เนื้อหาวันที่ : 2011-01-06 18:23:46 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 3575 views

เรียนรู้การจัดการอุตสาหกรรมและการดำเนินการจากภาพ

การเรียนรู้ในยุคโลกาภิวัตน์นี้มีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษารูปแบบใด เป้าประสงค์ก็คือ ผู้เรียนจะต้องได้รับความรู้การถ่ายทอดสื่อสารข้อมูลจากผู้สื่อความ จากการมองเห็นเพื่อให้เข้าใจแจ่มแจ้งและเห็นจริง

สุรัส ตั้งไพฑูรย์
tangpaitoon@yahoo.com

การเรียนรู้ในยุคโลกาภิวัตน์นี้มีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ จากไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ จากอินเทอร์เน็ต ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการศึกษารูปแบบใดก็ตาม เป้าประสงค์ก็คือ ผู้เรียนรู้ซึ่งเป็นผู้รับสาร จะต้องได้รับความรู้ การถ่ายทอดสื่อสารข้อมูลจากผู้สื่อความ จากการมองเห็นเพื่อให้เข้าใจแจ่มแจ้งและเห็นจริง ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่ารูปแบบที่ดีที่สุดรูปแบบหนึ่งคือ การเรียนรู้จาก 3 จริง คือ สถานที่จริง ชิ้นงานจริง และข้อเท็จจริง

ผู้เขียนเองได้มีโอกาสในการเดินทางไปเรียนรู้ในสถานที่ต่าง ๆ โรงงานอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศด้านการจัดการอุตสาหกรรมและการดำเนินการ ระหว่างการฝึกอบรมได้บันทึกภาพทั้งการฝึกอบรม ด้านวิชาการรวมถึงวัฒนธรรมของประเทศนั้น ๆ มากมาย ประกอบกับได้มีความตระหนักอยู่เสมอว่าการเรียนรู้จาก 3 จริงและ Visual Control เป็นแนวทางหนึ่งที่ดีที่สุด จึงได้รวบรวมภาพพร้อมเกร็ดวิชาการ นำเสนอออกมาเป็นบทความสั้น ๆ ซึ่งคาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านในระดับหนึ่ง
    
แนวทางการนำองค์กรสู่ชัยชนะ


การแข่งขันในยุคปัจจุบันต้องมีการปรับเปลี่ยนตามแต่สถานการณ์ไปอย่างมาก การพัฒนา Core Competency ขององค์กร ต้องปรับตามความต้องการของลูกค้า (Customer Need) สร้างมูลค่าเพิ่ม (Value Added) ให้แก่องค์กรและในส่วนของสินค้าและบริการ ต้องมีการปรับปรุงโครงสร้าง, แนวคิดและระเบียบวิธีการในการทำงานขององค์กร พัฒนา Core Competency จากภายในและพัฒนาโดยใช้ความสามารถจากที่อื่น เช่น การ Merger และสุดท้ายต้องแสวงหาทรัพยากรและความสามารถใหม่

ลักษณะองค์กรที่ควรจะพัฒนาให้เกิดขึ้นเพื่อประสบชัยชนะในอนาคต
1. มีขนาดเล็กที่มีความแข็งแกร่งและมีความคล่องตัวสูง องค์กรขนาดเล็กทำให้ปรับตัวเร็ว, ยืดหยุ่นสูง
2. เป็นองค์กรที่มีลักษณะของการขยายตัวทั้งในแนวดิ่งและแนวราบ เพื่อให้การขยายปีกของธุรกิจครอบคลุมทุกด้าน เป็นเสมือนการขยายตัวของวงกลม ส่งผลให้เกิดการประหยัดจากขนาด (Economic of Scale)
3. สร้างความแตกต่าง จากองค์กรที่เน้นการสร้างความเป็นหนึ่งเดียวที่มีความเหมือนกันตลอดทั้งองค์กร ควรมีการสร้างความแตกต่างที่พัฒนาออกจากแก่นธุรกิจที่มีอย่างชัดเจน
4. องค์กรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะพิเศษ จากองค์กรที่มีอำนาจเหนือกว่า ขนาดใหญ่กว่า และมีเงินลงทุนมากกว่า ควรมีการปรับเปลี่ยนเป็นองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะพิเศษที่มีการพัฒนาความสามารถเฉพาะที่ชัดเจน
5. ความเป็นหนึ่งเดียว ความจงรักภักดี มีลักษณะขององค์กรที่ทำงานด้วยความผูกพันมีความภักดีต่อองค์กรจากใจจริง
6. เป็นองค์กรที่ตระหนักและเห็นความสำคัญของทรัพย์สินทางปัญญา

ตึกเปโตรนาส ประเทศมาเลเซีย ความรู้วิทยาการที่น่าคิด

 

การมองสิ่งปลูกสร้างหรืออาคารใดอาคารหนึ่ง มนุษย์หลายคนมองเพียงภาพลักษณ์และความชื่นชมภายนอกว่ามีความสวยงาม ความยิ่งใหญ่อลังการ ชื่นชมเสร็จแล้วทำการถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก ท่านลองพิจารณาลึกลงไปดูซิครับ ในนั้นมีสหวิทยาการมากมายประกอบกันออกมาเป็นสิ่งนั้น ทุกศาสตร์และทุกศิลป์ที่ผสมผสานกลมกลืน ดำเนินการเพื่อให้สิ่งปลูกสร้างและองค์กรบรรลุตามเป้าประสงค์ ลองดูเล่น ๆ ซิครับว่ามีวิทยาการในหมวดต่าง ๆ ประกอบกันออกมาอย่างไรบ้าง ?

* วิสัยทัศน์ พันธกิจ และนโยบายในการกำหนดเป้าประสงค์ที่ต้องการ
* การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ
* การออกแบบ Detail Design
* การวางแผนโครงการ การจัดการทรัพยากร ปัจจัยนำเข้าต่าง ๆ ภายใต้กรอบระยะเวลา
* การดำเนินและควบคุมโครงการ Project Management
* การออกแบบตกแต่งภายในและภายนอก
* ภูมิสถาปัตย์
* ระบบความปลอดภัยและระบบบริหารความเสี่ยง
* ระบบการจราจรบริเวณโครงการ
* การประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
* การวางผัง Plant Layout
* การวางระบบ Facility และการประชาสัมพันธ์ เป็นต้น
    
ในการนำเข้าปัจจัยต่าง ๆ เพื่อผ่านกระบวนการโดยมีสหวิทยากรในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ประยุกต์ ศิลปศาสตร์ สังคมศาสตร์ และรัฐประศาสนศาสตร์ เป็นต้น ทำให้ได้รับผลออกมาเป็นไปตามเป้าประสงค์ทั้งอาคาร ระบบ และการบริการต่าง ๆ แม้ว่าในระหว่างการดำเนินการจะมีความสูญเปล่าต่าง ๆ ที่เราเรียกว่า MUDA MURA MURI ในทุกส่วนของการทำงาน

ท่านผ่านไปยังสถานที่ต่าง ๆ ลองคิดเล่น ๆ ดูซิครับว่า มนุษย์สามารถทำได้ในทุก ๆ สิ่งทั้งในอดีตและปัจจุบัน ภายใต้ความรู้ความสามารถมากมาย เช่น กำแพงเมืองจีน นครวัดนครธม ทัชมาฮาล ฯลฯ อย่างมองเพียงความสวยงามและสิ่งที่น่าทึ่งเท่านั้น

การลดความสูญเสีย การเพิ่มโอกาส

ถ้าท่านเคยไปที่ประเทศมาเลเซียและเคยนั่งรถโมโนเรลของเขา ท่านจะประทับใจเป็นอย่างมากว่า ในสถานีรถไฟฟ้าของประเทศมาเลเซียมีการใช้พื้นที่อย่างสุดคุ้ม จากภาพแสดงให้เห็นว่าแผ่นบอร์ดแสดงรายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ ของสถานี KLCC ฝังอยู่ในพื้นที่โฆษณาอย่างกลมกลืนกับตัวผลิตภัณฑ์จนมองแทบไม่ออก

และตัวอย่างที่ประทับใจมากของเขาคือมีช่องทางโฆษณา เขาจะไม่ยอมเสียโอกาส ที่เห็นชัดเจนคือการโฆษณาต่อท้ายชื่อสถานี ตัวอย่างเช่น สถานีKLCC-LG สถานี BUKIT JAYA-PHILIP เป็นต้น ซึ่งเป็นสปอนเซอร์ของแต่ละสถานี ทั้งป้ายสถานี และการประกาศชื่อขณะที่รถไฟฟ้าเข้าออกสถานีเป็นการใช้โอกาสอย่างคุ้มค่า      

 

อุตสาหกรรมโฆษณาในประเทศมาเลเซียค่อนข้างมีความสร้างสรรค์และมีการเจริญเติบโตเป็นอย่างยิ่ง  ไม่มีการปล่อยพื้นที่ให้มีความสูญเปล่า ในภาพแสดงถึงการโฆษณายางรถยนต์ในพื้นที่สะพานสาธารณะ และเห็นได้บ่อย  ซึ่งในประเทศไทยยังไม่พบว่ามีการเปิดให้มีการประมูลทำการโฆษณา เราจึงเห็น Bill Board กระจายไปทั่ว และไม่เป็นระเบียบมากนัก แต่ไม่พบว่ามีติดตั้งในสะพาน ทางด่วนสาธารณะ

ความสูญเสียในโรงงานอุตสาหกรรม

ภายในโรงงานอุตสาหกรรมเองจะมีหลากหลายตามแต่ชนิดการผลิตผลิตภัณฑ์ในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อาจมีการผลิตที่ซับซ้อน มีการใช้ระบบอัตโนมัติเข้ามาช่วยหรือบางโรงงานจะเป็นสายการประกอบโดยเน้นการใช้แรงงานที่มีฝีมือ มีทักษะ เป็นต้น

อย่างไรก็ตามกระบวนการผลิต ในอดีตเน้นเพียงด้านผลิตผล ผลิตมากเท่าไรยิ่งดี ไม่คำนึงถึงคุณภาพ หรือไม่เน้นถึงปัจจัยนำเข้า ด้วยเหตุนี้ทำให้เกิดความสูญเปล่าต่าง ๆ มากมายขึ้นภายในกระบวนการผลิต บ่อยครั้งที่ความสูญเสียหนึ่งจะก่อให้เกิดความสูญเปล่าชนิดต่าง ๆ ตามมาโดยไม่มีการวิเคราะห์ผลกระทบ ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ความสูญเสียในโรงงานอุตสาหกรรมมีมากมายซึ่งสามารถจำแนกความสูญเสียเป็น 7 หมวดใหญ่ ๆ ดังต่อไปนี้

* ความสูญเสียเนื่องจากการผลิตที่มากเกินไป (Over Production)
* ความสูญเสียเนื่องจากการเก็บวัสดุคงคลังที่ไม่จำเป็น (Unnecessary Stock)
* ความสูญเสียเนื่องจากการขนส่ง (Transportation)
* ความสูญเสียเนื่องจากการผลิตของเสีย/การแก้ไขงานเสีย (Defect/ Rework)
* ความสูญเสียเนื่องจากการผลิตที่ขาดประสิทธิผล (Non-effective Process)        
* ความสูญเสียเนื่องจากการรอคอย (Delay/Idle Time)
* ความสูญเสียเนื่องจากการเคลื่อนไหว (Motion)
      
ความสูญเสียทั้ง 7 หมวดดังกล่าวเป็นความสูญเปล่าที่เกิดขึ้น คนญี่ปุ่นจะเรียกความสูญเปล่านี้ว่า Muda ขณะที่ในการทำงานหรือบริการจะมีความไม่สม่ำเสมอขึ้นมาบ้างในบางช่วงหรือเกิดขึ้นมาโดยตลอด จะถูกเรียกว่า Mura ซึ่งความไม่แน่นอนไม่สม่ำเสมอก่อให้เกิดผลในเชิงลบอย่างมากมาย โดยมีอีกคำที่ได้ยินคือ Muri คือการทำเกินกำลัง การทำงานที่มีเป้ามายมากกว่าทรัพยากรหรือความสามารถแล้ว

กิจกรรม 5 ส

กิจกรรม 5ส เป็น “กิจกรรมที่เปิดโอกาสให้พนักงานช่วยกันปรับปรุงสภาพแวดล้อม ความเป็นระเบียบ ความสะอาด รวมถึงเครื่องมือและอุปกรณ์ในการทำงาน เพื่อมุ่งหวังให้เกิดการเพิ่มผลผลิตในหน่วยงาน” ซึ่งกิจกรรม 5ส ช่วยสนับสนุนให้การทำงานประสบผลสำเร็จ ช่วยในการลดต้นทุน ทำให้คุณภาพดีขึ้น การส่งมอบที่ตรงเวลา เกิดความปลอดภัยในการทำงาน ขวัญและกำลังใจของพนักงานดีขึ้น เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการทำงานมีจรรยาบรรณต่อลูกค้า

กิจกรรม 5 ส ประกอบด้วย
สะสาง (Seiri) การแยกสิ่งที่ต้องการออกจากสิ่งที่ไม่ต้องการ โดยจะทำการกำจัดสิ่งที่ไม่ต้องการทิ้งไป ส่วนสิ่งที่ต้องการนำไปดำเนินการ ส สะดวก ต่อไป

สะดวก (Seiton) การจัดวางสิ่งของต่าง ๆ ในสถานที่ทำงานให้เป็นระเบียบเพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการทำงาน สามารถตรวจสอบ และทุกคนรู้ว่าเป็นอะไร หลักใหญ่ของ ส สะดวกคือ คุณภาพ ประสิทธิภาพ และความปลอดภัย

สะอาด (Seiso) การทำความสะอาด ปัด กวาด เช็ด ถู เครื่องจักรอุปกรณ์ และสถานที่ทำงานอย่างสม่ำเสมอ ทำการขจัดต้นเหตุของความสกปรก โดยที่หัวหน้างานต้องทำการลงมือเป็นตัวอย่าง กำหนดวันเวลาที่ดำเนินการแน่นอน และต้องเตรียมจัดหาวัสดุอุปกรณ์ในการทำความสะอาดให้ครบถ้วนพร้อมเพรียง

สุขลักษณะ (Seiketsu) การมีสุขลักษณะที่ดีจากการที่ได้ทำ 3 ส แรกอย่างสม่ำเสมอ เกิดบรรยากาศที่ดีในการทำงาน ซึ่งต้องมีการดำรงไว้และยกระดับให้ครบสมบูรณ์

สร้างนิสัย( Shitsuke) การสร้างนิสัยที่ดีในการปฏิบัติงานตามระเบียบวินัยของหน่วยงานอย่างเคร่งครัด การปลูกฝังนิสัยตรงต่อเวลา การทำงานเป็นทีม การมีมนุษย์สัมพันธ์ การวางแผนการทำงานที่เป็นระบบ การใช้อุปกรณ์ดูแลตรวจสอบงาน สถานที่และอุปกรณ์ และการปฏิบัติงานตามระเบียบวินัยของหน่วยงานอย่างเคร่งครัด 


ภาพแสดงโรงงานที่ยังไม่ได้ทำ 5ส การวางชิ้นส่วนหรือผลิตภัณฑ์ไม่เป็นระเบียบ อาจก่อให้เกิดอันตราย หรือเสียเวลาในการหาของหรือชิ้นส่วน ทำให้พื้นที่ในการทำงานเล็กลง บรรยากาศสิ่งแวดล้อมในการทำงานไม่ดี เสียภาพลักษณ์ต่อผู้ที่มาเยี่ยมหรือติดต่อบริษัท และเป็นแหล่งเพาะเชื้อหรือสะสมขยะ และสิ่งของไร้ค่า

การปรับปรุงอย่างต่อเนื่องทีละเล็กทีละน้อยและไม่มีที่สิ้นสุด (Continuous Improvement)

* ไคเซ็น (Kaizen)
Kaizen เป็นแนวคิดธรรมดาและเป็นส่วนหนึ่งในทฤษฎีการบริหารของญี่ปุ่น ซึ่งโดยธรรมชาติหรือด้วยการฝึกฝนนั้นทำให้คนญี่ปุ่นมีความรู้สึกรับผิดชอบในการที่จะทำให้ทุกอย่างดำเนินไปโดยราบรื่นเท่าที่จะสามารถทำได้ด้วยการปรับปรุงสิ่งต่าง ๆ ให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องในชีวิตประจำวันหรือการทำงาน นี่เป็นจุดแข็งที่ทำให้ Kaizen ดำเนินไปได้อย่างดีในประเทศญี่ปุ่น เพราะโดยหลักการแล้ว Kaizen ไม่ใช่เพียงการปรับปรุงเท่านั้น แต่หมายความรวมไปถึงการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ไม่มีที่สิ้นสุดด้วย (Continuous Improvement)

ไคเซ็นนั้นไม่จำเป็นที่เราต้องมีวิธีการคิดที่พิเศษเหนือธรรมดา หรือมีทักษะที่เชี่ยวชาญอะไรมากนัด จึงจะทำกิจกรรมการปรับปรุงได้ แต่ “การปรับปรุงกลับเกี่ยวข้องกับการกระทำในสิ่งที่คุ้นเคยหรือสิ่งที่รู้จักกันโดยสามัญทั่วไป” ในที่นี้จะได้แนะนำถึงการจัดกระบวนการคิดแบบพื้นฐานที่สามารถนำไปใช้ปรับปรุงหรือแก้ไขปัญหาได้โดยง่ายสรุปย่อได้ 2 ประเด็นคือ
* ถ้าพบว่ามีสาเหตุมากกว่าหนึ่งสาเหตุ ก็ต้องมีมาตรการแก้ไขมากกว่าหนึ่งมาตรการ
* ลองพยายามคิดในแง่ของ “การหยุด” “การลด” “การเปลี่ยนแปลง” มาตรการหลากหลายวิธี
 

รูปที่ 1 การลำดับความสำคัญทางด้านความคิด

ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ตู้ให้ข้อมูลอัตโนมัติ แนวโน้มในอนาคต

ในประเทศที่พัฒนาแล้วทั่วโลกมีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี ประกอบกับค่าแรงงานอยู่ในอัตราที่สูงมาก การใช้คนในกระบวนการเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมเนื่องจากทำให้ต้นทุนสูง ราคาแพงทำให้ไม่สามารถแข่งขันได้ ทางเลือกหนึ่งในการดำเนินการคือ การใช้วิทยาการเครื่องมือที่ให้บริการแบบอัตโนมัติโดยไม่ใช้คนในการทำงาน ก่อให้เกิดประโยชน์ที่มากกว่าดังต่อไปนี้

1. ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ค่าแรงพนักงานขาย ค่าแรงพนักงานให้ข้อมูล ลดระยะเวลาการให้บริการ
2. สามารถจำหน่ายสินค้าได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง
3. สามารถจำหน่ายสินค้าที่ไม่ต้องการสัมผัสหรือพบผู้ขาย เช่น  VCD DVD พิเศษ เป็นต้น
4. มีความคล่องตัวในการปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ สถานที่ตั้ง จุดจำหน่ายได้ตลอดเวลา
5. มีความสะดวกในดำเนินธุรกิจ การเพิ่มผู้ประกอบการ เป็นต้น

แต่กรณีที่มองถึงความเป็นไปได้ในการดำเนินการในประเทศไทย ยังมีปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ มากมายสามารถสรุปได้ดังนี้คือ
1. ราคาเครื่องขายสินค้าอัตโนมัติมีราคาแพงเนื่องจากไม่ได้ผลิตได้เองในประเทศต้องนำเข้าจากต่างประเทศ
2. ปัญหาด้านกฎหมาย ภาษี เช่น ภาษีสรรพสามิต หรือ ไม่สามารถเปิดจำหน่ายสินค้าประเภทบุหรี่ได้ เป็นต้น
3. มูลค่าของเหรียญของประเทศไทยมีมูลค่าน้อย และเทคโนโลยีการรับธนบัตรยังแพง
4. ปัญหาการถูกทำลายตู้เพื่อขโมยสินค้าและขโมยเงิน
5. การวางระบบการขนส่งเพิ่มสินค้า การวางระบบราคา ระบบธุรกิจไม่ชัดเจน
6. คนไทยไม่นิยมพกเหรียญ เป็นต้น                

ความปลอดภัย ทำได้ง่าย ๆ ในโรงงานหรือองค์กรของคุณ

การรณรงค์ในโรงงานเพื่อการปรับปรุงเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กรเป็นอย่างยิ่ง สโลแกนง่าย ๆ สะดุดตาก่อให้เกิดผลบวกในเชิงปฏิบัติมากมาย ตัวอย่างที่ผู้เขียนได้พบในโรงงานแห่งหนึ่งในประเทศมาเลเซีย มีทั้งประดิษฐ์ขึ้นมาเอง หรือซื้อโปสเตอร์จากองค์กรภายนอกที่ทำขึ้น แต่ต้องมีการปรับเปลี่ยนตามเหมาะสม ไม่ใช่ว่าติดประกาศหรือข้อมูลต่าง ๆ มาตั้งแต่เปิดโรงงานมาแล้วเมื่อแปดปีก่อน ต้องมีการเปลี่ยนแปลงอาจเป็นช่วงทุกสัปดาห์ ทุกเดือน หรือทุกไตรมาส

     ตัวอย่างดังกล่าวข้างต้นเป็นสิ่งที่นำเสนอง่าย ๆ มีรูปภาพ คำพูด 4 คำคือ
     Safety First ความปลอดภัยมาก่อน
     Say it !  จงพูดมัน
     Do it !  จงทำมัน
     O.K. !   ตกลง

ในประเทศไทยมีหลายหน่วยงานที่ได้ทำสื่อในการเพิ่มผลิตภาพ กระตุ้นให้เกิดความระวังหรือโปสเตอร์ที่ให้ความรู้มากมาย ในราคาที่ไม่แพงมากนัก ท่านสามารถคิดขึ้นมาเองตามวัฒนธรรมขององค์กรหรือใช้ข้อมูลส่วนกลางที่เป็นสากลจากหน่วยงานภายนอก แต่สิ่งที่ติดลงไปในกระดานต้องเป็นข้อมูลและเนื้อหาที่

1. สะดุดตา
2. สื่อได้ทันที เข้าใจความหมาย
3. โดนใจ
4. ปรับเปลี่ยนได้ง่าย กรณีล้าสมัยง่าย ทำให้มีชีวิต เปลี่ยนแปลงตลอด
5. ให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการเสนอ แสดง มีชื่อในผลงาน
6. ใช้เทคโนโลยีประกอบการนำเสนอ
สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ไม่มีการยึดติดตายตัวแต่เป้าประสงค์หลักคือ สื่อสารสิ่งที่ต้องการสื่อไปตรงกลุ่มเป้าหมาย และวัดผลได้

ปรับปรุงอย่างไร ง่าย ๆ และต้นทุนต่ำ

การแก้ปัญหาการทำงานหรือการดำเนินการ ส่วนมากมองว่าเป็นเรื่องที่ยากต้องใช้เทคนิคหรือเครื่องมือในการจัดการกับปัญหา แต่แท้จริงแล้วการแก้ปัญหาอาจเป็นเรื่องง่าย ๆ ไม่ซับซ้อนแต่ได้ประโยชน์อย่างมหาศาล ตัวอย่างที่ใกล้ตัวคือ กลิ่นที่มาจากที่ปัสสาวะชายตามสำนักงานหรือโรงแรมต่าง ๆ ดังภาพ

ปัญหาหลัก ๆ มี 2 ด้านคือ ปัญหาด้านการทำงานที่ส่งกลิ่นออกมากรณีที่ไม่มีน้ำล้างชำระ แต่อีกกรณีหนึ่งถ้าหมดกลิ่นโดยล้างชำระมาก ๆ จากระบบเซนเซอร์อัตโนมัติ หรือการกดปล่อยน้ำ ก็จะทำให้เกิดความสิ้นเปลืองน้ำ และไฟฟ้าที่ใช้

เราต้องการแก้ปัญหาทั้งกลิ่น และการประหยัดพลังงานด้วยจะทำอย่างไร ?
นักออกแบบในสหภาพยุโรปมีการออกแบบที่ปัสสาวะชายที่ไม่ต้องใช้น้ำ และดูดกลิ่นได้ โดยมีแนวคิดว่ามากกว่า 85 % ที่ปล่อยลงไปเป็นน้ำแล้วทำไมต้องใช้น้ำลงไปชำระด้วย จึงได้ออกแบบผลิตภัณฑ์เคลือบสารเคมีคล้ายเคลือบกระจกรถยนต์เพื่อการลดแรงตรึงผิว ทำให้เกิดการไหลสะดวกและทำการเพิ่มสารเก็บกลิ่น ส่งผลให้เกิดกลิ่นน้อยมากแทบไม่ได้กลิ่น ถือว่าเป็นแนวทางการออกแบบที่ดีที่ได้รับรางวัลและผลิตออกมาเป็นสินค้าสู่ตลาดในเชิงพาณิชย์ได้

กรณีการแก้ปัญหาข้างต้นเป็นการออกแบบและลงทุนโดยใช้แนวทางวิทยาศาสตร์ในการแก้ปัญหา แต่สิ่งที่ผู้เขียนได้ไปสัมผัสประเด็นปัญหาเดียวกันที่ประเทศมาเลเซีย ปัญหาที่ประเทศมาเลเซียหลัก ๆ คือ การสิ้นเปลืองพลังงานทั้งน้ำและไฟฟ้า

ในช่วงพักระหว่างการสัมมนาจะมีผู้ใช้บริการมาก ระบบเซนเซอร์ทำงาน 2 ครั้งใน 1 กระบวนการ เดินเข้าไปด้านหน้าก็จะปล่อยน้ำออกมาก่อนประมาณ 2-3 ลิตร ทำธุระเสร็จเดินออกมา เซนเซอร์ก็จะทำงานอีกประมาณ 2-3 ลิตร รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ลิตรต่อคน แต่ปริมาณอุปกรณ์ที่ให้บริการ

ปริมาณคนที่ใช้บริการทำให้เกิดการสิ้นเปลื้องพลังงานและน้ำมากมายในแต่ละวัน โรงแรมในมาเลเซียได้ดำเนินการทำกลุ่มคุณภาพในการแก้ปัญหาง่าย ๆ ดังรูปที่เสนอข้างต้น คือ ปิดเซนเซอร์ และใส่น้ำแข็ง ผลที่เกิดขึ้นคือ น้ำแข็งจะอยู่ได้และรองรับในช่วงการใช้บริการสูงได้เป็นชั่วโมง น้ำแข็งมีคุณสมบัติดูดกลิ่นได้ดี ส่งผลให้ประหยัดพลังงานทั้งน้ำและไฟฟ้าได้มหาศาล และแก้ปัญหาด้านกลิ่น ตัวอย่างนี้ ง่าย ๆ ลงทุนน้อย แต่ประโยชน์มหาศาล 
                

สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 www.thailandindustry.com
Copyright (C) 2009 www.thailandindustry.com All rights reserved.

ขอสงวนสิทธิ์ ข้อมูล เนื้อหา บทความ และรูปภาพ (ในส่วนที่ทำขึ้นเอง) ทั้งหมดที่ปรากฎอยู่ในเว็บไซต์ www.thailandindustry.com ห้ามมิให้บุคคลใด คัดลอก หรือ ทำสำเนา หรือ ดัดแปลง ข้อความหรือบทความใดๆ ของเว็บไซต์ หากผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความนี้ไปใช้ ดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด