เนื้อหาวันที่ : 2012-05-21 10:30:35 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 4375 views

เครื่องต้นแบบการเพาะเลี้ยงไส้เดือนดิน

จากปัญหาที่ได้กล่าวมาในบันทึกตอนที่แล้ว ทำให้เกิดเป็นแนวทางในการสร้างเครื่องต้นแบบการเพาะเลี้ยงไส้เดือนดินโดยใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ควบคุมความชื้นสัมพัทธ์,

เครื่องต้นแบบการเพาะเลี้ยงไส้เดือนดิน
จากปัญหาที่ได้กล่าวมาในบันทึกตอนที่แล้ว ทำให้เกิดเป็นแนวทางในการสร้างเครื่องต้นแบบการเพาะเลี้ยงไส้เดือนดินโดยใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ควบคุมความชื้นสัมพัทธ์, อุณหภูมิสัมพัทธ์, ความเป็นกรดและด่างของดินแบบอัตโนมัติ โดยงานนี้เป็นผลงานของนักศึกษาสาขาเทคโนโลยีมีเดียมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

โดยมีท่านอาจารย์ปัญญา มัฆะศร เป็นที่ปรึกษา รูปแบบของการเลี้ยงเป็นวิธีการเลี้ยงแบบระบบควบคุมอัตโนมัติ มีข้อดีที่โดดเด่น คือ ไม่จำเป็นต้องใช้แรงงานคนจำนวนมากในการดูแล ทำให้มีเวลาในการคิดและพัฒนางานด้านอื่นๆ ต่อไป แต่ข้อเสียของวิธีการนี้ คือ การลงทุนในการเลี้ยงที่จะต้องใช้ต้นทุนค่อนข้างสูง

การออกแบบระบบควบคุมอุณหภูมิ
หลักการออกแบบระบบระบายความร้อนในอากาศ อาศัยการสร้างชุดพ่นละอองน้ำที่ละเอียดพ่นออกจากหัวฉีด ซึ่งจะเกิดการดึงเอาความร้อนจากอากาศรอบๆ ตัวมาช่วยในการระเหยความร้อนแฝงที่ใช้ในการระเหยตัวของน้ำ ผลทำให้อุณหภูมิลดลงและความชื้นของอากาศจะเพิ่มสูงขึ้น โดยหลักการดังกล่าว เรียกว่า การระเหย (Evaporative Air Cooling)

เมื่อการฉีดพ่นของละอองน้ำฝอยไปเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องอุณหภูมิของอากาศจะลดลงมาที่เรียกว่า อุณหภูมิจุดน้ำค้าง (Dew Point Temperature) คือ จะเกิดปริมาณความชื้นสูงสุดในอากาศ หรือเรียกอีกอย่างได้ว่า เกิดการควบแน่นของอุณหภูมิ ละอองน้ำจะเริ่มกลั่นตัวกลายเป็นหยดน้ำ ซึ่ง ณ จุดนี้ อุณหภูมิจะไม่สามารถลดลงได้อีก แม้จะเพิ่มการฉีดละอองน้ำฝอยเพิ่มมากขึ้นอีก

วงจรอิเล็กทรอนิกส์สำหรับควบคุม
การควบคุมในส่วนของอิเล็กทรอนิกส์ใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์ในการประมวลผลการทำงานทั้งหมด  และใช้ตัวตรวจจับอุณหภูมิและความชื้นในตระกูล SHT1x เป็นเซนเซอร์ตรวจจับและวัดความชื้นภายในภาชนะเลี้ยง เพื่อควบคุมการทำงานของหัวฉีดละอองน้ำ    

ทดลองเลี้ยงไส้เดือนดินในถังเลี้ยงต้นแบบ
ผู้วิจัยได้นำไส้เดือนดินสายพันธุ์แอฟริกัน ซึ่งเป็นไส้เดือนที่หาง่ายและทนต่อสภาพแวดล้อมของประเทศไทยเช่นเดียวกับไส้เดือนสายพันธุ์ไทย มาใส่ในถังเครื่องต้นแบบที่มีดินผสมมูลวัวนมในอัตราเท่ากับ 8:2 ส่วน ที่หมักก่อนหน้านี้เป็น เวลา 7-14 วัน ควบคุมความชื้นไว้ที่ 20% จากนั้นนำกาบมะพร้าวมาวางไว้ด้านบนของดินแล้วนำเศษผักวางทับบนกาบมะพร้าวอีกครั้ง

ทั้งนี้เนื่องจากการนำเศษผักที่เป็นอาหารของไส้เดือน เมื่อเกิดการเน่าสลายของจุลินทรีย์จะเกิดการปิดกั้นการระบายอากาศในดินและเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ การให้ขยะหรือเศษอาหารไส้เดือนจะอยู่ที่ปริมาณไส้เดือนต่อเศษอาหารในอัตราส่วนเท่ากับ 1:2 กิโลกรัม การใส่เศษอาหารของไส้เดือน ไม่ควรนำเศษอาหารที่เผ็ดและมีรสเปรี้ยวจัด ควรนำมาหมักเสียก่อน

 เพื่อลดความเป็นกรดให้น้อยลงแล้วจึงนำไปใช้เลี้ยงไส้เดือน เพราะเศษอาหารที่มีสภาพความเป็นกรดสูงจะส่งผลกระทบต่อผิวหนังของไส้เดือนและเศษอาหารไม่ควรใส่มากเกินไป เพราะจะทำให้เกิดความร้อนสูงและเป็นอันตรายต่อไส้เดือน

ผลการทดลองและวิจารณ์
ผลลัพธ์ที่ได้จากการทดลองเลี้ยงไส้เดือนในเครื่องต้นแบบการเพาะเลี้ยงไส้เดือนดิน ทำให้ทีมวิจัยได้ผลลัพธ์ คือ ปุ๋ยหมักมูลไส้เดือนดินที่เกิดจากไส้เดือนกินซากอินทรียวัตถุผ่านกระบวนการย่อยสลายแล้วเกิดการขับถ่ายออกมา ส่วนน้ำหมักไส้เดือนดินที่มีสีน้ำตาลดำอ่อนๆ เกิดจากน้ำที่ได้จากการเน่าสลายของเศษขยะอินทรีย์ที่ใช้เป็นอาหารไส้เดือนดิน การประเมินประชากรไส้เดือนใช้การคัดแยกไส้เดือนออกจากดินด้วยวิธีการนับตัวไส้เดือนด้วยมือ ซึ่งจำนวนไส้เดือนทั้งหมดนั้น มีปริมาณเท่าเดิม โดยที่ไส้เดือนที่เลี้ยงไม่มีการเคลื่อนย้ายออกจากถังเลี้ยงเลย

จึงสรุปได้ว่า เครื่องต้นแบบการเพาะเลี้ยงไส้เดือนดิน โดยใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ สามารถควบคุมอุณหภูมิสัมพัทธ์ได้อย่างอัตโนมัติ เครื่องต้นแบบที่สร้างขึ้นสามารถที่จะนำไปใช้ในในครัวเรือนของเกษตรกรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนมูลของไส้เดือนดินและน้ำปุ๋ยหมักที่ได้จากการเลี้ยงไส้เดือนสามารถนำไปรดต้นไม้เจริญงอกงามและปลอดภัยสำหรับการนำพืชที่เพาะปลูกไปบริโภคแทนการใช้สารเคมี ส่วนการคัดแยกมูลปุ๋ยหมักไส้เดือนที่อยู่บริเวณผิวดิน รวมไปถึงประโยชน์ของปุ๋ยหมักมูลไส้เดือนและน้ำปุ๋ยหมักสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่เอกสารอ้างอิง


สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 www.thailandindustry.com
Copyright (C) 2009 www.thailandindustry.com All rights reserved.

ขอสงวนสิทธิ์ ข้อมูล เนื้อหา บทความ และรูปภาพ (ในส่วนที่ทำขึ้นเอง) ทั้งหมดที่ปรากฎอยู่ในเว็บไซต์ www.thailandindustry.com ห้ามมิให้บุคคลใด คัดลอก หรือ ทำสำเนา หรือ ดัดแปลง ข้อความหรือบทความใดๆ ของเว็บไซต์ หากผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความนี้ไปใช้ ดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด