ปัจจุบันเทคโนโลยีอินฟราเรดที่ได้นำมาประยุกต์ใช้หลากหลายวิชาชีพ ซึ่งกล้องถ่ายความร้อนหรือบางครั้งก็เรียกว่ากล้องอินฟราเรดไปโดยปริยาย ซึ่งมีการพัฒนาและมีการเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านเทคโนโลยี ทั้งในด้านประสิทธิภาพและการใช้งาน
ยุทธพงศ์ ทัพผดุง และเทพรัตน์ เอื้อธรรมถาวร
วิทยาลัยนครราชสีมา
ปัจจุบันเทคโนโลยีอินฟราเรดที่ได้นำมาประยุกต์ใช้หลากหลายวิชาชีพ ซึ่งกล้องถ่ายความร้อนหรือบางครั้งก็เรียกว่ากล้องอินฟราเรดไปโดยปริยาย ซึ่งมีการพัฒนาและมีการเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านเทคโนโลยี ทั้งในด้านประสิทธิภาพและการใช้งาน
นอกจากนั้นด้านราคาของกล้องถ่ายภาพความร้อนมีแนวโน้มลดลงเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับราคาในอดีต ซึ่งสาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็มีหลายปัจจัยด้วยกัน อาทิเช่น จำนวนผู้ผลิตมีเพิ่มขึ้นทำให้เกิดการแข่งขันทางด้านการตลาดมากขึ้นที่สมบูรณ์มากขึ้น, ค่าใช้จ่ายด้านพัฒนาและวิจัยด้านเทคโนโลยีอินฟราเรดเริ่มอิ่มตัว และผู้ผลิตหลายแห่งได้ผลิตกล้องถ่ายภาพความร้อนให้มีความหลากหลายและเหมาะสมกับการใช้งานในแต่ล่ะประเภทหรือเฉพาะทางมากขึ้น
เช่น กล้องถ่ายภาพความร้อนสำหรับงานด้านการตรวจสอบในงานด้านวิศวกรรมแต่และแขนง, กล้องถ่ายภาพความร้อนเพื่อตรวจจับก๊าซ SF6 ที่รั่วจากอุปกรณ์ป้องกันในระบบไฟฟ้า, กล้องถ่ายภาพความร้อนสำหรับช่วยเหลือชีวิตคนเมื่อเกิดอัคคีภัยในสถานที่ต่าง ๆ และกล้องถ่ายภาพความร้อนสำหรับงานด้านการแพทย์
จากที่กล่าวข้างต้นจะเห็นได้กล้องถ่ายภาพความร้อนนั้นมีความหลากหลายในการประยุกต์ใช้งานเป็นอย่างมาก ดังนั้นผู้ผลิตพยายามจะพัฒนากล้องถ่ายภาพความร้อนแต่ละรุ่นให้เหมาะสมกับการใช้งานในด้านนั้น ๆ ซึ่งอาจจะเพิ่มหรือปรับลดฟังก์ชันที่ไม่จำเป็นออกเพื่อให้ราคากล้องถ่ายภาพความร้อนสามารถแข่งขันกับคู่แข่งรายอื่นในท้องตลาดได้
จากเหตุผลข้างต้นผู้ที่ต้องการใช้กล้องถ่ายภาพความร้อนจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทราบความต้องการพื้นฐานการใช้งานของหน่วยงานตนเองว่าต้องการซื้อกล้องถ่ายภาพความร้อนไปประยุกต์ใช้งานด้านใด
นอกจากนั้นยังจำเป็นต้องทราบและมีความรู้ที่เพียงพอในการพิจารณาคุณสมบัติกล้องถ่ายภาพความร้อนเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานกับหน่วยงานของตนมากที่สุด แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นกับงบประมาณที่มีอยู่ด้วย ซึ่งบทความนี้จะเป็นการนำเสนอแนวทางการพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ที่แสดงคุณสมบัติของกล้องถ่ายภาพความร้อนที่จำเป็นเพื่อให้ผู้ที่ต้องการเลือกใช้กล้องถ่ายภาพความสามารถเลือกกล้องถ่ายภาพความร้อนที่มีความเหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด
การพิจารณาคุณสมบัติทางกายภาพของกล้องถ่ายภาพความร้อน
ในการเลือกซื้อกล้องถ่ายภาพความร้อนนั้น เบื้องต้นคงปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้ซื้อคงต้องพบรูปร่างทางกายภาพของกล้องถ่ายภาพความร้อนก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งก็เป็นส่วนสำคัญไม่ใช่น้อยเนื่องจากการออกแบบกล้องถ่ายภาพความร้อนแต่ละผลิตภัณฑ์ก็มีรูปร่างลักษณะของกล้องถ่ายภาพความร้อนที่แตกต่างกันไปและสิ่งที่ผู้ซื้อต้องพิจารณาในจุดนี้ก็คือกล้องถ่ายภาพความร้อนแต่ละผลิตภัณฑ์ ง่ายและสะดวกต่อการใช้งานหรือไม่
ดังตัวอย่างกล้องถ่ายภาพความร้อนรูปที่ 1, 2 และ 3 ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าแนวคิดการออกแบบที่ต่างกันก็จะมีผลต่อการใช้งานจริงได้ เช่นเกิดการเมื่อยล้ากล้ามเนื้อแขนเนื่องจากน้ำหนักของกล้องและอุปกรณ์ประกอบต่าง ๆ เมื่อนำไปใช้งานเป็นเวลานาน, ความเมื่อยล้าสายตาเพื่อเพ่งมองภาพถ่ายในบริเวณที่มีแสงสว่างมาก รวมถึงวัสดุที่นำมาทำโครงตัวกล้องถ่ายภาพความร้อนและอื่น ๆ
รูปที่ 1 กล้องถ่ายภาพความร้อนแบบ Portable ที่มี View Finder ซึ่งมีลักษณะคล้ายกล้องวีดีโอในอดีต
รูปที่ 2 กล้องถ่ายภาพความร้อนแบบ Portable ที่มีลักษณะคล้ายกล้องวีดีโอในปัจจุบัน
รูปที่ 3 กล้องถ่ายภาพความร้อนแบบ Handheld ที่มีลักษณะคล้ายกระบอกไฟฉายที่ง่ายต่อการพกพา
สำหรับปัจจัยหรือคุณสมบัติทางกายภาพที่สำคัญที่ควรพิจารณาเบื้องต้นที่ดังนี้
ข้อมูลด้านกายภาพ
* Camera Weight, excl. lens and battery เช่น 1.13 kg (2.49 lb.)
* Camera Weight, incl. lens and battery เช่น 2.18 kg (4.81 lb.) (12o lens), 1.8 kg (4.0 lb.) (24o lens)
* Battery Weight เช่น 0.24 kg (0.52 lb.)
* Camera Size, excl. or incl. lens (L x W x H)
* Battery Size (L x W x H)
* Battery Charger Size (L x W x H)
* Housing Material
การพิจารณาคุณสมบัติทางเทคนิคของกล้องถ่ายภาพความร้อน
เนื่องจากกล้องถ่ายภาพความร้อนเป็นเครื่องมือวัดที่มีการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและไม่มีข้อมูลหรือคำอธิบายคุณสมบัติทางเทคนิคและยังไม่มีการใช้อย่างแพร่หลาย ดังนั้นเมื่อผู้ใช้งานจะพิจารณาเลือกซื้อกล้องถ่ายภาพความร้อนมาเพื่อใช้งานก็จะเกิดความสับสนและไม่ทราบว่าจะพิจารณาคุณสมบัติทางเทคนิคอย่างไรเพื่อให้ได้กล้องถ่ายภาพความร้อนที่เหมาะสมกับการใช้งานและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป ซึ่งปัจจัยหรือคุณสมบัติทางเทคนิคที่สำคัญที่ควรพิจารณาเบื้องต้นควรมีดังนี้
ข้อมูลด้านภาพและเลนส์
* Field of View (FOV)* เช่น 12o x 9o (12o lens), 24o x 18o (24o lens)
* Minimum Focus Distance เช่น 1.2 m (3.9 ft.) (12o lens), 0.3 m (1.0 ft.) (24o lens)
* Focal Length* เช่น 76 mm (3.0 in.) (12o lens), 38 m (1.5 in.) (24o lens)
* Spatial Resolution (IFOV)* เช่น 0.33 mrad (12o lens), 0.65 mrad (24o lens)
* Thermal Sensitivity / NETD เช่น 55 mK@ +30oC (+86oF)
* Image Frequency เช่น 8,30, 50 Hz
* Focus เช่น Automatic หรือ Manual (Electric or on the lens)
* Digital Zoom เช่น 1-2x, 1-8x continuous หรือ 1x,2x,4x steps zoom
* Interchangeable lens or not
*ข้อสังเกต: ค่า Field of View (FOV), Focal Length และ Spatial Resolution (IFOV) นั้นจะมีความสัมพันธ์กันโดยตรงซึ่งมาสามารถคำนวณเพื่อตรวจสอบความถูกต้องได้ตามสมการดังต่อไปนี้
เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้นสามารถแสดงพารามิเตอร์สำหรับใช้คำนวณดังรูปที่ 4 และเนื่องจาก FOV และ IFOV นั้นมีความสัมพันธ์กันโดยตรงดังนั้นจึงสามารถคำนวณ IFOV ดังตัวอย่างต่อไปนี้
ตัวอย่าง การคำนวณ IFOV จากตัวอย่าง Spec. รูปที่ 5 กล้องอินฟราเรด IR Resolution 640x480 เมื่อต้องการใช้เลนส์ FOVขนาด 70 x 5.30
HIFOV (horizontal) = FOV/640 = 0.01090 หรือ 0.19 mrad (0.01090 x)
VIFOV (vertical) = FOV/480 = 0.011040 หรือ 0.19 mrad (0.011040 x)
ตัวอย่าง การคำนวณ IFOV จาก Spec. รูปที่ 5 กล้องอินฟราเรด IR Resolution 640x480 เมื่อต้องการใช้เลนส์ FOVขนาด 240 x 180
HIFOV (horizontal) = FOV/640 = 0.03750 หรือ 0.65 mrad (0.03750 x)
VIFOV (vertical) = FOV/480 = 0.03750 หรือ 0.65 mrad (0.03750 x)
รูปที่ 4 พารามิเตอร์ที่ใช้สำหรับการคำนวณ FOV และ IFOV
รูปที่ 5 ตัวอย่าง Spec. เพื่อใช้คำนวณ
ข้อมูล Detector
* Detector Type เช่น Scaning Detector หรือ Focal Plane Array (FPA), Uncooled Microbolometer
* Spectral Range เช่น 3-5 m(SW) หรือ 7.5-13 m (LW)
* IR Resolution เช่น 640x480 หรือ 320 x 480 pixels
ข้อมูลส่วนแสดงภาพ
* Display เช่น Build-in widescreen, 5.6 in. color LCD, 1024 x 600 pixels
* Viewfinder เช่น Built-in, Tiltable Color LCD, 800 x 600 pixels
* Automatic Image Adjustment เช่น Continuous/Manual
* Manual Image Adjustment เช่น Level/Span/Maximum/Minimum
* Infrared Image เช่น Full IR Image with Selected Color Scale
* Visual Image เช่น Full Color Visual Image
* Thermal Fusion เช่น Merging of Visual and IR Images (Interval, Above, Below)
ข้อมูลการวัด
* Object Temperature Range เช่น -40 to +120oC (-40 to +248oF), 0 to +500oC (+32 to + 932oF)
* Accuracy เช่น ±2oC(±3.6oF) or ±2% of reading
การวิเคราะห์ผลการวัด
* Spotmeter เช่น 3, 4 Spotmeters
* Area เช่น 3, 5 areas (box or circle) with max/min/avg
* Isotherm เช่น 2 isotherms with above/below/interval
* Atmospheric transmission correction เช่น Automatic, based in inputs for distance, atmospheric temperature and relative humidity
* Optic transmission correction เช่น Automatic, based on signals from internal sensors
* Emissivity correction เช่น variable from 0.01 to 1.0 in 0.01 increments
* Reflected apparent temperature correction เช่น Automatic, based on input of reflected temperature
การเก็บบันทึกภาพ
* Image storage type เช่น Removable 1 GB memory card, Built-in RAM memory
* Image storage mode เช่น IR/visual images, Simultaneous storage of IR and visual images
* File formats เช่น Standard JPEG, 14-bit measurement data included
* File formats, visual เช่น Standard JPEG, automatically associated with a corresponding thermal image
* Voice annotation เช่น 60s of digital voice clip stored together with image (wired headset)
โปรแกรมวิเคราะห์และจัดทำรายงาน
* Standard Software, Professional Software and others
การเก็บบันทึกภาพถ่ายวีดีโอ
* IR video recording เช่น Real time recording to build-in RAM, transferable to a memory card
* Standard Software, Professional Software and others
กล้องถ่ายภาพดิจิตอล
* Built-in digital camera เช่น 12? lens package: 3.2 Mpixels, autofocus, built-in video lamp
การต่อเชื่อมข้อมูลสื่อสาร
* FireWire, USB, IrDA, Audio and SD card
ระบบแหล่งจ่ายไฟฟ้า
* Battery Type เช่น Rechargeable Li ion battery
* Battery Voltage เช่น 7.2 V or 6 V
* Battery Capacity เช่น 4.4 Ah
* Battery Operating time เช่น >3 hours at 25oC (+68oF) and typical use
* Charging System เช่น In camera (AC adapter or 12 V from a vehicle)
* Charging Time เช่น 2.5 h to 95% capacity, charging status indicated by LEDs
* External Power Operation เช่น AC adapter 90-260 VAC, 50/60 Hz or 12 V from a vehicle (cable with standard plug, optional)
* Power Management เช่น Automatic shutdown and sleep mode (user selectable)
ข้อมูลสภาพแวดล้อมที่กล้องสามารถใช้งานได้
* Operating Temperature Range เช่น -15oC to +50oC (+5oF to +122oF) *สำคัญ*
* Storage Temperature Range เช่น -40oC to +70oC (-40oF to +158oF)
* Humidity (Operating and Storage) เช่น IEC 68-2-30/24 h 95% Relative Humidity +25oC to +40oC (+77oF to +104oF)
* EMC เช่น EN 61000-6-2-2005 (Immunity), EN 61000-6-3-2007 (Emission)
* Encapsulation เช่น IP 54 (IEC 60529)
* Bump เช่น 25 g (IEC 60529)
* Vibration เช่น 2g (IEC 60068-2-6)
การพิจารณาคุณสมบัติประสบการณ์ของผู้แทนจำหน่าย
ผู้แทนจำหน่ายกล้องถ่ายภาพความร้อนนั้นมีส่วนสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเนื่องจากการที่เราซื้อกล้องถ่ายภาพความร้อนไปแล้ว (ซึ่งมีราคาค่อนข้างสูง) ผู้แทนฯ นั้นมีบริการฝึกอบรมการใช้งานให้หรือไม่, ผู้ขายมีประสบการณ์หรือความรู้ด้านเทคโนโลยีอินฟราเรดและการใช้งานกล้องถ่ายภาพความร้อนเพื่อให้คำปรึกษามากน้อยเพียงใด
ในกรณีเกิดปัญหาด้านการใช้งานหรือวิเคราะห์ภาพถ่ายขึ้น นอกจากนั้นการบริการหลังการขายอื่น ๆ เช่น การส่งสินค้าไปซ่อมหรือจัดหาอะไหล่ต่าง ๆ และการสอบเทียบกล้องถ่ายภาพความร้อนก็มีส่วนสำคัญไม่น้อย ดังนั้นก็ใช้ผู้ซื้อควรตระหนักในประเด็นนี้ด้วย
สรุป
จากบทความข้างต้นผู้อ่านคงทราบแล้วว่าการที่จะเลือกกล้องถ่ายภาพความร้อนมาใช้งานที่เหมาะสมกับงานของผู้อ่านนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ก็ไม่ยากจนเกินไปที่จะศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกหลอกหรือการเลือกซื้อกล้องถ่ายภาพความร้อนโดยไม่ทราบคุณสมบัติที่จำเป็นพื้นฐาน
สุดท้ายนี้ผู้เขียนต้องขอเรียนให้ทราบว่าคุณสมบัติดังกล่าวข้างต้นเป็นคุณสมบัติของกล้องถ่ายภาพที่มี IR Resolution สูงและมีเป็นเทคโนโลยีล่าสุดในปัจจุบันและได้นำเสนอเฉพาะคุณสมบัติที่จำเป็นพื้นฐานเท่านั้นแต่ก็ยังมีรายละเอียดค่อนข้างมาก
แต่สำหรับกล้องถ่ายภาพความร้อนที่มีเทคโนโลยีที่ด้อยลงมาก็จะมีฟังก์ชันและคุณสมบัติทางเทคนิคลดลงตามลำดับ ซึ่งทั้งนี้ก็จะสะท้อนได้ด้วยราคาของกล้องถ่ายภาพความร้อนนั่นเอง สุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุดขอให้ผู้ที่จะเลือกซื้อกล้องถ่ายภาพความร้อนพิจารณาเรื่องการประยุกต์ใช้งานและงบประมาณที่มีเป็นหลัก สวัสดีครับ
เอกสารอ้างอิง
[1] http://www.sat.com.cn/
[2] http://www.flir.com/
[3] http://www.measuretronix.com/
[4] http://www.fas.org/
[5] Richard A. Epperly et al. 1997. A Tool for Reliability and Safety: Predict and Prevent Equipment Failures with Thermography. Petroleum and Chemical Industry Conference. 59-68.
[6] FLIR 2009. User’s Manual FLIR 600 Series
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 www.thailandindustry.com
Copyright (C) 2009 www.thailandindustry.com All rights reserved.
ขอสงวนสิทธิ์ ข้อมูล เนื้อหา บทความ และรูปภาพ (ในส่วนที่ทำขึ้นเอง) ทั้งหมดที่ปรากฎอยู่ในเว็บไซต์ www.thailandindustry.com ห้ามมิให้บุคคลใด คัดลอก หรือ ทำสำเนา หรือ ดัดแปลง ข้อความหรือบทความใดๆ ของเว็บไซต์ หากผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความนี้ไปใช้ ดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด