เนื้อหาวันที่ : 2011-06-17 10:04:57 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 3385 views

เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ใช้อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

ปัจจุบันในแวดวงอุตสาหกรรมระบบอินเตอร์เน็ตและเอกสารอิเล็กทรอนิกส์มีบทบาทเป็นกลไกในการสนับสนุนการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมาก นักอุตสาหกรรมควรพิจารณาใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ให้มีประสิทธิภาพที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับเอกสารแบบกระดาษที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน

ศิริวัฒน์ โทศิริกุล และ ยุทธพงศ์ ทัพผดุง
วิทยาลัยนครราชสีมา

           ปัจจุบันอินเตอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของทุกท่าน และคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในแวดวงอุตสาหกรรมระบบอินเตอร์เน็ตและเอกสารอิเล็กทรอนิกส์เป็นกลไกในการสนับสนุนการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการติดต่อสื่อสารภายในองค์กรหรือติดต่อกับหน่วยงานภายนอก อาทิเช่น คู่ค้าทางธุรกิจ, หน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ บทความนี้จะเป็นการนำเสนอเหตุผลที่นักอุตสาหกรรมควรพิจารณาใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ให้มีประสิทธิภาพที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับเอกสารแบบกระดาษที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้

ข้อได้เปรียบทางกายภาพของเอกสารอิเล็กทรอนิกส์
          * ข้อมูลและสารสนเทศต่าง ๆ สามารถเข้าถึงได้ทุก ๆ แห่งตราบเท่าที่เรามีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือคอมพิวเตอร์ใช้งานหรือมีการต่อเชื่อมกับระบบอินเตอร์เน็ต

          * ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่สำหรับการเปิดเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ แต่ในทางกลับกันเอกสารแบบกระดาษจำเป็นจะต้องใช้พื้นที่สำหรับการอ่านเอกสาร ทำให้เกิดความไม่สะดวกต่อการใช้งานเมื่อผู้ใช้จำเป็นจะต้องมีการเดินทางติดต่อธุรกิจอยู่ตลอดเวลา

          * ข้อมูลและสารสนเทศของเอกสารอิเล็กทรอนิกส์สามารถปรับปรุงให้ทันสมัยได้อย่างรวดเร็วและมีค่าใช้จ่ายต่ำ ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าเอกสารอิเล็กทรอนิกส์เป็นฉบับที่ได้รับการปรับปรุงล่าสุด

ข้อได้เปรียบระบบการนำทางเพื่อการใช้งานของเอกสารอิเล็กทรอนิกส์
          * โปรแกรมสำหรับใช้กับเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่สามารถกำหนดและสืบค้นข้อมูลในเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างรวดเร็ว เช่นมีการนำเสนอให้ค้นหาจาก ดัชนีท้ายบท, หัวข้อ, รายการรูปภาพประกอบ, อภิธานศัพท์และช่องค้นหาแบบทางลัด

          * ระบบการค้นหาของเอกสารอิเล็กทรอนิกส์มีความรวดเร็วกว่าเอกสารแบบกระดาษเป็นอย่างมาก

          * ถ่อยคำหรือประโยคต่าง ๆ ในเอกสารอิเล็กทรอนิกส์สามารถเชื่อมโยงเพื่อแนะนำผู้อ่านให้พบรายละเอียดจากแหล่งข้อมูลภายนอกได้เพื่อให้เกิดความเข้าใจมากยิ่งขึ้นเช่น พจนานุกรม, สารานุกรม, ระบบแปลภาษาและเว็บไซต์อื่น ๆ ที่มีแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจเนื้อหาได้มากยิ่งขึ้น

ข้อได้เปรียบระบบปฏิสัมพันธ์ของเอกสารอิเล็กทรอนิกส์
          * โปรแกรมสำหรับใช้กับเอกสารอิเล็กทรอนิกส์จะ Bookmark, การเขียนคำอธิบายประกอบ (Annotation) หรือทำป้าย (Tag) ดังรูปที่ 1 ได้เพื่อง่ายต่อการอ่าน และสามารถส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ไปยังผู้อื่นได้ทันที

รูปที่ 1 โปรแกรม Adobe Reader? ซึ่งเป็นที่นิยมใช้สำหรับอ่านเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ในปัจจุบัน

          * ผู้ผลิตเอกสารอิเล็กทรอนิกส์สามารถใช้กราฟิก, เสียง, สีและแอนนิเมชั่น ที่สามารถช่วยอธิบายให้ผู้อ่านเข้าใจในส่วนที่มีความซับซ้อนได้รวดเร็วและง่ายขึ้นและทำให้ผู้อ่านมีประสบการณ์และค้นหาข้อมูลได้ง่ายขึ้น ดังรูปที่ 2

รูปที่ 2 โปรแกรม SpotfireTM ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานเอกสารอิเล็กทรอนิกส์มีความเข้าใจในเนื้อหาในรายละเอียดมากขึ้น

          * ผู้อ่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมจากกลุ่มข่าว, สังคมออนไลน์, จดหมายอิเล็กทรอนิกส์, การสนทนาต่าง ๆ จากผู้ใช้งานท่านอื่น ๆ ที่มีความรู้และประสบการณ์ในด้านนั้น ๆ ดังรูปที่ 3

รูปที่ 3 การใช้ Google Groups (http://groups.google.com) สำหรับค้นหาหรือแลกเปลี่ยนความรู้ในอินเตอร์เน็ต

ข้อได้เปรียบเชิงเศรษฐศาสตร์
          * เอกสารอิเล็กทรอนิกส์จะมีต้นทุนที่ต่ำกว่าและสามารถทำสำเนาและเผยแพร่ได้รวดเร็วกว่าเอกสารแบบกระดาษ

ข้อจำกัดบางประการเมื่อใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์
          ถึงอย่างไรก็ตามข้อดีของเอกสารอิเล็กทรอนิกส์นั้นก็จะถูกบดบังในด้านลบจากผลข้างเคียงขณะอ่านเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ได้ซึ่งจะประกอบด้วย

          * จอแสดงผลอาจจะไม่เหมาะสมสำหรับการอ่านได้อย่างต่อเนื่องซึ่งจะมีผลต่อสุขภาพของสายตาเมื่อเปรียบเทียบกับเอกสารแบบกระดาษ

          * การแสดงผลแต่ละครั้งอาจจะให้ข้อมูลไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับเอกสารแบบกระดาษ และความละเอียดของจอแสดงผลจะน้อยกว่าเอกสารแบบกระดาษซึ่งจะมีความสำคัญอย่างมากเมื่อเราต้องการดูรายละเอียดของรูปภาพทั่วไปหรือภาพกราฟิก

          * โปรแกรมที่ติดต่อแสดงผลเอกสารอิเล็กทรอนิกส์อาจะมีระบบช่วยเหลือแบบใหม่และพิเศษซึ่งอาจจะทำให้ผู้อ่านเกิดความสับสนและไม่สะดวกต่อการใช้งานเมื่อเปรียบเทียบกับคู่มือหรือเอกสารที่เป็นแบบกระดาษ

          * ความรู้สึกที่จะต้องมีระบบนำทางและการใช้ Scroll Bar เพื่ออ่านข้อมูลหรือค้นหาสิ่งต่าง ๆ หลายครั้งอาจจะทำให้เป็นเรื่องไม่สะดวก

          * การแบ่งจอแสดงผลเป็นระบบช่วยเหลือและระบบสอนการใช้งานอาจจะทำให้พื้นที่การแสดงผลของเนื้อหาลดลง และถ้าผู้ใช้งานจำเป็นจะต้องสลับไปยังระบบช่วยเหลือหรือระบบช่วยสอนก็อาจจะทำให้เป็นภาระกับระบบความจำของผู้อ่านได้และอาจทำให้ผู้อ่านข้ามสาระสำคัญในเอกสารขณะอ่านเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ได้ (วิธีแก้ปัญหาดังกล่าวอาจจะต้องใช้จอขนาดใหญ่ขึ้นและมีความละเอียดสูง) ดังรูปที่ 4-5

รูปที่ 4 Multiple-Desktop Display (http://9xmedia.com/) ช่วยให้การอ่านเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ได้สะดวกขึ้น

รูปที่ 5 The Amazon Kindle? (http://www.amazon.com/) สำหรับหนังสือและเอกสารอิเล็กทรอนิกส์เริ่มมีการใช้งานในปัจจุบัน

          * อุปกรณ์ขนาดเล็กเช่นโทรศัพท์เคลื่อนที่อาจจะมีพื้นที่สำหรับแสดงผลไม่เพียงพอ ถ้าเมื่อต้องการใช้ระบบความช่วยเหลือ สำหรับวิธีแก้ปัญหาดังกล่าวอาจจะต้องแยกระบบความช่วยเหลือหรือระบบช่วยสอนเป็น Web-Based เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน

สรุป
          ปัจจุบันแนวโน้มการใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมเป็นอย่างมาก เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของต้านทุนในการจัดพิมพ์, ระบบขนส่ง, การทำการตลาดและวางจำหน่าย แต่อย่างไรก็ตามด้านการตลาดเกี่ยวกับการฝึกอบรมและการทดสอบต่าง ๆ ก็ยังนิยมใช้เอกสารแบบกระดาษซึ่งยังเป็นวัสดุที่ใช้ประกอบการเป็นการสอนได้ดีกว่าเอกสารอิเล็กทรอนิกส์รวมถึง CD/DVD สำหรับช่วยสอนที่เป็นแบบปฏิสัมพันธ์ ในด้านผลสัมฤทธิ์ทางการการฝึกอบรบและดารทดสอบ ดังนั้นผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นการนำเสนอแนวทางและการพิจารณาในการเลือกใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ให้เหมาะสมและเกิดประโยชน์ต่อองค์กรของท่านมากที่สุด สวัสดีครับ

เรียบเรียงและอ้างอิงจาก
          * Ben Shneiderman and Catherine Plaisant, “Designing the User Interface: Strategies for Effective Human-Computer Interaction”, Fifth Edition, 2010.
          * http://groups.google.com/
          * http://spotfire.tibco.com/
          * http://9xmedia.com/
          * http://www.amazon.com/

 

สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 www.thailandindustry.com
Copyright (C) 2009 www.thailandindustry.com All rights reserved.

ขอสงวนสิทธิ์ ข้อมูล เนื้อหา บทความ และรูปภาพ (ในส่วนที่ทำขึ้นเอง) ทั้งหมดที่ปรากฎอยู่ในเว็บไซต์ www.thailandindustry.com ห้ามมิให้บุคคลใด คัดลอก หรือ ทำสำเนา หรือ ดัดแปลง ข้อความหรือบทความใดๆ ของเว็บไซต์ หากผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความนี้ไปใช้ ดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด