ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี (ที่ 4 จากซ้าย) เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรมประจำปี 2558 (The Prime Minister’s Industry Award 2015) รางวัลเกียรติยศสูงสุดของวงการอุตสาหกรรมไทยที่จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 23 ซึ่งในปีนี้มีสถานประกอบการได้รับรางวัลทั้งสิ้น 31 แห่ง รวม 33 รางวัล โดยรองนายกรัฐมนตรีได้แนะแนวทางยกระดับอุตสาหกรรมไทย และเน้นย้ำถึงความสำคัญของการลงทุนวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะสามารถนำพาประเทศไทยไปสู่ความยั่งยืน ทั้งนี้ พิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรมประจำปี 2558 จัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคาร ชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ดร.สุทธิเวช ต.แสงจันทร์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ เป็นประธานในการมอบใบรับรองความสามารถห้องปฏิบัติการทดสอบ ให้แก่ ห้องปฏิบัติการ SGS CAMBODIA LABORATORY โดยห้องปฏิบัติการดังกล่าว ได้รับการรับรองจากสำนักบริหารและรับรองห้องปฏิบัติการ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2558 ซึ่งการรับรองระบบงานห้องปฏิบัติการนั้นถือเป็นเครื่องชี้วัดคุณภาพและความสามารถของห้องปฏิบัติการให้เป็นที่รู้จักและเป็นภาพลักษณ์ที่ดีของห้องปฏิบัติการ ส่งผลให้เกิดความมั่นใจและผลการทดสอบเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ณ Sofitel Phnom Penh Phokeethra, Grand Ballroom 2 กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา
กิตติชัย ไกรก่อกิจ (แถว 2 ที่ 5 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัท โสสุโก้ แอนด์ กรุ๊ป (2008) จำกัด มอบทุนการศึกษาในโครงการสนับสนุนและส่งเสริมทุนการศึกษาบุตร-ธิดา พนักงานตัวแทนจำหน่าย ให้แก่พนักงานบริษัท แกรนด์โฮมมาร์ท จำกัด โดยมี ราชัญ ทยานุวัฒน์ (แถว 2 ที่ 4 จากซ้าย) และ ประไพ ทยานุวัฒน์ (แถว 2 ที่ 4 จากขวา) ผู้บริหาร ให้การต้อนรับ ณ ร้านแกรนด์โฮมมาร์ท สาขางามวงศ์วาน เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยโครงการดังกล่าวจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 เพื่อพัฒนาเยาวชนและสร้างขวัญกำลังใจแก่ตัวแทนจำหน่ายกระเบื้องปูพื้นและบุผนังตราโสสุโก้ทั่วประเทศ
นายปรเมศวร์ สิทธิวงศ์ (ที่ 4 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท เขาใหญ่ พาโนราม่า ฟาร์ม ร่วมกับ นางสมร เทิดธรรมพิบูล (ที่ 5 จากซ้าย) รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) นายประสงค์ นิลบรรจง (ที่ 3 จากขวา) รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และพันธมิตรรวม 8 องค์กร จัดแถลงข่าวเปิดโครงการ ส่งสุขภาพให้คนไทย 1 ล้านคน ด้วยเห็ดหลินจือ ผ่าน ไปรษณีย์ไทย โดยตั้งเป้าในปีพ.ศ. 2559 ให้มีผู้ได้รับประโยชน์จากเห็ดหลินจือ เพิ่มขึ้น 1 ล้านคนเป็นอย่างต่ำ พร้อมส่งเสริมการเกษตรแนวใหม่ เพื่อพัฒนา ยกระดับ และสร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมเกษตรไทย ก่อนขยายตัวสู่ เออีซี ณ อาคารสำนักงานใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยหาซื้อได้ที่ ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ
บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย นายอรพงศ์ เทียนเงิน กรรมการผู้จัดการ (แถวหน้า-ที่ 4 จากขวา) ร่วมฉลองความสำเร็จของพันธมิตรทางธุรกิจ ในงาน Microsoft Business Partners Kick Off FY16 & Awards Presentation ภายใต้ธีม The Phenomenal of Cloud Transformation ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ที่โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ พร้อมมอบรางวัล Microsoft Partner Awards 2015 จำนวน 14 สาขา ให้แก่คู่ค้าที่ประสบความสำเร็จในการนำเสนอเทคโนโลยีและโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพ ทั้งยังตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างโดดเด่นอีกด้วย
นางสาววรรณี จันทามงคล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการด้านบัญชีและการเงิน บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) รับรางวัลบริษัทจดทะเบียนที่มีความโดดเด่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน Thailand Sustainability Investment 2015 โดยเป็น 1 ใน 51 บริษัทจดทะเบียนที่มีรายชื่อ หุ้นยั่งยืน ถือเป็นหุ้นที่มีคุณภาพ และคาดหวังผลตอบแทนที่ต่อเนื่องในระยะยาว โดยได้ผ่านเกณฑ์การประเมินด้านความยั่งยืน และดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม ที่คำนึงถึงความสมดุลด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social, Governance: ESG) โดยได้รับเกียรติจาก นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้มอบ ณ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
นายสมเกียรติ ไพศาลอัชพงศ์ และ นางประภาพร ณรงค์ฤทธิ์ ผู้บริหารระดับสูง บริษัท ไฮโค้ท (ประเทศไทย) จำกัด ได้เข้าร่วมออกบูธในงาน Asean Ceramics 2015 ณ ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุม ไบเทคบางนา โดยบริษัทไฮโค้ท ฯ เป็นโรงงานผลิตกระดาษรูปลอกน้ำ ภายใต้แบรนด์ Hi-Cal เจ้าแรกและเจ้าเดียวในประเทศไทย ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ เป็นกระดาษเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมการพิมพ์รูปลอกเซรามิก/ตกแต่งจักรยานยนต์,จักรยาน/หมวกกันน็อค/กระดาษวินเซิร์ฟ และของที่ระลึกอื่น ๆ อีกมากมาย โดยใช้ระบบการพิมพ์ Laser, Offset, Screen ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท ปภาวิน จำกัด โทรศัพท์ 0-2489-4949 หรือเว็บไซต์ http://www.hi-jet.com
พลเอกสุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) เป็นประธานพิธีเปิดโครงการขับเคลื่อนนโยบาย ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ดีเดย์ 2 พฤศจิกายน 2556 โดยนำร่องกับโรงเรียนทั่วประเทศไทยจำนวน 3,831 โรงเรียน ปรับลดชั่วโมงเรียนบางวิชาให้น้อยลง แต่ต้องไม่กระทบเนื้อหาหลักที่เด็ก ๆ ควรเรียนรู้ แล้วเพิ่มเวลาและโอกาสให้เพิ่มพูนทักษะการคิดวิเคราะห์ ความมีน้ำใจต่อกัน การทำงานเป็นทีม กระตุ้นให้ผู้เรียนได้ค้นหาศักยภาพและความชอบของตนเอง โดยมี นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ร่วมมอบนโยบาย ณ อาคาร 9 สำนักงานใหญ่ ทีโอที ถนนแจ้งวัฒนะ
เอปสัน เปิดโลกจินตนาการให้เหล่าหนูน้อยของ โรงเรียนอนุบาลทากาชิมะ ในเมืองนากาโน่ ประเทศญี่ปุ่น ด้วยแว่นอัจฉริยะ Moverio BT-200 ที่ให้เด็ก ๆ ได้เห็นท้องฟ้าและหมู่ดาวแบบเวอร์ชวลเรียลลิตี้ พร้อมข้อมูลประกอบอย่างละเอียด เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ตลอดชั่วโมงเรียน แถมล่าสุดโรงเรียนดังกล่าวยังจะนำ Moverio BT-200 บรรจุเข้าเป็นอุปกรณ์การเรียนการสอนของโรงเรียนแบบถาวร ตามหลักสูตรที่คุณครูและนักเรียนได้อิสระออกแบบร่วมกันจนเป็นประเพณีสืบทอดมา 140 ปี เห็นอย่างนี้แล้ว สงสัยได้เห็นแว่นอัจฉริยะนี้ในโครงการสมาร์ทคลาสรูมของเอปสัน ประเทศไทยเร็ว ๆ นี้แน่
คุณสุพร วัธนเวคิน รองประธานกรรมการมูลนิธิอิออนประเทศไทย มอบอุปกรณ์กีฬา คอมพิวเตอร์ และตู้กดน้ำดื่ม รวมมูลค่าทั้งสิ้น 1,802,946.25 บาท โดยมี พลโท นายแพทย์ อำนาจ บาลี ผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทยเป็นตัวแทนรับมอบ เพื่อนำไปให้กับโรงเรียนและชุมชนที่ขาดแคลนทั่วประเทศ เป็นการเพิ่มโอกาสการเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพชีวิต
นายธนวัฒน์ คุ้มสิน นายกสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยพร้อมด้วย นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ประธานคณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ ร่วมกันเป็นประธานแถลงข่าว การจัดงานประชุม OICA GENERAL ASSEMBLY 2015 ระหว่างวันที่ 21 – 23 ตุลาคม 2558 ณ โรงแรมอนันตรากรุงเทพ ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ทแอนด์สปา ซึ่งมีประเทศสมาชิกเดินทางมาเข้าร่วม กว่า 24 ประเทศทั่วโลก เพื่อส่งเสริม สนับสนุนความร่วมมือ และพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกให้มีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ เสริมสร้างคุณภาพชีวิต มีการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางเทคโนโลยี ความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม และประสิทธิภาพเชื้อเพลิง ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
นายประสงค์ นรจิตร์ รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (คนที่ 3 จากขวา) และ นายศุภวัฒน์ ธาดาจารุมงคล ผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีความปลอดภัย กรมโรงงานอุตสาหกรรม (คนที่ 4 จากขวา) มอบเกียรติบัตรให้กับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่เข้าร่วมโครงการและสัมมนาเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตก๊าซชีวภาพเป็นพลังงานทดแทนในภาคอุตสาหกรรม เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากหม้อต้มไอน้ำในโรงงานอุตสาหกรรม โดยมีผู้ประกอบการ ข้าราชการเข้าร่วมงานจำนวนมาก เมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ โรงแรมรามาการ์เดนท์
บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ จังหวัดพิจิตรและองค์การบริหารส่วนตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร เปิด ศูนย์การเรียนรู้เกษตรธรรมชาติ แหล่งเรียนรู้การเกษตรอินทรีย์และแปลงสาธิตข้าวปลอดสารกว่า 180 ไร่ ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ จังหวัดพิจิตร ที่ต้องการส่งเสริมให้เกิดการปรับเปลี่ยนแนวคิดวิธีการทำการเกษตรอินทรีย์ลดการใช้สารเคมีเพื่อสุขภาพที่ดีของตนเองและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตอกย้ำพื้นที่รอบเหมืองฯ ปลอดภัยไร้สารเคมีเหมาะแก่การทำเกษตรอินทรีย์ โดยในงานได้รับเกียรติจาก นายสุรชัย ขันอาสา (ที่หก จากขวา) ผู้ว่าราชการพิจิตรในขณะนั้น เป็นประธานเปิดงาน ณ ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร
ดร. อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลแก่ผู้ชนะการแข่งขัน Thailand CTF Competition 2015 สุดยอดนักไซเบอร์ด้านความมั่นคงปลอดภัยระดับประเทศไทย ซึ่งจัดโดย สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) โดยมี นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการ เอ็ตด้า ให้การต้อนรับ ณ เดอะ ไนน์ทาวเวอร์แกรนด์ พระรามเก้า และสำหรับทีมที่ชนะเลิศและรองชนะเลิศ ได้แก่ ทีม Pwnladin (พาวน์ลาดิน) และทีม asdfghjkl โดยทั้งสองทีมจะได้เข้าร่วมการแข่งขันระดับอาเซียน ในงานไซเบอร์ ซี เกม (Cyber Sea Game) ณ ประเทศอินโดนีเซีย และหากผ่านรอบดังกล่าวแล้ว จะได้เข้าร่วมแข่งขันระดับโลกในงาน เซคคอน ซีทีเอฟ 2015 (SECCON CTF 2015) ณ ประเทศ ญี่ปุ่นต่อไป
รศ.ดร.คมสัน มาลีสี คณบดี พร้อมด้วย ผศ.ดร. วิภู ศรีสืบสาย หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการและคณะบริหาร คณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. เปิดตัว โครงการหลักสูตรปริญญาตรี วิศวกรรมออกแบบการผลิตและวัสดุ (Production Design and Materials Engineering) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาหลักสูตรรองรับแนวโน้มการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยวัสดุใหม่ ๆ และผลิตบุคคลากรผุ้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมออกแบบการผลิตและการผลิตชิ้นงานจากวัสดุใหม่ ๆ ตามมาตรฐานสากล ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการทั้งในปัจจุบันและอนาคต ใช้ต้นทุนที่ต่ำและลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ อีกทั้งเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดอาเซียนและระดับนานาประเทศได้
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ดร.วีระชัย วีระเมธีกุล และคณะ พบปะ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายก วสท. และประชุมร่วมกับคณะกรรมการอำนวยการ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาวิชาชีพและเป็นเสาหลักด้านวิศวกรรมของประเทศมา 72 ปี โดยหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกันในห้วข้อ การยกระดับวิชาชีพวิศวกรรมไทย เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ศักยภาพในการพัฒนาความก้าวหน้า คุณภาพชีวิต นวัตกรรม และการแข่งขันบนเวทีโลก รวมทั้งข้อเสนอแนะ และสิ่งที่ต้องการสนับสนุนจากหน่วยงานภายนอก
นายวิจักษณ์ พิชัยสนิท ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิศวกรรม บริษัท ซีเกท เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด โรงงานโคราช (ขวา) มอบเงิน 150,000 บาทเพื่อจัดซื้อสื่อการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์แก่เด็กนักเรียนระดับประถมศึกษาจำนวนกว่า 100 คน ในโรงเรียนบ้านสระเพลง อำเภอสูงเนิน จ.นครราชสีมา โดยมี นางวิระดา นาสูงเนิน ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสระเพลง (ซ้าย) เป็นตัวแทนรับมอบ เมื่อเร็ว ๆ นี้
เพิ่งจะเปิดตัว Windows 10 ไปได้ไม่นาน ไมโครซอฟท์ ไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาแพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้ผู้บริโภคทำได้มากกว่า ล่าสุดเปิดตัว Office 2016 ซึ่งเป็นชุดโปรแกรมออฟฟิศเวอร์ชั่นล่าสุด ที่มาพร้อมกับ Office 355 แบบสมัครสมาชิกที่ใช้งานบนคลาวด์ พร้อมกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก งานนี้แม่ทัพฝั่ง ไมโครซอฟท์ คอนซูเมอร์ อย่าง คุณเอกราช ปัญจวีณิน ผู้อำนวยการฝ่ายการบริหารสินค้าคอนซูเมอร์ จัดงาน Modern Lifestyle by Office 365 : Working Not Working พร้อมควงติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษชื่อดัง ลูกกอล์ฟ คณาธิป และ บล็อกเกอร์สาวนักเดินทาง มิ้นท์ จากบล็อก I Roam Alone มาร่วมแนะนำการทำงานและการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ที่ให้คุณทำได้มากกว่า ด้วยแพลตฟอร์มของไมโครซอฟท์ เรียกว่าได้ใจคนทำงานรุ่นใหม่ไปเต็ม ๆ
นายอภิชัย ซอปิติพร (ซ้าย) รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็นพีเอส ผู้นำด้านพลังงานทดแทนจากพลังงานปลูกได้ รับรางวัล CSR-DIW Continuous Award ประจำปี 2558 โครงการส่งเสริมอุตสาหกรรมให้มีการพัฒนาด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ในนามโรงไฟฟ้าเอ็นพีเอสและโรงไฟฟ้าชีวมวล จัดโดยกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งสะท้อนถึงการดำเนินงานของเอ็นพีเอสที่ตระหนักในการรับผิดชอบต่อสังคม คำนึงถึงคุณภาพชีวิตของพนักงาน ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ที่จะต้องเติบโตและพัฒนาไปพร้อมกัน
มร.มาร์ติน นีลสัน ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ พร้อมด้วยพนักงาน บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด และ บริษัท สแกนเนีย สยาม ลิสซิ่ง จำกัด ร่วมกันส่งมอบรถบรรทุกหัวลากประสิทธิภาพสูง สแกนเนีย รุ่น P410 LA6x2MSZ ชุดแรกจำนวน 6 คัน จากทั้งหมด 50 คัน แก่ คุณกรินทร ทองปัชโชติ ประธานกรรมการ และ ตัวแทนพนักงาน บริษัท โอ.เอ็น.เค.(เลย) ทรานสปอร์ต จำกัด เพื่อใช้ในการขยายธุรกิจและเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งแร่และจัดขนส่งกระจายสินค้าให้แก่กลุ่มลูกค้าทั่วประเทศ อาทิเช่น ดีเอชแอล/แม็คโคร ลินฟ้อกซ์/เทสโก้โลตัส กลุ่มน้ำตาลมิตรผล และอื่น ๆ เมื่อเร็ว ๆ นี้
นายวิชิต พยุหนาวีชัย (ที่ 4 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริการ บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด พร้อมทีมผู้บริหารระดับสูง เข้าร่วมงานสัมมนาประจำปี “Annual Management Team Synergy 2015” ณ ราชาคีรี รีสอร์ท แอนด์ สปา จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยงานสัมมนาดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการทำงานของทีมให้มีความแข็งแกร่ง และสื่อสารวิสัยทัศน์ขององค์กรไปยังผู้บริหารทุกคนให้เป็นหนึ่งเดียว อันเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทที่ตั้งเป้าจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำธุรกิจภายใน 5 ปี
กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ได้รับการรับรองการใช้เครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์สำหรับผลิตภัณฑ์ 5 รายการจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ผลิตภัณฑ์ทั้ง 5 รายการของ ดาว ประเทศไทย ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ประกอบด้วย เม็ดพลาสติกโพลิเอทิลีนชนิดความหนาแน่นต่ำเชิงเส้น จากบริษัท สยามโพลิเอททีลีน จำกัด เม็ดพลาสติกโพลิเอทิลีนชนิดความหนาแน่นต่ำเชิงเส้นชนิดยืดหยุ่นพิเศษ ภายใต้ตราสินค้า ENGAGETM จากบริษัท สยามเลเทกซ์สังเคราะห์ จำกัด โพลิออลสำหรับทำโฟมชนิดแข็ง เกรด RA440 และโมโนโพรพิลีน ไกลคอล จากบริษัท ดาว เคมิคอล ประเทศไทย จำกัด และโพรพิลีนออกไซด์ จากบริษัท เอ็มทีพี เอชพีพีโอ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด
สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ EGA จัดงาน EGA Roadshow 2015: e-Government for All “รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ เชื่อมโยงทุกส่วนราชการเพื่อบริการประชาชน” ครั้งที่ 4/2558 เพื่อตอกย้ำความสำคัญของการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาปรับใช้ในกระบวนการทำงานของหน่วยงานภาครัฐ และนำมาพัฒนาเป็นงานบริการแก่ประชาชน โดยมี นายบุญยืน คำหงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน และนางสาวอภิณห์พร อังคกมลเศรษฐ์ รองผู้อำนวยการสํานักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ให้การต้อนรับ ซึ่งมีหน่วยงานภาครัฐจ.นครราชสีมา จ.สุรินทร์ จ.บุรีรัมย์ และจ.ชัยภูมิ เข้าร่วมงานสัมมนาเป็นจำนวนมาก ณ ห้องวี-วัน 2 ชั้น 2 โรงแรมวี-วัน โคราช จ.นครราชสีมา
บริษัท ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศไทย ได้รับรางวัล มาตรฐานความรับผิดชอบของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง หรือ CSR-DIW Continuous Award (Corporate Social Responsibility-Department of Industrial Works) ประจำปี 2558 จาก กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งมีหลักเกณฑ์ในการพิจารณามอบให้แก่สถานประกอบการที่ปฏิบัติงานภายใต้มาตรฐานที่อ้างอิงตาม ISO 26000 (Social Responsibility) หรือมาตรฐานสากลความรับผิดชอบต่อสังคม รางวัลอันทรงเกียรตินี้สะท้อนถึงความสำเร็จและมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่องในการประกอบธุรกิจที่คำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยมี คุณศิริชัย จงจินตรักษา ผู้อำนวยการโรงงาน เข้ารับรางวัล ณ ห้องประชุม แกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อเร็ว ๆ นี้
นายฉัตรชัย บุญรัตน์ ประธานกรรมการ บริษัท มาลีสามพราน จำกัด (มหาชน) จับมือกับ นายเฮนรี่ โซซานโต้ (Mr. Henry Soesanto) Executive Vice President บริษัท มอนเด นิสซิน คอร์ปอเรชั่น จากประเทศฟิลิปปินส์ เปิดตัวบริษัทร่วมทุน มอนเด มาลี เบฟเวอเรจ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งจะเตรียมผลิต และส่งออกเครื่องดื่ม เพื่อขยายตลาด และพัฒนาแบรนด์เครื่องดื่มในฟิลิปปินส์ พร้อมรองรับการเติบโตแบบก้าวกระโดดของตลาดเครื่องดื่มในฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นไปตามแผนกลยุทธ์ในการดำเนินงานของบริษัท ในการขยายโอกาสไปยังตลาดต่างประเทศ งานนี้จัดขึ้น ณ โรงแรม วี โฮเต็ล
นายนคร ศิลปอาชา (ขวา) ปลัดกระทรวงแรงงาน มอบโล่ประกาศเกียรติคุณผู้ทำคุณประโยชน์ด้านแรงงานให้กับ นายบัณฑิต ศรีวัลลภานนท์ (ซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด จากการที่บริษัทฯ ได้สนับสนุนค่าใช้จ่ายและเครื่องปรับอากาศไดกิ้นอินเวอร์เตอร์ อาร์ 32 สไมล์ จำนวน 14 เครื่องให้แก่กรมพัฒนาฝีมือแรงงานในการจัดฝึกอบรมพัฒนาฝีมือแรงงานช่างเครื่องปรับอากาศภายใต้ชื่อโครงการ ช่างแอร์ดีดี ซึ่งเป็นหลักสูตรยกระดับฝีมือช่างเทคนิคเพื่อพัฒนาทักษะความรู้ในการติดตั้งเครื่องปรับอากาศที่ใช้สารทำความเย็นอาร์ 32 (R32) พร้อมเพิ่มพูนสาระความรู้ใหม่ๆ ด้านระบบปรับอากาศใน 13 จังหวัด ทั่วประเทศ โดยมีผู้ผ่านการอบรมทั้งสิ้น 690 คน พิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณฯ จัดขึ้นในวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงแรงงานประจำปี 2558 ณ ห้องประชุมจอมพล ป.พิบูลสงคราม กระทรวงแรงงาน
นายยงยุทธ ศรีวันทนียกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการกลุ่มผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์โซลูชั่น บริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นายมีลาภ โสขุมา ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์โซลูชั่น ให้การต้อนรับ คณะนักศึกษาและอาจารย์ หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาธุรกิจระหว่างประเทศ (หลักสูตรนานาชาติ) วิทยาลัยนานาชาติ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันการศึกษาในเครือ CP ALL ที่ให้ความสนใจเข้ารับฟังการบรรยายความรู้ด้านไอที และเยี่ยมชมศูนย์สาธิตเทคโนโลยีสารสนเทศที่น่าสนใจ ภายในบริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2558
มร.รูเบน เลฟเวอร์มอร์ เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย (กลาง) และ นางสาวช่อทิพย์ ประมูลผล ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและยุทธศาสตร์ความสัมพันธ์ หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย (ที่ 2 จากซ้าย) ร่วมแถลงข่าวฉลอง 40 ปี ความสัมพันธ์ระหว่างนิวซีแลนด์–อาเซียน และเปิดตัว งานนิทรรศการการศึกษานิวซีแลนด์ ครั้งที่ 21 ณ โรงแรม เดอะ เวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท โดยในงานได้รวบรวมสถาบันการศึกษาชั้นนำจากนิวซีแลนด์ ทั้งระดับโรงเรียนมัธยม สถาบันภาษา สถาบันทักษะวิชาชีพ และสถาบันอุดมศึกษามากกว่า 40 แห่ง มาให้คำแนะนำและคำปรึกษาแก่ผู้ปกครอง นักเรียน และนักศึกษาที่สนใจไปศึกษาต่อต่างประเทศ นอกจากนี้ยังสามารถแลกเปลี่ยนและรับฟังประสบการณ์ตรงจากศิษย์เก่านิวซีแลนด์และผู้ปกครอง ในหลากหลายมิติด้านการศึกษาของประเทศนิวซีแลนด์
บริษัท ดาคอน อินสเป็คชั่น เซอร์วิสเซส จํากัด ร่วมสนับสนุนงาน Thailand Corrosion and Prevention Conference 2015 ในฐานะผู้สนับสนุนระดับซิลเวอร์ โดยงานดังกล่าว นับได้ว่าเป็นงานประชุมที่นำเสนอข้อมูลด้านการกัดกร่อนและแนวทางในการป้องกันการกัดกร่อนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยการร่วมมือจากบริษัทชั้นนำในกลุ่มปิโตรเคมี น้ำมันและก๊าซในประเทศไทยที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ อาทิ กลุ่มปตท เอสซีจี ไทยออยล์ และอื่น ๆ อีกมากมาย
ดาคอนฯ ได้นำเทคโนโลยีในการตรวจสอบระบบท่อ ที่เรียกว่า Intelligence PIGGING หรือ ระบบตรวจสอบท่ออัจฉริยะ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดกิจกรรมหลักในครั้งนี้ ในฐานะของผู้นำหนึ่งเดียวในประเทศไทย ครอบคลุมถึงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบัน ดาคอนฯ ได้รับการตอบรับอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าและผู้เชี่ยวชาญในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ ดาคอนฯ ยังได้นำเสนอเทคโนโลยีในการตรวจสอบบริเวณจุดซัพพอร์ต หรือ ฐานรองรับของท่อซึ่งเป็นเทคโนโลยีในการวัดความหนาของท่อเพื่อให้ทราบถึงความหนาของท่อบริเวณฐานรองรับ ซึ่งเป็นบริเวณที่ยากต่อการเข้าถึง เทคโนโลยี ดังกล่าว สามารถตรวจสอบได้โดยมิต้องทำการยกท่อออกจากฐานรองรับ
ในภาพ: คุณมัลลิกา แก่กล้า (ซ้าย) ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ดาคอน อินสเป็คชั่น เซอร์วิสเซส จํากัด รับรางวัลที่ระลึกในฐานะผู้สนับสนุนระดับซิลเวอร์ จาก รองศาสตราจารย์ ดร.กอบบุญ หล่อทองคำ (ขวา) หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมโลหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายกสมาคมการกัดกร่อนโลหะและวัสดุไทย
บริษัท นิวแม็ก จำกัด | แผนก Vacuum Pump ได้จัดสัมมนาเชิงวิชาการเกี่ยวกับ Vacuum Technology ขึ้นในวันที่ 11 กันยายน 2558 ที่ผ่านมา โดยในการจัดสัมมนาครั้งนี้ ได้มีหลายบริษัทที่ให้ความสนใจเข้าร่วมการสัมมนาเป็นจำนวนมาก
การสัมมนาครั้งนี้ได้เน้นเรื่องการนำไปใช้งานจริง การดูแลรักษา ความรู้และประสบการณ์การใช้งานเกี่ยวกับ Vacuum Pump และมีการอธิบายการทำงานและทดสอบการวัดประสิทธิภาพปั๊มสุญญากาศภายใน Shop ซึ่งสร้างความน่าสนใจให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางเทคนิคต่าง ๆ กับทางวิทยากรด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเอง และได้สร้างความมั่นใจในคุณภาพของสินค้าโดยการให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้เยี่ยมชมสินค้าที่มีความหลากหลาย และตรงกับความต้องการของลูกค้า
ซึ่งทาง บริษัท นิวแม็ก จำกัด มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ ที่เกี่ยวกับระบบสุญญากาศ ในราคาพิเศษให้กับทางลูกค้า ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งฝ่ายบริการหลังการขาย ยังมีการบริการในส่วนของงานซ่อมบำรุง ซึ่งจะมีเครื่องล้างอัตโนมัติที่ช่วยทำความสะอาดปั๊มได้ง่าย รวดเร็ว และยังมีการทดสอบการทำงานของปั๊มพร้อมวัดประสิทธิภาพสำหรับรายงานซ่อม โดยใช้ระบบ Digital Vacuum Gauge สร้างความน่าสนใจให้กับงาน Overhaul Vacuum Pump มากยิ่งขึ้น
คณะอาจารย์และนักวิจัยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ได้นำผลงานที่ได้รับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาจำนวน 8 ผลงานไปร่วมจัดแสดงในงาน Technology Show ซึ่งจัดโดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ พันธมิตรหน่วยงานวิจัยและภาคการศึกษา ที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ประจำปี 2558 กิจกรรมภายใต้โครงการขับเคลื่อนผลงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์ ณ โรงแรมสุโกศล เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยผลงานที่ มจธ. นำไปร่วมแสดงในครั้งนี้จัดอยู่ในหลายกลุ่มวิจัย อาทิ กรรมวิธีการผลิตสารยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสจากใบบัวบกเพื่อใช้ในเครื่องสำอาง, เครื่องและวิธีการตรวจหาความอ่อนแก่ของทุเรียนแบบไม่ทำลายโดยใช้การสั่นสะเทือน, ระบบการนำเสนอผ่านแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ที่มีการควบคุมและทำงานร่วมกัน และชุดอุปกรณ์ปลูกต้นไม้สำหรับเด็ก Let’s Plant เป็นต้น จากการนำเสนอผลงานในครั้งนี้มีผู้ประกอบธุรกิจประเภทต่าง ๆ สนใจรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อนำไปต่อยอดเป็นจำนวนมาก
คณะอนุกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติด้านการป้องกันการทุจริต คตช. ร่วมกับ กรมบัญชีกลาง และ สมาคมวิศวกรที่ปรึกษาแห่งประเทศไทย (วปท.) จัดงานสัมมนา เรื่อง เตรียมความพร้อมสู่การจัดซื้อจัดจ้างด้วยระบบ e-Bidding ในงานก่อสร้าง เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติการจัดซื้อจัดจ้างด้วยระบบ e-Bidding สำหรับผู้ประกอบวิชาชีพด้านการก่อสร้าง มุ่งยกระดับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างในอุตสาหกรรมก่อสร้างของประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใสและตรวจสอบได้
ภายในงานได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ วิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาและปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ นโยบายการพัฒนาระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ และ ฯพณฯ อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมบรรยายพิเศษหัวข้อ งานก่อสร้างเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย โดยมีกลุ่มวิศวกรที่ปรึกษา สถาปนิก ผู้รับเหมาก่อสร้าง ตลอดจนกลุ่มซัพพลายเชนที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างให้ความสนใจเข้าร่วมงานสัมมนาเป็นจำนวนมาก ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
บริษัท แอพพลิแคด จำกัด มอบรางวัล AppliCAD 3D Design & Skill Contest 2015 ออกแบบง่าย ๆ เน้นดีไซน์เป็นเลิศ การแข่งขันทักษะด้านการออกแบบ 3 มิติ ด้วยซอฟต์แวร์ SolidWorks ในหัวข้อ Smart Watch สำหรับคนยุคใหม่ เพื่อส่งเสริมศักยภาพด้านการออกแบบของนักศึกษา ให้พร้อมสำหรับการทำงานในภาคอุตสาหกรรมที่มีการพัฒนาอยู่อย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2558 ภายในงาน AppliCAD’s SolidWorks Innovation Day 2016 (SWID 2016) ณ ไบเทค บางนา
AppliCAD 3D Design & Skill Contest เป็นกิจกรรมแข่งขันทักษะด้านการออกแบบ 3 มิติ ด้วยซอฟต์แวร์ SolidWorks สำหรับนิสิต นักศึกษา ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อส่งเสริมศักยภาพด้านการออกแบบของนักศึกษา ให้พร้อมสำหรับการทำงานในภาคอุตสาหกรรมที่มีการพัฒนาอยู่อย่างต่อเนื่อง โจทย์การแข่งขันใน AppliCAD 3D Design & Skill Contest 2015 ครั้งนี้คือ Smart Watch สำหรับคนยุคใหม่ สำหรับผู้ที่สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ ได้แก่ นายจิระวัฒน์ บวมตะกุ จากมหาวิทยาลัยสุรนารี และผู้ที่ได้รับรางวัลชมเชยมี 2 รางวัล คือ นายปรีชา พุทธเสน จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ และ นายบำรุงชัย เพาะปลูก จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ส่วนรางวัล Popular Vote ตกเป็นของ นายสิรภพ ขัตติโยทัย จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน
บรรยายภาพ: บริษัทไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) นำโดย มร. ริชาร์ด จูเชรี (ที่ 1 จากขวา) กรรมการผู้จัดการ ธงชัย กมลพัฒนะ (ที่ 1 จากซ้าย) ผู้อำนวยการฝ่ายขายภายในประเทศและต่างประเทศ และ ศิรินทรา จิตตราวงศ์ (ที่ 2 จากขวา) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ร่วมแสดงความยินดีกับผู้ชนะเลิศทั้ง 3 โครงการ จาก“แซง-โกแบ็ง ยิปรอค เนชั่นเนลโทรฟี ไทยแลนด์ 2558” ณ โรงแรมพูลแมน คิงเพาเวอร์ กรุงเทพ
บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตนวัตกรรมยิปซัมคุณภาพสูงภายใต้แบรนด์ “ยิปรอค” และผู้ให้บริการโซลูชั่นส์ระบบผนังและฝ้าครบวงจรมากว่า 45 ปี ประกาศผลผู้ชนะเลิศการประกวด “แซง-โกแบ็ง ยิปรอค เนชั่นเนลโทรฟี ไทยแลนด์ 2558” หนึ่งในโครงการประกวดที่ยิ่งใหญ่ครั้งแรกของวงการยิปซัมเมืองไทย ซึ่งคัดเลือกโครงการโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่คร่ำหวอดในวงการสถาปัตยกรรม การก่อสร้าง และการตกแต่งภายในภายใต้ข้อกำหนดและหลักเกณฑ์การพิจารณาที่เคร่งครัด โดยผลการประกวดโครงการทั้ง 3 ประเภท ได้แก่ 1) ประเภทโครงการนวัตกรรมและความยั่งยืน ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเป็นอาคารแห่งใหม่บนพื้นที่กว่า 70,000 ตร.ม. 2) ประเภทโครงการในเชิงพาณิชย์ ได้แก่ เบด บาย ครูซ โรงแรมที่ได้รับแรงบันดาลใจภายใต้การออกแบบตกแต่งที่สร้างบรรยากาศของเรือสำราญที่หรูหรา และ 3) โครงการเฉพาะกลุ่ม เช่น การศึกษา สุขภาพ และการบริการ ได้แก่ มหิดลสิทธาคาร อาคารหอประชุมแห่งใหม่ของมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา จังหวัดนครปฐม
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดย บริษัท อาคิเตคส์ แอนด์ แอสโซซิเอท จำกัด โครงการที่ชนะเลิศในประเภทโครงการนวัตกรรมและความยั่งยืน จากการใช้ผลิตภัณฑ์ยิปรอค อาทิ ฝ้าเพดานยิปโทน (Gyptone) ในการตกแต่งห้องประชุมเพื่อดูดซับเสียงสะท้อนที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้อย่างดีเยี่ยม แผ่นยิปรอคชนิดทนไฟ (Gyproc Fire Stop Board) ในส่วนทางหนีไฟซึ่งสามารถทนไฟได้นาน 1-3 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้อาคารได้อย่างมาก และ แผ่นยิปรอค ชนิดทนความชื้น (Gyproc Moisture Resistant Board) ซึ่งเป็นแผ่นยิปซัมที่คิดค้นขึ้นเพื่อใช้ในพื้นที่เปียกหรือความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ เป็นต้น
โรงแรมเบด บาย ครูซ โดย คุณประมุข มุขตารี และ คุณวจีพร ตานีพันธ์ (เจ้าของ) โครงการที่ชนะเลิศในประเภทโครงการในเชิงพาณิชย์ จากการใช้ผลิตภัณฑ์ยิปรอคเพื่อการตกแต่งปรับปรุงอาคาร ซึ่งช่วยลดระยะเวลาและขั้นตอนการติดตั้งได้อย่างเป็นเยี่ยม เนื่องจากผลิตภัณฑ์ยิปรอคมีคุณภาพสูง ถอดประกอบง่ายหากต้องการออกแบบตกแต่งใหม่ ทั้งยังมีความยืดหยุ่นสูงในการปรับเปลี่ยนรูปแบบ ทำให้สามารถตกแต่งได้อย่างหลากหลาย รวมถึงรูปทรงที่บิดโค้งเพื่อการสร้างสรรค์สุนทรียภาพสมัยใหม่ให้แก่งานออกแบบ ซึ่งผลิตภัณฑ์ยิปรอคที่ถูกเลือกใช้ในการตกแต่งโรงแรม ได้แก่ ระบบผนังยิปวอลล์ โรบัสต์ (GypWall ROBUST) เป็นระบบผนังที่มีความแข็งแรงและทนต่อแรงกระแทกได้สูง ระบบผนังยิปวอลล์ ดรายท๊อป (GypWall Drytop) สำหรับงานห้องน้ำ และ ระบบฝ้าเพดานฉาบเรียบด้วยแผ่นยิปซัมกันร้อนพิเศษ (Gyproc ThermalLine)
มหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา จังหวัดนครปฐม โดย บริษัท สถาปนิก 49 จำกัด โครงการนี้ชนะเลิศในประเภทโครงการเฉพาะกลุ่ม โดยเป็นอาคารโรงละครระดับโลกขนาด 2,000 ทีนั่ง โถงที่นั่งถูกออกแบบให้เอื้อต่อระบบเสียงธรรมชาติที่ดีที่สุด สำหรับการแสดงอุปรากรและวงดนตรีดุริยางค์ โดยใช้ผลิตภัณฑ์ยิปรอคหลายรายการได้แก่ แผ่นยิปรอค ชนิดธรรมดา หนา 12 มม. 3 ชั้น + โครงคร่าวเหล็กหน้าตัดรูปตัวซี ขนาด 62 มม. + โครงคร่าวเหล็กหน้าตัดรูปตัวยู ขนาด 64 มม. (Gyproc Regular Board 12mm. 3 layer + C Stud 62, U Track 64) สำหรับส่วนหอประชุมและห้องฝึกซ้อม และ ฝ้าเพดานยิปโทนรุ่น บิ๊ก คอตโตร 41 +ระบบฝ้าเพดานฉาบเรียบ เอ็มแอล (Gyptone BIG Quattro 41 Board + ML50) เพื่อให้เป็นอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
การประกวดครั้งนี้เปิดกว้างสำหรับ ช่างรับเหมา เจ้าของโครงการ และสถาปนิกนักออกแบบ ซึ่งใช้ผลิตภัณฑ์ยิปรอคในประเทศไทย โดยส่งผลงานทั้งในรูปแบบการก่อสร้าง การตกแต่ง หรือการบูรณะซ่อมแซมอาคารตามประเภทโครงการที่กำหนด ผลงานของผู้ชนะเลิศในแต่ละประเภทจะเป็นตัวแทนประเทศไทยในการนำผลงานเข้าประกวดในโครงการสถาปัตยกรรมระดับโลก แซง-โกแบ็ง ยิปซัม อินเตอร์เนชันแนล โทรฟี ครั้งที่ 10 (Saint-Gobain Gypsum International Trophy) เพื่อประชันผลงานกับผู้เข้าประกวดรายอื่น ๆ จาก 45 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ผู้ชนะเลิศในแต่ละประเภทยังได้เปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวและดูงาน ณ กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก ฟรีค่าใช้จ่ายตลอดการเดินทาง และผู้ชนะอันดับสองจะได้รับแพ็คเกจท่องเที่ยวที่ ศรีพันวา รีสอร์ทสุดหรูชื่อดังบนเกาะภูเก็ต
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม ดัน 4 รูปแบบธุรกิจที่ SMEs ยุคใหม่ต้องมีเพื่อปรับตัว ได้แก่ เศรษฐกิจแบ่งปัน (Sharing Economy) การระดมทุนสาธารณะ (Crowd Funding) ยุคผู้สูงอายุ (Silver Generation) และสังคมแห่งเทคโนโลยี (Mobilization World) เพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนไปสู่ยุคปัจจุบัน และสร้างความเชื่อมโยงระหว่างอุปสงค์และอุปทาน ตลอดจนเพื่อการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการโดยใช้ทรัพยากรได้อย่างมีคุณค่าที่สุด ทั้งนี้ ผู้ประกอบการ SMEs สามารถดำเนินการตามแนวทาง 4 รูปแบบดังกล่าวโดยการเข้าร่วมโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ซึ่ง กสอ. ตั้งเป้าส่งเสริมผู้ประกอบการกว่า 2,000 คนภายในปีนี้
ดร.สมชาย หาญหิรัญ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า กสอ. ได้ดำเนินโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เพื่อช่วยเหลือสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs และวิสาหกิจชุมชนในการออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์ควบคู่ไปกับการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ผ่านการจัดอบรมให้ความรู้และบริการให้คำปรึกษาแนะนำเพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์และเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ให้มีมูลค่าสูงขึ้น ทัดเทียมนานาชาติและเติบโตได้อย่างยั่งยืน พร้อมรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ภายใต้แนวคิด SMEs ไทยก้าวไกลสู่สากล ตั้งเป้าสร้างผู้ประกอบการ SMEs 2,000 คนภายในปีนี้
ดร.สมชาย กล่าวต่อว่า วิถีชีวิตของคนในสังคมเปลี่ยนแปลงไปมาก ซึ่งมีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจและสังคม ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงในด้านของโครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนผ่านสู่สังคมผู้สูงอายุ ด้วยสัดส่วนผู้สูงอายุกว่าร้อยละ 15 ของประชากรทั้งหมด ขณะเดียวกันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีหรือการค้าแบบออนไลน์ก็เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้พื้นที่การขายเปิดกว้างอย่างไม่จำกัดขึ้นด้วย ผู้ประกอบการ SMEsยุคใหม่ต้องเปลี่ยนแปลงหรือปรับตัวเพื่อสร้างการเชื่อมโยงระหว่างปริมาณความต้องการสินค้าในตลาด(อุปสงค์) และปริมาณสินค้าที่มีอยู่ในตลาด (อุปทาน) เข้าด้วยกัน นำไปสู่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการให้ตรงกับความต้องการและเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแนวทางการปรับตัวผู้ประกอบการต้องเข้าใจรูปแบบการทำธุรกิจของ SMEs ยุคใหม่ 4 รูปแบบ อันได้แก่
สำหรับผู้ประกอบการและประชาชนที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และโครงการอื่น ๆ เพิ่มเติม ได้ที่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2202 4414-17 หรือเข้าไปที่ www.dip.go.th หรือ www.facebook.com/dip.pr
บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย คุณนิพนธ์ วงษ์แสงอรุณศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด จัดกิจกรรม Life’s Good…Life’s Bright เติมแสงไฟให้ชุมชน มอบจักรยานพลังงานและแบตเตอรี่แก่ชาวบ้านในหมู่บ้านเชิงเขาคีรี อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในด้านพลังงานโดยเฉพาะการให้แสงสว่างในยามกลางคืน โดยมี ว่าที่ ร.ต.ปรีชา พลับน้อย นายอำเภอโกรกพระ เป็นตัวแทนรับมอบ
“ในปีที่ผ่านมา แอลจีได้มีการจัดคาราวานโรดโชว์เพื่อนำเสนอข้อมูลและสาธิตการใช้ผลิตภัณฑ์แก่ลูกค้าทั่วประเทศ โดยหนึ่งในกิจกรรมหลักของคาราวานนี้ คือการเชิญชวนให้ลูกค้าปั่นจักรยานพลังงานเพื่อแปลงพลังงานจากการปั่นมาเป็นไฟฟ้าบรรจุลงในแบตเตอรี่ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี” คุณนิพนธ์ วงษ์แสงอรุณศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าว “แอลจียังคงมุ่งมั่นสานต่อเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีตามสโลแกน Life’s Good ของแอลจี เราจึงขอมอบจักรยานพลังงาน และแบตเตอรี่ให้แก่ชาวบ้าน หมู่บ้านเชิงเขาคีรี อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ เพื่อนำจักรยานเหล่านี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยเฉพาะด้านแสงสว่างภายในครัวเรือนต่อไป อีกทั้งยังเป็นการให้ความรู้แก่นักเรียนและประชาชนได้ถึงที่มาและเข้าใจต้นกำเนิดของพลังงานอีกด้วย”
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เพิ่มประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ ตอบรับยุคอินเทอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่ง (IoT) เสริมแกร่งด้วยเทคโนโลยีซีทีไอ ตอบโจทย์ลูกค้าจัดเต็มระบบ มุ่งเป้าบริการหลังการขายที่ฉับไว รองรับความต้องการของลูกค้าที่ตรงจุด ลดความล่าช้า การแก้ปัญหาได้รวดเร็ว ตอบโจทย์ทั้งงานบริการ และการขายในอนาคต
ปัจจุบันระบบไอทีเข้ามามีบทบาทในการดำเนินธุรกิจในทุกภาคอุตสาหกรรม เช่น โทรคมนาคม เฮลท์แคร์ ที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน โรงไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรม ธุรกิจทุกภาคส่วน ต่างต้องปรับตัวเพื่อมอบสิ่งที่ดีให้แก่ลูกค้าให้ได้มากที่สุด ชไนเดอร์ อิเล็คทริค มองเห็นและตระหนักในจุดนี้ จึงได้ได้พัฒนาทั้งผลิตภัณฑ์และโซลูชั่น ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุด โดยได้ปรับเปลี่ยนการระบบบริหารจัดการศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หรือคอลล์เซ็นเตอร์ ด้วยการนำระบบคอมพิวเตอร์เทเลโฟนนี่อินทีเกรชั่น (Computer Telephony Integration: CTI) บริหารจัดการงานด้านการสื่อสารข้อมูลโดยใช้เครือข่ายโทรศัพท์แบบอัตโนมัติ เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพ เพื่อความรวดเร็วในการให้บริการ การนำระบบซีทีไอเข้ามาใช้งานทำให้เราเข้าใจความต้องการของลูกค้าที่โทรเข้ามาได้ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ เมื่อลูกค้าโทรเข้ามา ระบบจะแสดงผลข้อมูลของลูกค้าที่โทรเข้ามาบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ทั้งเบอร์โทรศัพท์ และประวัติการติดต่อ เช่น ความถี่ในการโทร และเรื่องที่แจ้งเข้ามาก่อนหน้านี้ รวมถึงระยะการดำเนินงานในเรื่องนั้น ๆ ว่าอยู่ในระยะใด มีกี่เรื่อง และผู้ดูแลรับผิดชอบเป็นใคร หากเป็นเรื่องด่วน จะสามารถโอนสายไปยังผู้ดูแลได้โดยตรง รวมถึงลูกค้าสามารถระบุหมายเลขข้อร้องเรียนผ่านทางโทรศัพท์ได้อีกด้วย
ในขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เองหากต้องโทรกลับสามารถโทรผ่านระบบซีทีไอได้ในทันที ซึ่งข้อมูลทุกอย่างจะถูกเก็บในรูปแบบดิจิทัล สามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์ ประเมิน เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้ลูกค้าได้ในอนาคต อีกด้วย ซึ่งชไนเดอร์ อิเล็คทริค คาดหวังว่าลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่ดี ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการบริการหลังการขาย
ความมุ่งหมายของให้ชไนเดอร์ อิเล็คทริค คือ การมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ดังนั้นในการพัฒนาด้านไอทีเพื่อช่วยในการบริการหลังการขายของนั้น จะช่วยให้ลดระยะเวลาในการตรวจสอบหรือส่งเรื่องต่าง ๆ ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น เมื่อลูกค้าโทรเข้ามา ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลก ก็จะสามารถเชื่อมต่อถึงผู้เชี่ยวชาญ หรือผู้ดูแลองค์กรนั้นๆ ได้เลย การสร้างการเชื่อมต่อที่ง่ายขึ้นด้วยไอที ไม่ใช่เพียง แค่การเชื่อมต่อระหว่างชไนเดอร์ อิเล็คทริคกับลูกค้า แต่ยังหมายถึงการเชื่อมต่อไปถึงความประทับใจที่ลูกค้าได้จากชไนเดอร์ อิเล็คทริค อีกด้วย
มร.ริชาร์ด โจนส์ (ที่ 4 จากซ้าย) รองประธาน บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) และ คุณอาราธนา โลเฮีย (ที่ 5 จากซ้าย) ตัวแทนจากบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยกูรูและดีไซเนอร์ชื่อดังที่ร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสินการประกวดฯ อาทิ คุณเล้ง อดิศักดิ์ โรจน์ศิริพันธ์ เจ้าของแบรนด์ Zenithorial คุณมาริส คราส ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจร้าน Another Story ผศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการออกแบบจากเศษวัสดุ (Scrap Lab) สาขาวิชาเทคโนโลยีทางอาคาร คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ คุณณฤต เลิศอุตสาหกูล ดีไซเนอร์ นักออกแบบ D.I.Y ชื่อดังของไทย เป็นต้น ร่วมเปิดตัวโครงการประกวดออกแบบ รีโค่ ยัง ดีไซเนอร์ ประจำปี 2559 (RECO Young Designer 2016) เวทีที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาและกลุ่มคนรุ่นใหม่ อายุตั้งแต่ 17-35 ปี ทั่วประเทศ ได้โชว์ไอเดียในคอนเซ็ปต์การใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน “Life is Play: Show Your Passion” ซึ่งแบ่งเป็น 2 สาขา ได้แก่ สาขาออกแบบผลิตภัณฑ์ และสาขาออกแบบแฟชั่น เพื่อชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 300,000 บาท พร้อมโล่เกียรติคุณ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแข่งขัน สามารถเข้าชมได้ที่ www.indoramaventures.com และ www.facebook.com/recoyoungdesigner
บริษัท แอพพลิแคด จำกัด ผู้นำด้านการจัดจำหน่ายซอฟต์แวร์โซลูชั่นเพื่องานออกแบบ 3D ทางด้านอุตสาหกรรม และด้านสถาปัตยกรรม ทั้งยังเป็นผู้จัดจำหน่ายนวัตกรรมที่ทันสมัยอย่าง 3D Printer จัดงาน AppliCAD’s SolidWorks Innovation Day 2016 งานสัมมนาประจำปีที่นำกลุ่มผู้ใช้งาน SolidWorks มารวมตัวกันมากที่สุดในเอเชีย ชมนวัตกรรมด้านการออกแบบที่รวบรวมไว้อย่างหลากหลาย เพื่อที่จะนำมาเสริมศักยภาพให้กับภาคอุตสาหกรรมไทยให้เข็มแข็งยิ่งขึ้น เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2558 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
ภายในงาน AppliCAD’s SolidWorks Innovation Day 2016 เป็นการเปิดตัว SolidWorks 2016 ซอฟต์แวร์ด้านการออกแบบ 3 มิติชั้นนำระดับโลก ในเวอร์ชั่นนี้ได้มีการปรับโฉมในส่วนของ User Interface ใหม่ และมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ อีกมากมาย ภายใต้คอนเซปต์ Make Great Design Happen พร้อมรับฟังทิศทางในอนาคตของ SolidWorks ในหัวข้อ SolidWorks is Changing โดย ประภาส ตั้งอดุลย์รัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอพพลิแคด จำกัด ผู้คร่ำหวอดในวงการซอฟต์แวร์ด้านการออกแบบ อีกทั้งยังเสริมมุมมองให้กับธุรกิจภาคอุตสาหกรรม ด้วยการรับฟังแนวโน้ม และแนวทางในการรับมือกับภาวะเศรษฐกิจในปีหน้า ซึ่งเทคโนโลยีจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อน กับหัวข้อ จับกระแสเศรษฐกิจปี 59 โดย อ.วีระ ธีรภัทร นักวิเคราะห์เศรษฐกิจและการเงินชั้นนำของเมืองไทย
พร้อมทั้งตื่นตาตื่นใจไปกับโซนจัดแสดงผลงานการออกแบบจากประสบการณ์ของผู้ใช้ตัวจริงมากมาย ซึ่ง SolidWorks ได้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จ อาทิ หุ่นยนต์ดินสอ จากซีที เอเชีย โรโบติกส์, ชุดอุปกรณ์ช่วยเรื่องการเดินของผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกแบบแยกโมดูล จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เป็นต้น นอกจากนี้ผู้ร่วมงานสามารถอัพเดทเทคโนโลยี และเรียนรู้เทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในหัวข้อต่าง ๆ อย่างเจาะลึกกับห้องสัมมนาแยกย่อย
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม AppliCAD 3D Design & Skill Contest ออกแบบง่าย ๆ เน้นดีไซน์เป็นเลิศ การแข่งขันออกแบบสำหรับนิสิต นักศึกษา ในรอบสุดท้าย ภายใต้หัวข้อ Smart Watch สำหรับคนยุคใหม่ พร้อมพิธีมอบรางวัล ซึ่งภายในงานไม่ได้มีแต่เพียงสาระเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยกิจกรรมสันทนาการ เกมส์ และของรางวัลมากมาย เพื่อความบันเทิงของผู้ร่วมงานตลอดทั้งวันอีกด้วย
เอสซีลอร์ ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) เปิดตัวเลนส์แว่นตารุ่นใหม่ล่าสุด ครีซอล อายเซน (Crizal ® EyezenTM) สำหรับเจาะผู้บริโภคยุคดิจิตอล การันตีด้วยรางวัลเหรียญทองนวัตกรรมเลนส์ยอดเยี่ยมล่าสุด จากงาน SILMO World Optical Show ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
นายทฤษฎี ตุลยอนุกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีลอร์ ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเลนส์แว่นตาอันดับหนึ่งของโลกจากฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้คนกว่า 1.5 พันล้านคนทั่วโลก ใช้สมาร์ทโฟนทุกวัน และ 9 ใน 10 ของคนกลุ่มนี้ ใช้เวลาอยู่กับอุปกรณ์ที่มีหน้าจอดิจิตอลมาแล้วนานกว่า 2 ปี ทำให้ทุกวันนี้ผู้คนส่วนใหญ่ใช้เวลาไปกับการจ้องมองหน้าจอดิจิตอลต่าง ๆ อาทิ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ ทีวี นาฬิกาอัจฉริยะ เป็นอย่างมาก ทำให้ดวงตาไม่ได้หยุดพัก จากผลงานวิจัยชี้ชัดว่า คนส่วนใหญ่ใช้เวลา 7 ชั่วโมงต่อวันสำหรับการจ้องมองหน้าจอดิจิตอลต่าง ๆ และ 2.30 ชั่วโมงสำหรับจ้องมองสมาร์ทโฟนเพียงอย่างเดียว ทำให้ 7 ใน 10 คนมีอาการเมื่อยล้าจากการใช้ดวงตาอย่างชัดเจน เพราะดวงตาได้รับผลกระทบจากแสงสีน้ำเงินที่เป็นอันตรายจากอุปกรณ์ดิจิตอลต่าง ๆ เหล่านี้ ส่วน 2 ใน 3 คนนั้น ต้องใช้เวลามากขึ้นในการแพ่งหน้าจอที่มีตัวอักษรเล็กมาก
“ จากการทุ่มเทค้นคว้าวิจัยทางวิทยาศาสตร์กว่า 4 ปี ทำให้ได้ เลนส์แว่นตา ครีซอล อายเซน ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุด ที่ออกแบบมาสำหรับแก้ปัญหาต่าง ๆ ดังที่กล่าวมา โดยจะรวม 3 เทคโนโลยีไว้ในเลนส์เดียว คือ Light Scan® ทำหน้าที่ป้องกันอันตรายจากแสงสีน้ำเงินในหน้าจอดิจิตอลต่าง ๆ EyezenTM Focus ทำให้มองอักษรเล็ก ๆ ได้อย่างสบายตา และเพิ่มความผ่อนคลาย W.A.V.E. Technology ที่ให้ความคมชัดเหนือกว่าเลนส์ทั่วไปที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาดปัจจุบัน ทำให้ได้รับรางวัลเหรียญทอง ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับนวัตกรรมใหม่อันทรงคุณค่าในวงการแว่นตาและเลนส์ จากงาน Silmo ปารีส ประเทศฝรั่งเศส ทั้งนี้ ครีซอล อายเซน มีทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกันได้แก่ EyezenTM Plus 0.4 สำหรับวัยหนุ่มสาวที่มีอายุระหว่าง 20-29 ปี EyezenTM Pro 0.6 สำหรับช่วงก่อนวัยผู้ใหญ่ อายุระหว่าง 30-39 ปี และ EyezenTM Max 0.85 สำหรับช่วงเริ่มต้นของวัยผู้ใหญ่ ที่มีอายุระหว่าง 40-45 ปี มีจำหน่ายแล้วในประเทศไทย ตามร้านแว่นตาชั้นนำต่าง ๆ ทั่วประเทศ “ นายทฤษฎี กล่าว
ทั้งนี้ สำหรับกลุ่มบริษัทเอสซีลอร์ (Essilor Group) ถือเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของวงการอุตสาหกรรมเลนส์แว่นตาระดับโลก มีชื่อเสียงในการพัฒนาและผลิตเลนส์แว่นตาคุณภาพสูง รวมถึงอุปกรณ์ทางด้านตรวจวัดสายตา ในแต่ละปี เอสซีลอร์ มีการลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ มากถึง 180 ล้านยูโรต่อปี โดยมีทีมนักวิจัยกว่า 550 คนทั่วโลก ส่งผลให้เอสซีลอร์สามารถคิดค้นเลนส์แว่นตาแบบใหม่ๆ ที่มีคุณสมบัติโดดเด่น เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบันออกมาสู่ท้องตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เทคโนโลยีการผลิตที่เป็นสิทธิบัตรเฉพาะของเอสซีลอร์ ทั้งเลนส์แว่นตาชั้นเดียว (Single Vision Lens) และเลนส์แว่นตาหลายชั้นไร้รอยต่อ (Progressive Lens) และในปี 2015 นี้ กลุ่มบริษัทเอสซีลอร์ ยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน Top 100 บริษัทที่มีนวัตกรรมดีเด่นถึง 5 ปีซ้อน จากนิตยสาร ฟอร์บ เอสซีลอร์ ยังมีบริษัทในเครือกระจายอยู่ทั่วโลกกว่า 30 ประเทศ และมีตัวแทนอีกกว่า 100 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย โดยมีศูนย์กลางการผลิตอยู่ในยุโรป อเมริกาเหนือ อเมริกากลาง และเอเชีย สอบถามข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ www.essilor.co.th/crizal-eyeze
คุณศิริอร พรหมสถิต ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ธุรกิจคอนซูเมอร์, เลอโนโว ประเทศไทย ได้เป็นตัวแทนส่งมอบผลิตภัณฑ์เลอโนโวให้กับศูนย์การเรียนตำรวจตะเวนชายแดนบ้านฟ้าไทยงาม จังหวัดเชียงราย เพื่อสนับสนุนโครงการก่อสร้างอาคารเรียนศูนย์การเรียนตำรวจตะเวนชายแดนบ้านฟ้าไทยงาม ซึ่งเป็นโครงการของกองกำกับการตำรวจตะเวนชายแดนที่ 32 นอกจากนี้ เลอโนโว ยังได้มอบผลิตภัณฑ์ให้กับ โรงเรียนบ้านนาสมบูรณ์ จ.อุบลราชธานี, โรงเรียนวัดโคกทราง จ.นครศรีธรรมราช และ โรงเรียนวัดโบสถ์ (วงศ์พานิช) จ.พระนครศรีอยุธยาอีกด้วย รวมมูลค่ากว่า 110,000 บาท
นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และ ศ.นพ.สุทธิพันธ์ จิตพิมลมาศ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ร่วมกันลงนามความร่วมมือด้านวิชาการและการวิจัย ณ ห้องประชุม สอศ. เพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนสายอาชีพด้านการบริหารจัดการการท่องเที่ยวและบริการให้สามารถรองรับและตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน ซึ่งจะเป็นการสร้างและพัฒนากำลังคนและนักวิจัยมืออาชีพสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยได้เป็นอย่างดียิ่ง
ผู้อำนวยการ สกว. กล่าวว่า การสร้างความร่วมมือระหว่าง สอศ. ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการมีอำนาจหน้าที่ในการจัดการศึกษาอาชีวศึกษาและฝึกอบรมวิชาชีพ เพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนในด้านวิชาชีพระดับฝีมือ ระดับเทคนิค และระดับเทคโนโลยี ตามความต้องการของตลาดแรงงาน ร่วมกับ สกว. ในการสร้างและพัฒนากำลังคนและนักวิจัยมืออาชีพสู่ระบบเศรษฐกิจภายใต้กรอบระยะเวลา 3 ปี โดยจะส่งเสริมให้บุคลากรในสังกัด สอศ. ได้ทำการศึกษา ค้นคว้า วิจัย และพัฒนางานด้านวิชาการ ซึ่งจะนำไปพัฒนาการเรียนการสอนได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการสนับสนุนด้านการพัฒนาระบบการจัดการงานวิจัย ในการสร้างและพัฒนานักวิจัยในสายวิชาชีพ พัฒนากำลังคนสายอาชีพให้สอดคล้องกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ รวมทั้งพัฒนาศักยภาพของชุมชนบนฐานทรัพยากรทางการท่องเที่ยว
ทั้งนี้ สกว. มีความยินดีสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาอาชีพที่สอดคล้องกับความต้องการดังกล่าว อีกทั้งสนับสนุนให้เกิดการบูรณาการงานวิจัยระหว่างบุคลากรอาชีวศึกษาและคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาอื่น ๆ เพื่อร่วมกันพัฒนากำลังคนสายอาชีพให้มีขีดความสามารถและสมรรถนะสูงยิ่งขึ้น รวมทั้งพัฒนาศักยภาพของชุมชนบนฐานทรัพยากรทางการท่องเที่ยว ตลอดจนสนับสนุนผู้ทรงคุณวุฒิ วิทยากร และผู้ประสานงานในการสร้างกระบวนการเรียนรู้ การพัฒนาข้อเสนอโครงการวิจัย การติดตามความก้าวหน้างานวิจัย การเขียนรายงานวิจัย การจัดการงานวิจัย และกิจกรรมอื่นที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัย ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยของ สกว. ที่ไปช่วยพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ไปพัฒนาเป็นหลักสูตรการเรียนการสอน
ขณะที่เลขาธิการ สอศ. ระบุว่า สอศ.จะส่งเสริมและสนับสนุน วางแผนในการกำหนดแผนงานการวิจัย ประสานงานกับสถานศึกษาในสังกัดเพื่อสนับสนุนงานวิจัยของ สกว. รวมถึงสนับสนุนให้สถานศึกษาและบุคลากรเสนอโครงการวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการวิจัยอาชีวศึกษา และกิจกรรมอื่น ๆ ที่จะให้การสนับสนุนซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ สอศ. ได้รับการคาดหวังจากรัฐบาลเป็นอย่างมาก เพราะอาชีวศึกษาเป็นผู้ทรงคุณค่าของสังคม มีความสำคัญต่อการสร้างชาติในการผลิตคนที่มีฝีมือ จึงมอบภารกิจให้ สอศ. ดำเนินการ โดยเฉพาะเรื่องการเปลี่ยนค่านิยม ปรับภาพลักษณ์ให้ดีขึ้นและอยู่ในมาตรฐานสากล ลดปัญหาการทะเลาะวิวาท พัฒนาสิ่งประดิษฐ์นวัตกรรมอาชีวะตั้งแต่ระดับห้องเรียนจนถึงระดับนานาชาติ โดยส่งเสริมให้นักศึกษาใช้กระบวนการวิจัยเป็นเครื่องมือในการพัฒนาและคิดอย่างเป็นระบบ
“ประเด็นหลักที่อยากให้ สกว. ช่วยในขณะนี้คือ การท่องเที่ยว เพราะมีตลาดชัดเจน นักศึกษาให้ความสนใจลงทะเบียนเรียนสาขาการท่องเที่ยวและโรงแรมเพิ่มขึ้นมาก จบไปก็มีงานทำ ซึ่ง สอศ. มีวิทยาลัยที่เปิดสอนด้านการท่องเที่ยวและโรงแรม รวมถึงมัคคุเทศก์รวม 43 แห่ง แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของภาคเอกชนที่ต้องการคนปีละ 200,000 คน แต่เราผลิตได้เพียง 4,000 คน มติ ครม. ก็สั่งการให้ช่วยกันแก้ปัญหาการขาดแคลนมัคคุเทศก์ นอกจากนี้หลักสูตรการเรียนการสอนจะต้องตอบโจทย์ของท้องถิ่นด้วย จึงต้องมีอุตสาหกรรมท่องเที่ยวระดับท้องถิ่น ซึ่งจำแนกตามประเภทของการท่องเที่ยว” เลขาธิการ สอศ. กล่าวสรุป
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เปิดตัวเว็บไซต์ คลังข้อมูลอุตสาหกรรม เพื่อสร้างความเข้มแข็งและภูมิคุ้มกันแก่ภาคอุตสาหกรรมไทย ที่จำเป็นต้องอาศัยฐานข้อมูลที่ทันสมัยเพื่อให้เอื้อต่อการปรับตัวเมื่อได้รับผลกระทบจากภาวะผันผวนของระบบเศรษฐกิจโลก คลังข้อมูลดังกล่าวครอบคลุมกลุ่มอุตสาหกรรมมากถึง 7 เรื่อง ได้แก่ มันสำปะหลัง ไอซีที แม่พิมพ์ เมล็ดพันธุ์ ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องสำอางและเวชสำอาง และชีวมวลเพื่อการผลิตไฟฟ้าและความร้อน ภายในคลังบรรจุเนื้อหาเกี่ยวกับสถานภาพของอุตสาหกรรมนั้น ๆ ทั้งภายในและต่างประเทศ ปัญหาอุปสรรค ห่วงโซ่อุปทาน นโยบาย กฎหมายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงบทบาทของ สวทช. ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมนั้น ๆ ตลอดจนงานวิจัยที่น่าสนใจ ผู้สนใจสามารถเข้าไปอ่านและติดตามข้อมูลอย่างทั่วถึงได้ที่เว็บไซต์ http://www.nstda.or.th/industry
ทั้งนี้ บริษัท ไทยคอม เน็ทเวิร์ค เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องถ่ายเอกสารระบบมัลติฟังก์ชั่นและโซลูชั่นต่าง ๆ ของโตชิบามานานกว่า 10 ปีและเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัท ไทยคอม เน็ทเวิร์ค จำกัด ทางบริษัท โตชิบา เทค คอร์ปอเรชั่น จึงได้ตัดสินใจเปลี่ยนชื่อองค์กรเป็น บริษัท โตชิบา เทค (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งจะยังคงเดินหน้านำเสนอเครื่องถ่ายเอกสารระบบมัลติฟังก์ชั่นและระบบโซลูชั่นต่าง ๆ ต่อไป
ทั้งนี้ เว็บไซต์ของบริษัท (www.thaicomnet.co.th) จะเปลี่ยนเป็น www.toshibatec.co.th รวมถึงที่อยู่อีเมล์ของบริษัทในส่วนต่อท้ายก็จะเปลี่ยนเป็น @toshibatec.co.th ด้วย
บริษัท โตชิบา เทค คอร์ปอเรชั่น เป็นบริษัทภายใต้กลุ่มโตชิบา ผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชั่นเทคโนโลยี ซึ่งดำเนินงานครอบคลุมในหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่ธุรกิจค้าปลีก การศึกษา การบริการทางธุรกิจ ไปจนถึงธุรกิจด้านการโรงแรมและการผลิต บริษัท โตชิบา เทค คอร์ปอเรชั่น มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นและมีธุรกิจสาขามากกว่า 80 แห่งทั่วโลก โดยบริษัทพร้อมช่วยสนับสนุนองค์กรต่าง ๆ ในการเปลี่ยนแนวทาง การดำเนินงานด้านการสร้าง บันทึก แชร์ จัดการ และแสดงข้อมูลสารสนเทศ
บริษัท โตชิบา เทค (ประเทศไทย) จำกัด เดิมชื่อว่า บริษัท ไทยคอม เน็ทเวิร์ค จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สำนักงานอัตโนมัติของโตชิบาในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2547 บริษัท โตชิบา เทค (ประเทศไทย) จำกัด จะเดินหน้านำเสนอโซลูชั่นและระบบที่ครอบคลุมด้านอุปกรณ์ต่อพ่วงแบบมัลติฟังก์ชั่น ร่วมกับบริษัทแม่ของตน ได้แก่ บริษัท โตชิบา เทค มาเลเซีย จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชั่นและระบบเทคโนโลยีในประเทศมาเลเซียเป็นเวลา 30 ปีมาแล้ว
โพลีคอม, อิงค์ (Nasdaq: PLCM) เปิดตัวนวัตกรรมโซลูชั่นพิเศษ ด้านการทำงานร่วมกันสำหรับลูกค้าที่นิวยอร์ก โดยเน้นไปที่ สถานที่ทำงานแห่งอนาคตที่จะเกิดขึ้นทั่วโลก
"การทำงาน" มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดทั้งจากสถานที่ รูปแบบที่เคยปฏิบัติ โดยไม่ต้องคำนึงถึงเวลา สถานที่ และอุปกรณ์ที่เคยใช้ จากอดีต สำนักงาน ห้องประชุมแบบเก่ามีพื้นที่แบบเปิดสำหรับการทำงานแบบเคลื่อนที่ และการทำงานเป็นทีม ภายในห้องขนาดเล็ก ซึ่งทั้งหมดคือความท้าทายในการทำให้การทำงานร่วมกันสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างการทำงานเป็นทีมเพิ่มมากขึ้นในสถานที่ทำงานแห่งอนาคต และองค์กรต่าง ๆ จำเป็นต้องอาศัยเครื่องมือที่เหมาะสม ซึ่งในยุคโลกาภิวัตน์ ปัจจัยต่าง ๆ อาทิ ผลงานที่เพิ่มขึ้น ระยะเวลาในการจัดจำหน่าย การควบคุมต้นทุน การเพิ่มประสิทธิภาพในการดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถเหมาะสมเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ทุกองค์กรต้องบริหารจัดการในแต่ละวัน โซลูชั่นด้านการทำงานร่วมกันนั้น ต้องใช้งานง่าย และปรับให้เหมาะกับสถานที่ทำงานทุกขนาด โซลูชั่นล่าสุดของโพลีคอมถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ เหล่านี้ อย่างสวยงามและเรียบง่าย ทำให้ลูกค้าสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ทั่วทุกพื้นที่ขององค์กร
กลุ่มบริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KTIS จ่อเปิดโรงไฟฟ้าใหม่เพิ่ม 2 โรง กำลังผลิตรวม 100 เมกะวัตต์ เตรียมขายไฟฟ้าปลายปีนี้ 50 เมกะวัตต์ ส่วนอีก 50 เมกะวัตต์ เปิดขายต้นปี 59 พร้อมออกผลิตภัณฑ์ใหม่คือน้ำเชื่อมและน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์พิเศษด้วยมาตรฐานเดียวกับประเทศญี่ปุ่น ตั้งเป้ารายได้โต 10% ในปี 2559 โดยมีสัดส่วนรายได้จากสายผลิตภัณฑ์น้ำตาล 60% และจากสายการผลิตพลังงาน 40%
นายประพันธ์ ศิริวิริยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KTIS เปิดเผยถึงโครงการไฟฟ้าชีวมวลจากชานอ้อยว่าปัจจุบัน กลุ่ม KTIS มีโรงไฟฟ้าที่ใช้ชานอ้อยเป็นเชื้อเพลิง กำลังการผลิต 60 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 2 โรง ซึ่งมีกำลังการผลิตโรงละ 50 เมกะวัตต์ รวมทั้ง 3 โรงไฟฟ้าจะมีกำลังการผลิตรวม 160 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าชีวมวลใหม่โครงการแรกอยู่ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ใช้เงินลงทุนประมาณ 960 ล้านบาท ส่วนโครงการที่สองอยู่จังหวัดนครสวรรค์ ใช้เงินลงทุนประมาณ 960 เช่นกัน
“โรงไฟฟ้าชีวมวลแห่งใหม่ทั้ง 2 แห่งนี้เราต้องการให้ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ปลอดภัยสูงสุด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยใช้เทคโนโลยีใหม่ที่สามารถผลิตไอน้ำแรงดันสูง ซึ่งทำให้ผลิตไฟฟ้าได้มากกว่าเทคโนโลยีการผลิตไอน้ำแรงดันต่ำ เมื่อเทียบกับจำนวนเชื้อเพลิงเท่า ๆ กัน ซึ่ง 50 เมกะวัตต์แรกจะผลิต และขายไฟฟ้าได้ก่อนสิ้นปี 58 และอีก 50 เมกะวัตต์ จะผลิตและขายไฟฟ้าได้ในปี 59” นายประพันธ์ กล่าว
ทั้งนี้ นอกจากโรงไฟฟ้าชีวมวลแห่งใหม่จะสร้างรายได้ และผลกำไรที่มากขึ้นให้แก่กลุ่ม KTIS แล้ว ยังสามารถรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าในอนาคตที่จะเพิ่มขึ้นจากโครงการขยายกำลังการผลิตน้ำตาล และธุรกิจต่อเนื่องด้วย เพราะไฟฟ้าที่ผลิตได้นี้จะนำไปใช้ในกลุ่ม KTIS ก่อน ส่วนที่เหลือจึงจะขายให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ.
นอกจากนี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม KTIS ยังกล่าวอีกว่า สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ในสายธุรกิจน้ำตาล คือ โครงการผลิตน้ำเชื่อม (Liquid Sucrose) ด้วยกำลังการผลิต 400 ตันต่อวัน หรือ 4 แสนกิโลกรัมต่อวัน และโครงการผลิตน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์พิเศษ (Super Refined Sugar) ด้วยกำลังการผลิต 500 ตัน หรือ 5 แสนกิโลกรัมต่อวัน ซึ่งขณะนี้กำลังก่อสร้าง และติดตั้งเครื่องจักรเกือบจะแล้วเสร็จแล้ว คาดว่าจะเริ่มทดลอง และเดินเครื่องผลิตได้ก่อนสิ้นปี 58 นี้ ซึ่งผลิตภัณฑ์ใหม่นี้จะมีมูลค่าสูงกว่าปกติ เพราะน้ำตาลชนิดพิเศษเทียบกับน้ำตาลธรรมดาจะมีส่วนต่างกันถึง 80-100 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน โดยโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากบริษัท นิสชิน ชูการ์ และบริษัท ซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของนิสชิน ชูการ์ รวมทั้งเป็นผู้ถือหุ้นของ KTIS ด้วยเช่นกัน ขั้นตอนการผลิตของเราถูกออกแบบให้มีมาตรฐานที่สูง มีประสิทธิภาพและคุณภาพตามมาตรฐานของบริษัท ซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งจากการเพิ่มสายการผลิตดังกล่าว จะทำให้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจน้ำตาลไม่ลดลงเมื่อเทียบกับราคาน้ำตาลที่ยังคงปรับตัวลดลงตามราคาตลาดโลก และจะมีฐานรายได้จากโรงไฟฟ้าชีวมวลเข้ามาเสริม ซึ่งคาดว่าในปี 2559 บริษัทจะมีรายได้เติบโต 10% เมื่อเทียบกับปี 2558 โดยมีจะสัดส่วนรายได้จากสายผลิตภัณฑ์น้ำตาล 60% และจากสายการผลิตพลังงาน 40% ปรับลดและเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน ซึ่ง KTIS มีสัดส่วนรายได้จากการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลและกากน้ำตาล 74% สายชีวพลังงานและผลิตภัณฑ์ 26%
“นอกจากนี้ การเติบโตของรายได้ที่เพิ่มขึ้นของบริษัท ยังจะได้อานิสงส์จากราคาน้ำตาลตลาดโลกปี 2559 ที่บริษัทมองจะมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีนี้ โดยคาดว่าราคาน้ำตาลจะเฉลี่ยเคลื่อนไหวอยู่ที่ 13.5-15 เซนต่อปอนด์ เนื่องจากปริมาณสำรองของประเทศต่าง ๆ ซึ่งเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ของโลกปรับตัวลดลง จึงเชื่อว่าจะได้เห็นความต้องการโดยเฉพาะจากประเทศจีนปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับทิศทางความต้องการทางด้านพลังงานทดแทนมีแนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้นตามกระแสโลก ส่งผลกระทบต่อการใช้เอทานอลมีทิศทางเติบโตอย่างชัดเจน ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ราคาขายในตลาดโลกสูงขึ้นแทบทั้งสิ้น และเป็นผลดีต่อธุรกิจของ KTIS ด้วยเช่นกัน” นายประพันธ์ กล่าว
ภาพคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมโรงไฟฟ้าไทยเอกลักษณ์เพาเวอร์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าขนาด 50 MW โดยใช้เชื้อเพลิงชีวมวลจากชานอ้อย ที่เหลือจากโรงงานน้ำตาลไทยเอกลักษณ์ โรงไฟฟ้าแห่งนี้ใช้งบลงทุนประมาณ 960 ล้านบาท และเป็นหนึ่งในธุรกิจของกลุ่มบริษัทเกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KTIS
มร.เม ซีไล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีพี-ลิงค์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า TP-LINK ได้รับการ จัดอันดับโดย IDC บริษัทวิจัยตลาดไอทีชั้นนำของโลก ให้เป็นผู้นำในตลาดอุปกรณ์เครือข่ายไร้สาย โดยในไตรมาส สุดท้ายปี 2014 บริษัทฯ มีส่วนแบ่งตลาดมากถึง 41.23% สูงกว่าแบรนด์คู่แข่งอันดับสองของตลาดเกือบ 4 เท่าตัว ทั้งยังมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยในปีที่แล้วมีอัตราเติบโตที่ 10% ด้วยยอดขายทั่วโลก 154 ล้านเครื่อง คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ปัจจุบัน TP-LINK มีสำนักงานใน 38 ประเทศ และ กระจายสินค้าไปมากกว่า 120 ตลาดทั่วโลก
TP-LINK เริ่มรุกตลาดเมืองไทยตั้งแต่ปี 2005 และได้ป้อนสินค้ามากกว่า 200 รุ่นเข้าสู่ตลาด จนแบรนด์ TP-LINK กลายเป็นที่คุ้นเคยในกลุ่มลูกค้าผู้ใช้ตามบ้าน ธุรกิจเอสเอ็มอี ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ และในปีที่แล้ว TP-LINK ยังสามารถรักษาตำแหน่งเจ้าตลาดด้วยส่วนแบ่งตลาด 48% ส่วนในเจ็ดเดือนแรกของปีนี้ บริษัทฯ ขายได้แล้ว 553,173 เครื่อง แต่ยังจะเดินหน้ารุกตลาดต่อไปด้วยการเปิดตัวนวัตกรรม อย่าง Archer C3200 และ Archer C2600 ไวเลสเราเตอร์กิกะบิตความเร็วสูง และ Touch P5 เราเตอร์พร้อมจอทัชสกรีนรุ่นแรกของ TP-LINK รวมถึง HS110 สมาร์ทปลั๊กที่ควบคุมการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน และ Google OnHub เราเตอร์รุ่นแรกจากค่ายกูเกิลที่ผลิตโดย TP-LINK เพื่อสร้างความคึกคักให้กับวงการไอทีในช่วงท้ายปี และเพิ่มยอดขายให้ได้ทะลุ 1 ล้านเครื่อง หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 20% จากปีที่แล้ว”
“นอกจากสินค้าของ TP-LINK จะเป็นที่ยอมรับในเรื่องคุณภาพและประสิทธิภาพแล้ว ความหลากหลายของสินค้า ก็สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม การมีพาร์ทเนอร์ที่ดีอย่าง King Intelligent Technology และ Synnex ก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ทั้งแบรนด์และยอดขายของ TP-LINK เติบโตมาโดยตลอด บริษัทฯ จะยังคงทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์อย่างใกล้ชิด เพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ โดยมีแผนจะออกโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายในแต่ละช่วง และเน้นที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ ผ่านกิจกรรมทางการตลาดและงานแสดงสินค้าต่าง ๆ” มร.เม ซีไล กล่าว
ด้าน นายทรงศักดิ์ สังขเวทัย ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท ทีพี-ลิงค์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงสินค้าใหม่ที่เปิดตัวในวันนี้ว่า TP-LINK มั่นใจว่าสินค้าไฮไลต์ทั้ง 5 รุ่นนี้จะสร้างสีสันให้กับตลาดไอทีในช่วงโค้งสุดท้ายของปีได้อย่างแน่นอน โดยเริ่มจาก Archer AC3200 เราเตอร์แบบกิกะบิตที่ใช้เทคโนโลยี Tri-Band ทำให้เชื่อมต่ออุปกรณ์หลาย ๆ ตัวได้โดยไม่ต้องห่วงว่าสัญญาณจะตกลง Archer C2600 เราเตอร์ความเร็วสูง ที่จะช่วยสร้างความบันเทิงบนโลกไร้สายภายในบ้านได้อย่างสมบูรณ์แบบ ส่วนอีกไฮไลต์คือ Touch P5 หรือ AC1900 เราเตอร์สำหรับเกมส์และการสตรีมมิ่งระดับ 4K HD Video รุ่นแรกของ TP-LINK และของวงการเราเตอร์ที่ใช้ทัชสกรีนเพื่อเพิ่มความง่ายในการติดตั้งเครื่องและจัดการตั้ง พร้อมทั้งยังถูกออกแบบมาให้ใช้เป็นได้ทั้งเราเตอร์ รีพีตเตอร์ และแอคเซสพอยต์ อีกสินค้าที่ TP-LINK คาดว่าจะขายดีหลังจากเปิดตัวก็คือ HS110 สมาร์ทปลั๊กสำหรับจัดการและควบคุมการใช้พลังงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนที่ใช้ iOS และ Android ผ่าน TP-LINK Cloud และล่าสุด TP-LINK ได้ร่วมกับ Google ผลิตไวเลสเราเตอร์รุ่นแรกของ Google ในชื่อ TGR1900 หรือรู้จักกันในชื่อ ทางการตลาดว่า Google OnHub ที่มีดีไซน์เรียบหรู ผู้ใช้สามารถติดตั้งและควบคุมการทำงานได้อย่างง่ายดาย ผ่านสมาร์ทโฟนทั้งระบบ iOS และ Android ด้วยแอพพลิเคชั่น Google On
สำหรับราคาสินค้าในช่วงเปิดตัว Archer C3200 อยู่ที่ 10,900 บาท Archer C2600 ราคา 9,690 บาท Touch P5 ราคาอยู่ที่ 7,900 บาท ผู้สนใจสินค้าสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ TP-LINK โทรศัพท์ 0-2440-0763 หรือ facebook.com/tplinkenterprisesthailand
“สินค้าที่เปิดตัวในครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยตอกย้ำความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยี WLAN ของ TP-LINK แต่จะช่วย ให้แบรนด์ TP-LINK กลายเป็นที่ต้องการมากขึ้นในตลาดเมืองไทย เราเตอร์ทุกรุ่นที่เปิดตัวล้วนแต่มีจุดเด่นทั้งใน เรื่องความเร็วสูงในการส่งสัญญาณ ไร้ปัญหาเรื่องจุดอับสัญญาณภายในพื้นที่ติดตั้ง และรองรับการเชื่อมต่อกับ อุปกรณ์ต่าง ๆ ได้พร้อมกันโดยสัญญาณไม่ดร็อป ซึ่งช่วยการทำงานและความบันเทิงต่าง ๆ ดำเนินไปได้โดยไม่สะดุด หรือแม้แต่สมาร์ทปลั๊กก็ช่วยสร้างบ้านหรือออฟฟิศอัจฉริยะขึ้นได้แบบง่าย ๆ บริษัทฯ มั่นใจว่าสินค้าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีแน่นอน” นายทรงศักดิ์กล่าวทิ้งท้าย
นายชาติชาย พยุหนนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เป็นประธานเปิด GSB Camp ภายใต้ โครงการ ออมสิน สุดยอดแนวคิดธุรกิจวิถีไทย สำหรับผู้เข้ารอบ 100 ทีม จำนวนกว่า 200 คน โดยเชิญนักธุรกิจคลื่นลูกใหม่ที่ประสบความสำเร็จ ร่วมเป็นวิทยากร อย่างพร้อมเพรียง อาทิ นายจักรพล จันทวิมล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด นายไกรเสริม โตทับเที่ยง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บมจ.ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล นายรวิศ หาญอุตสาหะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด เป็นต้น โดยทั้งหมดจะนำข้อมูลไปปรับแผน เพื่อให้กรรมการคัดเลือกเข้าสู่รอบ 10 ทีมสุดท้ายต่อไป ณ ห้องงำเมือง ค่ายริมขอบฟ้า เมืองโบราณ สมุทรปราการ เมื่อเร็ว ๆ นี้
ดร. สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ (ซ้าย) รองนายกรัฐมนตรี มอบโล่ “รางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม” (The Prime Minister’s Industry Award) ประจำปี 2558 แก่ บริษัท รวมเกษตรกรอุตสาหกรรม จำกัด สาขามิตรภูเวียง บริษัทในเครือกลุ่มมิตรผล โดยมี นายดำรง อินทรเสนา (ขวา) ผู้อำนวยการด้านโรงงาน เป็นผู้รับมอบ ณ อิมแพค เมืองทองธานี เมื่อเร็ว ๆ นี้
รางวัลนี้ถือเป็นรางวัลเกียรติยศสูงสุดที่มอบให้แก่องค์กรที่ประสบผลสำเร็จสูงสุดระดับประเทศ เพื่อเป็นแบบอย่างแก่สถานประกอบการในภาคอุตสาหกรรมให้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังเป็นการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมไทยให้มีศักยภาพการแข่งขันเทียบเท่าระดับสากล โดยพิจารณาคัดเลือกจาก 1.การบริหารจัดการ อาทิ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การจัดเก็บและการส่งมอบให้ลูกค้า 2.การประกอบธุรกิจ อาทิ การสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ 3.การพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีและองค์ความรู้ อาทิ โครงการ Mitr Phol Best Innovation Awards 4.ผลกระทบของกิจการต่อระบบเศรษฐกิจ และ 5.การทำคุณประโยชน์ต่อสังคม อาทิ โครงการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน ยึดหลักธรรมาภิบาลในการประกอบธุรกิจ
ในโอกาสนี้ ดร. สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และ ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าเยี่ยมชมบูธกลุ่มมิตรผล โดยมี นายคนอง ศักดิ์เพ็ชร์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานโรงงาน กลุ่มมิตรผล พร้อมด้วยคณะผู้บริหารจากกลุ่มมิตรผล ให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมได้คัดเลือก บริษัท รวมเกษตรกรอุตสาหกรรม จำกัด สาขามิตรภูเวียง จากสถานประกอบการทั่วประเทศ ให้ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม The Prime Minister’s Industry Award เนื่องจากเป็นองค์กรที่มีการบริหารงานโดดเด่นมากที่สุด เหมาะแก่การเป็นแบบอย่างที่ดีต่อสถานประกอบการรายอื่น โดยรางวัลนี้นับเป็นการได้รับรางวัลต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ของกลุ่มมิตรผล นับตั้งแต่ รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ประเภทบริหารงานคุณภาพ ในปี 2548 รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ประเภทการจัดการพลังงาน ในปี 2549 และ รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ประเภทการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม ในปี 2550 และ รางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม ประจำปี 2558 นี้
นายกฤษฎา มนเทียรวิเชียรฉาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มมิตรผล กล่าวว่า “กลุ่มมิตรผลมุ่งพัฒนาธุรกิจเพื่อเพิ่มมูลค่าให้แก่อุตสาหกรรมต่อเนื่องจากอ้อย โดยการนำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและการจัดการ รวมทั้งนวัตกรรมการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ในการดำเนินงาน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ระบบเศรษฐกิจของชุมชนและประเทศ ตามแผนแม่บทพัฒนาอุตสาหกรรมไทย ปัจจุบันกลุ่มมิตรผลเป็นผู้ผลิตน้ำตาลอันดับ 4 ของโลก และเป็นผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าชีวมวลและเอทานอลอันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียน เราพร้อมสนับสนุนภาครัฐในการผลักดันอุตสาหกรรมไทยสู่ความมั่นคงและยั่งยืน พร้อมกับการยกระดับความสามารถและสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมไทยให้มีศักยภาพการแข่งขันทัดเทียมกับนานาชาติ”
ซีดับเบิลยูทรีดี (ZW3D) หนึ่งในผู้ผลิตชั้นนำของโลกด้านซอฟต์แวร์ CAD/CAM โซลูชั่นสำหรับอุตสาหกรรมการผลิต พร้อมเปิดตัว ZW3D 2015 SP ซอฟต์แวร์สำหรับงานออกแบบ CAD/CAM รุ่นล่าสุดที่มีการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับการใช้งานที่ครอบคลุม และหลากหลายในราคาที่คุ้มค่า เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมการผลิต ตั้งแต่ระดับเอสเอ็มอี และอุตสาหกรรมขนาดกลางเพื่อการพัฒนา ขยายงาน หรือต้องการทำงานที่ครบวงจรตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงการผลิตใช้งาน
ซอฟต์แวร์สำหรับงานออกแบบ ZW3D 2015 SP มีการเพิ่มและปรับปรุงในส่วนต่าง ๆ เช่น เพิ่ม Ribbon Electrode เพื่องานออกแบบ Electrode ได้ง่ายและสะดวกขึ้น การกำหนดการเลือกชิ้นส่วน-ชิ้นงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้น การแสดงผลที่ดูง่าย และปรับเลือกรูปแบบการแสดงผลของการตรวจสอบความถูกต้องของการประกอบ และอื่นๆอีกมากมายเพื่อการทำงานที่สะดวกมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้งาน
นายโคลิน หลิน ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ ZW3D กล่าวว่า "ในปีที่ผ่านมาฝ่ายวิจัยและพัฒนาส่วนใหญ่ของ ZW3D มุ่งเน้นไปที่การทำงานและใช้งานของกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมขนาดกลางมากที่สุดเพื่อให้ได้โซลูชั่นที่สมบูรณ์และเหมาะสมที่สุดกับฟังก์ชั่นที่มีประสิทธิภาพและราคาที่ยุติธรรม"
นายประภพ หนึ่งในสมาชิก ZW3D Community ในประเทศไทย กล่าวว่า “ผมรู้สึกพอใจทุกครั้งที่ ZW3D มีการพัฒนาและปรับปรุงในแต่ละรุ่น ถึงบางครั้งจะเป็นจุดเล็กน้อยแต่มันช่วยให้ทำงานได้สะดวกและง่ายขึ้นอย่างมาก เช่น การหาและย้ายจุดหมุนแบบอัตโนมัติในขณะที่ต้องการหมุนชิ้นงานในแต่ละมุม แต่ละตำแหน่ง นั่นช่วยให้ลดเวลาการทำงานได้อย่างมาก”
อีกทั้งซอฟต์แวร์สำหรับงานออกแบบ ZW3D 2015 SP รุ่นล่าสุดยังเพิ่มฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลาย มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ตัวเลือกเพิ่มเติม (Boolean) การปรับปรุงแก้ไขและการเชื่อมโยงโดยตรงสำหรับงานกัดหยาบที่ดีขึ้น เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับ CAD/CAM ระดับกลาง
นอกจากนี้ ZW3D 2015 SP ยังเพิ่มฟังก์ชั่นอื่น ๆ เช่น การรับ (นำเข้า)/ส่ง (ส่งออก) ไฟล์ Parasolid ส่วนที่เป็นจุด และเส้นก็สามารถรองรับได้เป็นอย่างดี และยังรองรับการออก G-Code การทำงานกลึงเป็นแบบไซเคิล เพื่อให้ได้ G-Code ที่สั้นลงสำหรับเครื่องจักรรุ่นเก่า และยังสามารถสร้างเส้นทางเดินแบบโค้งตามเส้นของเครื่องมือ (Tool Path) ได้แม่นยำเที่ยงตรงด้วย สามารถดูข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ www.zw3dthailand.com หรือสอบถามได้ที่ บริษัท เซียนจิ้น เทรดดิ้ง จำกัด ผู้แทนจำหน่าย ZW3D ในประเทศไทย โทรศัพท์ 0-2417-0508
บริษัทไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน) เมืองเทคโนโลยีครบวงจร เปิดเผยว่า ทางไอที ซิตี้ ได้ตบเท้าเข้าร่วมงานแสดงและจำหน่ายสินค้าไอที ไอทีซิตี้ คอมมาร์ท คอมเทค ไทยแลนด์ 2015 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-8 พฤศจิกายน 2558 เวลา 10.00- 20.00 น. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ณ ห้องเพลนารีฮอลล์ งานนี้ ไอที ซิตี้ ได้เตรียมความพร้อม เพื่อจะจัดกิจกรรมส่งท้ายปลายปี 2558 อย่างคุ้มค่า คุ้มราคา ให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก ทีวี สมาร์ทโฟน ปริ้นเตอร์ทุกประเภท แก็ตเจ็ตฮิป ๆ มากมาย แถมยังมีโปรโมชั่นพิเศษหลากหลาย ทั้งลด ทั้งแถม อีกทั้งยังมีกิจกรรมพิเศษ ๆ ให้ลูกค้าได้เลือกจับจองเป็นเจ้าของ อาทิ เช่น การจัดสินค้านาทีทองมากมาย ไอที ซิตี้ ขอนำเสนอชุด Super Connection ลด 50 เปอร์เซ็นต์ จัดลดแบบยกเซ็ตกันไปเลย ชุดนี้ประกอบไปด้วย Samsung Monitor 34” ราคา 35,900 บาท Samsung SUHD 65” ราคา 179,990 บาท Samsung Printer ราคา 15,300 บาท Samsung Galaxy Note5 ราคา 25,900 บาท Samsung Galaxy TAB S2 9.7” ราคา 18,900 บาท รวมทั้งชุดจากราคาเต็ม 279,990 บาท จะขายในราคาเพียง 137,995 บาท เท่านั้น
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ไอที ซิตี้ ยังมีกิจกรรม TOP SPENDER ทุกใบเสร็จมีค่า เพียงลูกค้านำใบเสร็จที่ซื้อสินค้าภายในบูธของไอที ซิตี้ มาลงทะเบียน ยอดซื้อใครสูงสุดในแต่ละรอบ รับไปเลย สมาร์ทโฟน WIKO LENNY 2 สินค้าดีมีคุณภาพ อีกทั้งยังมีกิจกรรมสนุก ๆ ให้ลูกค้าร่วมลุ้นรางวัลมากมาย เตรียมพบกับ ไอที ซิตี้ ได้ภายในงานคอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ พร้อมโปรโมชั่นดี ๆ สอบถามรายละเอียดได้ที่ ไอที ซิตี้ คอลล์เซ็นเตอร์ โทรศัพท์ 0-2656-5030 หรือ คลิกเข้าไปที่ www.itcity.co.th และ www.facebook.com/itcityfanspage
อินเทล ร่วมกับ องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา หรือ USAID จัดกิจกรรมพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยีในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่าง โดยมีอาจารย์ผู้สอนทางด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และวิทยาการคอมพิวเตอร์ จากประเทศกัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม และ ไทย เข้าร่วมกิจกรรม ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อเรียนรู้วิธีพัฒนาทักษะด้านนวัตกรรมแก่นักศึกษาด้วยผลิตภัณฑ์ อินเทล® กาลิเลโอ (Intel® Galileo)
นาย เต็ด ซอ เอ อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยยาดานาร์พอน (Yatanarpon University) ประเทศพม่า หนึ่งในผู้เข้าร่วมกิจกรรม กล่าวว่า “การเรียนรู้การทำงานเชิงเทคนิคของบอร์ดกาลิเลโอเป็นประสบการณ์อันดีเยี่ยม แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ผมได้รับจากการเวิร์กชอปในครั้งนี้ คือ การเรียนรู้ถึงแนวทางที่จะนำ ความสามารถของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตจริง โดยกลุ่มของผมใช้เวลาเพียง 4 วันในเวิร์คชอปนี้พัฒนาต้นแบบระบบที่จอดรถอัจฉริยะ สามารถดูที่ว่างจากแอพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือได้ ความสามารถของบอร์ดกาลิเลโอซึ่งมีความยืดหยุ่นสูงจะช่วยให้นักศึกษาของผมนำไปออกแบบสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ได้มากมาย ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาผู้เรียนของผม”
ดร.อันจาน กอช ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคของอินเทล กล่าวว่า “ความร่วมมือครั้งนี้ระหว่างอินเทลและ USAID เป็นความก้าวหน้าอีกขั้นหนึ่งของการสร้างทักษะด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมในชั้นเรียนระดับมหาวิทยาลัย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของบุคลากรในภูมิภาคนี้ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยสู่ห้องเรียน จะช่วยให้นักศึกษาสามารถสร้างสรรค์โซลูชั่นเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ในโลกแห่งความเป็นจริงได้ เมื่อเทคโนโลยีเหล่านี้หล่อหลอมเข้ากับวิธีการเรียนการสอนแบบมีปฎิสัมพันธ์ จะยิ่งส่งเสริมการพัฒนาทักษะที่สำคัญของทั้งผู้สอนและนักศึกษาต่อไป”
การอบรมในครั้งนี้ สนับสนุนเป้าหมายของ USAID ในการยกระดับศักยภาพของเยาวชนให้ได้รับโอกาสทางการจ้างงานมากขึ้น ด้วยการประยุกต์เทคโนโลยีควบคู่กับการปรับวิธีจัดการเรียนการสอน โดยส่งเสริมให้ภาคธุรกิจซึ่งอาจเป็นนายจ้างในอนาคตเข้ามามีส่วนร่วม
นางเบ็ธ เพจ ผู้อำนวยการสำนักงานภาคพื้นเอเชีย องค์การ USAID กล่าวว่า “การสร้างความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาและภาคธุรกิจอย่างใกล้ชิดมากขึ้น ช่วยให้อาจารย์ผู้สอนได้นำเครื่องมือและนวัตกรรมล้ำสมัยจากผู้นำทางเทคโนโลยีต่าง ๆ ไปใช้ประโยชน์ รวมถึงการสร้างสรรค์วิธีการใหม่ ๆ ในการพัฒนาผู้เรียนบนแพลตฟอร์มเหล่านี้ด้วย”
เมื่อผู้สอนเหล่านี้ได้กลับไปสู่สถานศึกษา อาจารย์จะออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่ประยุกต์ใช้บอร์ด อินเทล® กาลิเลโอ ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมเพิ่มขึ้นตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่าง ทั้งนวัตกรรมที่เกิดจากการนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ไปแก้ปัญหาต่าง ๆ รอบตัว และนวัตกรรมด้านการเรียนรู้ที่ประยุกต์เทคโนโลยีใหม่นี้สู่หลักสูตร
รองศาสตราจารย์ พันธุ์ปิติ เปี่ยมสง่า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า “การจัดเวิร์คชอปในครั้งนี้ไม่ได้เน้นการสอน แต่เน้นการเรียนรู้ โดยเฉพาะการเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาด้วยตนเอง เรียนรู้จากเพื่อนร่วมงาน และเรียนรู้ที่จะสรรหาทรัพยากรต่าง ๆ ที่ต้องการด้วยตัวเอง ทั้งหาความรู้ ทั้งหาเทคโนโลยี แนวทางนี้เป็นต้นแบบของสิ่งที่เราต้องการให้เกิดขึ้นในห้องเรียน เป็นการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง ไม่ใช่แค่จากการฟังบรรยาย”
USAID สนับสนุนให้มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ที่เข้าร่วมโครงการนี้แบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดีแก่สถาบันการศึกษาอื่น ๆ ในภูมิภาค ผ่านช่องทางของโครงการเชื่อมโยงภูมิภาคลุ่มน้ำโขงผ่านการศึกษาและฝึกอบรม (USAID COMET)
นายนพดล ปิ่นสุภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ในฐานะตัวแทนกลุ่ม ปตท. เข้าร่วมการประชุมสัมมนาผู้บริหารระดับสูง G-20Y Summit 2015 ณ ประเทศฝรั่งเศส โดยกลุ่ม ปตท. ได้รับเชิญให้เป็น 1 ใน 90 ของผู้ร่วมสัมมนา ที่ G-20Y คัดเลือกจากผู้สมัครประมาณ 300-400 คน ซึ่งเป็นเพียงองค์กรเดียวที่มาจากประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การประชุม G-20Y Summit เป็นเวทีที่ผู้บริหารร่วมหารือแลกเปลี่ยนใน 6 ประเด็นหลักที่มีความสำคัญ และมีผลกระทบต่ออนาคตของโลก ได้แก่ ตลาดพลังงาน ความมั่นคงทางด้านอาหาร อุตสาหกรรมทางการเงินของโลก การพัฒนาด้านประชากรของโลก การสร้างงาน และนวัตกรรมดิจิตัลและการเปลี่ยนแปลง ผู้เข้าร่วมสัมมนาจะเข้าร่วมหารือโดยเป็นคณะกรรมการในแต่ละประเด็นดังกล่าว และจัดทำข้อเสนอในแต่ละประเด็นและรวบรวมเป็นข้อเสนอรวม G-20Y Summit Final Communiqué. 2015 เพื่อนำเสนอต่อองค์กรระหว่างประเทศที่มีบทบาทสำคัญในเวทีโลก ไม่ว่าจะเป็น IMF, World Bank, UN, OECD และองค์กรอื่น ๆ ที่มีบทบาทในเรื่องดังกล่าว
โดยนายนพดล ปิ่นสุภา ได้รับการคัดเลือกให้เป็นกรรมการในคณะกรรมการเรื่องตลาดพลังงาน (Energy Markets Committee) ร่วมกับผู้เข้าร่วมประชุมซึ่งเป็นตัวแทนจากองค์กรต่าง ๆ อาทิ Enel Green Power, Shell, DP World, The Linde Group, Mitsubishi Hitachi Power Systems Americas Inc., Mitsubishi Heavy Industries Inc., South Australia Department of Treasury and Finance, Legislative Strategies and Relations with Authorities (Eni S.P.A., Italy), Provincial Government of Walloon-Brabant (Termeca, Belgium) เป็นต้น คณะกรรมการเรื่องตลาดพลังงาน ได้ร่วมกันหารือแลกเปลี่ยนและจัดทำข้อเสนอในประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับตลาดพลังงานของโลก ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงของสภาพดินฟ้าอากาศ ซึ่งเป็นผลกระทบจากการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ การส่งเสริมการลงทุนด้านพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการเข้าถึงแหล่งพลังงานของประชากรโลก โดยคณะกรรมการเรื่องตลาดพลังงานต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ปัจจุบันประชากรทั่วโลกกว่า 1.3 พันล้านคนที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ และนับเป็นตัวแปรสำคัญต่อการสร้างตลาดพลังงานของโลกให้มีความมั่นคง มีเสถียรภาพ และนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีและการพัฒนาทางเศรษฐกิจของโลก
คณะกรรมการเรื่องตลาดพลังงานได้ร่วมกันจัดทำข้อเสนอในเรื่องการเข้าถึงแหล่งพลังงาน โดยเสนอให้ 1) ส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่เกี่ยวกับระบบไฟฟ้า เช่น การส่ง การจัดเก็บ และระบบการบริหารจัดการพลังงาน 2) มุ่งใช้ประโยชน์สูงสุดจากราคาค่าขนส่งไฟฟ้าที่ลดลงและการพัฒนาเทคโนโลยีในการกักเก็บไฟฟ้าเพื่อเพิ่มการเข้าถึงแหล่งพลังงานให้มากยิ่งขึ้น 3) สนับสนุนและพัฒนากลไกด้านการเงินเพื่อสนับสนุนการลงทุนเรื่องการเข้าถึงแหล่งพลังงาน และ 4) สนับสนุนการสร้างพันธมิตรระหว่างอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างความร่วมมือและปรับปรุงศักยภาพของโครงการต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมการสื่อสาร อุตสาหกรรมการเกษตร เป็นต้น
นายนพดล กล่าวว่า จากการเข้าร่วมประชุมสัมมนาในครั้งนี้มั่นใจว่าแนวทางการดำเนินธุรกิจของ GPSC เรื่องการลงทุนในบริษัทที่พัฒนาการกักเก็บพลังงานไฟฟ้าในรูปแบบแบตเตอรี่ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการวิจัยและพัฒนา อยู่ในทิศทางของ World Mega Trends ที่ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและระบบสายส่งไฟฟ้าในปัจจุบันและอนาคตต้องพิจารณาด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศมากขึ้น เช่นเดียวกันกับโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่ต้องสามารถขยายระยะเวลาการจ่ายไฟฟ้าได้นานและคงที่มากขึ้น ดังนั้นเทคโนโลยีการกักเก็บพลังงานไฟฟ้ารูปแบบแบตเตอรี่ จะเป็นกุญแจสำคัญในการรองรับทิศทางของโลกดังกล่าว อีกทั้งเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่อยู่ระหว่างวิจัยและพัฒนาอยู่นั้น ได้กำหนดโจทย์ที่สำคัญคือต้องสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) ให้ได้สูงสุดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยยกระดับมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับประชากรโลกอีกด้วย
การพัฒนาการกักเก็บพลังงานไฟฟ้าในรูปแบบแบตเตอรี่นั้น นับเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของ GPSC กล่าวคือ บริษัทได้ลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่นอกเหนือจากธุรกิจผลิตไฟฟ้าและสาธารณูปโภค โดยได้เข้าร่วมลงทุนกับ 24M Technology Inc. ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งประกอบธุรกิจหลักในการวิจัยและพัฒนาแบตเตอรี่ประเภทลิเทียม-ไอออน (Lithium-Ion) ด้วยเทคโนโลยีการผลิตใหม่ เพื่อดำเนินธุรกิจระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าและแบตเตอรี่ โดย GPSC เล็งเห็นว่า ธุรกิจระบบการกักเก็บพลังงานไฟฟ้าจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการในการใช้ไฟฟ้าของโลกที่มีความหลากหลายมากขึ้น ทั้งการเพิ่ม Reliability ในภาคอุตสาหกรรม การตอบสนองความต้องการใช้พลังงานของภาคครัวเรือน การเพิ่มเสถียรภาพของระบบส่งไฟฟ้า อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการเข้าถึงพลังงาน และจะช่วยยกระดับมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับประชากรโลกได้ และยังมีส่วนช่วยสนับสนุนการใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดอีกด้วย นอกจากนี้ GPSC ยังได้ลงทุนในธุรกิจบริษัทจัดการพลังงาน (Energy Service Company: ESCO) เพื่อให้บริการแบบครบวงจร ด้านการอนุรักษ์พลังงาน และเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้พลังงาน รวมทั้งการลงทุนพัฒนาโครงข่ายสายส่งไฟฟ้า โดยมุ่งเน้นตลาดในต่างประเทศที่ยังไม่มีโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าที่ครอบคลุม เพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าและช่วยให้ประชากรสามารถเข้าถึงการใช้ไฟฟ้าได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย นายนพดลกล่าวสรุป
บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมให้การสนับสนุนสตาร์ทอัพไทยในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีคลาวด์ของไมโครซอฟท์ เพื่อช่วยเสริมศักยภาพธุรกิจให้เติบโตอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้นและสามารถก้าวสู่การแข่งขันในระดับโลกได้
ประเทศไทย มีผู้ใช้งานแอพพลิเคชั่นบนมือถือทุกวันประมาณ 24 ล้านคน และมีรายได้จากคอนเทนท์บนมือถือสูงถึง 600 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2557 ทั้งนี้ จากการที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิตอล (Digital Economy) และกำลังจะเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่กำลังจะมาถึง สตาร์ทอัพเทคโนโลยีจะต้องเผชิญหน้ากับการแข่งขันที่สูงขึ้นในแง่ของข้อเสนอและนวัตกรรม แต่ในขณะเดียวกันสตาร์ทอัพเทคโนโลยีก็จะมีโอกาสมากขึ้นในระดับภูมิภาค
ไมโครซอฟท์ อาชัวร์ คือ บริการคลาวด์ที่เหมาะสำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพ และยังเป็นบริการคลาวด์แพลตฟอร์มเพียงหนึ่งเดียวที่ได้รับการจัดอันดับโดยการ์ทเนอร์ ให้เป็นผู้นำด้านบริการโครงสร้างขั้นพื้นฐาน บริการด้านแพลตฟอร์ม และการบริการการจัดเก็บข้อมูลคลาวด์เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ไมโครซอฟท์ อาชัวร์ โดยในระดับโลก ไมโครซอฟท์ อาชัวร์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย ณ ขณะนี้มีลูกค้าที่สมัครสมาชิกใหม่กว่า 90,000 รายในทุก ๆ เดือนและปัจจุบันนี้มากกว่าร้อยละ 57 ของกลุ่มบริษัทใน Fortune 500 เลือกใช้ไมโครซอฟท์ อาชัวร์
ปัจจุบันนี้ ไมโครซอฟท์ อาชัวร์ให้บริการครอบคลุม 19 เขตทั่วโลก ประกอบด้วย ศูนย์กลางรวบรวมข้อมูลสำหรับสตาร์ทอัพ นักพัฒนาคอนเทนท์บนมือถือและพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับองค์กร เพื่อให้แอพพลิเคชั่นสามารถทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าและพนักงาน และยังสามารถตอบสนองความต้องการให้ตรงกับแต่ละกลุ่มตลาดในหลากหลายภูมิภาคได้ ขณะนี้ ไมโครซอฟท์ อาชัวร์ ให้บริการมากกว่า 1 ล้านเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถพัฒนาและใช้งานแอพพลิเคชั่นโดยไม่ต้องกังวลถึงศักยภาพในการทำงานของแพลตฟอร์มคลาวด์ และยังสามารถช่วยให้ผู้ใช้งานได้ปรับเลือกขนาดให้เหมาะสมตามการใช้งานได้อีกด้วย
ด้วยความสามารถของไมโครซอฟท์ อาชัวร์ บริษัท เอนนี่แวร์ ทู โก จำกัด สตาร์ทอัพไทย ที่กำลังวางแผนขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ จะสามารถนำประโยชน์ของเทคโนโลยีนี้ไปช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ธุรกิจและนวัตกรรม ซึ่งปัจจุบันนี้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งเพื่อที่จะสามารถต่อสู้กับคู่แข่งรายอื่นได้
“เทคโนโลยีเป็นเครื่องมืออันทรงพลังมากของการประมวลผลแบบกลุ่มเมฆซึ่งมีอิทธิพลกับธุรกิจขนาดเล็กและกลุ่มสตาร์ทอัพ ที่จะทำให้พวกเขาสามารถแข่งขันกับธุรกิจขนาดใหญ่กว่า ปรับเลือกขนาดตามความเหมาะสม เพิ่มกลุ่มตลาดเป้าหมาย และช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว จุดประสงค์ของไมโครซอฟท์นั้นง่าย ไม่มีอะไรซับซ้อน เรามุ่งมั่นที่จะยกระดับความสามารถการแข่งขันของสตาร์ทอัพไทย เพื่อช่วยให้พวกเขาพัฒนานวัตกรรมและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว” เอกราช คงสว่างวงศา ผู้จัดการฝ่ายส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
กิตตินันท์ อนุพันธ์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอนนี่แวร์ ทู โก จำกัด กล่าวว่า “คอนเทนท์บนมือถือและแอพพลิเคชั่นในตลาดประเทศไทย มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นตลาดอันทรงประสิทธิภาพของคอนเทนท์บนมือถือ นอกจากนี้ ความเร็วของการประมวลผลมีความสำคัญอย่างมากที่จะทำให้เราสามารถแข่งขันกับนักพัฒนา จากต่างประเทศได้ แอพพลิเคชั่นของเราจำเป็นต้องรองรับได้หลากหลายแพลตฟอร์มและปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมไปสู่การใช้งานในตลาดต่างประเทศได้อัตโนมัติ เพราะธุรกิจและลูกค้าของเราเติบโตตลอดเวลา”
“ด้วยไมโครซอฟท์ อาชัวร์ เอนนี่แวร์ ทู โก สามารถเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อตอบสนองกับความต้องการของตลาด พัฒนาให้เราสามารถเข้าสู่ตลาดได้เร็วยิ่งขึ้น และยังมีโอกาสก้าวสู่ตลาดต่างประเทศได้ เช่น ประเทศมาเลเซีย ฮ่องกง ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เราเป็นหนึ่งในลูกค้ารายแรก ๆ ของไมโครซอฟท์ อาชัวร์ และหนึ่งในข้อดีหลัก ๆ ของเทคโนโลยีคลาวด์ของไมโครซอฟท์ คือ การจัดการกับค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับสตาร์ทอัพเช่นเดียวกับเรา ไมโครซอฟท์ อาชัวร์ ใช้งานง่าย และมาพร้อมกับการดูแลเรื่องการบำรุงรักษาจากไมโครซอฟท์ ซึ่งทำให้เราสามารถให้ความสำคัญในการพัฒนาคอนเทนท์ได้มากขึ้น นอกจากนี้ ความร่วมมือของเรากับไมโครซอฟท์ยังขยายไปสู่การรับพนักงานฝึกงานที่ศูนย์นวัตกรรมไมโครซอฟท์เพื่อช่วยพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับแพลตฟอร์มวินโดวส์ด้วย” นายกิตตินันท์ กล่าวสรุป
(ในภาพด้านซ้าย) นายเอกราช คงสว่างวงศา ผู้จัดการฝ่ายส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด และ นายกิตตินันท์ อนุพันธ์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอนนี่แวร์ ทู โก จำกัด สนับสนุนสตาร์ทอัพไทยในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีคลาวด์ของไมโครซอฟท์ เพื่อช่วยเสริมศักยภาพธุรกิจให้เติบโตอย่างรวดเร็วและสามารถก้าวสู่เวทีระดับโลกได้