใหม่เพื่อเร่งขยายตลาดอุตสาหกรรมเครื่องจักรหนัก พร้อมทั้งเปิดตัวเครื่องจักรสำหรับงานก่อสร้างและเหมืองแร่รุ่นใหม่ดันการเติบโตและสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดประเทศไทยอย่างครบวงจร

         

          นายวัฒนา วีรศุภกาญจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท วัตคินสัน คอนสตรัคชั่นอิควิปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า วัตคินสัน เป็นหนึ่งบริษัทในเครือของ ที แอลเอส กรุ๊ป ที่ได้ดำเนินธุรกิจการจัดจำหน่ายและให้บริการเครื่องจักรเพื่อการขนถ่ายลำเลียงในอุตสาหกรรมและเครื่องจักรหนักเพื่อการก่อสร้างและเหมืองแร่ ซึ่งดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมากว่า 13 ปี สำหรับ “วัตคินสัน” นั้น เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องจักรหนักแบรนด์ “เคส คอนสตรัคชั่น” (CASE Construction) เป็นเครื่องจักรเพื่อการเกษตรและการก่อสร้างที่ดีที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลกจากสหรัฐอเมริกา ได้รับความเชื่อถือและยอมรับในคุณภาพอย่างดีเยี่ยมเสมอมา ปัจจุบัน “วัตคินสัน” ได้นำเข้าเครื่องจักรหลากหลายรุ่นที่ตอบโจทย์กับทุกสภาพการใช้งานและเหมาะสมกับการใช้งานสำหรับตลาดประเทศไทย อาทิ รถขุด รถตัก รถหน้าตัก-หลังขุด รถบดซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้างในประเทศไทย และปีนี้ บริษัทฯ จึงได้นำเข้าเครื่องจักรหนักรุ่นใหม่และเปิดตัวโชว์รูมแห่งใหม่ ณ จังหวัดระยอง เป็นการเร่งขยายตลาดแบบครบวงจร ซึ่งขณะนี้ “วัตคินสัน” มีศูนย์บริการสำหรับบริการหลังการขายทั้งหมด 6 แห่ง และมีเป้าหมายจะขยายศูนย์บริการและสาขาของทั้ง “วัตคินสัน” และผู้จำหน่ายทั่วประเทศ รวมกันไม่ต่ำกว่า 20 แห่ง ภายใน 3 ปี”

         

          นายอติพงศ์ พงศ์หว่าน ที่ปรึกษาอาวุโส ด้านเครื่องจักรหนักเพื่อการก่อสร้างและเหมืองแร่ บริษัท วัตคินสัน คอนสตรัคชั่นอิควิปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า ความต้องการเครื่องจักรหนักของตลาดอุตสาหกรรมในไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับจำนวนโครงการต่าง ๆ ทั้งจากภาครัฐและเอกชนที่กำลังผุดเพิ่มขึ้น ในปี 2015 ที่ผ่านมามูลค่าการตลาดของอุตสาหกรรมหนักอยู่ที่ 20,000 ล้านบาท โตกว่าปี 2014 ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 14,000-15,000 ล้านบาท หรือกว่า 35% โดยเฉลี่ย ในปี 2015 ที่มีการเติบโตมากขึ้นส่วนหนึ่งมาจาก หลาย ๆ บริษัทในตลาดเครื่องจักรหนักทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขายกันหนักเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการต่อสู้ด้านราคา ทำให้กลุ่มผู้ประกอบการมีการซื้อเครื่องจักรไว้ล่วงหน้าเพื่อรองรับงานที่จะได้ตามสัญญาระดับหนึ่งส่งผลให้หลาย ๆ บริษัทสามารถจำหน่ายเครื่องจักรได้จำนวนเพิ่มมากขึ้น 30-50% แต่ผลประกอบการปลายปีกลับกำไรน้อยลง เนื่องจากต้องแบกภาระอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวนอย่างหนักในปี 2015 แทนลูกค้าที่ซื้อเป็นเงินบาทในช่วงแข่งขันกันดุเดือดปีที่ผ่านมา

            

          สำหรับในปี 2016 ด้วยโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ของภาครัฐคาดว่าน่าจะรักษาระดับการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลหนักไม่ต่ำกว่าปี 2015 หรือมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท หรืออาจสูงได้ถึงระดับมากกว่า 22,000 ล้านบาท และด้วยจุดแข็งของ “เคส คอนสตรัคชั่น” (CASE Construction) ที่มีสินค้าตอบโจทย์ในทุกสภาพการใช้งาน เป็นทางเลือกให้ลูกค้าได้มากกว่า 6 ประเภท ดังนั้นคาดว่า “วัตคินสัน” จะสามารถบรรลุเป้าหมายส่วนแบ่งทางการตลาดได้ไม่น้อยกว่า 3-5%

            

          คุณดานิโล่ คาตาลุซซี่ ผู้จัดการด้านการตลาด โซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และญี่ปุ่น และผู้จัดการธุรกิจประเทศไทยลาว และกัมพูชา บริษัท CNHi กล่าวว่า “ตลาดเครื่องจักรก่อสร้างและเหมืองแร่ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการที่ CNHi ได้เข้ามาผนึกกำลังร่วมธุรกิจในตลาดสายนี้กับวัตคินสัน จึงเป็นการเอื้ออำนวยซึ่งกันและกันสำหรับผลักดันตลาดเครื่องจักรก่อสร้างและเหมืองแร่แบรนด์ “เคส คอนสตรัคชั่น” ขึ้นแท่นมาเป็นหนึ่งในผู้นำของตลาดเครื่องจักรก่อสร้างและเหมืองแร่ในประเทศไทย

            

          เครื่องจักรหนักเพื่อการก่อสร้าง “เคส คอนสตรัคชั่น” (CASE Construction) เป็นแบรนด์ดังจากสหรัฐอเมริกาเป็นเครื่องจักรเพื่อการเกษตรและการก่อสร้างที่ดีที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลก โดยล่าสุด CASE Construction ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นสมาชิกดีเด่นแห่งปี 2558 จากสมาคมการจัดการเครื่องมือและอุปกรณ์มืออาชีพ ในงานสัมมนาประจำปี ครั้งที่ 33 ที่เมืองออร์แลนโด สหรัฐอเมริกา

 

กลับมาอีกครั้งกับ Promotion สุดพิเศษ เอาใจนักอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่จาก บริษัทนัฐพงษ์ฯ กับงาน NPE Electronic & Kit Fair 2016

          ไม่ว่าจะเป็น ผู้ทำงานด้านอิเล็กทรอนิกส์ ช่าง นักเรียน นักศึกษาด้านอิเล็กทรอนิกส์ หรือ จะเป็นผู้ที่ชื่นชอบอะไหล่ อุปกรณ์ เเละเครื่องมือต่าง ๆ ในด้านอิเล็กทรอนิกส์  ต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อพบกันงาน NPE Electronic & Kit Fair 2016 ที่ บริษัท นัฐพงษ์ เซลส์เเอนด์เซอร์วิส จำกัด ศูนย์รวมเครื่องเสียงชั้นนำ ซูเปอร์มาเก็ตอิเล็กทรอนิกส์ อิเล็กทริก เเละอุตสาหกรรม ร่วมมือกับพันธมิตรหลากหลายเเบรนด์อิเล็กทรอนิกส์ จะจัดขึ้นในวันที่ 19 พฤษภาคม-11 มิถุนายน 2559 นี้

 

          โดยเตรียมโปรโมชั่นพิเศษ ๆ พร้อมยกขบวนสินค้าอิเล็กทรอนิกส์มากมาย มาให้ลูกค้าเลือกสรรในราคาพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าในเครือ บริษัท นัฐพงษ์ฯ เช่น ชุดคิทคุณภาพสูงเเบรนด์ NPE Kit สินค้างานโลหะ NPE System Enclosure, เครื่องมือทุกรูปแบบจาก Pro’s kit, CT Brand เเละ Engineer มิเตอร์เเบรนด์ Victor เเละ Minipa, คาปาซิเตอร์ Wima พัดลมอิเล็กทรอนิกส์ เเละอุตสาหกรรม Sunon, สวิตช์  Mec, สเปรย์อเนกประสงค์สำหรับงานอุตสาหกรรม Kontakt Chemie และแบรนด์อื่น ๆ รวมไปถึงจากแบรนด์ พันธมิตร อีกมากมาย (นี่ยังไม่นับ กิจกรรมดี ๆ ที่เตรียมมา) พบกันได้ทั้งสองสาขา ไม่ว่าจะเป็น สำนักงานใหญ่บ้านหม้อ หรือ เซียร์รังสิต

 

          พลาดไม่ได้จริง ๆ สำหรับงานดี ๆ แบบนี้ ย้ำอีกครั้ง ตั้งแต่ วันที่ 19 พฤษภาคม- 11 มิถุนายน 2559 นี้ ทั้ง 2 สาขาไม่ว่าจะเป็นสำนักงานใหญ่บ้านหม้อ (หยุดวันอาทิตย์) หรือสาขาเซียร์รังสิต (เปิดทุกวัน ไม่เว้นวันอาทิตย์)

 

          สนใจติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ฝ่ายขายของ บริษัท นัฐพงษ์ เซลส์แอนด์เซอร์วิส จำกัด สำนักงานใหญ่บ้านหม้อ โทร 0-2225-0094 และสาขาเซียร์รังสิต โทร 0-2992-7379 หากสนใจเพิ่มเติมสามารถหาข้อมูลได้ทางเว็ปไซต์ www.mynpe.com และผ่านทาง Fanpage ของบริษัทได้ที่ www.facebook.com/mynpethailand หรือจะเข้ามา Follow Twitter ของบริษัทก็ได้เช่นกันที่ http://twitter.com/Natthapong_NPE ตามช่องทางที่สะดวกได้เลย

 

ทรูมันนี่ FinTech ระดับแนวหน้าของประเทศประกาศผลักดันไทยสู่ Cashless Society

          ทรูมันนี่ ชูแนวคิด Cashless Society ผลักดันประเทศไทยใช้เงินอิเล็กทรอนิกส์เต็มรูปแบบ โชว์ศักยภาพบริษัท FinTech ของไทยด้วยนวัตกรรมบริการทางการเงินครบวงจร มั่นใจสามารถสามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคในเรื่องการใช้จ่ายเงิน ให้เปลี่ยนมาใช้เงินอิเล็กทรอนิกส์กันอย่างแพร่หลาย และเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยหนึ่งในบริการที่ได้รับความนิยมอย่างสูง คือ TrueMoney Wallet หรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งถือเป็นรูปแบบบริการที่เป็นนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นโดยกลุ่ม FinTech ของทรูมันนี่ เป็นแอพพลิเคชั่นบนมือถือรายแรกที่สามารถ Scan and Pay ในประเทศไทย ใช้กล้องถ่ายรูปจากสมาร์ทโฟนสแกนบาร์โค้ด เพื่อชำระเงินได้ทันที ง่าย สะดวก รวดเร็ว และให้บริการได้กับทุกค่ายมือถือ จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพียงสัปดาห์แรกของการเปิดตัว มียอดดาวน์โหลดสูงถึงกว่า 25,000 ดาวน์โหลด ทำให้ขึ้นเป็นอันดับ 1 ในกลุ่ม Finance Application บนแอพสโตร์

ยูนิเวอร์แซล โรบอทส์ ผู้ผลิตหุ่นยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของเดนมาร์ก มีรายรับเติบโตถึง 91%

          เป็นเรื่องที่สร้างความฮือฮาอย่างมากเมื่ออเมริกัน เทราไดน์ (American Teradyne) ยอมจ่ายมากกว่า 285 ล้านเหรียญสหรัฐเป็นค่าหุ้นทั้งหมดในบริษัท ยูนิเวอร์แซล โรบอทส์ ที่มีสำนักงานตั้งอยู่ที่เมืองโอเดนส์ ประเทศเดนมาร์ก เมื่อฤดูใบไม้ผลิปี พ.ศ.2558 ราคาของบริษัทธุรกิจที่มีพนักงาน 150 คนในเดนมาร์กนี้สะท้อนให้เห็นถึงความคาดหวังต่ออัตราการเติบโตขยายตัวอย่างมีนัยยะสำคัญของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในตลาดนวัตกรรมหุ่นยนต์ที่อุบัติขึ้นใหม่ที่เรียกว่า หุ่นยนต์ที่สามารถปฏิบัติงานร่วมกับมนุษย์ (Collaborative Robots) หรือ Cobot ซึ่งมีสนนราคาต่ำ ใช้งานง่าย และเป็นหุ่นยนต์ที่ตั้งโปรแกรมใช้งานได้ง่ายไม่ซับซ้อนยุ่งยาก สามารถที่จะปฏิบัติงานเคียงข้างคนงานในสายการผลิต เพื่อปรับปรุงคุณภาพ รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ยูนิเวอร์แซล โรบอทส์ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังนวัตกรรมคิดค้นสร้างสรรค์หุ่นยนต์ Cobot ตัวแรกของโลก

 

          หุ่นยนต์ Cobot ตัวแรกของโลกวางตลาดเมื่อธันวาคม 2008 และในปี 2015 ประมาณมูลค่าตลาดที่ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลาด Cobot นี้น่าที่จะมีมูลค่าขึ้นไปได้ถึง 3 พันล้านเหรียญสหรัฐจากประมาณการณ์ของนักวิเคราะห์ ภายในปี 2020 ดังนั้นผู้คิดค้นบุกเบิกแถวหน้าอย่างบริษัทจากเดนมาร์กนี้จึงถือว่าได้สร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้แก่เทราไดน์ ด้วยภาคส่วนธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุด

 

          รายรับในปี 2015 ของยูนิเวอร์แซล โรบอทส์อยู่ที่ 418 ล้านโครนเดนมาร์ก (ประมาณ 61.65 ล้านเหรียญสหรัฐ) เติบโต 91 เปอร์เซ็นต์เทียบกับปี 2014 และ 223 เปอร์เซ็นต์เทียบกับปี 2013 ผลกำไรก่อนหักภาษีอยู่ที่ 65.4 ล้านโครนเดนมาร์ก (ประมาณ 9.65 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 122เปอร์เซ็นต์เทียบกับปี 2014 นั่นหมายความว่าผู้ผลิตหุ่นยนต์มีอัตรารายได้เพิ่มขึ้นและลดค่าใช้จ่ายต่อการผลิตหุ่นยนต์หนึ่งยูนิต–และดังนั้นจึงได้รับประสิทธิภาพสูงขึ้นในปี 2015 จากผลกำไรที่เติบโตแซงหน้ายอดรายรับที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน

 

          ตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา ยอดขายรายปีของยูนิเวอร์แซล โรบอทส์เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยประมาณ 75 เปอร์เซ็นต์ การผลิตแขนหุ่นยนต์ทั้งหมดอยู่ที่เมืองโอเดนส์ และจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่าย 200 ราย ด้วยยอดขาย 45 เปอร์เซ็นต์จากยุโรป 30 เปอร์เซ็นต์จากอเมริกา และ 25 เปอร์เซ็นต์ในเอเชียในปี 2015

 

          ภาวะการเงินที่แข็งแกร่งของเทราไดน์ที่ได้เข้าซื้อยูนิเวอร์แซล โรบอทส์นั้นจะเตรียมความพร้อมในการลงทุนเพื่อรักษาความเป็นผู้นำของยูนิเวอร์แซล โรบอทส์ในด้านหุ่นยนต์ที่สามารถปฏิบัติงานร่วมกับมนุษย์ได้เป็นอย่างดี ทีมงานนักพัฒนาหุ่นยนต์ที่ได้เติบโตขึ้นเมื่อปี 2015 ปัจจุบันได้เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวในแผนกพัฒนาที่เมืองโอเดนส์

 

          "ในปีต่อ ๆ ไปข้างหน้า เราคาดว่าตลาดสำหรับหุ่นยนต์ที่สามารถปฏิบัติงานร่วมกับมนุษย์ได้นั้น จะเติบโตขยายตัวขึ้นอย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์ในแต่ละปี จากความสามารถในการคืนทุนที่รวดเร็ว โดยปกติแล้วภายในระยะเวลาไม่เกิน 12 เดือน” เอ็นริโก ครอก ไอเวอร์เซน ซีอีโอ ยูนิเวอร์แซล โรบอทส์ กล่าว “เราเป็นผู้นำตลาดอย่างไม่ต้องสงสัย และเพิ่มอัตราการลงทุนด้านวิศวกรรม การจำหน่าย และการดูแลลูกค้าเพื่อต่อยอดตลาดของเรา แม้ว่าผมจะมิได้เป็น แม้ว่าผมจะละจากตำแหน่งซีอีโอมาเป็นที่ปรึกษาของยูนิเวอร์แซล โรบอทส์ซึ่งจะมีผลภายในปีนี้ก็ตาม ผมมีความเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่ายูนิเวอร์แซล โรบอทส์จะพัฒนาแข็งแกร่งต่อไปภายใต้นโยบายที่ชัดเจนด้วยคำสั้น ๆ สามคำดังนี้คือ มุ่งมั่น เรียบง่าย และไม่ย่อท้อต่อการสร้างผลงาน”

 

เปิดตัวโครงการ ‘Safe Software, Safe Nation’

          นายทศพล ทังสุบุตร รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ (กลาง) พ.อ.ต.กิตติศักดิ์ ปลาทอง รองผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ซ้าย) และ นายสมพร มณีรัตนะกูล นายกสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย (ขวา) ร่วมเปิดตัวโครงการ ‘Safe Software, Safe Nation’ เร่งลดการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ต้นตอภัยไซเบอร์ ซึ่งเป็นโครงการระดับประเทศที่จัดทำขึ้นเพื่อลดการใช้ซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายและไม่มีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ ควบคู่ไปกับการป้องกันภัยและลดความเสี่ยงบนโลกไซเบอร์

 

รี้ดฯ เดินหน้า Roadshow ดึงนักลงทุนเกาหลีร่วมเจรจาธุรกิจในงาน Manufacturing Expo 2016

          คุณวิชัย จิราธิยุตวิชัย ผู้อำนวยการ สถาบันยานยนต์ ร่วมด้วย คุณชนาภา เลิศรุ่งเรือง ผู้จัดการกลุ่มโครงการม บริษัท รี้ด เทรดเด็กซ์ จำกัด และ Mr.PyeongGil Park  CFO, Taegutec Company ร่วมแถลงข่าว  ในงานแถลงข่าว “Emerging Market for Korean Machinery Brands in AEC Via Manufacturing Expo 2016” ณ กรุง โซล ประเทศเกาหลี โดยได้รับเกียรติจาก ฯพณฯท่าน ศรัณย์ เจริญสุวรรณ เอกอัครราชทูตไทย  ณ กรุงโซล, ประเทศเกาหลีใต้ เป็นประธาน โดยจุดประสงค์ในงานแถลงข่าวนี้ เพื่อสนับสนุนนักลงทุน และ ผู้ประกอบการผลิตเครื่องจักรจากประเทศเกาหลีให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย พร้อมเชิญเข้าร่วมเจรจาการค้า ภายใต้งาน Manufacturing Expo 2016 ซึ่งจะจัดในระหว่างวันที่ 22-26 มิถุนายนนี้ ณ ไบเทค บางนา

 

สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องเรือนไทย จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2558 และฉลองครบรอบ 36 ปี

          นายอารักษ์  สุขสวัสดิ์ (ที่ 1 จากขวา) นายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องเรือนไทย นายพิศิษฐ์ ปัทมะสัตยาสนธิ ประธานบริหาร บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เฟิร์น จำกัด, นายวรรธนะ เจริญนวรัตน์ ประธานบริหาร บริษัท วนชัย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), นายไพบูลย์ พินิตกาญจนพันธุ์ ประธานบริหาร บริษัท พิโคที อินเตอร์เนชชั่นแนล จำกัด และ นายจิรวัฒน์ ตั้งกิจงามวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อุตสาหกรรมดีสวัสดิ์ จำกัด ร่วมเสวนาในหัวข้อ มุมมองอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์กับสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ในงานประชุมสามัญประจำปี2558 พร้อมจัดงานเลี้ยงครบรอบ 36 ปีการก่อตั้งสมาคมเครื่องเรือนไทย เพื่อให้สมาชิกสมาคมและผู้ประกอบการ ได้ร่วมพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทัศนคติ และรับฟังข้อมูลใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ ณ ห้อง Ballroom 1 ชั้น 5 โรงแรม S31 ถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ

 

ผู้บริหารซีเกทบรรยายพิเศษในงาน iEECON 2016

          ดร.มาร์ค เร รองประธานอาวุโสและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท ซีเกท เทคโนโลยี จำกัด (ที่ 4 จากขวา) บรรยายพิเศษในหัวข้อ “เทคโนโลยีหัวอ่านกับฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์”  โดยมี นายรุ่ง ศิวารัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิศวกรรม บริษัท ซีเกท เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด (ที่ 3 จากขวา) รวมถึงตัวแทนจากภาคการศึกษาและภาคธุรกิจร่วมในงานประชุมวิชาการ The 2016 International Electrical Engineering Congress (iEECON 2016) ซึ่งเป็นงานประชุมวิชาการระดับนานาชาติและเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของนักวิจัย วิศวกรและผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาและความก้าวหน้าของเทคโนโลยีวิศวกรรมไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์

 

กู๊ดเยียร์ คว้ารางวัลบริษัทกลุ่มอุปกรณ์ชิ้นส่วน ยานยนต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของโลก 4 ปีซ้อน

          กู๊ดเยียร์ ได้รับเลือกให้เป็นบริษัทอุปกรณ์ชิ้นส่วนยานยนต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของโลก จากการสำรวจของนิตยสารฟอร์จูน ซึ่งนับเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน
               

          ทั้งนี้ ในสาขาของบริษัทอุปกรณ์ชิ้นส่วนยานยนต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของโลกจากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์จูนนั้น กู๊ดเยียร์ครองอันดับ 1 สำหรับบริษัทสัญชาติอเมริกัน และติดอันดับ 3 จากทั้งหมด
               

          ในสาขาของบริษัทอุปกรณ์ชิ้นส่วนยานยนต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของโลก กู๊ดเยียร์สามารถครองอันดับที่ 3 ด้วยคุณสมบัติโดดเด่น 5 หมวด จากทั้งหมด 9 หมวด และติดอันดับ 4 ด้วยคุณสมบัติโดดเด่น 3 หมวด
               

          ทั้งนี้ รางวัลบริษัทที่ได้รับความนิยมสูงสุด (The Fortune Most Admired List) จัดขึ้นเป็นครั้งแรก ในปี 2526 โดยนิตยสารฟอร์จูน นับเป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่ประกาศถึงความมีชื่อเสียงอันดีงามขององค์กรธุรกิจต่าง ๆ โดยใช้หลักเกณฑ์การคัดเลือกและประเมินผลที่เข้มงวดและมีผู้เข้าร่วมการสำรวจ ซึ่งประกอบด้วยผู้บริหาร กรรมการของบริษัทต่าง ๆ และนักวิเคราะห์หลักทรัพย์รวมทั้งสิ้นกว่า 4,000 คน เป็นผู้พิจารณาระบุระดับความมีชื่อเสียงโดยรวมของบริษัทแต่ละแห่ง ด้วยการประเมินคุณสมบัติของบริษัทนั้น ๆ ในด้านต่าง ๆ เช่น การสร้างสรรค์นวัตกรรม การบริหารบุคลากร การใช้ทรัพยากรขององค์กรอย่างเต็มประสิทธิภาพ ความรับผิดชอบต่อสังคม คุณภาพการจัดการ เสถียรภาพทางการเงิน การลงทุนในระยะยาว คุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการ และขีดความสามารถในการแข่งขันทั่วโลก
               

          สำหรับรายชื่อบริษัทที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติดังกล่าวทั้งหมด พร้อมด้วยรายละเอียดที่เกี่ยวข้องได้ถูกตีพิมพ์เผยแพร่ในนิตยสารฟอร์จูน ฉบับเดือนมีนาคมนี้ โดยวางจำหน่ายตามร้านหนังสือทั่วไป และทางออนไลน์ที่ www.fortune.com/WMAC นับตั้งแต่เริ่มตีพิมพ์ในปี 2473 นิตยสารฟอร์จูนได้กลายเป็นนิตยสารด้านธุรกิจชั้นนำฉบับหนึ่งของโลก
               

          กู๊ดเยียร์นับเป็นหนึ่งในองค์กรที่ทำธุรกิจด้านยางที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีพนักงานร่วม 60,000 คน โดยผลิตสินค้าจากโรงงานผลิต 49 แห่งใน 22 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ ศูนย์นวัตกรรมทั้ง 2 แห่งในอาครอน รัฐโอไฮโอ และคอลมาร์-เบิร์ก ในลักเซมเบิร์ก ได้เจริญรุดหน้าในด้านการพัฒนาสินค้าและการบริการอันล้ำยุค จนสามารถสร้างมาตรฐานทางด้านเทคโนโลยีและสมรรถนะขึ้นมาใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยาง ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกู๊ดเยียร์และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของบริษัท กรุณาไปที่ www.goodyear.com/corporate/

ฟูจิตสึ ได้รับการเสนอชื่อเป็น “บริษัทที่น่าชื่นชมมากที่สุดในโลกประจำปี 2016” ของนิตยสารฟอร์จูน ติดต่อกันเป็นปีที่ 4

          ฟูจิตสึ ได้รับการเสนอชื่อเป็น บริษัทที่น่าชื่นชมมากที่สุดในโลกประจำปี ค.. 2016 ของนิตยสารฟอร์จูน ติดต่อกันเป็นปีที่ 4  ในการคัดเลือกรายชื่อของปีนี้ ฟูจิตสึได้รับการจัดอันดับสูงสุดในกลุ่มบริษัทด้านนวัตกรรม การแข่งขันในระดับนานาชาติ ความรับผิดชอบต่อสังคม ความมั่นคงทางการเงินและคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการจากความร่วมมือระหว่างนิตยสารฟอร์จูนและ เฮย์ กรุ๊ป เป็นบริษัทที่ปรึกษาระดับโลกได้จัดอันดับ “บริษัทที่น่าชื่นชมมากที่สุดในโลก” เป็นประจำทุกปี จากการการวิเคราะห์สำรวจผู้บริหารและผู้อำนวยการของบริษัทและอุตสาหกรรมชั้นนำระดับโลกกว่า 15,600 รายทั่วโลก บริษัทที่ได้รับคะแนนสูงสุดทั้งจากภายในและภายนอกกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมที่บริษัทเหล่านั้นดำเนินกิจการอยู่จะได้รับการจัดอันดับคุณภาพในทั้งหมดเก้าด้าน ด้วยกัน อาทิ ด้านคุณภาพการบริหารจัดการ คุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการ และด้านนวัตกรรม เป็นต้น

 

          ปีนี้เป็นปีที่สี่ติดต่อกันของฟูจิตสึที่ได้รับการจัดอันดับติดเป็นหนึ่งในรายชื่อ “บริษัทที่น่าชื่นชมมากที่สุดในโลก” ซึ่งมีรายชื่อรวมกันทั้งสิ้น 340 บริษัท (เป็นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นถึง 18 บริษัท)

 

          ในการส่งเสริมกิจกรรมขององค์กรที่มุ่งเน้นความใส่ใจรับผิดชอบ ด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและ ธรรมาภิบาล ฟูจิตสึจึงมุ่งมั่นสานต่อการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมและโลกอย่างยั่งยืนให้สมเป็นบริษัทด้านไอซีทีระดับโลกอย่างแท้จริง

ABB ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

          บริษัท เอบีบี จำกัด ผู้นำด้านเทคโนโลยีไฟฟ้ากำลังและเทคโนโลยีอัติโนมัติ  และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนสาขาวิชาไฟฟ้า โดยการถ่ายทอดความรู้ด้านเทคนิคให้แก่คณะอาจารย์และนักศึกษาทั่วประเทศ โดยมุ่งเน้นการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริงเพื่อเพิ่มสมรรถนะด้านวิชาชีพให้นักศึกษาเข้าสู่ตลาดแรงงานตามความต้องการของภาคอุตสาหกรรม  รวมถึงสนับสนุนอุปกรณ์ไฟฟ้าในการแข่งขันทักษะวิชาชีพเป็นระยะเวลา 5 ปี

ดาคอน ตรวจสอบท่อส่งน้ำมันที่นครเทียนจินประเทศจีนเป็นผลสำเร็จ

 

         ดาคอน อินสเป็คชั่น เซอร์วิสเซส ประสบความสำเร็จในการตรวจสอบท่อส่งด้วยอุปกรณ์ตรวจสอบท่ออัจฉริยะด้วยคลื่นความถี่สูง (Ultrasonic Intelligent Pigging) ในท่อส่งของบริษัทน้ำมันข้ามชาติที่เมืองเทียนจิน ประเทศจีน

  

          การตรวจสอบเริ่มต้นด้วยการตั้งค่าอุปกรณ์ Ultrasonic Intelligent Pigging ให้เหมาะกับการตรวจสอบท่อที่มีความยาว 1.9 กิโลเมตร ความกว้าง 10 นิ้ว หลังจากนั้นอุปกรณ์จะถูกส่งเข้าท่อด้วยการใช้น้ำมันเป็นสารตัวนำคลื่น (couplant) ในการตรวจสอบโดยใช้คลื่นความถี่สูง

 

          ดาคอนหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมด้านการตรวจสอบด้วย Intelligent Pigging และผู้ให้บริการ Ultrasonic Intelligent Pigging หนึ่งในอุปกรณ์นวัตกรรมการตรวจสอบภายในท่อที่เบาที่สุดของโลก  อุปกรณ์ UT Intelligent Pig ขนาด 10 นิ้ว มีน้ำหนักเพียงแค่ 20 กิโลกรัม และมีความยาวโดยรวม 683 มิลลิเมตร ข้อดีของการตรวจสอบท่อด้วยอุปกรณ์นี้ คือ สามารถปล่อยและเก็บกู้อุปกรณ์ได้ง่าย โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ยก

 

          การทำงานในโครงการนี้มีเวลาจำกัดเป็นอย่างมาก เนื่องจากท่อที่ตรวจสอบเป็นท่อที่มีความสำคัญในการกระบวนการผลิต การดำเนินงานที่ล่าช้าจะส่งผลกับตารางการบรรทุกน้ำมันของลูกค้า ทำให้เกิดความยุ่งยากและค่าใช้จ่ายสูงขึ้นจากการให้เรือบรรทุกเฝ้ารอ

 

          ด้วยทัศนคติที่เป็นมืออาชีพ การจัดการที่เป็นระบบ และการเข้าถึงความต้องการของลูกค้า ทำให้ดาคอนสามารถดำเนินงานเสร็จสิ้นเป็นผลสำเร็จ 1 วันก่อนหน้ากำหนดการที่วางไว้

 

          ภายหลังการทำงานเก็บกู้อุปกรณ์ตรวจสอบท่อ UT Intelligent Pig สำเร็จ ทีมงานของดาคอนจึงทำการวิเคราะห์ข้อมูลภาคสนามโดยการดาวน์โหลดและประเมินข้อมูลที่ถูกเก็บระหว่างที่อุปกรณ์วิ่งในท่อ ในระหว่างขั้นตอนนี้ทีมนักเทคนิคของดาคอนสามารถชี้จุดที่เกิดความสูญเสียผนังท่อและความบกพร่องอื่นๆ ของท่อ Pipeline และแจ้งลูกค้าตามข้อมูลที่ตรวจพบได้ทันที

 

          ด้วยความเป็นหนึ่งในบริษัทจำนวนไม่มากในโลกที่สามารถดาวน์โหลดข้อมูลดิบได้ทันทีภายหลังจากเก็บกู้อุปกรณ์ตรวจสอบภายในท่อ ทำให้ดาคอนสามารถรายงานผลลัพธ์ภาคสนามแก่ลูกค้าภายในหนึ่งชั่วโมงหลังเสร็จสิ้นการตรวจสอบท่อ Pipeline เป้าหมายของดาคอนคือ การรักษาความโปร่งใสในทุกขั้นตอนและทุกเวลาโดยยึดหลักการให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อการส่งมอบคุณค่าให้แก่ลูกค้าได้ในระดับสูงสุดในด้านการได้รับข้อมูล การวิเคราะห์ และการรายงานผล

  

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.dacon-inspection.com

 

เฮงเค็ล ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน “บริษัทที่มีจริยธรรมดีที่สุดในโลก” ประจำปี 2559

          เฮงเค็ล ได้รับการยกย่องเป็นปีที่เก้าติดต่อกันให้เป็นหนึ่งใน บริษัทที่มีจริยธรรมดีที่สุดในโลก (World’s Most Ethical Companies) โดยสถาบันเอธิสเฟียร์ (Ethisphere Institute) องค์กรอิสระที่มุ่งกำหนดและยกระดับมาตรฐานการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม มอบรางวัลนี้เป็นประจำทุกปีให้แก่บริษัทที่สร้างผลกระทบอย่างชัดเจนในการดำเนินธุรกิจด้วยการส่งเสริมวัฒนธรรมการมีจริยธรรมและความโปร่งใสในทุกระดับภายในองค์กร เฮงเค็ลยังได้รับการจัดอันดับอีกครั้งในดัชนีความเสมอภาคระดับโลก อีซีพีไอ (ECPI Global Equity Indices) ซึ่งใช้เกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลในการตัดสิน

               

          ในปีนี้ บริษัท 131 บริษัท จาก 45 ประเภทอุตสาหกรรมใน 21 ประเทศทั่วโลกได้รับการยกย่องให้เป็น “บริษัทที่มีจริยธรรมดีที่สุดในโลก” รางวัลนี้มอบให้เพื่อเป็นการยกย่องบริษัทที่มีผลงานต่อเนื่องในการยกระดับความเป็นผู้นำด้านจริยธรรมและพฤติกรรมองค์กร เฮงเค็ลเป็นบริษัทจากประเทศเยอรมนีเพียงบริษัทเดียวที่ได้รับรางวัลนี้ และยังเป็นหนึ่งในเพียงสามบริษัทที่มาจากอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค การจัดอันดับนี้ใช้เกณฑ์ต่าง ๆ ในการประเมิน ได้แก่ จริยธรรมและการปฏิบัติดี ความเป็นพลเมืองบรรษัทและความรับผิดชอบ วัฒนธรรมและจริยธรรม ธรรมาภิบาลและความเป็นผู้นำ รวมไปถึงนวัตกรรมและชื่อเสียงของบริษัท

               

          “วิธีปฏิบัติของเราเพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืนยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องในหลายปีที่ผ่านมา และได้กลายมาเป็นวิธีปฏิบัติที่เป็นระบบและสามารถระบุความท้าทายทางด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมที่กำลังเพิ่มขึ้นตลอดห่วงโซ่คุณค่าของเราได้” แคธริน เมนเกส รองประธานบริหารฝ่ายทรัพยากรบุคคลและประธานสภาความยั่งยืนของเฮงเค็ล กล่าว “สำหรับเฮงเค็ลแล้ว เช่นเดียวกับธุรกิจอื่น ๆ ทั่วโลก มันเป็นเรื่องที่แน่ชัดว่าธุรกิจจำเป็นต้องเป็นส่วนหนึ่งของการรับมือกับความท้าทายและวาระด้านความยั่งยืน”

               

          บริษัทด้านการจัดอันดับและชี้วัดดัชนีที่มีชื่อเสียง อีซีพีไอ (ECPI) ช่วยยืนยันบทบาทของเฮงเค็ลในฐานะผู้นำในด้านความยั่งยืน อีซีพีไอยกให้เฮงเค็ลอยู่ในการจัดอันดับของดัชนีความเสมอภาคระดับโลกอีซี-พีไออีกครั้งหนึ่งในปีนี้เพื่อเป็นการยกย่องความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของเฮงเค็ลสู่ธุรกิจอันยั่งยืน

               

          ในปี พ.ศ.2573 เฮงเค็ลตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการปฏิบัติงาน ผลิตภัณฑ์ และการบริการ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เฮงเค็ลได้เผยแพร่รายงานความยั่งยืนประจำปี พ.ศ.2558 ซึ่งระบุถึงการบรรลุเป้าหมายระหว่างการดำเนินการในปี พ.ศ.2558 และความทะเยอทะยานใหม่สำหรับปี พ.ศ.2563

               

          เยี่ยมชมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความยั่งยืนของเฮงเค็ลได้ที่ www.henkel.com/sustainability ค้นพบว่าคุณเองผลิตคาร์บอนฟุตพริ้นต์ปริมาณเท่าไหร่ ได้ง่าย ๆ ที่เครื่องมือคำนวณฟุตพริ้นต์

 

ผู้บริหารดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น คว้ารางวัล สุดยอดผู้ประกอบการหญิงแห่งปีในงาน APEA 2016

          นางสาวจรีพร จารุกรสกุล รองประธานกรรมการ รองประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) รับมอบรางวัลผู้ประกอบการหญิงยอดเยี่ยมแห่งปี 2559 Woman Entrepreneur of the Year Award ณ พิธีประกาศรางวัล Asia Pacific Entrepreneurship Awards (APEA) 2016 โดยรางวัลนี้มอบให้เพื่อประกาศเกียรติคุณแก่นักธุรกิจหญิงที่มีความเป็นเลิศในการบริหารจัดการธุรกิจ และประสบความสำเร็จในการพัฒนาศักยภาพขององค์กร ให้กลายเป็นหนึ่งในธุรกิจด้านการพัฒนาโลจิสติกส์ชั้นนำของประเทศไทยและระดับภูมิภาคอาเซียนได้อย่างดีเยี่ยม

 

ยิปรอค เปิดตัวแอพพลิเคชั่นมือถือสุดล้ำ เพื่อการเข้าถึงโซลูชั่นส์และรายการสินค้าได้ง่ายในทุกที่

          บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตนวัตกรรมยิปซัมคุณภาพสูงภายใต้แบรนด์ ยิปรอค และผู้ให้บริการโซลูชั่นส์ระบบผนังและฝ้าครบวงจรมากว่า 45 ปี เปิดตัวแอพพลิเคชั่น ยิปรอค สำหรับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนในประเทศไทย โดยรองรับทั้งระบบไอโอเอสและแอนดรอยด์ เพื่อนำเสนอบริการด้านการก่อสร้างแบบอินเตอร์แอ็คทีฟที่ครบครัน เพื่อให้ผู้พัฒนาโครงการ ผู้รับเหมาก่อสร้าง รวมถึงเจ้าของบ้าน สามารถเข้าถึงสินค้าและบริการของยิปรอคได้ทุกที่ที่ต้องการ การเปิดตัวแอพพลิเคชั่นครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์การให้บริการของยิปรอคในฐานะผู้นำแห่งอุตสาหกรรมก่อสร้างของเมืองไทย โดยผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลบนเว็บไซต์ โครงการที่น่าสนใจ รวมไปถึงการรับทราบข่าวสารและโซลูชั่นส์การก่อสร้างชั้นเยี่ยมของยิปรอค ตลอดจนสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านของยิปรอคได้ตลอดเวลา

 

          ผู้ใช้แอพพลิเคชั่นยิปรอคจะสามารถเข้าถึงรายการสินค้าและบริการทั้งหมดของยิปรอคได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วยให้ผู้พัฒนาโครงการทำงานได้ในทุกที่ แอพพลิเคชั่นจะแสดงรหัสสินค้าและรายละเอียดของโซลูชั่นส์ต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกรายการผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมที่ต้องการได้ทันทีแม้ขณะอยู่ในไซต์งาน โดยเฉพาะ “ประสบการณ์แบบออนไซต์ (On-site Experience)” นี้ จะช่วยให้ผู้ประเมินราคาสามารถทราบรายการสินค้าได้ทันทีเพียงแค่ป้อนขนาดพื้นที่ก่อสร้าง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการทำงานได้อย่างมาก นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถค้นหาศูนย์จำหน่ายสินค้ายิปรอคได้ทั่วประเทศ รวมถึงข้อมูลของบริการอื่น ๆ อาทิ คลังสินค้า บริการสำหรับลูกค้า ศูนย์โซลูชั่นส์การก่อสร้าง และศูนย์ฝึกอบรมของยิปรอค 

 

 

          มร.ริชาร์ด จูเชรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การเปิดตัวแอพพลิเคชั่นยิปรอคสำหรับสมาร์ทโฟนครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในความพยายามของเราในการเชื่อมโยงบริการของยิปรอคสู่ผู้บริโภค ช่างก่อสร้าง เจ้าของบ้าน และผู้กำหนดรายการสินค้าในประเทศไทย นับเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของธุรกิจก่อสร้าง เนื่องจากเราสามารถเชื่อมโยงกับผู้บริโภคได้ในทุกสถานที่หรือแม้แต่ขณะอยู่ในไซต์งาน ทำให้พวกเขาสามารถเข้าถึงรายการสินค้าและโซลูชั่นส์ทั้งหมดของยิปรอคได้อย่างรวดเร็ว พร้อมด้วยเครื่องมือการคำนวณวัสดุที่ใช้ในการสร้างบ้าน ต่อเติมและตกแต่งบ้าน นวัตกรรมของวงการวัสดุก่อสร้างเมืองไทยรูปแบบนี้จะทำให้ความสัมพันธ์ของยิปรอคกับผู้บริโภคเข้มแข็งยิ่งขึ้น ผ่านการเชื่อมโยงแบบอินเตอร์แอ็คทีฟ”

               

          กลยุทธ์ดิจิตอลรูปแบบใหม่ของยิปรอค สื่อให้เห็นถึงแนวทางการให้บริการที่ครบวงจร ในรูปแบบที่ง่ายต่อการค้นหา เข้าใจง่าย และมอบโซลูชั่นส์ที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้ได้ทันที ทั้งยังทำให้สามารถติดตามรายละเอียดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และข่าวสารของบริษัทได้แบบนาทีต่อนาที ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จด้านการสื่อสารกับผู้บริโภคของยิปรอค ผู้ใช้สมาร์ทโฟนสามารถค้นหาแอพพลิเคชั่นได้โดยการพิมพ์ GyprocTH บนกูเกิลเพลย์และแอปเปิลแอพสโตร์ เพื่อติดตั้งแอพพลิเคชั่น ยิปรอค

 

งานไอทีแห่งปี COMMART CONNECT 2016

          บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) จัดงาน “COMMART CONNECT 2016” งานมหกรรมจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าไอทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จับกระแสเทรนด์ “Connected Life” โชว์นวัตกรรมตอบโจทย์ Digital Life ของเจน C โดยในครั้งนี้ได้รับการตอบรับจากพันธมิตรธุรกิจเข้าร่วมแสดงเทคโนโลยีภายในงานคับคั่ง อาทิ เลอโนโว, เดลล์, เอซุส, แอดไวซ์, เอปสัน, เอ็มเอสไอ, ฮอลลีวูด เอชดี, เจ.ไอ.บี คอมพิวเตอร์, สปีด คอมพิวเตอร์, ซีเอสซี, ไอทีซิตี้, เอสพีวีไอ และเอสวีโอเอ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

 

อีเลคทรอนิคส์ ซอร์ซ ร่วมกับพันธมิตร จัดสัมมนาเรื่อง เทคนิคและเครื่องวัด FLUKE สำหรับงานบำรุงรักษาเครื่องจักรในโรงงานและการประหยัดไฟฟ้า

 

 

          เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2559 บริษัท อีเลคทรอนิคส์ ซอร์ซ จำกัด ร่วมกับ บริษัท เมเชอร์โทรนิกซ์ จำกัด จัดสัมมนา เรื่อง เทคนิคและเครื่องวัด FLUKE สำหรับงานบำรุงรักษาเครื่องจักรในโรงงานและการประหยัดไฟฟ้า ณ ห้องสัมมนาศรีนครินทร์ 1 โรงแรมดุสิต ปริ๊นเซส ศรีนครินทร์ โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมงานสัมมนาทั้งจากโรงงานอุตสาหกรรม, บริษัทต่าง ๆ และบุคคลทั่วไป จำนวน 150 คน ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการใช้เครื่องมือวัดอย่างถูกต้อง เหมาะสมกับงานแต่ละประเภท

 

 

          ภายในงาน มีตัวแทนจาก บริษัท เมเชอร์โทรนิกซ์ จำกัด และ ตัวแทนจาก FLUKE ประเทศ สิงคโปร์ เป็นวิทยากรบรรยายเนื้อหาผลิตภัณฑ์หลักตัวใหม่ FLUKE Connect ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้เครื่องมือวัด สามารถเชื่อมต่อร่วมกัน แลกเปลี่ยนข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูลร่วมกันได้ นอกจากนั้น ยังมีการบรรยายในหัวข้อ การบำรุงรักษาทางกลเครื่องจักร ด้วยเครื่องวัดการสั่นและตั้งศูนย์เพลาสมัยใหม่ หัวข้อ การเลือกใช้กล้องถ่ายภาพความร้อนในงานบำรุงรักษา รวมไปถึงเทคนิคการเปรียบเทียบคุณสมบัติกล้องถ่ายภาพความร้อน ให้เหมาะกับงาน เป็นอีกหัวข้อที่ผู้เข้าร่วมสัมมนาให้ความสนใจอย่างมาก ด้วยเนื้อหาที่น่าสนใจและประสบการณ์การใช้งานจริงจากวิทยากร ซึ่งสามารถถ่ายทอดไปยังผู้ฟังได้อย่างน่าสนใจและตรงประเด็น

 

 

อีจีเอ ลุยแผนพัฒนารัฐบาลดิจิตอล

          ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ผู้อำนวยการ สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ EGA พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ร่วมกันแถลงผลงานปี 2558 และทิศทางการดำเนินงานในปี 2559 โดยยุทธศาสตร์หลักมุ่งเน้นการพัฒนาและยกระดับขีดความสามารถรองรับสู่รัฐบาลดิจิทัล เดินหน้าประสานข้อมูลสำรองจากหน่วยงานรัฐ เตรียมบูรณาการข้อมูลรูปแบบใหม่ ยกระดับทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน ไปด้วยพร้อมกัน พร้อมสร้างระบบรักษาความปลอดภัยและปกป้องความเป็นส่วนตัวของประชาชน ด้วยการสร้างระบบ GovChannel ที่รวบรวมช่องทางการติดต่อของภาครัฐกับประชาชนให้รวมมาอยู่ในจุดเดียว ณ โรงแรม สยาม แอท สยาม ถ.พระราม 1 เมื่อเร็ว ๆ นี้

 

ทีมคณะผู้บริหารจากซ้ายไปขวา

 

  1. นายวิบูลย์ ภัทรพิบูล ผู้อำนวยการฝ่ายบริการให้คำปรึกษา สํานักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)
  2. ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ผู้อำนวยการสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)
  3. นางไอรดา เหลืองวิไล รองผู้อำนวยการสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)
  4. นายอุสรา วิสารทานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริการให้คำปรึกษา สํานักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)