เพื่อทีม เพื่อเรา

พิทักษ์ ศุภบัณฑิตย์กุล

   “ทีมงานที่มีประสิทธิภาพจะสร้างประสิทธิผลที่ช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างมากมาย และทีมงานจะมีคุณภาพมากยิ่งขึ้นเมื่อทุกคนทำเพื่อทีม เพราะมันคือการทำเพื่อเราทุกคน....”

   สวัสดีครับ อีกหน้าประวัติศาสตร์ของอุทกภัยกำลังจะผ่านไป สิ่งที่ได้จากภาวะวิกฤตินี้ก็คือ เราต้องร่วมมือกัน มองภาพรวมและวางแผนสอดคล้องร่วมกันในการแก้ปัญหาชิ้นใหญ่ที่ยากเกินกว่าใครคนหนึ่งจะรับมือได้ มีหลายคนที่โยนหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมให้ท่านนายกฯ บางท่านโยนให้กับท่านผู้ว่าฯ ซึ่งจริง ๆ แล้ว พวกเราคนไทยด้วยกัน

   หรือแม้แต่คนต่างชาติที่มาทำงานหรือพักอาศัยในประเทศเราก็มีส่วนรับผิดชอบ และช่วยกันแก้ไขปัญหาที่ถาโถมเข้ามาด้วยกัน เมื่อการร่วมมือกันของคนจำนวนมาก อย่างแรกที่ได้คือกำลังกาย อย่างสองคือ กำลังความคิด และอย่างที่สามคือ กำลังใจที่จะเติมให้กันและกัน เมื่อไรที่ท้อ อ่อนแรง คิดอะไรไม่ออก เราก็จะรู้ได้เสมอว่า ข้าง ๆ เรา ยังมีใครอีกหลายคนคอยช่วยอยู่ คอยเป็นอีกแรงให้เรา

เพื่อตัวเองทำอย่างไร เพื่อทีมทำได้เช่นกัน

   หากมีใครถามเราว่า คุณเป็นคนเห็นแก่ตัวไหม แน่นอนใครบ้างไม่เห็นแก่ตัว เพียงแต่มีบ้างพอให้รู้ว่าตัวเองต้องเอาตัวรอดอย่างไร ต้องรักษาผลประโยชน์ของตัวเองอย่างไร และไม่เอาเปรียบคนอื่น เท่านี้เอง แต่ว่าเมื่อใดที่ส่วนรวมต้องการความช่วยเหลือและเสียสละจากทุกคนในทีม แต่ละคนก็ต้องจำเป็นที่จะปล่อยส่วนที่เป็นผลประโยชน์ของตัวเองบ้าง รับส่วนที่จะช่วยเหลือชีวิตตัวเองให้น้อยลงแต่ยังคงดำรงชีพอยู่ได้ และเมื่อพลังของการเสียสละ

พลังของปัจจัยการดำรงชีพมารวมกันมันก็จะได้สิ่งที่แข็งแรงขึ้น ยืนหยัดต่อได้อีก และที่กล่าวมาก็คือ การรักษาสถานภาพของทีม ศักยภาพในการผลิตของโรงงาน ความมั่นคงในการดำรงชีพของชุมชน

หลายคนอาจมองว่าการทำงานที่ต้องใช้คนมากมาร่วมมือกันน่าจะเกิดความยุ่งยากในการทำงาน และลำบากใจในการทำงานร่วมกับคนอื่น ทว่างานใดก็ตามยิ่งมีกำลังคนมากยิ่งมีศักยภาพมาก เพียงแต่ต้องบริหารจัดการให้ดีและควบคุมได้ทั่วถึง การทำงานเป็นทีมจึงต้องยึดหลักทำงานร่วมกัน ให้เกียรติกัน และยอมรับในความคิดเห็นต่าง ๆ ในส่วนของกำลังงานก็ต้องทุ่มเทให้กับการทำงาน

ใช้ทักษะการทำงานอย่างเต็มกำลัง และเมื่อทุกส่วนทำงานสอดคล้องกัน ความสำเร็จร่วมกันจึงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นง่าย และงานจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แม้มันอาจจะมีปัญหาบ้างแต่เพียงเราให้ความเข้าใจถึงธรรมชาติของคนหลาย ๆ คนที่มาทำงานร่วมกัน เราก็จะคลายความกังวลและเลือกที่จะใช้การประชุมปรึกษากันแทนการทะเลาะถกเถียงกัน ทั้งที่ทุกคนก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน


คู่แข่งก็คือเพื่อนร่วมสายอาชีพเดียวกัน

ถ้าสมาชิกของทีมมีแผนการเดียวกัน แบ่งหน้าที่กันอย่างถูกต้องตามแผน แน่นอนว่า เรามีโอกาสก้าวสู่ความสำเร็จสูง ดังนั้นเมื่อเกิดสถานการณ์วิกฤติจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องขยายเครือข่ายความร่วมมือมากยิ่งขึ้น อย่างเช่น เดิมทีเรามีฝ่ายรักษาความปลอดภัยทุกประตูเข้าออกโรงงานจุดละ 1 คน เมื่อเหตุการณ์ไม่ปรกติอาจมีการก่อความไม่สงบ หรืออาจมีการจารกรรมสินค้า

เราก็ต้องเพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกเป็นจุดละ 4-5 คน แต่ถ้าจำนวนคนไม่พอ ก็อาจมีการขอเจ้าหน้าที่ตำรวจชุมชนมาเพิ่ม กำลังการผลิตของโรงงานหนึ่งไม่เพียงพอต่อการผลิตตามออร์เดอร์เร่งด่วนหรือเกิดปัญหากับเครื่องจักร ก็ต้องขอความช่วยเหลือจากโรงงานในสายการผลิตเดียวกัน เป็นการทำงานร่วมกันแม้จะเป็นคู่แข่งขันกัน ไม่ใช่เพียงแต่การผลิตสายอุตสาหกรรมหนักเท่านั้น

ในส่วนของอุตสาหกรรมงานบันเทิงก็เช่นกัน บ่อยครั้งที่บ้านเมืองเราประสบภัยหนัก ๆ ค่ายดนตรีต่าง ๆ มักจับมือกันออกอัลบั้มหรือคอนเสิร์ตแบบรวมค่ายเพื่อหารายได้มาช่วยเหลือคนที่ได้รับความเดือดร้อน

เป็นเรื่องปกติไปแล้วในยุคปัจจุบันที่การแข่งขันเป็นไปแบบแฟร์ ๆ หรือแข่งกันด้วยการผลิต การตลาด การประชาสัมพันธ์ คุณภาพการผลิต และอีกอย่างที่ไม่ควรลืมเลยคือ ภาพพจน์ขององค์กร ความรับผิดชอบต่อสังคม การผลิตที่คำนึงถึงผู้บริโภค คือสิ่งที่ผู้ผลิตต้องเน้น และไม่ปล่อยโอกาสเมื่อสามารถที่จะช่วยเหลือสังคมยามเมื่อสังคมเดือดร้อน การร่วมมือร่วมใจเสียสละจะเป็นสิ่งที่ส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ขององค์กรมากยิ่งกว่าการระดมทุนโฆษณา เราจะเห็นเรื่องนี้ชัดเจนจากการเข้าช่วยเหลือด้านน้ำดื่มของผู้ผลิตน้ำดื่มหลากหลายยี่ห้อ ที่นำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในท้องที่ต่าง ๆ อย่างเต็มที่ และท่านที่ได้รับน้ำดื่มยี่ห้อนั้น ๆ คงจะไม่ลืมรสชาติของน้ำที่ท่านได้รับเพราะมันเป็นน้ำสะอาดที่หยิบยื่นให้ด้วยใจ


ทีมงานที่แข็งแกร่ง เร่งงานให้ทันเวลา

   หากคุณมีทีมงานที่เก่งและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ คู่แข่งขันก็อาจจะมีทีมงานที่เก่งกว่า การทำงานที่หนักขึ้นและถือเป็นปัญหาร่วมกัน การระดมบุคลากรคุณภาพจึงเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน ปัญหาหลายอย่างเป็นเรื่องซับซ้อน และใหญ่มากเกินกว่าทีมงานหนึ่งจะรับแก้ไขปัญหาได้หมด ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องนำผู้ชำนาญการมาช่วยเหลือ และพร้อมกันกับการเข้าร่วมมือกันของทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทุกคนได้มองเห็นปัญหา เรียนรู้การแก้ไขปัญหาในมุมกว้าง ควบคู่ไปกับการศึกษาปัญหาที่เราไม่เคยเจอ เพื่อที่ว่าวันหนึ่งเราจะได้นำความรู้นี้ไปต่อยอดแก้ไขปัญหาที่คล้าย ๆ กันต่อไป

   ดังนั้นการรวมทีมบุคลากรเพื่อแก้ไขปัญหาจึงเป็นเรื่องที่ช่วยพัฒนาทีมงานและช่วยให้การแก้ไขปัญหาสำเร็จลุล่วงเร็วขึ้น หรือทันเวลาลดความเสียหายได้ดี ในการทำงานลักษณะของโรงงานจึงมักมีการส่งทีมงานจากบริษัทแม่มาช่วยเหลือบริษัทลูก หรือบริษัทในเครือกันเสมอ เป็นเรื่องปกติ และเมื่อเกิดกรณีปัญหาพิบัติภัยน้ำท่วม การเข้าช่วยเหลือกันไม่ว่าจะเรื่องการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมโดยตรง หรือการวางแผนการผลิต การฟื้นฟูโรงงาน ต่าง ๆ เหล่านี้คือ โจทย์ที่ง่ายขึ้น และมีแนวโน้มในการวิเคราะห์ปัญหาได้ง่ายว่ามันจะมีทิศทางในการแก้ไขทางใด

   การรวมคนที่มีประสิทธิภาพให้เป็นทีมงานที่พร้อมลุยกับงานใหญ่จึงเป็นเรื่องที่ทุกองค์กรมุ่งที่จะสร้างและพร้อมลงทุนในการรวมบุคลากรเหล่านี้ บางองค์กรเน้นที่บริษัทแม่ เพื่อที่ว่าจะสามารถส่งทีมงานไปแก้ไขปัญหาได้ในเวลาที่เกิดปัญหา และพร้อมเป็นทีมฝึกอบรมให้กับทีมงานที่ต้องการพัฒนาศักยภาพขึ้นไปอีก เมื่องานเสร็จเร็ว ต้นทุนการผลิตก็น้อยลง รับงานใหม่ได้เร็วขึ้น ผลกำไรที่มากขึ้นก็ตามมา

   ทีมงานที่แข็งแกร่งเฉพาะกิจจึงช่วยแก้ไขปัญหาได้เช่นเดียวกัน อย่างเช่นกรณีพิบัติภัยน้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทีมงานที่กล่าวมานี้จะช่วยเหลือได้ทั้งการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และการเข้าสู่สายการผลิตเพื่อแก้ไข และฟื้นฟูสภาพโรงงาน เชื่อเหลือเกินว่าด้วยคุณภาพของทีมงานและกำลังใจที่ยังคงเปี่ยมล้นจะช่วยให้พนักงานทุกท่าน องค์กรทุกองค์กร สามารถที่จะผ่านพ้นปัญหานี้ได้ และสำหรับปีใหม่นี้เราคงยิ้มให้กันพร้อมกันกับความรู้สึกดี ๆ ที่เราประทับใจกับคำว่า “น้ำใจไม่เคยแห้งหายไปจากใจคนไทย” จากความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในยามยาก

   ขอเป็นอีกกำลังใจให้กับทุกคนทั้งที่ผ่านปัญหาวิกฤติน้ำท่วมไปได้แล้ว และท่านที่ยังคงต้องฟื้นฟูบ้านเรือน โรงงาน และกิจการต่าง ๆ..... มันจะผ่านไปได้ด้วยดี ขอเพียงแต่มีแรงใจ แรงกาย สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วบอกตัวเอง สู้ ๆ นะครับ